ไหปีศาจ - บทที่ 1072 กึ่งจักรพรรดิแห่งตระกูลลับ
บทที่ 1072 กึ่งจักรพรรดิแห่งตระกูลลับ
บรรยากาศแห่งความสิ้นหวังเริ่มแพร่กระจาย
ทั้งที่เป็นทะเลทรายที่ร้อนและแห้งแล้ง แต่ทุกคนกลับรู้สึกหนาวเหน็บราวกับตกลงไปในคุกน้ำแข็ง
ผู้คนมาที่นี่มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่สถานที่นั้นกลับเงียบมากขึ้นเรื่อย ๆ
พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่เสามนตราที่กำลังขยายตัวอยู่ในป่าหวงชาและไม่พูดอะไร หรือไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเพื่อแสดงความไม่สบายใจและความกลัวภายในใจออกมา
พลังนั้นช่างน่ากลัว
มันทำให้หายใจไม่ออก
ในขณะที่พวกหลงเซี่ยมา พวกเขาก็สายไปแล้ว
สีหน้าของพวกเขาเคร่งเครียด แม้ว่าหลงเซี่ยและผู้บัญชาการหลิงหลงจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิ แต่พวกเขาก็หวาดกลัวเกินกว่าจะเข้าไปในป่าหวงชา
“เสร็จกัน…” หลี่หวู่หยวนใจสั่นและอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
เขาเคยประสบภัยพิบัติเมื่อพันปีก่อน
แม้ว่าตอนนั้นเขาจะยังเด็กอยู่ แต่เขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและการบุกรุกของนรกมนตราได้ทำอะไรกับแผ่นดินใหญ่
ตอนนี้ท่านหม่าเฉินก็ตายไปแล้ว เจ้าสำนักก็อยู่ต่างมิติ และราชินีภูติก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
มันจบแล้ว
ผู้บัญชาการหลิงหลงสวมชุดเกราะโลหิต ลอยอยู่ระหว่างสวรรค์และโลก ดาบพยัคฆ์ขาวที่มีปราณดุร้ายขนาดมหึมาวนเวียนอยู่รอบตัวนางราวกับมีชีวิต
นางเต็มไปด้วยเจตจำนงที่แน่วแน่และดวงตาของนางเต็มไปด้วยจิตสังหาร นางไม่พูดอะไร เพียงแต่ก้าวไปข้างหน้า
”เจ้ากำลังจะทำอะไร?” หลี่หวู่หยวนตกใจ
ผู้บัญชาการหลิงหลงไม่เหลียวหลัง นางมองไปที่ส่วนลึกของป่าหวงชาและพูดอย่างหนักแน่น “ข้าเคยพูดไว้ว่าถ้านรกมนตราบุกเข้ามา ผู้บัญชาการหลิงหลงผู้นี้จะนำกองทัพไปสู้แนวหน้าอย่างแน่นอน”
”ไม่ มันอันตรายเกินไป”
”มีที่ใดในโลกที่ปลอดภัยบ้างล่ะ?”
“มันก็…” หลี่หวู่หยวนเงียบ
ถ้าปรมาจารย์ปีศาจทั้งเก้าบุกมา จะไม่มีสถานที่ปลอดภัยในโลกนี้ ความตายเป็นเพียงเรื่องของเวลา
“อย่างน้อยเจ้าก็ตายช้าหน่อย” มีคนกระซิบ
ดวงตาของผู้บัญชาการหลิงหลงกวาดไป เสียงมาจากพวกบูชาราชวงศ์
นางพ่นลมอย่างเย็นชา “ถ้าอย่างนั้นเจ้าควรหัวหดอยู่แนวหลังให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มิติวิญญาณระดับเพชรของเจ้า คงไม่น่ามีปัญหาในการทำหน้าที่ขนส่งเสบียงหรอกใช่ไหม?”
ใบหน้าของผู้พูดเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินและแดงอย่างอับอาย
ระดับเพชรที่เป็นได้แค่หน่วยขนเสบียง?
ไม่มีอะไรจะดูถูกไปได้มากกว่านี้แล้ว
ในขณะนี้หลงเซี่ยก้าวไปข้างหน้า ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความโกลาหลที่ยากจะต้านทาน ดวงตาของเขาเป็นประกายและร่างกายของเขาเหมือนภูเขายักษ์ “หลิงหลง ข้าจะไปกับเจ้า”
“สมเป็นคนที่ข้าชอบดีนี่!” ผู้บัญชาการหลิงหลงหัวเราะ ผมยาวของนางร่ายรำ ท่าทางของนางดูกล้าหาญและสวยงาม
เสียงของนางแหบเล็กน้อย ราวกับลมพายุในสนามรบ
เสียงหัวเราะที่ดังออกมา ระงับความกลัวในใจของทุกคนได้ชั่วขณะหนึ่งอย่างไม่คาดคิด
บรรยากาศสงบลงทันใด
พลังวิญญาณของผู้บัญชาการหลิงหลงและหลงเซี่ยกำลังเบ่งบานซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่าพวกเขาอยู่ในสนามรบโบราณ เสียงกลองสงครามดังสนั่น ทั้งคู่เลือดลมเดือดพล่าน และพวกเขามีความมุ่งมั่นที่จะไม่มีวันดับสูญ
พวกเขากลายเป็นแสงที่น่ากลัวสองดวงและพุ่งตรงไปที่ส่วนลึกของป่าหวงชา
พวกเขาทั้งหมดมองดูพวกเขาจากไปด้วยความรู้สึกต่าง ๆ ผสมปนเปอยู่ในใจ
หลี่หวู่หยวนหายใจเข้าลึก ๆ และคำรามอย่างกล้าหาญ สิงโตคำรามและพุ่งไปบนท้องฟ้า “ทุกคนที่อยู่ต่ำกว่าระดับเพชรสูงสุด ถอยออกไปเสีย ต่อให้พวกเขาจะถูกฆ่า มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องไปตายตามพวกเขา”
หากปราศจากพลังของระดับเพชรสูงสุด ปรมาจารย์ปีศาจทั้งเก้าสามารถฆ่าทุกชีวิตในพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว
มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะให้ทุกคนไปเป็นเหยื่อเปล่า ๆ
เฉพาะผู้มีมิติวิญญาณระดับเพชรสูงสุดเท่านั้นที่เราจะสามารถชะลอการบุกรุกของนรกมนตราได้
เสียงคำรามของสิงโตกระจายไปทั่วป่าหวงชาในทันที และแม้แต่เสียงของหลี่หวู่หยวนก็ได้ยินใน 23 เมืองที่อยู่ไกลออกไป
คนขี้ขลาดบางคนหันหลังและวิ่งหนีไปทันที
ตราบเท่าที่เราสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ก็ขออยู่รอดให้ได้นานที่สุด
อย่างไรก็ตาม หลายคนที่ไม่คิดจะจากไปก็คำรามว่า “เรารวมพลังกันอย่างเต็มที่เพื่อต่อต้านนรกมนตรานี้ไม่ได้หรือ?”
น่าเสียดายที่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่ถูกต้องได้
หลี่หวู่หยวนปล่อยบรรยากาศที่รุนแรงและบังคับให้คนส่วนใหญ่ออกไป
แต่เขาไม่สามารถซ่อนสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ได้
ผู้คนกำลังมาดูที่นี่มากขึ้นเรื่อย ๆ
ตระกูลนับไม่ถ้วนและกองกำลังอันทรงพลังอยู่ในเขตแผ่นดินไหว
หลี่หวู่หยวนมองไปที่ห้าคนที่มากับเขา พวกเขาล้วนเป็นผู้ทรงพลังของสำนักเฉียนหลง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มาที่นี่ทั้งหมด แต่ก็เพียงพอแล้ว
“เฒ่าเล่ย ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว” ทุกคนมองไปที่คนคนหนึ่ง
ชายผู้นี้ดูเย็นชา ร่างกายใหญ่โต และมีรอยสักเสือสีเขียวดุร้ายที่คอ เขาหัวโล้น ดูดุร้ายและทรงพลังอย่างมากจากรูปลักษณ์
เล่ยเซิ้น หัวหน้าห้องโถงหวังฝาแห่งสำนักเฉียนหลง
เมื่อลั่วอู๋กลายเป็นระดับเพชรแล้ว หลี่หวู่หยวนก็เคยพาเขาไปแนะนำให้รู้จัก
เขาไม่เพียงแต่เป็นหัวหน้าโถงหวังฝาเท่านั้นแต่ยังมีอีกตัวตนหนึ่งอีกด้วย
นั่นเป็นคนเดียวที่ก้าวไปถึงระดับกึ่งจักรพรรดิในสำนักเฉียนหลง
นอกจากท่านเจ้าสำนักแล้ว เขาก็เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักเฉียนหลง
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า ต่อให้พวกเจ้าจะสามารถต่อสู้เพื่อซื้อเวลาให้มนุษย์ทั้งหมดได้เพียงไม่กี่วินาที แต่มันก็สมเหตุสมผล”
”ใครจะรู้ว่าในไม่กี่วินาที อะไร ๆ มันอาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นก็ได้”
ด้วยเสียงคำรามยาว เล่ยเซิ้นก็กลายเป็นเสือกินวิญญาณ ร่างกายของเขาเป็นสีเขียว และแก่นแท้แห่งวิญญาณก็ผูกติดอยู่กับเขา ดวงตาสีเขียวของเขาเต็มไปด้วยแสงที่สาดส่องออกมา
ตู้ม!
