ไหปีศาจ - บทที่ 524 หงเฉาตัวปลอม
บทที่ 524 หงเฉาตัวปลอม
บทที่ 524
หงเฉาตัวปลอม
ความทรงจำจำนวนนับไม่ถ้วนรวมตัวกันเป็นรูปภาพและแล่นเข้ามาในหัวของลั่วอู๋
สามีของหญิงชราเป็นผู้คุมคุกเล็ก ๆ นางมักจะเข้าและออกจากห้องขังไปตามหน้าที่ของนาง เนื่องจากภายในมืดนางจึงประดิษฐ์เครื่องมือที่โหดร้ายมากมายเพื่อนำไปใช้ในคุก และเป็นความสุขที่สุดของนางที่เห็นว่ามีนักโทษที่ต้องทุกข์ทรมานเพราะด้วยฝีมือของตัวเอง
ต่อมานางเริ่มไม่พอใจ จึงติดสินบนหัวหน้าคุกและตั้งให้นางเป็นผู้คุม
นางไม่มีเงินเดือน และยังเป็นผู้คุมปลอม แต่นางก็มีความสุข
นางชอบทรมานนักโทษด้วยเครื่องมือที่ประดิษฐ์ขึ้นเองโดยเฉพาะการทรมานด้วยการดัดตัว
เนื่องจากนักโทษผู้บริสุทธิ์อยู่ได้ไม่ค่อยนาน อาชญากรตัวจริงทรมานไม่กี่ครั้งก็ต้องย้ายไป
ต่อมานางถูกจับได้ และเกือบถูกตัดหัว แต่ผลก็คือกรมทหารพาตัวนางไป และนางถูกขอให้ทรมานนักโทษเป็นพิเศษ และได้มีชีวิตที่สุขสมใจ
ลั่วอู๋เห็นภาพพวกนี้ก็โกรธมากอยากจะตบหญิงชราให้ตาย มีคนแบบนี้ในโลกด้วย
ความทรงจำที่อยู่เบื้องหลังหญิงชรานั้นยุ่งเหยิงเล็กน้อยเนื่องจากเหตุผลที่อธิบายไม่ได้ นางจึงถูกพาตัวไปให้กับกองกำลังปริศนา และไปที่ค่ายที่กองทัพหมาป่าตั้งอยู่
ตัวตนของชายเสื้อคลุมดำยังเป็นปริศนา เนื่องจากหญิงชราก็ไม่รู้ตัวตนของเขา
มีข้อมูลน้อยเกินไป
แต่ก็มีเรื่องสำคัญอยู่บ้าง
ฉิงเหมยยังมีชีวิตอยู่ นางถูกขังอยู่อีกคุก เพราะ นางอ่อนแอเกินไปนางจึงไม่ถูกทรมานอีก หญิงชรานั้นไม่กล้าทรมานนักโทษจนตาย
นั่นเป็นข่าวดี
“ลมหายใจมังกร!”
