ในทันทีที่พระอาทิตย์เริ่มขึ้น มาสเตอร์เลนซี่จะปลุกพวกเราทุกคนโดยการตีหม้อสองอันให้เกิดเสียงดัง
เสียงที่ดังออกมามันทำให้หูผมอื้อไปชั่วขณะ แต่ในทางตรงกันข้ามแกรี่ยังนอนหลับเหมือนเด็กแบบไม่รู้สึกตัว
ผมตัดสินใจเตะไปที่ท้องเข้าเบาๆ และสุดท้ายเขาก็ตื่นจนได้
นักเรียนทุกคนได้รับมอบหมายให้เก็บของทุกอย่างขึ้นรถม้า และสามสิบนาทีหลังจากนั้นพวกเรา
ก็กลับเข้าสู่การเดินทางอีกครั้งนึง
ขณะที่เรากำลังเดินทางมีนักเรียนสองสามคนที่ไม่ค่อยพอใจและบ่นถึงสถานการ์ณที่เราต้องเจออยู่ตอนนี้
“Avrion Academy ไม่มีเทเลพอร์ตหรอ? ผมไม่เห็นว่าเราจะต้องมารำบากเดินทางด้วยรถม้าเลย”
“ใช่ฉันเห็นว่า Roland Academy มีลำนึง อย่างที่รู้กันดีว่า Avrion ก็มีชื่อเสียงและอยู่ในระดับเดียวกับ
Roland แต่ทำไมถึงไม่มี เทเลพอร์ต?”
เด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างหลังของรถม้าเริ่มที่จะเปิดปากพูดอะไรบางอย่างเพราะเขาเริ่มที่จะทนกับ
สิ่งที่สองคนนั้นพูดไม่ได้
และสุดท้ายเธอทนไม่ไหวจนลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า
“พวกเธอทั้งสองคนไม่ได้รู้อะไรเลยหรอ? Avrion Academy คือสถาบันแนวหน้าด้านการต่อสู้และ
ควบคุมโรคเงาระบาดจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดสงครามแล้วทำให้เราสูญเสีย Avrion ไป? “
เด็กสองคนนั้นทำหน้างงกับสิ่งที่เธอพูด พร้อมกับสงสัยว่าสิ่งที่กำลังจะพูดนั้นคืออะไรกันแน่
“นั่นหมายความว่าศัตรูของเราจะเข้ามาโจมตีเราผ่านเทเลพอร์ตของเราและมันก็เหมือนกับว่า
จะปล่อยให้เค้าเดินทางไปที่ไหนก็ได้ง่ายๆใน The kingdom เลยนะ “
เธอกลับไปนั่งในที่ของเธอและพึมพัมกับตัวเองอีกครั้ง
ผมจำเธอได้ดีเลย เด็กผู้หญิงผมสีเทาผมของเธอยาวไปถึงเอวและคนที่ผมพูดถึงก็คือ
ซอลเวีย ฮาร์ท ด้วยใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์และร่างกายที่น่าภูมิใจถ้าเตรียมจามาตรฐานของมนุษย์
ถ้าให้ผมเดาเธอคงเป็นคนที่จะอยู่ในคำนิยามของคำว่า “สวย”
แต่นั้่นมันก็ไม่ใช่เหตุผลว่าทำไมผมถึงจำเธอได้ขึ้นใจ ในทุกๆเทอมที่ Renny Academy จะมีการประกาศ
ผลการทดสอบความรู้และทุกครั้งที่ผลออกมาเธอไม่เคยสอบตกเลยแม้แต่ครั้งเดียว แค่นั้นยังไม่พอ
ชื่อของเธอจะเป็นคนแรกเสมอ ผมไม่คิดว่าจะไม่มีใครที่จำเธอไม่ได้แน่นอน
เมื่อเวลาสองสามชั่วโมงผ่านไปรถม้าก็ได้หยุดเดินอีกครั้ง ก็คงจะเป็นสัญญาณที่บอกว่าเรามาถึง
