ตอนที่ 12 หากได้ไปเดตกับคนรักเก่าขึ้นมา 5
[งืม…]
แม้ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว หัวใจของฮิโรกิยังคงเต้นตึกตักอยู่
นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันเรื่องในอดีต เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมารู้สึกกระสับกระส่ายอย่างน่าประหลาด
อาจเป็นเพราะวันนี้ต้องไปเดตกับมิยุก็เป็นได้ แม้ว่าจะเป็นเดตจำลองก็ตาม
หลังจากเตรียมตัวพร้อมแล้ว ฮิโกริจึงออกจากบ้าน
หลังจากนั้นคาบเรียนตอนเช้า พักกลางวัน และคาบเรียนตอนบ่ายก็ผ่านไปไวราวกับโกหก
เมื่อวิชาโฮมรูมจบลง เหล่าเพื่อนผู้หญิงของมิยุก็มาล้อมรอบเธอ
[ท่านมิว— ไปคาราโอเกะกัน—เถอะ—]
[อ๊ะ— ขอโทษนะ วันนี้มีนัดแล้วน่ะ]
[เอ๋~ ถ่ายคลิปอีกแล้วเหรอ~? แต่ช่วงนี้ก็ไม่ค่อย—มี?]
[ขอโทษน้า ครั้งหน้าจะไปด้วยแน่นอน ขอตัวนะ]
จบประโยคนั้น มิยุสับเท้าออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น ข้อความในสมาร์ทโฟนของฮิโรกิแจ้งเตือน
「มาที่สวนสาธารณะ」
หลังอ่านข้อความสั้น ๆ แล้ว ฮิโรกิออกจากห้องเรียนตามไป
ผ่านโถงทางเดินไป ตึก ตึก เสียงหัวใจของฮิโรกิเต้นระรัว
แม้จะเปลี่ยนรองเท้าแล้ว หรือเดินไปเรื่อย ๆ จนไม่เห็นคนที่ใส่ชุดแบบเดียวกันแล้วก็ยังคงเต้นระรัว
(เพราะไม่ได้เดตกับมิยุมานานแล้วเหรอ ประหม่าแปลก ๆ วุ้ย…)
แม้จะรู้ว่าเป็นแค่ของจำลอง แต่ไม่อาจสงบใจได้
ระหว่างที่คิดไปเรื่อย ก็มาถึงสวนสารธารณะอันเป็นจุดนัดพบ
[…เอ ไม่อยู่แฮะ]
ทางมิยุออกจากห้องเรียนมาก่อน แต่เมื่อมองรอบ ๆ กลับไม่เห็นตัว ทั้งทีควรจะมุ่งหน้ามาแล้วแท้ ๆ
[มิยุเนี่ย มีมุมแบบนี้ด้วยนี่นะ…]
ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วมิยุเป็นคนไม่ค่อยรักษาเวลา อาจไม่แปลกนักที่จะมานัดสาย
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้มิยุไม่เคยมาสายในการนัดถ่ายวิดีโอเลย ทำให้หลงลืมเรื่องนี้ไป
นอกจากนี้หากเป็นคนนัดหมายมาเอง จะอย่างไรก็จะไม่ผิดนัดอย่างแน่นอน หากแต่ถ้าไม่อธิบายเหตุผลให้เรียบร้อยดีก็จะเป็นต้นเหตุของความโกรธได้ และภาพความทรงจำส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนั้น
หลังจากรอไปสักระยะหนึ่ง รูปร่างของมิยุปรากฎขึ้นจากไกล ๆ
[ขอโทษ มัวแต่แต่งหน้าอยู่เลยสาย]
เมื่อมาถึงก็ทำหน้ารู้สึกผิดและขอโทษทันที ฮิโรกิจึงตกใจเล็กน้อย
ตอนนี้มิยุไม่ได้สวมเบลเซอร์ แต่ใส่เป็นคาร์ดิแกนสีเทาแทน คาดว่าเปลี่ยนเสื้อผ้ามาสำหรับถ่ายวิดีโอ
[หรือว่า โกรธเหรอ?]
[เปล่า ไม่เลย ตกใจกับที่ขอโทษมากกว่า]
[อะไรละนั่น แปลกคน ——งั้นพร้อมไปยัง?]
[อ๊ะ รอเดี๋ยว]
หยิบสมาร์ทโฟนออก เปิดโหมดถ่ายวิดีโอ
[ฉันคุยแบบปกติได้เลยใช่ไหม?]
[อื้ม ทางฉันเองก็จะปกติเหมือกัน]
[เข้าใจแล้ว งั้นสถานที่จะเอาไง? คลิปแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะไปไหนก็ได้นี่?]
[แหม ยังไม่ได้ตัดสินใจเลย เอาเป็นว่าลองไปดูก่อนแล้วกัน เดตของพวกเราก็ประมาณนั้นแหละ]
[รับทราบ รู้เรื่อง]
[แล้วก็วันนี้ฉันจะนำเองนะ]
[เรื่องนั้นก็รับทราบ]
น่าสมเพชไปสักหน่อย ฮิโรกิไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการไปไหนมาไหนกับมิยุเท่าไหร่
เมื่อพูดถึงเดตส่วนใหญ่จะนึกถึงการดูหนัง คาราโอเกะ โบว์ลิ่งและกิจกรรมในร่มอื่น ๆ หรือกิจกรรมอย่างใช้เวลาที่สวนสาธารณะหรือที่บ้านก็มี มีแต่เรื่องทั่ว ๆ ไปเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จะมานึกเสียใจตอนนี้ก็ไม่ได้อะไร
[ถ้างั้น ไปกัน]
มิยุพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับดึงมือ แล้วออกวิ่งเหยาะ ๆ ไปทั้งแบบนั้น
เมื่อไล่หลังไปจนตามทัน และในเวลาไม่นานก็มาถึงร้านขนมที่คุ้นเคย
ร้านยังคงหน้าตาไม่เปลี่ยนแปลก และมีหญิงชราคอยดูแลอยู่ดังเดิม
[ที่นี่มัน…]
[ไม่ได้มานานแล้วเนอะ ยังจำได้ไหม?]
