กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 230 คุณต้องการซ่อนมันจากฉันอีกนานแค่ไหน
- Home
- กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี
- บทที่ 230 คุณต้องการซ่อนมันจากฉันอีกนานแค่ไหน
บทที่ 230 คุณต้องการซ่อนมันจากฉันอีกนานแค่ไหน
บทที่ 230 คุณต้องการซ่อนมันจากฉันอีกนานแค่ไหน
ตั้งแต่แรกหมอฮวงมีความประทับใจที่ดีต่อเซี่ยชิงหยวน เนื่องจาก หยวนหงหลี่แนะนำมา เธอจึงสนใจในตัวเซี่ยชิงหยวนมากกว่าเดิม
แต่เธอไม่คิดเลยว่าเซี่ยชิงหยวนจะสามารถเดาอะไรได้กับแค่เธอถามไปไม่กี่คำ
แต่เมื่อนึกถึงตัวตนของคนก่อนหน้าที่มาหาเธอ มันก็ไม่ง่ายเลยที่เธอจะล่วงเกินได้
หมอฮวงพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ แค่มีผู้หญิงคนหนึ่งมาถามคำถามง่าย ๆ เฉย ๆ น่ะ”
หมอฮวงพูดเพียงเท่านี้ เซี่ยชิงหยวนก็พอเดาออก
ในเมืองหลวงของมณฑล มีเพียงสองคนเท่านั้นที่รู้จักเธอ ฉินซูอวี้และเซี่ยจื่ออี้
ส่วนจะเป็นใครนั้นเซี่ยชิงหยวนไม่คิดว่ามันแตกต่างเพราะแต่ละคนล้วนมีเจตนาร้าย
แต่เมื่อทราบอย่างนี้แล้วจะดำเนินการยังไงต่อดีล่ะ?
เมื่อเห็นเซี่ยชิงหยวนดูเศร้าหมองแล้ว หมอฮวงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันไม่ได้พูดอะไร ยังไงฉันก็เชี่ยวชาญเรื่องการรักษานรีเวช ผู้หญิงคนไหนบ้างที่จะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับนรีเวช?”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หมอฮวงพูด เซี่ยชิงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เธอโค้งตัวเพื่อแสดงความขอบคุณ “ขอบคุณค่ะ คุณหมอฮวง”
หมอฮวงโบกมือและพูดด้วยรอยยิ้ม “อย่ากังวลเกินไปเลยค่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลร่างกายของคุณให้ดี มดลูกของคุณต้องดีขึ้น แล้วพยายามตั้งครรภ์ทารกอ้วน ๆ เร็ว ๆ นะคะ!”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยชิงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับอาการป่วยของเธอ
เมื่อออกมาจากห้องให้คำปรึกษาของหมอฮวงแล้ว ดวงตาของเซี่ยชิงหยวนก็เป็นประกาย จากนั้นเธอก็หันหลังและเดินลงไปชั้นล่าง เพื่อไปที่แผนกระบบทางเดินอาหาร
หากเสิ่นอี้โจวโกหกเธอเกี่ยวกับอาการของเขา หมอคนที่ตรวจเขาสามารถช่วยให้คำตอบเธอได้แน่นอน
ทว่าโชคร้ายที่พยาบาลแผนกระบบทางเดินอาหารบอกเธอว่าวันนี้หมอหมิ่นไม่อยู่
เซี่ยชิงหยวนถาม “ขอโทษค่ะ พรุ่งนี้หมอหมิ่นจะมาไหมคะ?”
พยาบาลตรวจสอบตารางงานแล้วส่ายหัว “บังเอิญว่าหมอหมิ่นไปเมืองข้าง ๆ เพื่อแลกงานกับหมอโฮ่วน่ะค่ะ และเขาจะกลับมาวันมะรืนค่ะ”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เซี่ยชิงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะผิดหวัง
นี่บังเอิญมากเกินไปไหมเนี่ย?