อีกจุดนึงที่ต้องตั้งเต้นท์สำหรับพักในคืนนี้ คราวนี้โชคดีกว่าทุกครั้งเพราะหยุดที่ปราสาทร้าง
และจะใช้ที่นี่เพื่อพักในคืนนี้
พวกเราเดินเข้าไปในห้องโถงของปราสาทและตกลงกันว่าจะใช้ห้องนี้ในการนอนสำหรับคืนนี้
รถม้าแต่ละคันแยกกันเป็นกลุ่มๆ พร้อมกับอัศวินประจำรถเป็นคนดูแล
เมื่อเราเดินเข้ามาในห้องโถงของปราสาท นักเรียนทุกคนต่างพากันสงสัยว่าทำไมปราสาท
แห่งนี้ถูกทำลายจนเหลือแต่หินชิ้นเล็กเต็มไปหมดอีกทั้งยังถูกทำลายเป็นช่องว่างในทุกห้อง
“เกิดอะไรขึ้นกับปราสาทแห่งนี้?” แกรี่ถามด้วยความสงสัย
อัศวินที่มากับเราเริ่มอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับที่นี่ทันที
“นี่คือผลลัพธ์ที่เกิดมาจากหนึ่งในสงครามของเรากับ Gala Kingdom ที่เรายังคงทำสงคราม
กันอยู่ในทุกวันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะภัยพิบัตืจากโรคระบาดเงา ”
“มันหมายความว่าอะไรครับ?” แกรี่ถามอีกครั้ง
ซอลเวียก็ไม่สามารถที่จะตอบคำถามนี้ได้เหมือนกัน
“เราได้มีการทำลงชื่อคนที่อยู่รอบๆThe kingdom เพื่อที่จะเป็นทีมในการสู้รบเมื่อเราค้นพบ
โรคระบาดเงา แม้ว่าจะเป็นการตกลงแบบชั่วคราวกับศัตรูทั่วไปของเรา”
ทุกคนรุ้สึกเหนื่อยกับการเดินทางและมีความสุขในเวลาเดียวกันที่จะไม่ต้องออกไปกางเต้นท์ข้างนอก
และหลักจากที่ทุกคนพูดคุยได้ไม่นาน ทุกอย่างก็อยู่ในความเงียบและเข้าสู่ช่วงพักผ่อนสำหรับคืนนี้
ครั้งนี้คนที่คอยดูแลความปลอดภัยได้ถูกจัดสถานที่ให้อยู่บนยอดของปราสาทเพื่อที่จะได้มองลง
มาเห็นมุมกว้างจากด้านบน เพื่อที่จะคอยเตือนให้เรารู้ตัวในเวลาที่ศัตรูมา
ในคืนนี้ผมไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ดวงตามังกร ผมอาศัยประโยชน์จากช่องในกำแพง
เพื่อที่จะค่อยๆเดินผ่านไปทีละช่องเพื่อออกไปในป่า แต่เพียงแค่ผมก้าวออกจากช่องแรก
ก็รู้สีกว่ามีคนดึงแขนเสื้อไว้
“เธอจะออกไปไหนในเวลาดึกแบบนี้?” ซอลเวียพูดพร้อมกับดึงแขนเสื้อไว้แน่นกว่าเดิม
“ออกไปไล่ล่าสัตว์” เห็นที่ว่าจะไม่ต้องปิดเป็นความลับอีกต่อไป เพราะนี่คือส่ิงที่ผมเลือกและสิ่งที่ผมอยากทำ
ถึงตัวผมจะเป็นนักเรียนของ Avrion Academy แต่ก็แค่ชื่อเท่านั้น และเมื่อหมดวันแล้ว
ผมก็สามารถเป็นตัวผมได้อีกครั้ง
“นายบ้ารึเปล่า! มีความาสามารถแค่จะต่อสู้กับสัตว์ทั่วไปเท่านั้น แต่ถ้าเมื่อเจอกับสัตว์ระดับกลางขึ้นมา
จะทำยังไง เหล่าอัศวินคงมาช่วยเธอไม่ทันแน่” ซอลเวียรีบตอบกับมาด้วยความตกใจและตาโตด้วยความชอค
