หลังจากที่ทุกคนเข้ามาให้ห้องแล้วก็ต่างพากันจัดเรียงของเครื่องใช้พร้อมกับเปลี่ยนเป็นชุดยูนิฟอร์มของ
โรงเรียน ชุดยูนิฟอร์มเป็นสีดำและจั้มสูทสีเทา การป้องกันดูจะไม่มากเท่าไหร่นักแต่ชุดมีลักษณะโปร่ง
และทำให้รู้สึกว่าผิวของพวกเราได้ระบายอากาศได้ดี
นักเรียนทุกคนถูกบังคับให้ใช้อาวุธพื้นฐานตามที่โรงเรียนให้ รวมไปถึงอาวุธการต่อสู้และเกราะป้องกัน
เราสามารถเก็บอาวุธส่วนตัวไว้ได้แต่จะถูกอนุญาตให้เอาออกมาใช้ได้แค่ตอนภารกิจพิเศษเท่านั้น เพียงเพราะ
เขาอยากทำให้ทุกคนเสมอภาคกันและคงไม่อยากให้ใครมีพลังมากกว่าใครเพียงเพราะอาวุธที่พกมา
ซาเวียทำให้พวกเราต้องออกมาจากห้องเมื่อเธอต้องการที่จะเปลี่ยนชุด ในขณะที่เรายืนอยู่นอกห้อง
ผมก็ได้สังเกตว่ามีแค่พวกเราห้าคนเท่านั้น ผมมองกลับไปดูชื่อที่ติดอยู่อีกครั้ง
“สมาชิกของเราสองคนหายไป ฉันพอจำได้อยู่ชื่อนึงแต่ มาร์ธาคือใคร?” แกรี่ถาม
หลังจากที่แกรี่พูดจบก็มีผู้ชายตัวสูง ผมดำพร้อมกับแบกไม้ไว้ที่หลังและเดินมาหยุดที่หน้าประตู
“เฮ้ พวก ทำไมพวกนายถึงมายืนกันข้างนอก?” ผู้ชายคนนั้นพูด
“เธอคือแดนใช่ไหม?” แกรี่ถาม
“ใช่ ผมเดนตัวเป็นๆเลยแหละ! และจะอยู่กับพวกนายต่อจากนี้แล้วทำไมทุกคนมายื่นอยุ่ข้างนอกหล่ะ
เข้าไปข้างในกัน “
“งานนี้ต้องสนุกแน่ๆ” แกรี่กระซิบที่ข้างหูผม
“โอ้ววว ในนี้มีแมลงสาบอยู่ด้วยแต่พวกเราทุกคนกลัวเกินกว่าที่จะไปจัดการมัน
ถ้าคุณไม่ว่าอะไรช่วยไปจัดการมันให้พวกเราหน่อยได้ไหม? “ แกรี่พูดพร้อมกับทำตาเหมือนลูกหมา
ผมไม่รู้ว่าแกรี่กำลังทำอะไรอยู่กันแน่ อาจจะเอาคืนซอเวียหรือก็แค่ต้องการให้ใครสักคน
โดนเหมือนที่เขาโดนบ้างเท่านั้นเอง
“ได้สิ คนที่จะเป็นอัศวินต้องห้ามกลัวอะไรทั้งนั้น….”
หลังจากนั้นไม่กี่นาที แดนเดินออกมาจากประตูพร้อมกับตาสีดำและหัวที่ปูดขึ้นมา
แกรี่และคนอื่นๆเห็นก็ห้ามที่จะหัวเราะไม่ได้
เมื่อซอเวียเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วพวกเราทุกคนก็ได้เข้าไปในห้องและเริ่มทักทายแนะนำ
ตัวเองกันอีกครั้ง
มีเพียงผมและแกรี่เท่านั้นที่มาจากหมู่บ้านเดียวกัน พวกเราทั้งคู่มาจากครอบครัว
ที่ธรรมดาที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับที่เหลือ
ไอลานย้ายมาจากสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้านึงไปอยู่อีกที่ เพราะที่แรกเกิดโรคระบาดขึ้น
และนั่นเหมือนเป็นนิทานอันแสนเศร้าที่เรียกน้ำตาของพวกเราทุกคนอออกมา มันทำให้
ผมอดคิดไม่ได้ว่าถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับผมบ้างละแล้วจะเป็นยังไง
แดนมาจากตระกูลผู้สูงศักดิ์และเขามีความต้องการที่จะกลับไปสืบทอดตะกูลของครอบครัวต่อไป
เขาพกคฑาที่มีขนาดเป็นตันมาเป็นอุปกรณ์ฝึกฝน เราทุกคนได้พยายามที่จะยกมันได้ ยกเว้นผมและไอลาน
ก็ไม่มีใครสามารถที่จะยกมันได้ ส่วนแกรี่ยกได้แต่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายมันไปไหนได้
เด็กชายตัวเล็ก ๆ แต่งตัวด้วยชุดสีดำ ผมของเขายาวคลุมมาถึงตาก็เดินออกมาแบบไม่พูดอะไร
“มังค์” เราคงต้องเดาว่าชื่อสุดท้ายที่อยู่หน้าประตูนี้คือชื่อของเขา
ซอลเวียก็มาจากตระกูลผู้สูงศักดิ์แต่ครอบครัวของเธอเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีความสามารถด้านเวทมนตร์
เธอเกิดมาพร้อมกับการไม่มีพลังพิเศษทางเวทมนตร์และเธอก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่ามีค่าพอที่จะเป็นอัศวินให้ได้
