นิยาย กระบี่สะบั้นเก้าสวรรค์ ตอนที่ 101 ออกแรงมากเกินไป
ตอนที่ 101 ออกแรงมากเกินไป….
จี้เทียนซึ่งเดินไปตามเส้นทางที่มีต้นไม้เรียงรายและเดินไปไกลกว่า 20 ไมล์ก่อนที่จะพบกับวังไท่อัน
สถานที่แห่งนี้นับว่าอยู่ห่างไกลจนเกินไป
มันไม่ได้อยู่ในนิกายพันธมิตรสวรรค์ แต่เป็นภูเขาที่อยู่ไกลออกไปด้านหลังนิกาย
วังไท่อันเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้นานาพรรณที่สูงตระหง่านหากไม่ได้เดินตามทางตั้งแต่ในนิกายจนถึงเชิงเขาก็เป็นการยากที่คนทั่วไปจะพบเห็นวังแห่งนี้
เมื่อเทียนซึ่งมาถึงประตูวังไท่อันเขาก็ถูกขวางไว้โดยชายร่างกําย่าผู้หนึ่งชายผู้นี้ท่าทางดร้ายใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากคมดาบหรือไม่ก็กระบี่บุคลิกท่วงท่าเหี้ยมเกรียม ทั่วร่างแผ่ซ่านจิตสังหาร
ไม่ได้กล่าวเกินจริงแน่นอนหากมีการพูดว่าเพียงเด็กเห็นหน้าชายผู้นี้ก็จะร้องไห้จ้าทันทีเพราะหน้าตาของมันมีความสามารถเช่นนั้นจริงๆ…
แต่สิ่งที่แปลกคือชายคนนี้เป็นใบ้
เทียนซึ่งแสดงป้ายสัญลักษณ์ให้อีกฝ่ายเห็นว่าตนเองถูกนิกายลงโทษให้มากวาดพื้นที่นี้สุดท้ายชายดุร้ายผู้นั้นจึงปล่อยให้เขาผ่านเข้าไป
หลังจากเข้าสู่วังไท่อัน จี้เทียนซึ่งก็เดินเข้าไปในลานกว้างอันเก่าแก่และมองไปรอบ ๆ อย่างเงียบ ๆ
ขนาดของวังไท่อันนั้นกว้างใหญ่เกินไปจนดูราวกับว่ามันครอบครองพื้นที่เกือบทั้งภูเขาและยังใหญ่กว่าเคหะสถานของตระกูลถึงสองเท่า !
มีลานกว้างขนาดใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีห้องหับอย่างน้อยก็ 1000 ห้องแต่ทั้งหมดกลับไร้ร่องรอยผู้คนอยู่อาศัย มันว่างเปล่าเย็นยะเยือกและเงียบสงบยิ่ง
นอกจากคนใบ้ที่ยืนเฝ้าประตูราวกับหุ่นยนต์แล้ว เทียนซึ่งเดินไปเดินมาหลายรอบก็ยังไม่พบบุคลอื่นอีกเลย
ยิ่งไปกว่านั้นพื้นถนนของวังไท่อันปกคลุมไปด้วยฝุ่นละอองและใบไม้รกครึ้มตลอดจนวัชพืชขึ้นสูง
มุมประตูของห้องต่างๆและบ้านหลายหลังก็เต็มไปด้วยหยากไย่และแมงมุม
วังไท่อันทั้งหมดสงบเงียบอ้างว้างราวกับอยู่ในโลกที่ไร้ผู้คนแถมยังกว้างใหญ่มากจี้เทียนซึ่งไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเพียงใดถึงทําความสะอาดจนเสร็จ…
ชายหนุ่มใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมงเดินสํารวจไปรอบๆเพื่อหาอุปกรณ์ทําความสะอาดต่อมาเขาก็พบมันและเริ่มลงมือปัดกวาดทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
เขาเริ่มทําความสะอาดที่ลานชั้นหนึ่งก่อนด้วยการปัดกวาดไรฝุ่นบนพื้นและเศษใบไม้ที่ร่วงหล่น
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
