โลกแห่งนี้ที่มีเพียงฉัน - ตอนที่ 5 เรื่องแปลกๆ
บทที่ 5 เรื่องแปลกๆ
[ตัวเอก]
เปิดประตูห้องนํ้าด้วยความระมัดระวัง สิ่งที่เห็นแตกต่างจากสิ่งที่คิด กระจกไม่ได้มีรอยแตกร้าวอยู่เลย มันดูไม่คล้ายเพิ่งได้รับความเสียหายแม้แต่นิด มันยังไงกันนะ? ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆกระจกช้าๆ รวบรวมความกล้าทั้งหมด เอื้อมมือไปสัมผัสมัน ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เรื่องก่อนหน้านี้ นี่ฉันหลอนไปเองอย่างงั้นเหรอ? หรือเพราะเหนื่อยเกินไปถึงเกิดภาพหลอน? ไม่เข้าใจแฮะ
“ช่างมันแล้วกัน ตอนนี้ฉันต้องหาทางเปลี่ยนชีวิตตัวเอง ถ้าอยู่ต่อไปแบบนี้ สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นแบบเมื่อวาน ตัวฉันจะถึงทางตัด สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกทางแย่ๆลงไป จริงๆมันควรมีทางที่ดีกว่า ฉันควรเลือกทางนั้น”
วันนี้ไม่ได้ไปทำงาน ฉันคิดว่าจะใช้เวลาทั้งวันที่มีตามหาวิธีได้เงิน บนโลกใบนี้มีอาชีพมากมาย วิธีการได้มาซึ่งเงินหลากหลาย ไม่เชื่อหรอกว่าตัวฉันจะหาไม่ได้สักวิธี แต่นั่งคิดทั้งนั้นก็คงคิดไม่ออกแน่ ต้องมีบางอย่างทำให้คิดวิธีออก การไปข้างนอกน่าจะเป็นวิธีหาที่ดีที่สุด
ก่อนจะออกไป ฉันลองค้นดูของตัวเองในอดีตที่เหลืออยู่ มีอยู่ไม่กี่อย่าง ไม่ใช่ของราคาแพงอะไร ของแพงๆขายทิ้งเพื่อเงินไปหมดแล้ว ที่เหลือก็มีหนังสือไม่กี่เล่ม หนังสือสอนเขียนโปรแกรม? ถ้าฉันมีความสามารถ มันก็ใช้หาเงินอยู่นะ ทว่าฉันไม่มีเนี่ยสิ ฝึกก็ใช้เวลานานกว่าจะเอาไปใช้หาเงินจริงได้
“ไหนขอดูหน่อยสิ”
เปิดหนังสือไปที่หน้าแรก ความรู้สมัยก่อนของฉันไม่มีเหลืออยู่ในสมองเลย น่าเศร้าจริงๆ หากเริ่มฝึก จะต้องเริ่มตั้งแต่หนึ่งใหม่
“หืมม ไม่ค่อยยากแฮะ ทำไมมันง่ายแปลกๆ?”
ยิ่งอ่าน ฉันก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้น พอเข้าใจจุดแรกแล้ว มันก็เหมือนกับว่าตอนได้รับความรู้จุดสอง ตัวฉันสามารถเข้าใจมันได้ทันที บางทีคงคิดไปเอง แรกๆน่าจะง่ายอย่างงี้แหละ มันเป็นแค่เรื่องพื้นฐานเองหนิเนอะ
ใช้เวลาอ่านไปประมาณชั่วโมง ฉันก็ตกใจกับความสามารถตนเอง ตกลงฉันเป็นอัจฉริยะหรือเนี่ย? ตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงที่อ่านมา ฉันสามารถเข้าใจทุกจุด ไม่มีจุดไหนไม่สามารถเข้าใจได้ ปกติ เรื่องแบบนี้ ฉันควรจะงงสิ ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่
“เสียดาย ไม่มีคอม ไม่งั้นฉันลองเขียนตอนนี้ได้เลย”
คอม โน๊ตบุ๊ค หายทิ้งหมดเรียบร้อย เวลาต้องใช้เงิน ไม่สนหรอกว่าขายไปแล้วยังไง เฮ้ออ~ ไม่เป็นไร ไว้หาเงินได้มากกว่าเดิมเมื่อไหร่ ฉันค่อยซื้อคอม ไม่ก็โน๊ตบุ๊คมาลองฝึกเขียนโปรแกรมก็ได้
ปิดหนังสือ เก็บเข้าที่เดิมของมัน จากนั้นก็อาบนํ้า ลงไปด้านล่าง เมื่อลงถึงก็พบกับพ่อ เขาราวกับกำลังฉันอยู่ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงงั้นเหรอ? เกิดปัญหาอะไร?