[แน่นอนสิ มิยุชอบโยเกิร์ตงั้นสินะ]
[แค่กินง่ายเฉย ๆ น่ะ ฮิโรกิเองก็เคยซื้อขนมรามูเนะไปเป่างใช่ไหมละ]
[พูดถึงรามูเนะแล้ว ก่อนหน้านี้ไปเล่าเรื่องน่าอายของฉันใช่ไหมละ ทั้งที่ตัวเองเคยกินโยเกิร์ตมากไปจน——]
[อ๊ะ— หยุดนะ! ก็ตอนนั้นมันหาซื้อยากนี่! อีกอย่างนั่นมันตั้งแต่มอต้นแล้วด้วย แถมยังเป็นเรื่องตอนปีหนึ่ง ไม่ได้นานขนาดนั้นสักหน่อย]
[นั่นมันมาตรฐานของมิยุนี่ ทางฉันว่าเรื่องตอนมอต้นปีหนึ่งนี่นานพอตัวเลยนะ]
[บ้าตรรกะจริงนะ— ส่วนนั้นเนี่ย ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด]
[โทษทีแล้วกันนะ ที่เป็นพวกบ้าตรรกะ]
ขณะที่เถียงกันทางโฮโรกิซื้อขนมรามูเนะ ส่วนมิยุซื้อโยเกิร์ตมา และลงนั่งเคียงกันที่ม้านั่งหน้าร้าน
[อื้ม~ นี่แหละ ๆ ถึงจะไม่ได้กินมานานแล้วแต่โยเกิร์ตยังอร่อยเหมือนเดิมเลย]
[ดีจังเลยนะ ทางนี้เองก็ยังเสียงดีไม่เปลี่ยนเลย]
[อะฮ่าฮ่า มีแต่เสียงฟิ้ว— ฟื้ว—เนี่ยนะ]
เมื่อเห็นภาพมิยุกินของที่ชอบอย่างสบาย ๆ นั้น ทางฮิโรกิพลันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา แม้สมัยมัธยมต้นจะได้สัมผัสมันบ่อยครั้งแล้ว แต่ตอนนี้กลับยังคงคิดถึงอยู่
ระหว่างที่ฮิโรกิตกอยู่ในห้วงคิดถึง ทางมิยุหยิบสมาร์ทโฟนออกมาถ่ายเซลฟี่
[นี่ ๆ ฉันกับโยเกิร์ตนี้ถ่ายคู่กันแล้วอย่างเจ๋งเลยเนอะ?]
[ฉายาราชินีมินสตราจะร้องไห้เอานะ]
[อะไรละนั่น ฉายาแบบนั้นไม่ยักจำได้ แล้วก็ต้องเรียกว่าราชินีโยเกิร์ตสิถึงจะถูก]
[เดี๋ยว ไม่ใช่แล้วไหม…ราชินีโยเกิร์ตมันอะไรกัน]
อย่างน้อย ราชินีองค์นี้ก็ไม่ควรจะกินเยอะไปเหมือนแต่ก่อน
เมื่อได้คุยกันเช่นนี้สามารถรู้สึกได้เลยว่ามิยุนั้นไม่ได้ต่างไปจากเมื่อยามเก่า ตัวเองก็เช่นกัน
หากจะให้กล่าวคือทั้งคู่ยังคงเป็นเด็กอย่างเคย
[ฮิโรกิ]
ขณะที่กำลังคิดไปเรื่อยก็โดนเรียกชื่อ รู้สึกตัวคือมิยุย่นระยะเข้ามาใกล้
[เอ้า อ้า~ม]
[เอ๊ะ…]
ฮิโรกิอ้าปากแม้จะยังเหม่อลอยอยู่
เมื่อรู้สึกตัว มิยุยื่นช้อนเข้ามาในปาก
[——ว่าไป—นั่น ไม่ให้หรอก—นะ]
และดึงกลับเข้าไป จากนั้นจึงนำเข้าปากตัวเองทันที
ฮิโรกิรู้สึกอึ้ง มิยุจึงแผ่รอยยิ้มออกมาบนใบหน้า
[อันเมื่อกี้น่ะ อยู่ในปากฉันอยู่แล้วนะ หรือว่า ทางนั้นโอเคเหรอ?]
[ระ…เรื่องนั้นมันก็…]
[อะฮ่าฮ่า หน้าแดงเชีย—ว เขินเหรอ?]
