” ห๊ะ? ” ตานอวี๋เวยเอียงคอมองจิ่งซือด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ” แต่พวกเธอไม่ใช่…”
5 เดือนหลังจากคบกับลู่เจ๋อเฉิง จิ่งซือบอกว่าจะพาเขาไปบ้านตัวเอง จริงด้วย วันต่อมาเธอกับลู่เจ๋อเฉิงก็มาโรงเรียนด้วยกัน จากนั้นก็แอบบอกตานอวี๋เวยว่าเธอกับลู่เจ๋อเฉิงมีอะไรกันแล้ว
ในเวลานั้นสมองของตานอวี๋เวยรู้สึกงงงวย เสียใจไม่สบายใจยิ่งนัก
จนกระทั่งต่อมาลู่เจ๋อเฉิงดื่มจนเมา โอบกอดเธอแถมเรียกชื่อจิ่งซือ ในใจของตานอวี๋ก็รู้สึกเศร้าใจมาก
เธอรักผู้ชายคนนี้มาก แต่ไม่มีอะไรที่เป็นของเธอเลย
” ที่จริงแล้ว…เรายังไม่ได้มีอะไรกัน จิ่งซือลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาว่า ” ใครจะไปรู้ว่าตอนนั้นพ่อกับแม่ของฉันจะกลับมากะทันหัน แถมฝาผนังบ้านฉันก็เก็บเสียงกันเสียงได้ไม่ดี ฉันกับอาเฉิงจึงไม่ได้ทำอะไรกัน ”
ตานอวี๋เวยคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้ นิ่งอึ้งไปนาน ” แล้วทําไมเธอถึง…”
” ไม่ใช่เพราะฉันกลัวว่าเธอจะหัวเราะเยาะฉันหรอกเหรอ! ” จิ่งซือบ่นพึมพําพลางพูดอย่างเบื่อหน่ายว่า ” ฉันบอกเธอแล้วว่าจะคว้าอาเฉิงให้ได้ ถ้าเป็นเพราะเรื่องที่พ่อกับแม่ฉันกลับมาแล้วทำไม่สําเร็จ บอกเธอไปเธอจะต้องหัวเราะเยาะฉันไปจนตาย! ”
“.”
จู่ๆ ตานอวี๋เวยก็นึกขึ้นได้ ครั้งแรกที่มีอะไรกับลู่เจ๋อเฉิงรู้สึกเงอะงะอยู่บ้าง เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ ทําให้เธอเจ็บมาสองวันเต็มๆ เธอคิดมาตลอดว่าคงเป็นเพราะเขาเมาจึงไม่ได้คิดอะไรมาก
งั้นฉันก็เป็นผู้หญิงคนแรกของลู่เจ๋อเฉิงเหรอ?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อารมณ์ของตานอวี๋เวยก็ดีขึ้นมาก อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ความจริงแล้วไม่มีอะไรน่าเศร้าเลย ผู้ชายคนนั้นไม่ได้รักเธอ อย่างน้อยผู้หญิงคนแรกที่เขามีก็คือเธอ และสามปีมานี้เขาไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น แค่นี้ก็พอใจมากแล้ว
จิ่งซือได้ยินเสียงหัวเราะของตานอวี๋เวย คิดว่าเธอกําลังหัวเราะเยาะตัวเอง อยู่ๆ ก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที ” ฉันรู้ว่าเธอจะต้องหัวเราะเยาะฉัน เวยเวย เธอใจไม่ถึงเลย ถ้ารู้งี้แต่แรกฉันจะไม่พูด! ”
ตานอวี๋เวย โดนเกาจนเธอหัวเราะออกมา อ้อนวอนขอความเมตตา ” ฉันไม่ได้หัวเราะเยาะเธอเลย เธอเลิกเกาเถอะ ”
” เธอกําลังหัวเราะเยาะฉัน หัวเราะที่ฉันไร้ประโยชน์ถูกไหม? ”
” เปล่า ฮ่าๆๆๆ อย่าเกานะ ”
” หืม? ” จิ่งซือเหมือนจะสัมผัสอะไรบางอย่าง จึงหยุดมือ ถามด้วยความประหลาดใจและสงสัย ” เวยเวย มีรอยแผลเป็นที่ท้องเธอหรือเปล่า ฉันคลำเจอเมื่อกี้ ”
” ไม่ ไม่ ” ตานอวี๋เวยผลักมือของเธอออกไป
จิ่งซือไม่ยอมหยุด ” มีแน่นอน ฉันเพิ่งสัมผัสได้ ” ” พูดไปเธอก็อยากจะเปิดโคมไฟตั้งโต๊ะ
ตานอวี๋เวยจึงได้แต่ดึงมือเธอไว้ แล้วฝืนพูดขึ้นมาว่า ” ใช่ ฉันเคยผ่าตัด ”
” เธอก็รู้ ตอนเริ่มทํางานใหม่ๆเวลาไม่แน่นอน กินข้าวก็ไม่ตรงเวลา รอจนเจ็บเจียนตายไปโรงพยาบาล เพิ่งได้รู้ว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ ผ่าตัดแล้วนอนพักที่บ้านกินโจ๊กทุกวันอยู่นานเลย ”
” ฉันขอโทษ ” จิ่งซือเข้ามากอดตานอวี๋เวยแล้วขอโทษที่พูดแบบนั้น ” ตอนนั้นฉันใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศก็ไม่ดีเท่าไหร่ จึงไม่ค่อยได้ติดต่อเธอ เลยไม่รู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้กับเธอ ”
” ไม่เป็นไรแล้ว! ” ตานอวี๋เวยยิ้มแล้วพูดว่า ” ก็แค่ไส้ติ่งอักเสบ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เธอจะเครียดอะไร? ”
จิ่งซือแค่นเสียง ” ใช่แล้ว ถ้าจะปวดใจก็ให้เหอจิ่นเหยียนมาปวด เธอไม่ได้ต้องการฉัน! ”
” ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้จะไปสวนผลไม้ไม่ใช่เหรอ? ”
เช้าวันรุ่งขึ้นตานอวี๋เวยตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารเช้า เธอนวดแป้งทําหมั่นโถวด้วยตัวเอง โจ๊กขาวต้มจนเหนียวข้นและหอมกรุ่น กินคู่กับกับแกล้มที่เป็นอาหารท้องถิ่น อาหารเช้ามื้อนี้อร่อยกว่าอาหารในเมืองใหญ่เหล่านั้นมาก
MANGA DISCUSSION