“ไม่ต้องเป็นกังวลไป ผมเคยจัดการสัตว์ระดับกลางมาบ้างแล้ว” หลังจากคำนั้นผมรีบสะบัดแขน
ทำให้มือของซอลเวียหลุดออกจากตัวผม จากนั้นผมไม่รอช้าที่จะวิ่งเข้าไปในป่าทันที
เมื่อเข้ามาในป่าสิ่งที่ผมเจอดูจะหนีไม่พ้นหมูป่าอีกแล้ว ผมเรียกสัตว์เลี้ยงออกมา และทันใดนั้นเนียร์
ก็ออกมาจริงๆขนาดของเขาตัวยังอยู่เท่าเดิมเท่าที่ตอนแรกที่เจอ
ลึกๆแล้วตัวผมก็ดีใจที่ยังอยู่ในดินแดนของหมู่ป่า เพราะพวกมันจะสร้างคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม
ให้สำหรับเนียร์เพราะหมาป่าเองมีความเร็วอยู่แล้วในตัวแต่เมื่อเทียบกับหมูป่านั่นคือจุดอ่อนของมัน
ทันใดนั้นผมเจอหมูป่าตัวนึงเดินมุ่งตรงมาที่เรา ผมสั่งให้เนียร์จัดการมันให้เรียบแต่ในขณะเดียวกัน
ผมคุ้มกันเนียร์อยู่ห่างๆโดยการยื่นมืดออกไปด้านหน้าเผื่อมีอะไรผิดพลาดจะได้มั่นใจว่ารับมือได้ทัน
แน่นอนว่าขนาดตัวของหมูป่าใหญ่เป็นสองเท่าของเนียร์ แต่สุดท้ายแล้วผลก็เป็นไปตาที่ผมคาด
เนียร์มีความไวมากกว่าหมูป่ามาก เนียร์เริ่มจัดการมันจากกัดขามันไปอีกสองสามรอบ ซึ่งจะทำให้มัน
เดินช้าไปกว่าเดิมอีกและสุดท้ายก็จบชีวิตมันลงที่การกัดไปที่คอ
<Basic tier crystal 1>
<คุณจะยอมรับหรือไม่?>
<รับ> <ไม่รับ>
ผมยิ้มทันทีเมื่อมีข้อความเด้งขึ้นมาที่หน้าผม เรียกได้ว่ามันคือข่าวดีที่ไม่ต้องลงมือฆ่าสัตว์ร้าย
เพื่อที่จะได้รับCrystal แต่กลายเป็นเนียร์จัดการสิ่งนั้นแทนผมและคะแนนมันก็จะถูกนับโดยอัตโนมัตื
อีกเหตุผลนึงที่ผมต้องการให้เนียร์ต่อสู้แทน เพราะผมเองจะได้เรียนรู้ระบบการทำงานของมัน
ว่ามันทำงานอย่างไรกันแน่
ผมมอบCrystal ให้กับเนียร์และตอนนี้เขาได้รับไปแล้วแปดคะแนนและตอนนี้มีคะแนนสะสมไปถึงสิบสาม
พวกเรามุ่งหน้าที่จะไล่ล่าต่อไปในป่า เป้าหมายของเราคือการจัดการหมูป่าให้เยอะที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
ผมต้องการที่จะเห็นพัฒนาการของเนีย์เหมือนอย่างตัวผมที่แข็งแกร่งขึ้น
ในแต่ละครั้งที่เนียร์ได้รับ Crystal มันทำให้เขาได้อันต่อๆไปมาอย่างง่ายดาย เมื่อผ่านไปสักพัก
ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้รับCrystal จากหมูป่าอีกคงจะเหมือนกับตอนที่ผมไม่ได้รับจากหมาป่าและลืง
ตอนในป่าดำแน่ๆ
คะแนนสะสมของเนียร์ตอนนี้เท่ากับสามสิบสองคะแนน เรียกได้ว่าวันนี้ประสบความสำเร็จจากการ
ที่เราไล่ล่าหมูป่า จากนั้นเราตัดสินใจที่จะเดินกลับที่พักพร้อมความเหนื่อยล้า
MANGA DISCUSSION