ระหว่างที่แกล้งกันก็ขำคิกคักแล้วขยับเข้ามาใกล้ ด้วยเหตุนี้จึงรู้สึกขอบคุณที่ได้สัมผัสถึงความนุ่มนวลอันไม่เคยได้รับในอดีตที่บริเวณแขน อุณหภูมิร่างกายพลันร้อนขึ้นตามธรรมชาติ
แต่ว่าด้านมิยุเองแก้มแดงขึ้นมาเช่นกัน ชัดเจนเลยว่าตัวเองนั้นก็เขิน
[ทางนั้นก็เขินเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ถ้าอายก็อย่างทำสิ]
[เอ๊ะ ไม่ได้เขินสักหน่อย แต่ว่า จูบทางอ้อมเอาไว้ก่อนเนอะ]
มิยุส่งยิ้มมาให้ เมื่อได้มองรอยยิ้มนั้นแล้วรู้สึกหวั่นไหว
แต่ว่าก็รู้สึกตัวในเวลาเดียวกัน
ว่ามิยุนั้นเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ
เพื่อนสมัยเด็กที่ฮิโรกิรู้จักนั้นขี้อายกว่านี้ ไม่ซื่อตรงอย่างนี้ ไม่ควรจะแสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ได้เลย
คงเป็นเพราะห่างเหินกันมาหลายปี ฮิโรกิรู้สึกเหมือนได้รับรู้เรื่องนั้น
ต่อจากนั้นทั้งสองได้เดินทางไปยังแบตติ้งเซ็นเตอร์ที่อยู่บริเวณถนนใหญ่
มิยุเลือกเข้าไปในหมวดความเร็วเก้าสิบกิโลเมตร พับแขนเสื้อขึ้นและถือไม้ด้วยความใจพุ่งทะยาน
จากนั้นจึงเหวี่ยงไม้อย่างแรง เล็งไปหาลูกบอลที่เข้ามาอย่างเร็ว
แก๊ง เสียงเหล็กกระทบดังขึ้น การตีสำเร็จ
มิยุหันกลับมา ทำตัวตื่นเต้นอย่างไรเดียงสา
[เป็นไง!? เจ๋งไหม!?]
[พูดถึงตีบอลด้วยความเท่านั้นน่ะนะ—]
[ก็ถ้าเร็วกว่านั้นมือจะเจ็บเอาน่ะสิ]
[มั่นใจกับเรื่องแปลก ๆ ดีนะ ——เดี๋ยว ลูกต่อไปมาแล้วน่ะ]
แก๊ง มิยุยังคงตีออกไปด้วยท่าทางเดิม ท่าทางจะง่ายเกินคาด
[เห็นไหมละ แค่ตีน่ะง่ายนิดเดียว]
มิยุยิ้มกว้างพร้อมกับชูนิ้วเป็นตัว V
ท่าทางเช่นนี้ ต่างกับมิยุที่ฮิโรกิรู้จักจริง ๆ
หากเป็นชวนคุยกับมิยุเมื่อก่อนคงจะได้คำตอบว่า 「หนวกหู ตอนนี้ตั้งสมาธิอยู่」 อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกแบบนั้นแล้ว
พอเห็นท่าทางสนุกสนานของเธอ ที่ใดสักที่หนึ่งในใจของฮิโรกิรู้สึกเหงาขึ้นมา
———แก๊ง!
ในจังหวะนั้นการที่ดีที่สุดในรอบวันปรากฎขึ้น ลูกบอลนำโด่งขึ้นสูง
บอลยังคนหมุนไปเรื่อย ๆ แม้จะบินไปได้ดีแต่ยังห่างไกลกับคำว่าโฮมรันนัก
[ยอมแล้ว~ เมื่อยแขนแล้วอะ]
มิยุสะบัดแขนสีขาวของเธอและออกมาจากบริเวณตี
[เหนื่อยหน่อยนะ ลูกสุดท้ายนี่ตีได้เจ๋งเลยนะ]
[เนอะ~ อาจจะเป็นสถิติใหม่เลยก็ได้]
ระหว่างที่พูดมิยุเดินไปยังเครื่องขายของอัตโนมัติและกดเครื่องดื่มเกลือแร่ (ขวดพลาสติก) ออกมา
นั่งลงบนม้านั่ง เปิดขวดพลาสติกและกระดก
อึก อึก มิยุดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ลงคอเสียงดัง ลักษณะเหมือนกับไอดอลที่โฆษณาเครื่องดื่มหลุดออกมา
มิยุดับกระหายของตนแล้ว หันมามองทางนี้
[ดื่มไหม?]
ระหว่างที่ยื่นขวดมาให้ก็พูดพลางยิ้มไปด้วย
[ไม่เอาหรอก ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง]
[แต่คิดว่าดื่มน้ำให้เพียงพอจะดีกว่านะ~ ขวดเท่านี้ดื่มคนเดียวไม่หมดหรอก]
[…เข้าใจแล้วน่า]
หากว่าปฏิเสธทั้งที่คะยั้นคะยอขนาดนี้คงจะสำคัญตัวมากเกินไป ฮิโรกิจึงรับขวดพลาสติกมา
ความหวานและเย็นไหลลงคอทำให้รู้สึกชุ่มชื้น ค่อนข้างกระหายน้ำเนื่องจากความประหม่า และจังหวะนั้นในที่สุดฮิโรกิก็รู้สึกตัว
เมื่อเห็นฮิโรกิค้างเอาไว้ที่ปากอย่างนั้น มิยุก็เผยรอยยิ้มอันไม่หวั่นเกรงออกมา
[จูบทางอ้อม ไปซะแล้วเนอะ?]
