กระบี่สะบั้นเก้าสวรรค์ - ตอนที่ 102 ไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร !
นิยาย กระบี่สะบั้นเก้าสวรรค์ ตอนที่ 102 ไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร !
ตอนที่ 102 ไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร !
จี้เทียนซิงตะลึงงันในใจร่าร้องออกมาว่า บรรลัยแล้ว
เขาคิดว่าไม่มีใครอยู่ในต่าหนักไต่อันที่เงียบสงบราวกับป่าชแห่งนี้จึงกล้าปล่อยเสี่ยวเฮยหลงออกมา
อย่างไรก็ตาม เสี่ยวเฮยหลงส่งเสียงเอะอะและก่อความวุ่นวายมากจนทําให้ชายชราหนวดเคราขาวผู้นี้ต้องปรากฏตัว
ถึงแม้ว่าตาเฒ่าผู้นี้จะตัวเตี้ยและดูงุ่มง่ามผิวก็เป็นสีเหลืองแห้งเหมือนลิงแก่ๆที่มีหนวดเคราสีขาวแต่เขาก็สวมใส่เสื้อคลุมสีม่วงและมีกลิ่นอายลึกลับยากจะหยั่งถึงเห็นได้ชัดว่าเป็นบุคคลที่มีเกียรติฐานะมากที่สุดคนหนึ่งในนิกายพันธมิตรสวรรค์ !
จากความหมายในค่าพูดของตาเฒ่าเคราขาวผู้นี้ ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของตําหนักไท่อันอีกด้วย !
ต้นไม้ขนาดใหญ่หลายสิบต้นในลานแห่งนี้รวมไปถึงสมุนไพรบางอย่างในเรือนเพาะชําถูกเพราะปลูกเลี้ยงดูโดยน้ํามือเขาทั้งสิ้น
แต่ตอนนี้เสียวเฮยหลงได้สร้างพายุทอร์นาโดขนาดใหญ่เกินไปจนทําลายความพยายามที่ตาเฒ่าผู้นี้สร้างมาหลายปีเป็นใครใครจะทนไหว ?
“บัดซบเอ้ย ข้าจบสิ้นแล้ว !”
หัวใจของเทียนซิงดิ่งลงเหว มุมปากปรากฏรอยยิ้มแห้งๆอย่างขมขื่น
ในเวลานี้พายุทอร์นาโดในสวนก็หยุดลงทันทีและเรือดหายไปในทันที
เสี่ยวเฮยหลงกลายร่างเป็นกระบี่มังกรดําาทันทีและพุ่งเข้าไปอยู่ในฝักกระบี่ที่กลางหลังของจี้เทียนซิงไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดๆ
วัตถุทรงกลมเหมือนลูกบอลจากเศษใบไม้และวัชพืชที่ถูกพายุพัดพาขึ้นไปรวมกันบนอากาศเริ่มสูญเสียแรงเหวี่ยงเมื่อเสียวเฮยหลงหยุดการหมุนวนมันตกลงมาบนพื้นทันที
ทันใดนั้นทั้งสวนเต็มไปด้วยฝุ่น ใบไม้และวัชพืชระเกะระกะ ทั่วทั้งบริเวณดเลอะเทอะวุ่นวายและสกปรกกว่าเดิมหลายเท่า
จี้เทียนซึ่งยืนอยู่ใต้ชายคาและถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นและใบไม้เต็มศีรษะสารรูปของเขาดูอนาถาอย่างมาก
ส่วนตาเฒ่าเคราขาวยิ่งแล้วใหญ่ เขาเกือบจะถูกฝังด้วยใบไม้และกระเบื้อง !
“อา ! เจ้าสารเลวน้อย ! เป็นเจ้าใช่หรือไม่ที่ทําลายความพยายามหลายปีของตาเฒ่าผู้นี้ !?”
วูบ !
ชายชราเคราขาวพุ่งร่างเข้าหาชายหนุ่มดั่งประกายแสงด้วยใบหน้าโกรธจัด จากนั้นก็เหยียดมือออกไปกระชากคอเสื้อของอีกฝ่ายทันที
อีก…..
จี้เทียนซิงรู้สึกหายใจไม่ออกและร่างถูกยกลอยขึ้นบนอากาศด้วยมือข้างเดียวของชายชราเคราขาว
“พูดมา ! เจ้าเป็นใครไอ้หน ? เจ้าเข้ามาก่อเรื่องในตําหนักไต่อันของตาเฒ่าผู้นี้เพื่อสิ่งใด ?”
“ขอเหตุผลที่ฟังขึ้น ! โอ้..! ไม่ส์ ไม่ๆ ต่อให้เจ้ามีผลเหตุเพียงพอข้าก็จะตบกบาลเจ้าด้วย !!”