เมื่อถึงเวลาเที่ยง เทียนซิงก็ยังทําความสะอาดไม่เสร็จแม้กระทั่งชั้นแรกเขาไม่ได้กินอาหารกลางวันและยังคงจมอยู่กับการทําความสะอาดฝุ่นและใบไม้ต่อไป
จนกระทั่งตกบ่ายเขาถึงทําความสะอาดถนนของลานชั้นแรกเสร็จในที่สุด อย่างไรก็ตามเขาต้องจัดการกับใยแมงมุมตามขอบประตูหน้าต่างและทําความสะอาดห้องที่เต็มไปด้วยฝุ่นหลังจากนั้นก็กําจัดวัชพืชออกจากสนามหญ้า …
เมื่อคิดได้เช่นนี้เทียนซิงก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า
การทําความสะอาดห้องนั้นใช้เวลานานและต้องเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือเช่นผ้าขี้ริ้วและกะละมัง ดังนั้นเขาจึงคิดจะทํามันทีหลังและกลับไปทําความสะอาดฝุ่นและใบไม้บนพื้นทางเดินให้หมดเสียก่อน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็ถึงยามที่พระอาทิตย์กําลังจะลับขอบฟ้า
จี้เทียนซึ่งเหม่อมองไปที่ชื่อไม้ไผ่สูงที่เต็มไปด้วยฝุ่นและใบไม้ที่ร่วงหล่น เขาทําความสะอาดลานกว้างเสร็จเพียงครึ่งเดียวหลังจากพยายามกวาดใบไม้ที่ร่วงแล้วร่วงอีกอยู่ตลอดเวลา ดูแล้วกว่าจะเสร็จส่วนนี้คงกินเวลาถึงดึกดื่นเป็นแน่
“บัดซบ ! วังไท่อันกว้างใหญ่ขนาดนี้ แล้วเมื่อไหร่ข้าถึงจะทําความสะอาดเสร็จ…”
จี้เทียนซิงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงและอารมณ์ขุ่นมัวไปด้วยความหงุดหงิด เขาโยนไม้กวาดทิ้งและหย่อนก้นลงไปนั่งพักที่ม้าหิน
“ระย่าเอ๊ย ! อย่าให้รู้นะว่าผู้ใดใส่ความข้า ข้าจะทุบตีมันให้หนักที่เดียว !”
“ข้าเข้านิกายพันธมิตรสวรรค์เพื่อฝึกยุทธ์ไม่ใช่มาเป็นกรรมกรกวาดพื้น ! แถมยังต้องเดือนหนึ่งเต็มๆ…. บัดซบ ! บัดซบที่สุด !”
จี้เทียนซิงยิ่งพูดยิ่งโมโหมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
ครึก ! ครึก !
ในเวลานี้เองกระบี่มังกรดําที่สะพายอยู่ข้างหลังก็สั่นไหวหลายครั้ง
ชายหนุ่มขมวดคิ้วและกระซิบแผ่วเบา “เสี่ยวเฮยหลง เจ้าเป็นอะไร ? มีอะไรจะพูดหรือ ?”
กระบี่มังกรด่ามีเสียงกระซิบจากเสียวเฮยหลงดังลอดออกมา “สหาย เจ้าต้องเก็บกวาดสถานที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ข้าเกรงว่าชาติหน้าคงไม่เสร็จแต่ข้ามีวิธีช่วยเจ้า
เทียนซึ่งเลิกคิ้วขึ้นและถามด้วยรอยยิ้มว่า “โอ้ ? แล้วเจ้าทําอะไรได้บ้างเล่า ?”
“ดูข้าก็แล้วกัน !” เสี่ยวเฮยหลงกล่าวอย่างมั่นใจ จากนั้นก็พุ่งออกจากฝักกระบี่และคืนร่างเดิมที่ลานกว้าง
มันเผยร่างมังกรดาที่มีความยาวสามเมตรล้อมรอบพื้นที่ว่างของลานและหมุนตัวอย่างว่องไวจนเกิดลมกรรโชกออกมาทันที
จี้เทียนซึ่งนั่งอยู่ใต้ระเบียงและเฝ้ามองด้วยความสนใจ ในขณะที่เสี่ยวเฮยหลงบินวนเวียนอยู่ในอากาศ
“ชุ่ม ชุ่ม ชุ่ม !”
