กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 490 ฉีหยวนซานกำลังถูกสืบสวน
บทที่ 490 ฉีหยวนซานกำลังถูกสืบสวน
บทที่ 490 ฉีหยวนซานกำลังถูกสืบสวน
หลังจากพูดอย่างนั้น หวังผิงก็วางเด็กไว้บนเปล พับแขนเสื้อขึ้นแล้วทำท่าจะลงไปชั้นล่างเพื่อชำระบัญชีแค้น
“แม่ ลืมมันไปเถอะ” เซี่ยชิงหยวนรีบคว้าเธอไว้ “เธอไปแล้ว”
หวังผิงรู้สึกสับสนและขุ่นเคือง “ทำไมลูกถึงปล่อยเธอไป? สำหรับคนเลวทรามแบบนั้น ลูกควรเปิดโปงเธอทันทีสิ ทุกคนจะได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเธอซะ!”
เซี่ยชิงหยวนพูดว่า “แน่นอน หนูเข้าใจสิ่งที่แม่พูด และหนูได้สอนบทเรียนให้เธอแล้ว”
จากนั้นเธอก็บอกหวังผิงและหลินตงซิ่วเกี่ยวกับการทาแป้งนั่นบนใบหน้าของเซี่ยจื่ออี้ “หนูเชื่อว่าเธอได้รับบทเรียนของเธอไปแล้ว และคงจะไม่ทำตัวบ้า ๆ ไปอีกพักหนึ่งนั่นแหละ”
หัวใจของหวังผิงเต็มไปด้วยความโกรธและสาปแช่ง “มันจะดีกว่าถ้าทาทั้งหน้าของเธอไปเลย!”
โชคดีที่เธอมีสายตาเฉียบแหลมและระแวดระวังมากพอ ไม่เช่นนั้นหลานชายตัวน้อยของเธอจะต้องทนทุกข์ทรมานแน่
หลินตงซิ่วตบหน้าอกของเธอด้วยความกลัว “ทั้งหมดมันเป็นความผิดของแม่เอง แม่ไม่ระวังเลย”
เซี่ยชิงหยวนตบแขนของหลินตงซิ่วเพื่อปลอบ “มันไม่ใช่ความผิดของแม่หรอกค่ะ แม่ไม่รู้ความสัมพันธ์ของเรากับเธอ เอาเป็นว่าในอนาคต พวกแม่พยายามอย่าใกล้ชิดกับเธอมากนักนะคะ”
หลังจากเหตุการณ์นี้ หวังผิงและหลินตงซิ่วทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดเพื่อดูแลเด็ก ๆ ในห้องก่อนจะเดินตามเซี่ยชิงหยวนลงไปชั้นล่าง
แขกส่วนใหญ่ที่มาในวันนี้เซี่ยชิงหยวนเคยเจอพวกเขาเกือบทั้งหมดแล้ว และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เพิ่งเริ่มต้นเส้นทางของการเมือง
เสิ่นอี้โจวแนะนำเธอไปรอบ ๆ และพบว่าไม่มีข้าราชการคนใหม่ที่เฟิงหว่านพูดถึงเลย หญิงสาวจึงมีความคิดอยู่ในใจและวางแผนที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยละเอียดเมื่อสะดวกกว่านี้
วันนี้อาเซียงก็มาที่นี่ด้วย เธอและปี่ฟู่หมานกำลังทักทายแขกในฐานะครอบครัวของเซี่ยชิงหยวน
เซี่ยชิงหยวนมองไปที่คนสองคนที่ยืนอยู่ด้วยกันแล้วถอนหายใจ “จริง ๆ แล้วฉันคิดว่าอาเซียงและฟู่หมานดูเหมาะสมกันดีนะ”
ทั้งสองอายุใกล้เคียงกันและสามารถพูดคุยด้วยกันได้ง่ายกว่ามาก
เสิ่นอี้โจวยื่นแก้วน้ำอุ่นให้ภรรยาแล้วพูดว่า “ระหว่างอาเซียงกับเฮ่ออวี้เฟิงไม่ค่อยเหมาะเหรอ?”
เซี่ยซิงหยวนยักไหล่ “ฉันไม่ค่อยได้ยินอาเซียงพูดถึงเฮ่ออวี้เฟิงเลย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ดีเท่าไหร่นักนะ”
หัวใจของหญิงสาวไม่อาจถูกปกปิดได้มากนัก หากความรักของคุณหวาน คุณก็ไม่สามารถซ่อนความสุขบนใบหน้าของคุณได้
ตอนนี้นอกเหนือจากการขายเสื้อผ้าในร้านทุกวันแล้ว อาเซียงยังมาที่นี่เพื่อติดตามเธอด้วย สิ่งนี้มันเหมือนว่าอาเซียงกำลังมีความรักแค่ไหนกันล่ะ?
เธอแค่หวังว่าเมื่ออาเซียงไปที่เมืองกว่างโจวในเดือนนี้ อาเซียงจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์กับเฮ่ออวี้เฟิงได้เพิ่มอีก
เสิ่นอี้โจวพยักหน้า ให้เซี่ยชิงหยวนจิบน้ำอุ่นในแก้ว ส่วนที่เหลือเขาก็ดื่มมันหมดในอึกเดียว “เฮ่ออวี้เฟิงมีนิสัยสงบเสงี่ยมและเฉื่อยชา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะสร้างความประทับใจให้เขาได้น่ะ”
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน อาเซียงมองข้ามเข้ามา ความสงสัยพลันปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของหญิงสาว
เซี่ยชิงหยวนกระแอมเบา ๆ ส่งสัญญาณให้เสิ่นอี้โจวหยุดพูด
การที่ผู้หญิงไล่ตามผู้ชายนั้นราวกับเดินอยู่บนหาดทราย แต่หากกลับกัน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
…
ในช่วงบ่าย แขกก็แยกย้ายกันกลับไป และทั้งสองคนก็คุยกันถึงเหตุการณ์วันนี้ในห้อง
สีหน้าของเสิ่นอี้โจวมืดหม่นทันที “เธอบ้าไปแล้วรึไง?”