การทำลายล้างอันน่ากลัวมาบรรจบกันอย่างรวดเร็ว จากนั้นพ่นออกมาและเป่ากำแพงคุกใต้ดินกระจุย
แสงสว่างราวดวงอาทิตย์ตกส่องสว่างอีกคุก
หญิงสาวในชุดสีฟ้าขาวตัวชุ่มไปด้วยเลือดแขวนอยู่บนเสา บาดแผลของนางร้ายแรงและลมหายใจของนางก็แผ่วเบาราวกับว่านางจะตายได้ทุกเมื่อ
“เอาล่ะ” ลั่วอู๋นำฉิงเหมยเข้าโลกไหทันที
มีโอกาสที่จะเสียชีวิตได้
ลั่วอู๋ป้อนยาระดับสูงให้นาง อาการบาดเจ็บของนางถูกรักษาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ตรวจสอบสภาพจิตใจ
ยังไม่เข้าขั้นเลวร้าย
แม้ว่าจิตวิญญาณของฉิงเหมยจะไม่คงที่มากนัก
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เข้าขั้นเสียสติ และคงต้องใช้เวลาพักผ่อนไปสักระยะบางทีนางอาจจะสามารถฟื้นตัวได้
ลั่วอู๋ออกจากคุกใต้ดิน
มีภูเขาศพกองอยู่ข้างหน้า
“นายท่านจะให้ทำเช่นไร?” ไร้หน้าถาม
“เผาทิ้งซะ” ลั่วอู๋พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
กองกำลังหมาป่ากว่า 30,000 นาย ไม่ว่าพวกเขาจะถูกสั่งให้เชื่อฟังใครก็ตาม ตอนนี้ก็ถูกลั่วอู๋แก้แค้นไปแล้ว และจำเป็นต้องทำลายศพ
ไฟกำลังส่องแสง
เผาไหม้
ลั่วอู๋ออกจากที่นั่นอย่างเงียบ ๆ
หลังจากออกมา ลั่วอู๋ก็ตรงไปที่พระราชวัง
เขาต้องการยืนยันสถานการณ์ของเจียโรว แต่ครั้งนี้มันผิดปกติไปมาก เพราะเขาถูกหยุดอยู่นอกวังและไม่สามารถเข้าไปได้
“อะไรกัน?” ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว
เพราะจักรพรรดิให้สิทธิ์ลั่วอู๋เข้าวังได้อย่างอิสระ
อย่างที่หลาย ๆ คนรู้กันดีว่าจักรพรรดิให้ความสำคัญกับลั่วอู๋มาก
ที่ผ่านมาลั่วอู๋ก็เข้ามาในวังหลายครั้ง และไม่มีใครหยุดเขาเลย
“จักรพรรดิสั่งให้คุ้มกันวังและห้ามบุคคลอื่นเข้ามา” ทหารยามนอกวังตะโกนลั่น
ลั่วอู๋โกรธมาก
ข้าเนี่ยนะคนนอก? แม้แต่จักรพรรดิยังไม่กล้าว่าข้าเป็นคนนอกเลย เจ้าเป็นใครถึงมาบอกว่าข้าเป็นคนนอก
แต่แล้วลั่วอู๋ก็สังเกตเห็นว่ามันไม่ผิดปกติ
ผู้คุมวังกลุ่มนี้ดูเหมือนจะถูกแทนที่ด้วยกลุ่มคนใหม่ พวกเขาไม่มีสีหน้าเลยแม้แต่คนเดียว
ลั่วอู๋ขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าเจ้าอยากห้ามไม่ให้ข้าเข้าไปก็ลองดูสิ”
ถ้าจะนี่เป็นเรื่องใหญ่ควรทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่สุด ๆ เลยดีกว่า
ยังไงจักรพรรดิก็ไม่สามารถลงโทษเขาได้อยู่แล้ว
“บังอาจ” ทหารยามนอกวังประณามลั่วอู๋อย่างโกรธเกรี้ยวและกำอาวุธของพวกเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาพร้อมที่จะลงมือกับลั่วอู๋แล้ว
ลั่วอู๋กวาดตา
แม่ทัพใหญ่เป็นเพียงระดับทองและนั่นไม่สามารถหยุดเขาได้
สุดท้ายนี่ก็เป็นเพียงยามชั้นนอกของประตูวัง ถ้าลั่วอู๋ต้องการเขาก็สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
แสงเย็นฉายในดวงตาของลั่วอู๋ และลมหายใจของเขาก็ไหลอย่างช้า ๆ ราวกับว่าพร้อมที่จะพวยพุ่ง
และในขณะนี้เอง เสียงของหญิงสาวที่คุ้นเคยดังขึ้น “บังอาจรึ? อย่าหยาบคายกับท่านลั่วนะ ถอยไป”
ด้วยความตกใจ ลั่วอู๋จึงหันและมองไปที่เสียงนั้น
ที่ประตูเมืองมีผู้หญิงชุดแดงยืนอยู่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและดูเป็นธรรมชาติ หงเฉา!