ในสถานการณ์ปัจจุบัน เธอไม่มีทางเลือกและไม่มีเหตุผลอันเหมาะสมที่จะอยู่รอจนถึงวันมะรืนนี้
แต่เธอยังคงไม่ยอมแพ้ “ถ้าฉันต้องการดูอาการของคนไข้ของหมอหมิ่น คุณช่วยฉันหาที่นี่ได้ไหมคะ?”
เมื่อเห็นสีหน้าตื่นตัวของพยาบาล เซี่ยชิงหยวนอธิบายว่า “ฉันต้องการดูประวัติการรักษาของสามีฉันน่ะค่ะ พอดีว่ารายงานผลตรวจของเขาเสียหายโดยไม่ตั้งใจ”
หลังจากฟังพยาบาลก็ยังคงสีหน้าเดิม
พยาบาลถามกลับ “คุณมีทะเบียนสมรสรึเปล่าคะ หรือแค่เอาสำเนาของทะเบียนสมรสมาให้ฉันดูก็ได้ค่ะ แล้วฉันจะลองทำเรื่องขอผลตรวจให้คุณว่าจะขอได้ไหม”
คำถามนี้ทำให้เซี่ยชิงหยวนรู้สึกพูดไม่ออก
เธอออกมาทำธุระซื้อของ เธอจะเอาทะเบียนสมรสติดตัวมาด้วยได้ยังไง?
เซี่ยชิงหยวนทำได้เพียงส่ายหัวอย่างไม่พอใจเล็กน้อย “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่ได้เอามันมาตอนที่ฉันออกมา”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ พยาบาลก็ปิดสมุดบันทึกและพูดว่า “ขอโทษด้วยนะคะ งั้นฉันคงช่วยคุณไม่ได้หรอกค่ะ”
เซี่ยชิงหยวนรู้แล้วว่าวันนี้เธอทำอะไรไม่ได้เลยบราวนี่ออนไลน์
เธอขอบคุณพยาบาลอย่างเศร้าใจและออกจากโรงพยาบาลไป
เซี่ยชิงหยวนไม่ได้รั้งอยู่อีกต่อไป และขึ้นรถไฟกลับไปยังเมืองเตียนเฉิงโดยตรง
ไม่มีช่วงเวลาใดที่เธอต้องการพบเขาอย่างเร่งด่วนแบบตอนนี้อีกแล้ว
เฮ่ออวี้เฟิงซื้อตั๋วตอนเที่ยงให้เธอและมันก็เป็นเวลาเย็นแล้วเมื่อเธอกลับไปถึงสถานีรถไฟเตียนเฉิง
เห็นได้ชัดว่าเธอเหนื่อยมาก แต่เพราะหัวใจที่กังวล เธอจึงไม่รู้สึกง่วงเลย
เธอลงจากรถไฟถือถุงกระสอบด้วยความโกรธ แล้วเดินออกไปข้างนอก ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่ามีคนยืนอยู่ข้างหน้าเธอ และขวางทางอยู่
เธอหลีกไปด้านข้างโดยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่โดยไม่คาดคิด อีกฝ่ายขยับตามเธอเช่นกัน
เซี่ยชิงหยวนหลีกไปอีกด้านหนึ่ง ชายคนนั้นยังขยับตามเธอเหมือนเดิม
เซี่ยชิงหยวนกำลังจะโกรธเป็นไฟอย่างสมบูรณ์
เสื้อผ้าน้ำหนักหลายร้อยจินบนไหล่ของเธอ ทำให้เธอต้องเดินก้มหน้าลง
เมื่อมองไปที่รองเท้าหนังของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่ามันคุ้นตา
ด้วยเสียงหัวเราะดังอยู่เหนือหัวของเธอ ทันทีที่น้ำหนักกระสอบบนไหล่ของเธอเบาลง เธอก็เงยหน้าขึ้น
พอมองขึ้นไปมันเป็นรอยยิ้มของเสิ่นอี้โจว
ทว่าแค่เพียงไม่กี่วันที่พวกเขาแยกกัน เขาดูผอมลงมากอย่างน่าประหลาดใจ
มีรอยคล้ำใต้ตาและดวงตาของเขาไม่สามารถซ่อนความเหนื่อยล้าได้เลย บนร่างกายของเขายังคงมีกลิ่นจาง ๆ ของโฟมโกนหนวดแบรนด์ที่เขาใช้โกน
เขาคงเพิ่งทำความสะอาดตัวเองมาโดยเฉพาะก่อนมาเจอเธอ
เมื่อเห็นเสิ่นอี้โจวเป็นแบบนี้ ดวงตาของเซี่ยชิงหยวนก็เปลี่ยนเป็นแดงเรื่อทันที
เธอทุบหน้าอกของเสิ่นอี้โจวโดยพยายามผลักเขาออกไป “ไอ้คนสารเลว!”