เมื่อการแนะนำตัวจบลงพวกเราก้เปลี่ยนเรื่องคุยเป็นการทดสอบที่กำลังจะมาถึง
“พวกนายหวังว่าจะได้เข็มขัดสีอะไรกัน?” แดนเริ่มเปิดประเด็น
“ฉันไม่ชอบที่จะถามแบบนี้เลยแต่การที่เราได้รับสีของสายมันแตกต่างกันมันจะเกิดอะไรขึ้น” แกรี่ถาม
ทุกคนในห้องพร้อมกันยักไหล่และมองไปที่ซอลเวียเป็นตาเดียว
ซอลเวียถอนหายใจในขณะที่เกิดคำถามกวนใจแต่เธอก็ยังเงียบ เพราะในกลุ่มของพวกเรา
เธอดูมีความรู้ที่สุดแล้ว
“นี่พวกนายทุกคน ไม่ได้เรียนอะไรมาเลยหรอ? สิ่งแรกที่ควรจะรู้ก็คือระดับของสายเข็มขัดไม่ได้วัด
พลังของเราจริงๆ แต่มันเกี่ยวกับศักยภาพในตัวของเราทุกกคน ถ้าเราเริ่มต้นด้วยการได้รับเข็มขัดสีแดง
มันก็จะหมายความว่าเราไม่มีศักยภาพในด้านไหนเลย โรงเรียนเองก็ไม่รู้จะทำยังไงกับพวกนาย ดังนั้น
จึงจัดให้เรียนแบบพื้นฐาน ไม่มีการสอนที่พิเศษและยังมีเวลาว่างมากพอที่จะค้นหาศักยภาพของตัวเอง “
“นั่นฟังดูไม่แย่เท่าไหร่นะ” แกรี่พูด
“ใช่ ถ้าเธอต้องการที่จะเป็นผู้แพ้งั้นหรอ ไม่เคยได้ยินที่ว่าคนที่ได้สายแดงก็จะถูกดูแลแบบทิ้งขว้าง
พวกเขาจะถูกคนรอบข้างดูถูกเพียงเพราะพวกเขารู้ว่าคนกลุ่มนั้นไม่มีพลังมากพอที่จะทำอะไรเลย “ แดนพูด
ซอลเวียยังพูดต่ออีกว่า
“ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราได้สายขาวก็จะหมายความว่าเรามีศักยภาพมากพอและ
จะได้รับการให้ฝึกฝนวิชากับมาสเตอร์โดยตรง “
“แล้วระดับอื่นๆหล่ะ” ไอลานถาม
“เมื่อเรามองดีๆสีแดงจะเป็นสีที่อยู่ล่างสุด ถัดไปจะเป็นสีเหลืองตามด้วยสีฟ้าและสุดท้ายสีขาว
และทั้งหมดนี้คือลำดับศักยภาพในระบบของเรา มากไปกว่านั้นยังมี สายที่นอกเหนือคือสีเขียวและดำ
สีเขียวสำหรับคนที่เก่งใน แต่สีดำฉันไม่แน่ใจมันค่อนข้างลับและดูเหมือนจะหายากกว่าสีขาว “
“งั้นสีดำก็ดีว่าสีขาวใช่ไหม?”
“ฉันก็ไม่อยากจะพูดแบบนั้นออกไป ถ้าสิ่งที่ฉันเข้าใจนั้นถูกสีดำจะคล้ายๆกับสีเขียว
ที่จะมีความสามารถพิเศษสำหรับบางอย่างแต่ฉันก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร “
“ใครจะไปเชื่อว่า คนอย่างซอลเวียจะมีสิ่งที่ไม่รู้กับเขาเหมือนกัน ฉันไม่เคยคิดว่า
จะเห็นอะไรแบบนี้ “ แกรี่พูด
ซอลเวียยกกำปั้นแล้วต่อยไปที่หน้าของแกรี่อีกครั้งเหมือนกับครั้งแรกที่แกรี่
ทักทายเมื่อเขาเปิดประตู
เลนซี่เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับพูดว่า
“เอาหล่ะ นักเรียนทุกคนเหลือเวลาไม่มากแล้วรีบเตรียมตัวให้พร้อม เราจะเจอกันที่ห้องโถงด้านล่าง
พวกเราจะร่วมทานอาหารมื้อกลางวันและมีประชุมสั้นๆ หลังจากนั้นพวกเราจะเดินทางไปฝึกฝนที่ลานกว้าง
พร้อมกัยเริ่มบททดสอบในทันที! “
เลนซี่รีบเดินออกไปหลังจากพูดจบประโยคและเดินไปห้องอื่นๆต่อ
แกรี่รีบกระโดดขึ้นมาและลากคอผมด้วยแขนของเขาด้วยความตื่นเต้น
“นี่ไงในที่สุดพวกเราทั้งคู่ได้เป็นอัศวินแล้วว เฮ้ แล้วทำไมพวกเราทั้งคู่ไม่มาตั้งเป้าให้ได้สายสีขาว
ไปด้วยกันละ? “
แกรี่ตื่นเต้นมากเกินไปสำหรับผมที่จะตอบรับเขา ผมมองไปรอบๆห้องเพื่อที่จะดูว่ามีใครที่ตื่นเต้น
ได้มากกับที่แกรี่เป็นบ้างไหม บางคนก็ทำหน้าเหมือนไม่สนใจอะไรราวกับว่าเหตุการ์ณแบบนี้
เกิดขึ้นกับเขาในทุกๆวัน ในขณะที่คนอื่นมีสีหน้าที่กังวลราวกับว่าชีวิตของพวกเขาแขวนบนเส้นด้าย
พวกเราเดินออกมาจากห้องและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งตรงหน้า!
MANGA DISCUSSION