สีหน้าของเซี่ยชิงหยวนไม่เปลี่ยนแปลง “เดิมทีเธอก็เป็นคนบ้าอยู่แล้ว”
เสิ่นอี้โจวเดินไปมาในห้องก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าเซี่ยชิงหยวน และจับมือของเธอ “เหตุการณ์วันนี้ ผมทำให้คุณและลูกเดือดร้อนจริง ๆ”
หากเซี่ยชิงหยวนโพล่งออกมาในตอนนั้น เซี่ยจื่ออี้อาจถูกทุกคนตำหนิ แต่ครอบครัวของพวกเขาก็ไม่ได้รับประโยชน์อะไร
ในปัจจุบันทุกคนล้วนรู้ดีว่าเซี่ยเจิ้งเป็นผู้สนับสนุนของเสิ่นอี้โจว การที่เสิ่นอี้โจวได้รับการเลื่อนตำแหน่งมาอยู่ระดับสูงได้อย่างรวดเร็วเป็นเพราะเซี่ยเจิ้งหนุนหลังอยู่ส่วนหนึ่ง
เซี่ยชิงหยวนยิ้ม “ฉันไม่โทษคุณหรอก แต่ถ้าใครกล้าทำร้ายลูกของฉัน ฉันจะเป็นคนแรกที่ต่อสู้กับคนคนนั้นเอง”
เสิ่นอี้โจวพยักหน้า “ผมก็เหมือนกัน”
เซี่ยชิงหยวนจำสิ่งที่เฟิงหว่านพูดได้และถามว่า “ฉันได้ยินเฟิงหว่านพูดวันนี้ว่าเซี่ยจื่ออี้มีความใกล้ชิดกับผู้นำคนใหม่ของสำนักอัยการมากเลยเหรอ?”
เสิ่นอี้โจวไม่แปลกใจเลยที่เซี่ยชิงหยวนรู้เรื่องนี้แล้ว
ปีที่ผ่านมา เขาเคยเล่าเรื่องงานบางอย่างของเขาให้เธอฟังด้วย
เสิ่นอี้โจวตอบ “ใช่ ตำแหน่งอย่างเป็นทางการของบุคคลนั้นไม่ได้ใหญ่โตนัก แต่เขายังคงมีอำนาจในการเริ่มสอบสวนใครก็ได้ ซึ่งเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ปวดหัว”
เซี่ยชิงหยวนพูดต่อไปว่า “เป็นคนที่เข้าด้วยยากมากเหรอ?”
เสิ่นอี้โจวพยักหน้า “ความสามารถในการทำงานของเขาดี แต่เขาเป็นคนที่ใจแคบและไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น”
เซี่ยชิงหยวนเข้าใจว่าคำพูดของเสิ่นอี้โจวนั้น หมายความว่าอีกฝ่ายสามารถเปรียบเทียบกับผู้ร้ายได้เลย
เธอไตร่ตรองก่อนจะถาม “เขาขัดแย้งกับคุณไหม?”
เกี่ยวกับเรื่องงานเสิ่นอี้โจวพูดได้เพียงคร่าว ๆ เท่านั้น “เรามีความเห็นต่างทางการเมืองอยู่บ้างน่ะ”
เซี่ยชิงหยวนจับเบาะแสบางอย่างทันที
หากเป็นเพียงเรื่องของความแตกต่างทางการเมืองและอีกฝ่ายเป็นอัยการในอนาคต เสิ่นอี้โจวจะผูกสัมพันธ์กับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยตอบรับการแสดงไมตรีของเสิ่นอี้โจวเสียเท่าไหร่
เธอเริ่มกังวล “การที่เซี่ยจื่ออี้มีเส้นสายกับคนแบบนี้จะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเราแน่”
เสิ่นอี้โจวปลอบใจภรรยา “ในระยะสั้นเราจะไม่เป็นอะไรแน่ คนคนนั้นเองก็ไม่ได้โง่ เขารู้ว่าตอนนี้ใครที่ควรแตะและใครที่ไม่ควรยุ่งด้วย”
เพียงแต่ว่าเมื่อไหร่ที่ปีกกล้าขาแข็งมากขึ้น ความคิดจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นตลอดไป
เซี่ยชิงหยวนแสดงความกังวลของเธอ “ฉันรู้สึกอยู่เสมอว่าวันนี้เซี่ยจื่ออี้ไม่ได้ทำลงไปอย่างไม่ยั้งคิด ดูเหมือนเธอกำลังวางแผนอะไรบางอย่างด้วย”
หากเป็นเพียงการแก้แค้นต่อเธอ การที่เซี่ยจื่ออี้พุ่งเป้าไปที่ลูกของเธอแบบที่ทำวันนี้มันโง่มากจริง ๆ
เสิ่นอี้โจวไม่คาดคิดว่าเซี่ยชิงหยวนจะคิดถึงระดับนี้
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นอี้โจวก็ตัดสินใจบอกข่าวล่าสุดกับเธอ “ผมได้รับข่าวมาว่าเขากำลังสืบสวนฉีหยวนซาน”