[——แค่ก แค่ก…]
เมื่อได้ยินคำพูดหยอกเย้า ทำให้ฮิโรกิสำลัก
พอได้เห็นฮิโรกิอย่างนั้น มิยุพลันยิ้มกว้าง
[เวอร์ไปแล้ว ไม่เห็นเป็นไรเลย ฉันก็ส่งให้เองด้วย]
[ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ…]
มิยุดึงขวดคืนมาและทำท่าจะกระดกเข้าปาก และหยุดมือลง จากนั้นจึงนำเก็บใส่กระเป๋าทั้ง ๆ แบบนั้น
[งั้น ไปกันได้แล้วมั้ง]
[อา นั่นสินะ]
พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ฮิโรกิกับมิยุกลับมาที่สวนสาธารณะ
เมื่อสังเกตแล้วว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ มิยุจึงนั่งลงบนชิงชาและคะยั้นคะยอให้ฮิโรกิมาข้าง ๆ
ฮิโรกินั่งลงบนชิงช้าตามคำบอก มิยุค่อย ๆ แกว่งไกวชิงช้าเบา ๆ
[ที่นี่น่ะ ได้รับการดูแลอย่างดีเลยเนอะ เป็นสวนสาธารณะที่มีตั้งแต่พวกเรายังเป็นเด็กอยู่เลย]
[ก็จริงนะ เหมือนเครื่องเล่นที่นี่มีการปรับปรุงตลอดเลย]
[พอพูดแบบนั้นแล้ว เหมือนเครื่องตรงนั้นจำได้ว่าไม่ได้สีแบบนั้นแฮะ]
[ไม่รู้เหมือนกันว่ามีตั้งแต่เมื่อไหร่นะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่รู้สึกว่าเปลี่ยนไปเลยตั้งแต่สิบปีก่อน]
[จริงด้วยเนอะ]
จังหวะที่คิดว่ากำลังจะคุยอะไรต่อ มิยุพูดขึ้นมาขณะแกว่งชิงช้า
[…ฮิโรกิน่ะ ไม่นึกโกรธเคืองฉันบ้างเหรอ?]
เมื่อได้ยินคำถามที่กระทันหัน ฮิโรกิรู้สึกงุนงง
ทว่า ฮิโรกิก็เผยความในใจออกมาทันที
[โกรธเคืองเหรอ ไม่มีเลยสักนิดเดียวนะ แต่มาถามอย่างนี้งงเหมือนกันนะ …เป็นอะไรเหรอ?]
[คือ อยากจะคุยเรื่องนี้ให้ดี ๆ สักทีน่ะ แต่ว่า นั่นสินะ ฉันน่ะ แม้แต่ตอนนี้ก็คิดว่าเหตุผลที่ทิ้งฮิโรกิไปน่ะมันเห็นแก่ตัวมาก แล้วก็…เอ่อ ต้องขอโทษจริง ๆ นะ]
เหตุผลที่มิยุกล่าวถึง
อาจเรียกได้ว่าเป็นความเห็นแก่ตัวได้จริง ๆ
「————ฉันอยากจะเปลี่ยนแปลงน่ะ การไม่มีอะไรสักอย่างแบบนี้น่ะ ไม่เอาแล้ว」
ตอนนั้น สิ่งที่มิยุพูดออกมา คือการปฏิเสธตัวของเธอในอดีต ตัวเองที่ไม่มีอะไรสักอย่างพูดอย่างนั้น และปรารถนาว่าอยากจะเปลี่ยนแปลง
และเพื่อการเปลี่ยนแปลงนั้น มิยุกล่าวไว้ว่าต้องการจะห่างกับฮิโรกิ กล่าวว่าการได้อยู่กับฮิโรกิมันดีเกินไปทำให้เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ เพื่อจะผลักดันมิยุให้ไปข้างหน้า ฮิโรกิจึงตัดใจตอบรับการเลิกรา
[แต่ว่า มิยุเคยพูดไว้นี่ว่าให้————「ลืมเรื่องของฉันไปเถอะ」 น่ะ แต่จริง ๆ ก็ลืมไม่ได้หรอก แต่เพราะอย่างนั้นฉันถึงสามารถตัดรักในอดีต และรู้สึกว่าจะเริ่มความรักครั้งใหม่ได้น่ะ]
[…เรื่องนั้นน่ะ ฉันพูดเพื่อให้ตัวเองตัดใจได้จริง ๆ ต่างหากละ]
[แต่ว่านะ ฉันน่ะ รู้สึกขอบคุณมิยุมากเลยนะ เพราะวันเวลาที่เราเคยได้ใช้ร่วมกันเมื่อครั้งก่อนนั้นเป็นความทรงจำแสนสำคัญ ฉันยินดีจริง ๆ แม้จะไม่ใช่ในฐานะคนรัก แต่มิยุยังเป็นคนสำคัญในฐานะเพื่อนสมัยเด็กอยู่นะ]
คำขอบคุณเหล่านี้เคยบอกกล่าวไปเมื่อตอนเลิกกันแล้วก็จริง หากแต่ยังคงมีความรู้สึกที่อยากจะส่งไปให้ถึงอีกแล้วครั้งเล่าอยู่ดี
ไม่ว่าอย่างไรฮิโรกิก็ยังคงรู้สึกขอบคุณมิยุ แม้สถานะจะเปลี่ยนไป แต่เรื่องที่เป็นคนสำคัญนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
คำพูดนั้นถูกส่งออกไป มิยุยิ้มกว้าง
[…ขอบคุณนะ ดีใจจัง ฮิโรกิไม่เปลี่ยนไปเลยจริง ๆ นะ —— ฉันซื่อตรงแบบนั้นไม่ได้หรอก ถึงจะคิดว่าวันนี้ดีขึ้นมานิดหน่อยแล้วก็เถอนะ]
ชิงช้าหยุดแกว่งไกว มิยุหันมองมาทางนี้
[คือว่านะ ฮิโรกิ ที่จริงมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยน่ะ]
[เรื่องสำคัญจะคุย?]