เธอพูดพร้อมสะอื้น
เดิมทีเสิ่นอี้โจวต้องการหยอกล้อกับเซี่ยชิงหยวน แต่ดวงตาของหญิงสาวก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างฉับพลัน
เขากลัวมากจนคิดว่าตัวเองคงล้อเล่นมากเกินไปจนทำให้เธอไม่มีความสุข โดยไม่คำนึงถึงผู้คนที่สถานีรถไฟ เขาก้าวไปข้างหน้าและกอดเธอไว้ในอ้อมแขน พลางเกลี้ยกล่อมเธอเบา ๆ “อย่าร้องไห้นะ อย่าร้องไห้ ผมมาหาแล้ว”
เซี่ยชิงหยวนเงยหน้าขึ้นจากแขนของเขาแล้วผลักเขาออกไป
เธอใช้หลังมือเช็ดน้ำตาที่ร่วงหล่นแล้วตะโกน “ไม่ใช่คุณเหรอที่ทำให้ฉันร้องไห้แบบนี้! ดูคุณสิ แค่ไม่กี่วัน คุณทำให้ตัวเองแย่ขนาดไหนแล้ว!”
เธอโกรธและเศร้าใจมากในตอนนี้
ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าเรื่องบังเอิญทั้งหมดในโรงพยาบาลถูกจัดแจงโดยเสิ่นอี้โจวอย่างชัดเจน
ไม่งั้นคนงานยุ่งอย่างหมอหมิ่นมีหรือจะไปแลกงานกับหมอคนอื่น?
ในเวลานั้นเธอยังรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีโอกาสไปที่เมืองหลวงของมณฑลเพื่อสอบถามเกี่ยวกับอาการของเสิ่นอี้โจว
แต่พวกเขาได้เตรียมการส่งหมอหมิ่นไปแล้วโดยไม่คาดคิด
ไม่งั้นเธอคงสืบสวนได้อย่างราบรื่นแล้วจริงไหม?
เสิ่นอี้โจวเข้าใจได้ทันทีว่าเซี่ยชิงหยวนหมายถึงอะไร
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญและเขาไม่สามารถยอมรับได้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้
หากเซี่ยชิงหยวนรู้ว่าอาการของเขาแย่ลง เธอจะกดดันให้เขาไปโรงพยาบาลในตอนนี้แน่นอน
แต่ตอนนี้เขาไปไม่ได้จริง ๆ
โดยไม่คำนึงถึงการต่อต้านของเธอ เขากอดเธอแน่นในอ้อมแขนของเขา
คางของเขาเกยอยู่บนหน้าผากของเธอและเขาเกลี้ยกล่อมอย่างอดทน “คงเป็นเพราะผมเหนื่อยมาพักหนึ่งแล้ว ผมเลยดูซีดเซียวไปบ้างเอง ยัยโง่ ผมไม่เป็นไรหรอก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยชิงหยวนก็ยิ่งโกรธและวิตกกังวลมากขึ้น
เธอร้องไห้ “คุณต้องการจะปิดบังมันจากฉันอีกนานแค่ไหน!”
———————