กบฏหัวใจ - ตอนที่ 10 คุณยอมรับความสัมพันธ์ของเราหรือเปล่า?
มีเสียงถอนหายใจระหว่างเพื่อนร่วมชั้นของเขา
" ขอโทษนะ ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อน " กลัวโดนจับผิดและถามต่อ ตานอวี๋เวยจึงหาข้ออ้างที่จะหลบหนี
จนกระทั่งเดินผ่านทางเดินไปยังห้องน้ำ แล้วตานอวี๋เวยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ทันทีที่เธอเข้ามาในห้องน้ำ ข้อมือของเธอโดนจับไว้อย่างเย็นชา เธอหมุนตัวไป หลังของเธอแนบชิดติดกับประตู ลู่เจ๋อเฉิงเอามือข้างหนึ่งจับหัวเธอไว้ สายตาที่แสนเย็นชาของเขา " คุณบล็อกเบอร์โทรศัพท์ผมเหรอ? "
" น่าจะเผลอกดไปโดนแน่เลย " ตานอวี๋เวยพูดอย่างคลุมเครือ อยากจะหลีกตัวออกไปทางด้านข้างเขา แต่ลู่เจ๋อเฉิงกลับจับมือเธอไว้แน่น " บล็อกผมแถมยังลบวีแชทอีก ตานอวี๋เวยคุณคิดว่าผมเป็นเด็กเหรอ? ”
ตานอวี๋เวยค่อยๆเงยหน้าขึ้นแล้วมองดวงตาคู่นั้นที่เธอหลงใหลมาหลายปี เก็บไว้ในใจมานานแต่ไม่กล้าพูด ครั้งนี้จึงเอ่ยถามขึ้นว่า " ลู่เจ๋อเฉิง คุณชอบฉันมั้ย "
หลังจากถามออกไป เธอก็เห็นความตกตะลึงในดวงตาของลู่เจ๋อเฉิง ราวกับว่าคําถามของเธอนั้นน่าประหลาดใจยิ่งนัก
คิ้วของลู่เจ๋อเฉิงค่อยๆขมวดเข้าหากัน ผ่านไปสักพักก็พูดขึ้นว่า " ตานอวี๋เวย พวกเราอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน แล้วคุณจำเป็นต้องถามผมเรื่องนี้อีกเหรอ? "
แต่อยู่ด้วยกันนานขนาดนั้น คุณยอมรับความสัมพันธ์ของเราหรือเปล่า?
ตานอวี๋เวยรู้สึกขมขื่น
ดูสิ ผู้ชายคนนี้ตอนรักๆใคร่ๆจะเรียกเธอว่าเวยเวย ส่วนเวลาอื่นจะเรียกชื่อตามด้วยแซ่เสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นยังเทียบไม่เท่า
" ลู่เจ๋อเฉิง ฉันเหนื่อยกับความสัมพันธ์แบบนี้แล้ว " ตานอวี๋เวยผลักมือของเขาออกไปและพูดอย่างใจเย็นว่า " คุณให้คําตอบที่น่าพอใจกับฉันไม่ได้ และฉันก็ไม่ชอบแบบนี้ "
ลู่เจ๋อเฉิงเป็นคนมีเหตุผลและนิ่งมาก ด้วยเหตุนี้จึงอยู่ในวงการกฎหมายได้ สําหรับคําพูด
ตานอวี๋เวยเขาได้แค่เงียบเล็กน้อยแล้วพูดว่า " โอเค แล้วแต่คุณ "
เขาเปิดประตูและออกไปอย่างรวดเร็ว หายไปราวกับว่าไม่เคยมาที่นี่มาก่อน