ชายชราเคราขาวจ้องมองจีเทียนซึ่งด้วยดวงตาที่แดงก่าและรอคอยค่าตอบของชายหนุ่ม
เดิมทีจี้เทียนซิงคิดจะหลบหนี แต่เขาไม่ทันได้ขยับตัวก็ถูกตาเฒ่าผู้นี้คว้าจับไว้เสียแล้วต่อหน้าตาเฒ่าประหลาด เขารู้สึกอ่อนแอเหมือนไก่ป่วยตัวหนึ่ง
“พูดมาเซ่ !”
ชายชราหนวดขาวตะเบ็งเสียงและกดทับร่างของเทียนซึ่งกระแทกกับกาแพงจนเกิดเสียงดัง
เทียนซึ่งรู้สึกเวียนศีรษะ เขารีบโบกไม้โบกมือเป็นพัลวันและอธิบายว่า “หยุด หยุด ! ผู้อาวุโสใจเย็นก่อน ท่านบ้าไปแล้วหรือไง ข้าไม่ได้เป็นคนทํานะ !”
ในขณะที่ปากพูดปฏิเสธ เทียนซิงก้มมองที่เท้าตัวเองก็พบว่าร่างถูกยกลอยขึ้นเขาคิดในใจด้วยความสงสัยว่า“ข้านับว่าเป็นชายร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่ง แต่ตาเฒ่าที่เตี้ยม้อต้อคนนี้กลับยกร่างข้าจนลอยขึ้นจากพื้นได้…….เขาทําได้อย่างไรนะ ?”
“อะไร ? ไม่ใช่ฝีมือเจ้างั้นเหรอ ?” ชายชราเคราขาวกระพริบตาถี่และชี้หน้าจี้เทียนซึ่งพลางกล่าวว่า“เจ้ามันสารเลวน้อยจริงๆ ! ที่นี่ไม่มีใครนอกจากข้ากับเจ้าไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใครละโว้ย !”
“เป็น…..เสียว..” จี้เทียนซิงเกือบหลุดปากพูดว่าเป็นเสี่ยวเฮยหลง(มังกรด้าน้อย) แต่เขาก็ห้ามตัวเองไว้ได้ทัน จากนั้นก็เค้นรอยยิ้มแห้งๆกล่าวขอโทษชายชราเคราขาว“ก็ได้ .. เป็นฝีมือข้าเอง”
หลังจากพูดจบ จีเทียนซึ่งก็เห็นแววตาของชายชราเต็มไปด้วยเพลิงโทสะพลางยกกาปั้นขึ้นหมายจะลงมือชายหนุ่มรีบอธิบายต่ออย่างรวดเร็ว “แต่ว่าข้าไม่ได้ตั้งใจนะผู้อาวุโส !”
“ข้าเป็นศิษย์ใหม่ของหอยุทธ์ฟงอวินแต่เพิ่งถูกส่งตัวมาทําความสะอาดตําหนักไม่อันข้าแค่ต้องการช่วยผู้อาวุโสทําความสะอาดสวน แต่ไม่คาดว่า…”
ชายชราหนวดขาวแสยะยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยอันตราย “ดีมาก ! เจ้าสารภาพแล้วว่าทําผิดสินะ !”
“สารเลวน้อย เจ้าท่าให้ตําหนักของข้าเละเทะวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม เจ้ากล้าทําลายสวนสมุนไพรที่ข้าประคบประหงมมานานหลายปี เจ้าหนูตาเฒ่าผู้นี้จะเลาะฟันเจ้า ออกมา !”
พี่บ !
ชายชราจับจี้เทียนซึ่งเหวี่ยงไปในสวนด้วยมือข้างเดียวเหมือนโยนไก่อ่อนแอตัวหนึ่ง
จี้เทียนซึ่งลอยละลิ่ว ร่างกายวาดเป็นเส้นโค้งในอากาศและกําลังจะตกลงกับพื้นแต่เขายังไม่ถึงพื้นดีชายชราหนวดเคราขาวก็พุ่งตัวไปในอากาศดั่งลูกธนูและง้างหมัดชกเข้าที่เอวอีกฝ่ายอย่างแรง
“ปัง!”
จี้เทียนซิงใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดและเหงื่อออกโทรมกาย ถึงแม้จะหนักมือแต่ชายชราก็เพียงโจมตีให้บาดเจ็บภายนอก และไม่ได้คิดทําร้ายอวัยวะภายในให้บาดเจ็บ
โครม โครม……..!
จี้เทียนซึ่งกลิ้งกระเด็นไปหลายตลบ ร่างกระแทกกับพื้นและคลุกฝุ่นกับใบไม้จนมีสารรูปราวกับขอทาน
“สารเลวน้อย ! วันนี้ตาเฒ่าผู้นี้จะทุบตีเจ้าสามร้อยหกสิบหมัดจนเจ้าขี้ราด เจ้าทําร้ายจิตใจข้าได้เจ็บแสบนัก !”