เสียงเสือคำรามไปทั่วโลก
เขาเดินไปในอากาศพร้อมกับรูปลักษณ์ของพระเจ้า
“ซวนชิงหยู่ ทำไมเขาไม่ปรากฏตัว” มีคนถามเสียงเบาออกมา
น่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้
ถึงตอนนี้เขาก็ไม่ปรากฏตัว
ทำให้หลายคนที่รู้จักการมีอยู่ของเขารู้สึกโกรธ
หลี่หวู่หยวนส่ายหัว “ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้หรอก เมื่อเขาเห็นว่าสมควรที่เขาจะออกมา เขาก็จะออกมาเอง ในเมื่อผู้บัญชาการหลิงหลง หลงเซี่ยและเล่ยเซิ้นเข้าไปหมดแล้ว ก็ถึงตาของพวกเราแล้ว”
ระดับเพชรมีจำนวนมาก แต่ผู้ที่อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดจะถูกหลี่หวู่หยวนห้ามไว้ ในตอนนี้จึงมีคนอยู่น้อยกว่า 20 คนที่ขอบป่าหวงชา
“ทำไมน้อยจัง” บางคนผิดหวัง
แม้ว่าผู้ที่แข็งแกร่งระดับเพชรสูงสุดจะมีไม่มาก แต่ก็ไม่ได้มีจำนวนน้อยเช่นนี้
”หลายคนยังมาเลย ไม่ต้องห่วงหรอก” มีคนปลอบว่า “เมื่อข่าวแพร่ออกไป ก็จะมีผู้แข็งแกร่งมาเพิ่มอีก”
“ข้าเกรงว่าพวกเขาคงไม่ฉลาดก็โง่เขลาพอที่จะมองไม่เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีจิตวิญญาณแห่งการเสียสละ” ระดับเพชรบางคนกล่าวอย่างโกรธเคือง
เกิดความเงียบขึ้นเล็กน้อย
กรณีนั้นก็เป็นไปได้
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเต็มใจยืนหยัด
ในเวลานี้ ลมปราณสั่นสะเทือนโลกพุ่งออกมาจากระยะไกล
ทุกคนตกใจมากจนคิดว่าสงครามกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
แต่พวกเขาก็พบว่าลมปราณนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เมื่อพวกเขามองดูดี ๆ ก็เห็นชายชราในชุดคลุมสีดำบินขึ้นไปในอากาศด้วยใบหน้าที่เย็นชา จมูกคด ดูค่อนข้างดื้อรั้นและมีอารมณ์อ่อนไหว
”ระดับกึ่งจักรพรรดิ!” บางคนแปลกใจ
ไม่มีใครคิดว่าจู่ ๆ ระดับกึ่งจักรพรรดิจะปรากฏตัวขึ้น
ชายชราชุดดำบินมาที่นี่ หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่งเขาก็พูดว่า “ตาเฒ่าที่แก่จวนจะลงโลงจากตระกูลเจียงแห่งตระกูลลับมาช่วยแล้ว”
ตระกูลลับ?
พวกเขาดีใจมาก
”เยี่ยมเลย ขอยินดีต้อนรับสหายคนนี้” หลี่หวู่หยวนดีใจมาก “ข้าได้ยินมาว่ามีตระกูลที่อยู่อย่างสันโดษอยู่ทั่วแผ่นดินใหญ่ แต่ข้าไม่เคยได้เห็นพวกเขาเลย”
ในฐานะรองเจ้าสำนักเฉียนหลง เป็นปกติที่เขาจะรู้ความลับมากมาย
ที่จริงแล้ว มีหลายตระกูลลับในแผ่นดินใหญ่
พวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับทางโลก แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ได้อ่อนแออย่างแน่นอน
หลี่หวู่หยวนถามอย่างมีความหวัง “ข้าไม่รู้ว่ายังมีใครอีกไหม…”
“ข้าได้ติดต่อไปแล้ว ก็ยังมีระดับเพชรสูงสุดอยู่บ้าง แต่ข้าเกรงว่าคนเดียวที่อยู่ในระดับกึ่งจักรพรรดิคงจะมีแต่ชายชราที่แก่จวนจะลงโลงคนนี้นี่แหละ” ชายชราในชุดดำพูดช้า ๆ