“มีเรื่องหนึ่งที่พ่อไม่ได้บอกลูก”
เรื่องที่ไม่ได้บอก? มันสำคัญมาก? ดูจากท่าทางพ่อ คงเป็นเรื่องสำคัญ
“ครับ เรื่องอะไรเหรอ?”
“จริงๆแล้ว ตระกูลเรายังมีของสำคัญที่เอาไว้ป้องกันการล่มสลายอยู่”
มีเรื่องแบบนั้นด้วย? ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ว่าทุกอย่างที่ฉันทำในอดีตมันไร้ค่า? รู้สึกเศร้านิดหน่อย แย่จัง
“ลูกกำลังเข้าใจผิด ถึงจะของสำคัญนั้นอยู่ก็จริง แต่พวกเราในเวลานี้ไปเอามันไม่ได้หรอก อยู่อีกประเทศหนึ่งน่ะ นี่คือกุญแจเอาไว้เปิดห้องลับ และนี่ก็สถานที่ที่ห้องลับอยู่”
ความรู้สึกเศร้าหายไปอย่างรวดเร็ว ฉันรับกุญแจกับกระดาษมาจากพ่อ มองสิ่งที่เขียนบนกระดาษ ไม่แปลกใจว่าทำไมพ่อไม่บอกก่อนหน้า มันอยู่ไกลมาก ต่อให้จะรู้ตำแหน่งมัน ทว่าก็ยังไปยากอยู่ดี เงื่อนไขการไปขั้นตํ่าเลย คือหนึ่งต้องมีเงินก่อน
“ขอบคุณครับ ผมจะออกไปข้างนอก อยู่บ้าน ดูแลตัวเองดีๆนะครับ”
พูดจบ ฉันก็เดินออกบ้านไป พ่อเคยพยายามกลับไปหาเงินด้วยการเริ่มต้นจากหนึ่งใหม่ดูแล แต่ไม่ว่าพยายามเท่าไหร่ ก็ดูจะไม่ประสบความสำเร็จ สภาพจิตใจมีผลต่อการทำธุรกิจจริงๆ เพราะงั้น ฉันต้องพยายามทำให้อารมณ์ไม่ติดลบเข้าไว้ คิดลบๆไม่ได้ช่วยอะไร ไร้ประโยชน์สุดๆ เอาล่ะ มาหาวิธีทำเงินกัน
“ถึงจะงั้นก็เถอะ ฉันควรไปไหนดี? เงินในกระเป๋าฉันก็มีน้อยนิด ทำอะไรไม่ได้เลย”
เฮ้ออ~ เผลอถอนหายใจอีกแล้ว ติดเป็นนิสัยเรียบร้อย หากต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น ฉันว่าควรเปลี่ยนนิสัยถอนหายใจนี่
“ขอโทษนะครับ ใช่พี่ซีรึเปล่า?”
เสียงของใครบางคนเข้าสู่การได้ยินของฉัน พี่ซีเหรอ? คนรู้จัก? ไม่เห็นคุ้นเสียงเลยสักนิด
ชื่อของฉันคืออีซีโอ ถูกตั้งโดยผู้หญิงที่เคยแต่งงานกับพ่อ มีต้นกำเนิดมาจากภาษาละติน แปลว่าอะไรนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยถาม และไม่อยากจะจำ โดยปกติ คนอื่นจะเรียกฉันว่าซี ซึ่งมีความหมายว่าทะเล หรือสมุทร ไม่ค่อยมีใครเรียกชื่อเต็มหรอก
“อา ใช่ นายมีอะไรกับฉันงั้นเหรอ?”
มองไปยังคนที่รู้จักชื่อฉัน เขาเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างอ้วน หน้าตาสุดไม่คุ้นเคย นี่ฉันเคยรู้จักชายคนนี้ในอีกจักรวาลคู่ขนานรึเปล่านะ? ไม่เห็นจำหน้าได้เลยแม้แต่น้อย
“พี่ซี จำตอนที่พี่ให้กีตาร์หลักแสนกับผมได้มั้ย?”
บ้าน่า ฉันให้ของราคาขนาดนั้นกับคนอื่นงั้นเหรอ? ทำไมตอนนั้นตัดสินใจแบบนั้นนะ? เงินหลักแสนสามารถอยู่ได้หนึ่งเดือนสบายๆเลย คิดอะไรอยู่กันแน่ ตัวฉันในอดีต ไม่เข้าใจจิตใจพวกคนรวยสักนิด
“จำได้ๆ มีอะไร?”