โดยไม่รอให้ชายหนุ่มได้ลุกขึ้น ชายชราหนวดขาวก็กระโจนลงมาจากท้องฟ้าและคารามเสียงดัง
“ท่านจะทุบตีข้าสามร้อยหกสิบหมัด ? งั้นข้าไม่เละเป็นโจ๊กเลยหรือไง ?”
จี้เทียนซึ่งกล่าวจบก็กระโดดปราดขึ้นจากพื้นและถอยไปไกลสิบเมตรทันที
“ตูม !”
ชายชราเคราขาวลงมาจากท้องฟ้าเจาะพื้นหินจนระเบิดเป็นหลุมกว้างสามเมตรและพัดพาฝุ่นละอองกระจุยกระจายออกมามากมาย
เทียนซึ่งมองดูด้วยดวงตาเบิกกว้างและหัวใจเต้นรัว จากนั้นเขาก็ชักกระบี่มังกรด่าออกมาด้วยความลังเลเล็กน้อย
เมื่อได้จับกระบี่มังกรไว้ในมือ ชายหนุ่มก็มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เขามองชายชราและกล่าวอย่างสงบว่า “ผู้อาวุโส ผู้เยาว์ท่าผิดจริง ข้าขออภัยเป็นอย่างยิ่งแต่ข้าไม่ได้ตั้งใจจะก่อความวุ่นวายปั่นป่วนที่นี่เลย มันเป็นความเข้าใจผิดโปรดให้เวลาผู้เยาว์ได้อธิบายก่อน !”
“อธิบายกับบิดาเจ้าเถอะ !”
ชายชราหนวดขาวจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าบูดบึง
เขาครามด้วยความโกรธ “ผู้เยาว์อย่างเจ้าช่างเหิมเกริมนัก กล้าชักกระบี่ต่อหน้าตาเฒ่าผู้นี้ไร้สาระ !”
“สารเลวน้อย เจ้าทําผิดแต่ยังกล้าชักสีหน้าเหมือนตัวเองโดนรังแก รุ่นเยาว์ที่โอหังอย่างเจ้าท่าให้ตาเฒ่าผู้นี้ได้เปิดหูเปิดตานัก !”
ดูม !!
เมื่อเสียงลดลงร่างของชายชราก็ระเบิดพลังปราณสีน้ําเงินเข้มออกมาและพุ่งไปด้านหน้าของเทียนซึ่งและเหวี่ยงหมัดเข้าที่เอวของมันทันที
“อาวุโส ข้าล่วงเกินแล้ว !”
จี้เทียนซิงถูกส่งตัวมาทําความสะอาดที่นี่ เดิมทีก็ขุ่นข้องหมองใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งตอนนี้เจอชายชราที่พูดกันไม่รู้เรื่องไล่ทุบตีอีก เขาจะทนไหวได้อย่างไร? ดังนั้นเขาจึงชักกระบี่ออกมาเข้าปะทะ
“เคล็ดวิชาสิบกระบี่ล้ําลึก !”
จี้เทียนซึ่งซัดกระบี่มังกรดําออกไปด้วยเคล็ดวิชาสิบกระบี่ล้ําลึกของตระกูลมันเป็นเพลงกระบี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขาแล้ว
“ฉวะ ฉวะ ฉวะ !”
ล่าแสงกระบีสามสายที่เปล่งประกายสะดุดตา ถูกซัดออกมาและครอบคลุมร่างของชายชราหนวดขาวทันที
อย่างไรก็ตาม ชายชรากลับแสยะยิ้มและเพิกเฉยต่อล่าแสงกระบี่ทั้งสามโดยสิ้นเชิงร่างของเขาทะลุผ่านล่าแสงกระบี่ตรงดิ่งไปหาชายหนุ่มทันที
เครั้ง !
ชายชราเหยียดนิ้วชี้ซ้ายออกมาและสะบัดปัดกระบี่มังกรดในมือของเทียนซึ่งจนกระบี่กระเด็นไปที่พื้นจากนั้นใช้ฝ่ามือขวาซัดเข้าใส่ที่เอวของชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง
“โครม !”
จี้เทียนซึ่งกระเด็นตกลงบนพื้นสนามด้วยใบหน้าซีดเผือดตัวงอเหมือนกุ้งและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
ชายชราหนวดขาวเล็งจู่โจมแต่ช่วงเอวของมันเพื่อทําให้เส้นประสาทได้รับความเจ็บปวดจนร่างชักกระตุกแต่ไม่ได้ทําให้บาดเจ็บภายในแต่อย่างใด