[อื้ม เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เลย ช่วยฟังหน่อยได้ไหม]
สีหน้าจริงจังนั้น ฮิโรกิที่ได้เห็นเผลอกลืนน้ำลาย
[จะตั้งใจฟังเลย ถ้าเป็นเรื่องของมิยุละก็]
[ขอบคุณนะ…เรื่องนี้น่ะพยายามไม่นึกถึงมาตลอดเลย แต่ไม่ไหวแล้วน่ะ]
มิยุแก้มพลันเป็นสีแดง ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความกังวล
เมื่อสีหน้าเขินอายอย่างนั้นอยู่ข้างหน้า ใจของฮิโรกิจึงเต้นรัว
ในบรรยากาศที่ชวนรู้สึกพิเศษนี้ ความคิดใด ๆ ไม่อาจผุดออกมาได้เลย
เพื่อไม่ให้เห็นว่าตัวเองกำลังประหม่า ฮิโรกิจึงสงบใจให้ได้มากที่สุด
[อา]
[งั้น จะบอกความรู้สึกของตัวเองแล้วนะ]
[…]
มิยุมองไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่ตั้งใจจริง จ้องมองฮิโรกิที่ตกอยู่ในความเงียงัน
จากนั้น มิยุจึงค่อย ๆ เอ่ยออกมา
[ฉัน…กับฮิโรกิแล้ว อยากจะเริ่มใหม่อีกครั้ง]
วินาทีนั้น สมองของฮิโรกิถูกแช่แข็ง
ทว่า การจะเข้าใจความหมายของคำเอ่ยนั้น ไม่ได้ใช้เวลานานแต่อย่างใด
[…ฉันน่ะ————]
ขณะที่กำลังจะเอ่ยคำออกมา
[———— ว่าไปนั่น! ล้อเล่นน่ะ]
มิยุขัดจังหวะคำเอ่ยนั้น และพูดด้วยท่าทางติดตลก
[หรือว่าจริงจังเหรอ? หน้าแดงเชียว]
[…ล้อเล่น เหรอ]
[แหงสิ ก็ตอนนี้เราอยู่ใน 「เดตจำลอง」 นี่นา]
[จะว่าไป ก็จริงนะ…]
เกือบจะพูดตอบจากใจจริงไปเสียแล้ว
อย่างไรก็ตาม จุด ๆ นี้ฮิโรกินั้นไม่สามารถจะให้คำตอบที่ชัดเจนได้ในทันที บางทีอาจเป็นเพราะความคลุมเครือในคำพูดนั้นก็เป็นได้
เพราะเมื่อคิดดูดี ๆ แล้ว ตอนนี้เป็นเพียงเดตจำลองเท่านั้น คำสารภาพเมื่อสักครู่นี้อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการถ่ายวิดีโอก็เป็นได้
ไม่รู้เมื่อใด ที่ฮิโรกินั้นหลงลืมไปว่าเดตนี้เป็นเพียงของจำลอง
มากไปกว่านั้น ถึงกับลืมไปว่าตัวเองต้องถือสมาร์ทโฟนอยู่ด้วยซ้ำ
[…โทษที เมื่อกี้ไม่ได้ถ่ายไว้น่ะ]
[อะฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเอาไปใช้ก็ว่าน่าอายเหมือนกัน]
ทั้งที่คิดว่าอาจจะโกรธ แต่สีหน้าของมิยุกลับดูสดใสขึ้น
[ไม่โกรธเหรอเนี่ย]
[หือ——? วันนี้สนุกมาเลยนี่ จะไปโกรธอะไรกัน]
[เหรอ…? งั้นก็ดีแล้ว]
[ใกล้มืดแล้วด้วยสิ การถ่ายทำจบตรงนี้เลยเนอะ———]
จริงอยู่ที่ตอนนี้พระอาทิตย์ตกดินและเริ่มมืดแล้ว หากอยากจะถ่ายต่อก็จำเป็นต้องไปหาที่ที่สว่างกว่านี้
[นั่นสินะ ขอบคุณที่เหน็ดเหนื่อย ยากกว่าที่คิดนะเนี่ย]
[จริงด้วย เหนื่อยเอาเรื่องเลย…ถึงจะแค่จำลอง แต่เพิ่งจะเคยสารภาพรักครั้งแรกนี่นแหละ น่าอายสุด ๆ เลย]
มิยุถอนหายใจและพูดออกมาพร้อมกับบิดขี้เกียจ
เมื่อได้ยินมิยุกล่าวว่าตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์ในการสารภาพรักออกมา ฮิโรกิลังเลว่าควรจะตอบสนองอย่างไร
[หือ? ฮิโรกิ เป็นอะไร?]
[เปล่า คือ…หลังจากนั้นมิยุ ได้คบกับใครบ้างหรือเปล่า]
ทันใดนั้น หลังจากมิยุเงียบลงไป
[ไม่ได้คบกับใครนะ ในช่องฉันก็ไม่ค่อยได้คุยเรื่องนี้เท่าไหร่ ไม่ได้ดูเหรอ?]