ก็ไม่รู้หรอกนะว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรจากฉัน แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร ไม่มีทางได้ไปหรอก เพราะฉันไม่เหลืออะไรที่สำคัญแล้ว มีแค่ร่างกายกับหัวใจนี้เท่านั้น ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่จะขโมยได้ง่ายๆ
“นี่ครับ”
ชายแปลกหน้าส่งกีตาร์มาให้ ดูแล้วคงเป็นกีตาร์ที่ราคาแพงมากๆ คืนให้เหรอ? เป็นไปไม่ได้ ไม่น่าใช่แน่ ต้องมีเรื่องบางอย่างที่ฉันไม่รู้
“ใช่สิ ขอโทษครับ ผมคืนกีตาร์ให้ จำคำสัญญาของผมไม่ได้เหรอ? ที่บอกว่าเมื่อผมหาเงินได้จนสามารถซื้อกีตาร์แบบเดียวกันสำเร็จ ผมจะซื้อคืนให้พี่”
“มีคนรักษาสัญญาอย่างงั้นอยู่บนโลกนี้ด้วยเหรอ?”
“พี่โตขึ้นในสังคมยังไงเนี่ย? ผมน่ะ ถึงจะหน้าตาไม่ดีเท่าไหร่ ทว่าเป็นคนรักษาสัญญานะ รับไปด้วยเถอะครับ ได้โปรด!”
“ได้ๆ”
ฉันได้กีตาร์ราคาหลักแสนมาแบบงงๆ จู่ๆเงินก็หาง่ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เหมือนเมื่อวานที่ยากจนเป็นเพียงความฝัน ชีวิตมันเปลี่ยนแปลงไปเร็วแบบนี้เลยหรือ?
“ผมขอเบอร์พี่ด้วยนะ ได้ยินว่าพี่ชีวิตลำบาก พวกเราเป็นพี่น้องกัน ผมจะพยายามช่วยเท่าที่ทำได้”
“ไม่ต้อง ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ต้องการ มันไม่จำเป็น!”
ได้กีตาร์ราคาหลักแสนมาก็เกินพอแล้ว ถ้ายังได้ฝ่ายตรงข้ามช่วยอีก ตัวฉันจะไม่กลายเป็นคนไร้ค่า? ฉันก็อยากจะเป็นคนมีคุณค่าเหมือนกันนะ ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ ได้แต่ทำงานไปวันๆ ได้เงินเดือนเล็กน้อย ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย
ตัวฉันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ฉันน่ะ จะเปลี่ยนชีวิตนี้ จะต้องมีความสามารถที่มากกว่าเดิม มีเงินเพิ่มอย่างเดียว มันไม่นับว่าเปลี่ยนแปลงชีวิตหรอก ฉันไม่ยอมรับเด็ดขาด!
เห็นฉันปฏิเสธด้วยท่าทางจริงจัง ชายอ้วนก็ล้มเลิกความพยายามที่จะช่วย เขาขอแค่เบอร์ฉันอย่างเดียว แค่เบอร์โทรศัพท์คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ให้ไปก็ไม่น่าเสียหายอะไร ฉันเปิดหน้าจอแล้วปลดล็อค ทันทีที่ปลดล็อกผ่าน ภาพที่ปรากฏขึ้นก็ทำเอาตกตะลึง
นี่มัน… ภาพที่ฉันเห็นคือภาพของเด็กผู้หญิง เธอมีผมยาวสีเงินงดงาม แม้ยืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิดยามราตรี ผมกับดวงตาของเธอก็ยังดูมีเสน่ห์ น่าดึงดูด มหาศาล ชุดที่เด็กสาวใส่อยู่เผยให้เห็นผิวพรรณขาวเนียน และด้านหลังที่มีดวงจันทร์อยู่บนท้องนภา ทำให้เธอมีเสน่ห์ยิ่งๆขึ้น
มันมาอยู่ในโทรศัพท์ได้ยังไง? ก็ใช่อยู่หรอกที่ฉันถ่ายรูปไว้ตอนอยู่ชายหาด แต่ทำไมรูปถึงอยู่ในคลังภาพ? อย่าบอกนะว่า… เรื่องก่อนหน้านี้ ทั้งหมดนั่นคือความจริง ไม่ใช่ความฝัน?!
!!!!!