ตานอวี๋เวยลากขาอันแข็งทื่อของเธอไปที่อ่างล้างมือ เธอเปิดก๊อกน้ำและสาดน้ำใส่ใบหน้าของเธออย่างสุดชีวิต เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าขาวซีดและเปียกโชกของเธอในกระจก
ตอนที่เธอถามออกไป เธอยังแอบหวังอยู่ว่าถ้าลู่เจ๋อเฉิงบอกชอบเธอ เธอสามารถทําทุกอย่างเพื่อเขาและเต็มใจที่จะแลกกับการให้อภัยจากเพื่อนรักของเธอ แต่เขาไม่ เขาแค่รู้สึกประหลาดใจ
ช่างเป็นผู้ชายที่โหดร้ายสิ้นดี เธออยู่กับเขามาสามปีแล้ว แต่เขาไม่เคยยอมรับเธอ
ใช่ สมน้ำหน้าที่เธอชอบเขา
……
เวลา 15.00 น. งานเฉลิมฉลองของโรงเรียนได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เหล่ารุ่นน้องเริ่มขึ้นเวทีทำการแสดง ทั้งเต้นและมายากลสุดยอดเยี่ยม ทําให้เหล่านักเรียนด้านล่างต่างพากันโห่ร้องชอบใจ อธิการบดีที่ยืนอยู่ตรงกลางเวทีก็กล่าวพูดคุยอย่างคึกคัก
จิ่งซือดึงลู่เจ๋อเฉิงและเหอจิ่นเหยียนมานั่งที่โต๊ะเธอ บอกว่าก็ยังมีที่ว่างอยู่ มาสนุกด้วยกัน เพื่อนร่วมรุ่นคนอื่นๆ เห็นจิ่งซือนั่งอยู่ข้างๆ ลู่เจ๋อเฉิง ก็อดไม่ได้ที่จะทักทายกันอย่างอบอุ่น
ตานอวี๋เวยยิ้มบางๆ ไม่มองหน้าใคร ก้มหน้าก้มตาตั้งใจปอกเปลือกส้มกิน
เหอจิ่นเหยียนพูดว่า " ให้ผมทำเถอะ " แล้วก็หยิบส้มที่ยังไม่ได้ปอกเปลือกจากมือของตานอวี๋เวย มือเรียวยาวของเขาทั้งสองข้างกับเปลือกส้มสีส้มอมเหลืองนั้น " คุณปอกเปลือกส้มแบบนี้เยอะๆเล็บก็ดําหมด คุณแค่กินก็พอแล้ว ”
ตานอวี๋เวยไม่ได้ปอกเปลือกส้มต่อ แล้วพยักหน้าให้เขา " ขอบคุณน่ะ "
" เกรงใจอะไร "
เหอจิ่นเหยียนไม่อยากให้บรรยากาศระหว่างพวกเขาดูแข็งทื่อขนาดนั้น เลยหาหัวข้อสนทนากับตานอวี๋เวย เล่าเรื่องสนุกๆตอนอยู่อังกฤษให้ฟัง จนตานอวี๋เวยหัวเราะออกมาได้ ทั้งสองคนคุยกันอย่างสนุกสนาน เอนกายพิงกันอย่างสนิทสนม
ฝั่งตรงข้าม สายตาของลู่เจ๋อเฉิงจับจ้องไปที่ตานอวี๋เวยด้วยสายตาที่ลึกล้ำ
" อาเฉิง คุณอยากกินหรือเปล่า? " จิ่งซือส่งกลีบส้มที่ปอกเปลือกแล้วให้ลู่เจ๋อเฉิง แล้วพูดอย่างประจบสอพลอว่า " อธิการบดีบอกว่าเมื่อเช้าให้คนไปเก็บที่สวน ส้มหวานเป็นพิเศษ ”
ลู่เจ๋อเฉิงตอบตกลง แล้วก้มหน้าลง กินกลีบส้มในมือของจิ่งซือจนหมด จิ่งซืออึ้งไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกหวานชื่น ในใจคิดว่าผู้ชายคนนี้ยังชอบเธออยู่ เพียงแต่ปากแข็งใจอ่อนเท่านั้น