[ไม่ได้ดูนะ ฉันเพิ่งจะมาดูไลฟ์ของมิยุเมื่อไม่นานมานี้เอง ตอนช่วงโคลาโบน่ะ]
[เหรอ ฉัน ค่อนข้างจะตรงไปตรงมาตอนไลฟ์น่ะ เพราะถ้าใครมาเห็นเข้าจะแย่เอา]
[ไม่ใช่ตรงไปตรงมาแต่เป็นจริงใจไหมนั่น——— ว่าไป ที่พูดนั่นคืออยากให้ดูเหรอ?]
[ไม่ใช่แล้ว หลังจากนี้อย่าดูอีกละ]
[เข้าใจแล้วน่า]
วินาทีนั้นฮิโรกิตัดสินใจแน่แล้วว่ากลับไปแล้วจะหาดู
[กลับไปแล้วจะหาดูใช่ไหม? รู้นะว่าเมื่อกี้คิดอะไรอยู่?]
[หวา ผู้ใช้พลังจิตของจริง]
[ว่าแล้วเชียว! อย่าดูถูกเพื่อนสมัยเด็กดีกว่าน่า]
เมื่อเห็นมิยุทำหน้ามุ่ยส่ายหัว ฮิโรกิรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา
การที่มิยุกล่าวคำว่า 「เพื่อนสมัยเด็ก」 ออกมาง่าย ๆ ราวกับเป็นเรื่องปกตินั้น ทำให้รู้สึกว่าความห่างเหินเมื่อก่อนนี้ได้ถูกลบล้างไปจนหมด
[ยิ้มอะไรน่ะ? ฮิโรกิเป็นพวกมาโซเหรอ?]
[เปล่า แค่คิดว่าในที่สุดก็ทำเหมือนฉันเป็นเพื่อนสมัยเด็กแล้วน่ะ]
[หา? หมายความว่าไง?]
[จนถึงก่อนหน้านี้ รู้สึกมาตลอดเลยว่าพวกเราน่ะห่างกันไปมาก เพราะงั้นถึงได้ดีใจที่กลับมาดีกันเหมือนเมื่อก่อนน่ะ]
[ดีกัน เนอะ…นี่ คิดว่าฉันเปลี่ยนไปไหม?]
มิยุลดเสียงตัวเองและถาม อีกทั้งยังเห็นความประหม่าอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งด้วย
ดังนั้น ฮิโรกิจึงตอบอย่างตรงไปตรงมา
[ว่าตามตรง เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ แน่นอนว่าด้านที่ไม่เปลี่ยนเลยก็มีทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นมาก แต่ก็ต่างจากมิยุเมื่อก่อนจริง ๆ นั่นแหละ ทั้งการกระทำใน SNS หรืองานอดิเรกก็ด้วย มั่นใจกว่าเมื่อก่อน แล้วก็ซื่อตรงขึ้น ประมาณนั้นนะ]
ฮิโรกิกล่าวสิ่งที่คิดออกไปตามตรง มิยุยิ้มกว้างด้วยความยินดี
[ถ้างั้น ก็ต้องขอบคุณฮิโรกินะ เป็นเพราะว่าฮิโรกิ ทำให้ฉันค่อย ๆ เปลี่ยนตัวเองไปทีละน้อย รู้สึกได้เลยว่าตัวเองมีความมั่นใจมากกว่าแต่ก่อนเลย]
[ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ]
[ตัวตนของฮิโรกิน่ะ แค่มีอยู่ก็ช่วยฉันได้มากแล้ว]
[งั้นหรอกเหรอ?]
[อื้อ ตลอดมาจนถึงตอนนี้เลยนะ อย่างตอนนี้ก็คอยสนับสนุกกันในฐานะผู้จัดการด้วยจริง ๆ นี่นา]
วันนี้มิยุค่อนข้างซื่อตรง การที่มิยุจะส่งความรู้สึกขอบคุณอย่างนี้ออกมาได้นั้น ฮิโรกิจินตนาการไม่ออกเลย
[…อยู่ ๆ พูดสิ่งที่คิดออกมาแบบนั้น ไม่รู้เลยแฮะ]
[เรื่องที่ฉันเป็นคนไม่ซื่อตรงน่ะ ฮิโรกิรู้ดีที่สุดนี่]
[ถ้าซื่อตรงแบบนี้ได้ตลอด ก็คงน่ารักสุด ๆ เลยละนะ]
[ถ้าชมกันมากนัก เดี๋ยวก็เข้าไปกอดกันพอดี]
ระหว่างที่พูดดวงตาของมิยุเปียกชิ้นเล็กน้อย …คงเป็นความอวดเก่งของเธอ
[งั้น วันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อนแล้วกัน]
[โล่งอกที่จุดอ่อนยังเป็นตรงนี้ไม่เปลี่ยนเลยนะ]
[จริง ๆ เลย ดูพูดเข้า …ว่าไป พูดถึงเรื่องที่มิยุเปลี่ยนไปต่อนะ ทั้งมีชื่อเสียงใน SNS ชอบลองอะไรใหม่ ๆ แถมยังเป็นคนดังระดับศูนย์กลางของห้องด้วย ดูสว่างไสวสำหรับฉันมากเลยละ ตอนนี้เหมือนจะเป็นพวกรักอิสระไปเลยน่ะนะ]
[อือ ฉันพยายามมากถึงมากที่สุดเลยละ เพราะถ้าไม่อย่างนั้น การเลิกกับแฟนสุดที่รักก็ไม่มีความหมายน่ะสิ]
การที่มิยุพูดคำว่า 「สุดที่รัก」 ออกมานั้น ทำให้ทั้งดีใจและรู้สึกอายขึ้นมาด้วย
[สุดที่รักเนี่ย พูดมาอีกทีแล้วก็รู้สึกอายนะ รู้สึกจริง ๆ นะว่ามิยุซื่อตรงอย่างกับคนละคนเลย]
[ถ้าทำเหมือนวันนี้ได้คงจะซื่อตรงได้อีกหน่อยละนะ หลังจากนี้ต้องทำได้มากกว่านี้ ต้องมั่นใจในตัวให้ได้มากกว่านี้ ถ้าทำแบบนั้นแล้วจะยิ่งรู้สึกว่าซื่อตรงได้มากขึ้นน่ะ]
[มิยุในตอนนี้ก็สุดยอดมากแล้วนะ มีเสน่ห์สุดแล้ว ๆ น่ะ]
[ขอบคุณนะ แต่ตัวฉันแค่นี้ยังไม่พอใจหรอก]
มิยุเผยรอยยิ้มออกมา ราวกับกำลังทำเป็นเข้มแข็ง
เมื่อได้คุยกัน จึงสามารถเข้าใจความรู้สึกของมิยุที่อยากจะห่างกับฮิโรกิได้ แต่มุมมองของฮิโรกิแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าทำไมมิยุถึงอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองขนาดนี้
และหากให้กล่าวความไม่ซื่อตรงของเธอนั้น ก็นับเป็นเสน่ห์อย่างนึงเช่นนั้น
แต่ถึงอย่างนั้น
[ตอนนี้ฉันเป็นผู้จัดการของ (MICHIKA) อยู่นี่นะ ในสายตาของผู้จัดการแล้วก็คิดว่ายังเติบโตได้อีกเยอะ]
[หุหุ ใช่ม้า พวกเราน่ะยังต่อจากนี้ไปต่างหาก!]
มิยุยิ้มกว้างออกมาด้วยความรู้ยินดีจากใจจริง
เมื่อเห็นมิยุเป็นอย่างนั้น ฮิโรกิจึงรู้สึกผิดที่อยู่ ๆ จะต้องถามต่อ
[แล้วทีนี่ คือ…เพราะเป็นเรื่องคลิปเลยถามนู่นถามนี่ไปก็จริง แต่มิยุตอนนี้คิดยังไงก็กับฉันเหรอ]
[คะ คิดยังไงนี่คือ?]
มิยุสงสัย ฮิโรกิพูดต่อโดยไม่สนใจ
[จะถามว่ายังรู้สึกว่ามีความรักหลงเหลืออยู่ไหม น่ะ …แค่อยากจะยืนยันไว้ก่อน]
ทันใดนั้นมิยุก็กระแอมไอแล้วพูด
[อ๊ะ เข้าใจอะไรผิดไปเหรอ? ถึงจะพูดว่าสุดที่รักก็เถอะ แต่นั่นแค่เรื่องตอนที่คบกันเท่านั้นเอง ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรกับฮิโรกิแล้วน่ะ]
[ปะ เป็นงั้นเนอะ]
[แต่ว่า…]
มิยุหน้าแดง หลบสายตาแล้วกล่าว
[แต่ถ้าตัวฉันเติบโตมากจนตัวเองพอใจแล้วละก็…ความรู้สึกที่มีอาจจะเปลี่ยนไป…ก็ได้]
[ฮ่า ๆ ถึงตอนนั้นฉันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้เลยแฮะ ช่วงนี้น่ะ พอได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาก ๆ เข้าก็รู้สึกเลยว่ามีเสน่ห์มากสุด ๆ เลยละนะ]
[เอ๊ะ!? …จริงเหรอ?]
ท่าทางตกใจอย่างถึงที่สุด มิยุเบิกตากว้างขึ้น
ดูแล้วตลกดี ฮิโรกิจึงยิ้มแล้วพูดต่อ
[แหงสิ จริงแท้แน่นอนเลย ทั้งเด็ดเดี่ยว นึกถึงคนอื่นเสมอ ความทะเยอทะยานก็มี…「ทั้งสามคน」 ทั้งมีเสน่ห์แล้วก็น่านับถือ คิดแบบนั้นน่ะ]
[อะฮ่าฮ่า 「ทั้งสามคน」 เนอะ…]
มิยุแก้มกระตุก หัวเราะแห้ง ๆ ออกมา
เห็นท่าทางของมิยุอย่างนั้น ฮิโรกิจึงพูดต่อขึ้นมาเพื่อความสบายใจ
[แต่ว่า ทั้งสามคนมีจุดยืนในการไม่มีความรักใช่ไหมละ ถ้างั้นฉันเองก็จะพยายามเต็มที่ด้วย แต่ว่านะ ถ้าเกิดไปตกหลุมรักใครขึ้นมา ตอนนั้นจะมาปรึกษาแล้วกัน]
[ตาบ้า อย่าทำเชียว (…ไปรักคนอื่นแบบนั้น)]
แม้ส่วนสุดท้ายเสียงจะเบาจนไม่ได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้นฮิโรกิก็สบายใจขึ้น
[เหรอ ถ้างั้นก็สบายใจได้]
[อื้ม กลับกันเถอะนะ]
[นั่นสินะ]
ออกจากสวนสาธารณะ และถึงบ้านในทันที
ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะแยกกัน มิยุหันกลับมาแล้วพูด
[คือว่านะ ไม่เคยคิดเลยน่ะว่าฮิโรกิมีใจจะทำขนาดนี้ เรื่องเดตก็ด้วย ขอบคุณนะ]
[ด้วยความยินดีเลย ฉันเองก็ว่างมากของว่างมากเลยนี่นะ รู้สึกเหมือนได้เข้าชมรมเลย แบบว่าช่วงนี้ค่อนข้างได้รับการเติมเต็มเลยนะ]
[เหมือนกับตอนมอต้น ถ้าเข้าชมรมบาสเกตบอลก็คงจะดีแท้ ๆ ]
ฮิโรกิเมื่อสมัยมัธยมต้นเข้าชมรมบาสเกตบอล ดังนั้นจึงเคยมีความคิดว่าตอนมัธยมปลายก็จะเข้าเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ไม่รู้สึกว่าอยากจะเข้า ท้ายที่สุดแล้วจึงไม่ได้เข้าชมรมไป
[เพราะตอนปีหนึ่งมิยุแนะนำมาถึงได้เข้าหรอก แต่ก็นะ ตอนนี้เป็นผู้จัดการของ (MICHIKA) ด้วยนี่นา ผลลัพธ์ก็โอนะ]
[อา เพราะแบบนั้นเลยช่วยฉันได้มากเลย…เดี๋ยวหลังกินข้าวอาบน้ำแล้วก็จะเริ่มตัดคลิปเลยน่ะนะ จะมาไหม?]
[งั้น เดี๋ยวไปละกัน]
[งั้น ไว้เจอกันนะ]
[อา]
ทั้งสองคนแยกกันด้วยความเขินอายบางอย่าง
พักนี้ฮิโรกิไปที่บ้านมิยุเพื่อตัดต่อวิดีโออยู่บ่อย ๆ พอได้เจอกับแม่ของมิยุก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาอยู่บ้าง แต่ก็แตกต่างจากความเขินอายอยู่เหมือนกัน
(จะยังไง ก็ต่างกับเพื่อนสมัยเด็กทั่วไปจริงละนะ…)
เมื่อนึกถึงว่าเคยคบกันมาก่อนแล้วนั้น ฮิโรกิจึงรู้สึกสับสนขึ้นมาและเข้าบ้านไป
หลังจากนั้น ฮิโรกิก็รู้สึกตัวว่าได้ทำเรื่องใหญ่ลงไปแล้ว
ไม่ใช่แค่ฉากในสวนสาธารณะ แต่วิดีโอระหว่างเดตส่วนใหญ่ไม่สามารถนำมาใช้ได้
ภาพที่ออกมาข้ามไปข้ามมากว่าที่คิด ช่วงกลาง ๆ ก็ไม่ได้เลย จึงไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะเอามาใช้ตรงไหนได้
เรียกได้ว่าสูญเปล่า เป็นเดตที่ล้มเหลวไปในทันใด
แต่ว่า มิยุกลับไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย
กลับกันยังดูอารมณ์ดีมากจนเกินไป อีกทั้งยังบอกให้ลองไปชวนทั้งสองคนที่เหลือด้วย ฮิโรกิจึงนึกกลัวขึ้นมา
และสิ่งที่กลัวเป็นอันดับหนึ่ง คือการตอบสนองของทั้งสอง———โดยเฉพาะของคานอนนั่นเอง
TL: มาเวย์ล้อเล่นใส่เฉย แล้วประโยคนั้นจะใส่มาในเรื่องย่อหลังปกติทำไมเนี่ย!
TL: ขนมรามูเนะที่ว่าให้นึกถึงลูกอมเป่านกหวีดที่ติดคอได้ง่าย ๆ
Chapters
Comments
- ตอนที่ 16 บทส่งท้าย (จบเล่ม 1) มิถุนายน 29, 2023
- ตอนที่ 15 คัมมิ่งเอ้าท์ 3 มิถุนายน 28, 2023
- ตอนที่ 14 · คัมมิ่งเอ้าท์ 2 มิถุนายน 26, 2023
- ตอนที่ 13 คัมมิ่งเอ้าท์ 1 มิถุนายน 26, 2023
- ตอนที่ 12 หากได้ไปเดตกับคนรักเก่าขึ้นมา 5 มิถุนายน 24, 2023
- ตอนที่ 11 หากได้ไปเดตกับคนรักเก่าขึ้นมา 4 มิถุนายน 22, 2023
- ตอนที่ 10 หากได้ไปเดตกับคนรักเก่าขึ้นมา 3 มิถุนายน 20, 2023
- ตอนที่ 9 หากได้ไปเดตกับคนรักเก่าขึ้นมา 2 มิถุนายน 18, 2023
- ตอนที่ 8 หากได้ไปเดตกับคนรักเก่าขึ้นมา 1 มิถุนายน 17, 2023
- ตอนที่ 7 การวัดระยะที่บิดเบี้ยว 3 มิถุนายน 16, 2023
- ตอนที่ 6 การวัดระยะที่บิดเบี้ยว 2 มิถุนายน 15, 2023
- ตอนที่ 5 การวัดระยะที่บิดเบี้ยว 1 มิถุนายน 14, 2023
- ตอนที่ 4 แฟนผมเป็นคนดัง 4 มิถุนายน 13, 2023
- ตอนที่ 3 แฟนผมเป็นคนดัง 3 มิถุนายน 12, 2023
- ตอนที่ 2 แฟนเก่าเป็นคนดัง 2 มิถุนายน 11, 2023
- ตอนที่ 1 แฟนเก่าเป็นคนดัง มิถุนายน 11, 2023
MANGA DISCUSSION