เมื่อเสี่ยวเฮยหลงบินวนเร็วขึ้นและเร็วขึ้น สายลมที่พัดในลานกว้างก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ในช่วงเวลาสั้นๆ จากสายลมแผ่วเบาก็กลายเป็นพายุเฮอริเคนขนาดย่อมๆ
จี้เทียนซึ่งกระพริบตาปริบๆและกระซิบกับตัวเอง มันจะก่อพายุขึ้นมาทําไมกันนะ…”
ในพริบตาพายุทอร์นาโดก็กวาดเอาฝุ่นและใบไม้จากพื้นดินขึ้นไปในอากาศทั้งลานกว้างถูกพายุทอร์นาโดปกคลุม แม้กระทั่งวัชพืชรกครื้มหลายต้นก็ถูกถอนรากถอนโคนจนลอยละลิ่วไปในอากาศ
ใบไม้ใบหญ้าและวัชพืชนับไม่ถ้วนถูกดูดมาผสมเข้าด้วยกันกลายเป็นลูกบอลใหญ่ขนาดเท่าห้อง !
ทรงกลมสีเขียวและสีเหลืองล้อมรอบด้วยพายุทอร์นาโดวนเวียนไปบนอากาศดูงดงามมาก
จทียนซึ่งยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีและกล่าวว่า “มันเต็มไปด้วยใบไม้และวัชพืชในสวนที่ข้าต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายวันกว่าจะเด็ดถอนพวกมันได้ทั้งหมดข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีประโยชน์อย่างน่าเหลือเชื่อขนาดนี้เจ้าทําความสะอาดพวกมันจนเกลี้ยงภายในพริบตาประหยัดเวลาข้าไปได้เยอะเลยฮ่าๆๆ”
เสียงของเสี่ยวเฮยหลงดังลอดออกมาจากพายุทอร์นาโดอย่างภาคภูมิใจ “โอ้วแน่นอน ! ถึงแม้ว่าตอนนี้พลังของข้าจะอ่อนแอโคตรๆแต่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่เหนือบ่ากว่าแรงหรอก เจ้าเห็นหรือยังสหายจี้ข้าช่วยเหลือเจ้จนประหยัดเวลาไปแค่ไหน
หลังจากนั้น เสี่ยวเฮยหลงที่กําลังลืมตัวก็บินวนเวียนเร็วขึ้นเป็นสองเท่าซึ่งทําให้พลังของพายุทอร์นาโดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเช่นกัน มันครอบคลุมทั้งบ้านและทําให้
กระเบื้องบนหลังคาไม่สามารถต้านทานแรงดูดอันรุนแรงเช่นนี้ได้
ไม่เพียงแค่นั้น… สมุนไพรและต้นไม้จํานวนมากที่ปลูกไว้รอบๆสนามก็ยังได้รับผลกระทบจากพายุทอร์นาโดไปด้วย
สมุนไพรจํานวนมากถูกขุดถอนรากถอนโคนและบินขึ้นไปบนฟ้าเหมือนวัชพืชอื่นๆต้นไม้ใหญ่ก็เริ่มหลุดลอยและถูกพัดเหวี่ยงอย่างรุนแรงเข้าไปรวมกับพายุทอร์นาโดเช่นกัน
ต้นไม้ใหญ่หลายสิบต้นที่เขียวชอุ่มได้กลายเป็นโล้นเลี่ยนในพริบตาและไม่มีใบเหลือสักใบสถานการณ์ดูเริ่มจะเกินควบคุมไปแล้ว…
เทียนซิงเบิกตากว้างทันที เขาตะโกนอย่างกระวนกระวายว่า
“เฮ้ย ! เสี่ยวเฮยหลง หยุด หยุดเดี๋ยวนี้ ! เจ้าทําเกินกว่าเหตุไปแล้ว !”
เสี่ยวเฮยหลงที่กําลังบินอยู่ หลังจากได้ยินเสียงตะโกนของเทียนซึ่งก็ค่อยๆลดความเร็วลงอย่างไรก็ตามในเวลานี้ที่ประตูสนามมีเสียงกรีดร้องด้วยความโกรธเกรี้ ยวดังออกมา
“โอ้ ! ต้นวิญญาณมรกตที่ข้าปลูกไว้…”
“บุตรสวรรค์หน้าไหนที่ขวัญกล้าเทียมฟ้า บังอาจมาทําลายความพยายามหลายปีของตาเฒ่าผู้นี้ !?”
เมื่อได้ยินเสียงเจื้อยแจ้ว เทียนซึ่งก็สะดุ้งโหยงและหันไปมองไปที่ประตูสนามหญ้าโดยไม่รู้ตัว
เขาได้เห็น, ชายชราหนวดเคราสีขาวโพลนผู้หนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีม่วงยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าดวงตาเหม่อมองไปที่ต้นไม้เหี้ยนเตียน หนวดเคราขาวโพลนของเขากระพือขึ้น ..
MANGA DISCUSSION