เมื่อได้ยินคำดุของหญิงสาว ยามก็ทำได้เพียงถอย
นี่คือสาวใช้ของเจ้าหญิงเจียโรว ซึ่งไม่สามารถขัดได้
ลั่วอู๋อดกลั้นความตกใจและหรี่ตาลงเล็กน้อย “หงเฉา?”
“ใช่แล้วข้าเอง อย่าได้โทษยามเหล่านี้เลยท่านลั่ว เพราะมีบางอย่างเกิดขึ้นในวัง ดังนั้นจึงไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไป ข้าหวังว่าท่านจะไม่โทษทหารยาม และพวกเขาแค่ไม่ต้องการเข้าไปในวังในขณะนี้”
“อย่างนั้นรึ” ลั่วอู๋มองไปที่หงเฉา แต่เขากลับไม่เห็นร่องรอยบาดแผลใด ๆ
หงเฉาคนนี้ต้องเป็นตัวปลอมแน่ แต่มันแปลกมาก
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?
หงเฉามองมาอย่างไม่สบายใจเล็กน้อย และถามอย่างสงสัย “มีอะไรเหรอ?”
“ไม่มีอะไร” ลั่วอู๋ส่ายหัว “เกิดอะไรขึ้นในวัง? ทำไมไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าล่ะ? แม้แต่เจ้าชายหรือองค์รัฐมนตรีก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าหรือ?”
หงเฉาอาย “ข้าก็ไม่รู้เรื่องนี้นัก ข้ารู้แค่ว่าจักรพรรดิอารมณ์ไม่ดี แม้แต่คนรับใช้คนสนิทของเขาก็ยังถูกฆ่า ไม่มีใครกล้าแตะต้องเขา แม้ว่าจะเป็นกลุ่มของเจ้าชายหรือองค์รัฐมนตรีก็ตาม และองค์รัฐมนตรีได้สั่งไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาเพื่อหลีกเลี่ยงการล่วงเกินจักรพรรดิ”
“แต่ว่าข้าได้เข้าไปในวังเมื่อไม่กี่วันก่อนเพื่อมาพบเจียโรว แต่ดูเหมือนว่าข้าจะไม่เจอเจ้ากับฉิงเหมยเลย” ลั่วอู๋พูดแทรกอย่างกะทันหัน
หงเฉาก้มศีรษะลงอย่างเขินอายและกระซิบ “เราไปทำงานให้องค์หญิงน่ะ อย่าถามเรื่องของผู้หญิงเลย”
“ก็ได้ ข้าจะไม่ถาม วังก็เข้าไปไม่ได้ด้วย ไว้คราวหน้าค่อยคุยก็แล้วกัน” ลั่วอู๋พูดด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นลั่วอู๋ก็หันหลังกลับ
พวกยามทั้งหมดโล่งใจ
ลั่วอู๋ทำเป็นเชื่อ แต่พวกเขาก็ไม่ได้สังเกต
ไม่มีใครเห็นว่าเมื่อลั่วอู๋หันไป จากไปรอยยิ้มที่มุมปากของเขาก็ค่อย ๆ หายไป กลายเป็นสีหน้าเคร่งเครียด
ปัญหานั้นร้ายแรงมาก
ลั่วอู๋หยิบข้อมูลที่ทีมล้างแค้นรวบรวมมาให้เขา
ในนั้นบันทึกข้อความไว้อย่างชัดเจน
จี๋ เป่ยยุน หนึ่งในสิบสามนายพลของตำหนักเจ้าชาย มีสัตว์วิญญาณที่หายากและสามารถแปลงร่างเป็นสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ได้
คิดจะทำอะไรในวังกัน
ลั่วอู๋เริ่มสงสัย
เจียโรวที่เขาได้เห็นในวังคือเจียโรวจริงหรือ? ถ้าเป็นตัวจริงทำไมนางไม่ยอมเข้าใกล้
หัวใจของลั่วอู๋จมลง
ความสามารถของนายพลที่เปลี่ยนแปลงร่างได้เป็นเรื่องน่าปวดหัว
มันทำให้เขาสงสัยทุกคนรอบตัว
แต่ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือตำหนักองค์ชายได้เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว