แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 439 : อุบาย
“นีแม่นางเจียงกําลังขู่ข้ารึ ?” เจิ้งหนานถามอย่างช้า ๆ
เจียงป่ าวชิงมีสีหน้ารู้สึกผิดแต่นํ้าเสียงของนางกลับเด็ดเดียว “ข้าไม่ได้ขู่แม่นาง เจิ้ง แต่แม่นางเจิ้งเองก็เห็นเรืองในวันนี้แล้ว ข้าขอรบกวนแม่นางเจิ้งช่วยดูแลคนที บ้านให้แค่ช่วงนี้เท่านั้น”
ความลังเลอย่างรุนแรงแสดงผ่านบนใบหน้าของเจิ้งหนานอย่างเห็นได้ชัด ผ่านไป สักครู่นางพูดขึ้นอย่างยากลําบากว่า “ต่อให้แม่นางพูดเช่นนี้ แต่ข้า… ถ้าหากว่า คนเลวกลุ่มนั้นพุ่งเป้ามาทีแม่นางเจียงล่ะ แล้วช่วงนี้ก็เป็ นช่วงอันตรายด้วย ข้าไม่ สามารถ…” เห็นได้ชัดว่านางตัดสินใจแล้ว นางรีบทําความเคารพเจียงป่ าวชิง
แล้วกัดฟันพูดขึ้น “แม่นางเจียง ขออภัย นีมัน… เอ่อ… ยากจะทําตามคําสังจริง ๆ”
“ข้านับถือความจงรักภักดีของแม่นางเจิ้งมาก” เจียงป่ าวชิงพูดขึ้นอย่างใจคอ เหียวแห้ง “ในเมือเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะไม่บังคับแม่นางเจิ้ง เช่นนั้นเอาอย่างนี้ ช่วงนี้ ข้าจะอยู่ทีบ้านแล้วประพฤติตัวให้ดี ๆ แต่พวกน้องของข้าต้องไปรับการบ้านทีครู เวินทุกสองสามวัน เมือถึงตอนนั้นข้าขอให้แม่นางเจิ้งช่วยไปรับส่งพวกเขาหน่อย นะ”
เจิ้งหนานกําลังจะปฏิเสธ แต่เห็นว่าเจียงป่ าวชิงดูเหมือนขอร้องด้วยความจริงใจ จึงเริมใจอ่อน
“ไปกลับใช้เวลาแค่ไม่เท่าไร่ เดิมทีข้าอยากไปรับส่งน้อง ๆ ด้วยตัวเอง แต่เป็ น ห่วงว่าคนกลุ่มนั้นจะมุ่งเป้ามาทีข้า ถึงตอนนั้นถ้าหากว่ารอบ ๆ มีคนอืนอยู่เยอะ พวกคนเลวก็ทําอะไรได้ยาก แต่ข้ากลัวว่าพวกเขาจะทําร้ายพวกน้อง ๆ ของข้าไป ด้วย หัวอกคนเป็ นพีสาว ความปลอดภัยของน้อง ๆ เหมือนกับความปลอดภัย ของข้าเอง ข้าหวังว่าแม่นางเจิ้งจะช่วยได้”
เจิ้งหนานเหมือนถูกอะไรบางอย่างทิมแทงเข้าไปในในหัวใจ นางเองก็เคยมี พีชายคนหนึง ต่อมาพีชายของนางถูกคนเลวลอบฆ่าในตอนทีนางออกไปทําธุระ ให้นายท่าน นางจึงเข้ามาแทนทีพีชายตัวเอง เข้าไปในกลุ่มองครักษ์ของนายท่าน และคิดว่าวันหนึงนางจะฟันศัตรูด้วยมือของนางเอง อีกอย่าง นางเคยปฏิเสธแม่ นางเจียงมาครั้งหนึงแล้วและตอนนั้นแม่นางเจียงไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไรกับ นางเลย ถ้าหากว่านางปฏิเสธอีกฝ่ ายเป็ นครั้งทีสอง มันจะดูเป็ นการเสียมารยาท อยู่เนือง ๆ
ในทีสุดเจิ้งหนานก็ตอบรับ
หลังจากออกไป กานซุ่ยกับเจิ้งหนานก็แลกเปลียนข้อมูลกันในมุมมืด “เมือกี้แม่ นางเจียงเรียกเจ้าไปทําอะไรรึ ? …เจ้าดูคิวเข้มตาโตเคร่ ้ งเครียดนะ คงไม่ได้เกิด ความคิดไม่ดี ๆ อะไรใช่ไหม ?!”
เจิ้งหนานมองกานซุ่ยอย่างหมดคําจะพูด “เจ้าคิดเยอะไปแล้ว ทีแม่นางเจียงเรียก ข้าไปหาก็เพราะเจียงฉิงกับเลียวชุนหยู่ต้องไปส่งการบ้านทีบ้านครูของพวกเขา นางอยากให้ข้าช่วยไปคุ้มกันน้อง ๆ ของนาง”
กานซุ่ยเองก็มีความลําบากใจเช่นกัน “หืม ? นีไม่ดีกระมัง สิงทีนายท่านสังไว้ คือให้เราคุ้มกันแม่นางเจียงให้ดี ๆ”
เจิ้งหนานกําลังจะบอกว่าเขาตอบรับไปแล้ว แต่จู่ ๆ เขากลับตัวแข็งทือซะอย่าง นั้น
เดี0ยวก่อน ช่วงนี้แม่นางเจียงอยู่ทีบ้านตลอด งั้นเรืองทีขอให้ช่วยคุ้มกันบ้านตอนที แม่นางเจียงไม่อยู่บ้านก็ไม่มีแล้ว… จุดประสงค์ของแม่นางเจียงคือให้ไปคุ้มกัน เจียงฉิงกับเลียวชุนหยู่ไปเรียนอย่างนั้นสิ ?!
เจิ้งหนานหน้านิวคิ้วขมวดทันที
“น้องเจิ้ง นีเจ้า…” กานซุ่ยรู้สึกงุนงงเมือเห็น “ข้าอาจถูกแม่นางเจียงใช้อุบายหลอกล่อเข้าให้แล้วล่ะ” เจิ้งหนานกัดฟันพูด
……
หลังจากทีส่งเจิ้งหนานแล้ว เจียงป่ าวชิงก็นังครุ่ นคิดเกียวกับแผนการรับมือขั้น ต่อไป นางไม่รู้ว่าศัตรูเป็นใคร แต่เมือดูจากการทีฝ่ ายนั้นทําลายเครืองหยกเละเต็ม พื้นและเอาไปเพียงแค่กล่องเงินกับกล่องทองก็รู้แล้วว่าฝ่ ายนั้นไม่ได้มีความรู้ อะไรมากมายนัก
ต้องทราบก่อนว่าหลายสิงทีพวกเขาทุบทําลายนั้น ไม่ว่าจะเป็ นของชนิดไหน เมือ นําออกไปขายข้างนอกจะมีค่ามากกว่าทองและเงินในจํานวนทีเท่ากัน แม้ของ พวกนี้จะขายไม่ได้ง่าย ๆ ในเมืองหลวง แต่ก็สามารถเอาไปขายทีไกล ๆ ได้ ทว่า พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่ได้เอามันไปแล้ว ยังทําลายของลํ้าค่าและของอืน ๆ ทีจัดวาง อยู่ในห้องตามอําเภอใจจนมันเละชนิดทีไม่สามารถเละไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
ส่วนปิ นปักผมทองกับปิ นปักผมเงินทีประณีตสวยงามแต่กลับไม่ได้มีค่าอะไร ก็ ถูกปล้นเอาไปจนหมดสิ้น
‘การลงมือเช่นนี้ช่างกระจอกจริง ๆ’ เจียงป่ าวชิงคิดพลางยิมกั ้ บตัวเอง เพราะ เมือพูดถึงกระจอก นางนึกถึงใครบางคน
……
เจียงป่ าวชิงสวมเสื้อคลุมตัวนอกแล้วไปหาเจ้าหน้าทีทีลาดตระเวนตามท้องถนน และรายงานต่อเจ้าหน้าที กว่าฝ่ ายราชการจะพากันมาก็ผลัดวันประกันพรุ่งอยู่หน หรือสองหน มาถึงก็ซักถามเหตุการณ์จากมีหลิวกับสุนถาวพลางจดบันทึกลงใน กระดาษบันทึกอย่างอืดอาดยืดยาด เสร็จแล้วเจ้าหน้าทีผู้เป็ นหัวหน้าใหญ่มองดู ข้าวของระเกะระกะเหล่านั้นแล้วหัวเราะบนความโชคร้ายของคนอืน
“ฮาย ไร้ซึงหนทางแล้ว ปลายปี เหล่าเจ้าหน้าทีอย่างพวกข้าต่างก็มีเรืองเครียดที ต้องจัดการเยอะ ถ้าทางเราจัดการไม่ได้จริง ๆ แม่นางก็คิดซะว่าเสียเงินเพือ หลีกเลียงการเจ็บตัวเถอะนะ”
ท่าทีของเจียงป่ าวชิงสงบมาก นางรู้ว่าเจ้าหน้าทีคนนี้ต้องการเงินเพิมจึงยัดถุงหอม ทีหนักมากอันหนึงใส่ในมือเขา ทันใดนั้นเจ้าหน้าทีตบทรวงอกเพือเป็ นการ รับประกันด้วยใบหน้ายิมแย้ม ้ “เฮ้สาวน้อยเจ้าไม่ต้องห่วง ปลายปี แล้วการ ตรวจจับคนเลวเข้มงวดมาก โจรบ้าระหําพวกนี้กล้ากระทําผิดกลางวันแสก ๆ พวกข้าจะทําให้พวกนั้นรู้ว่าพวกข้ายอดเยียมแค่ไหน!”
เจียงป่ าวชิงยิมอย่ ้ างละเหียใจก่อนจะเอ่ยขอบคุณเจ้าหน้าที
หลังจากทีเจ้าหน้าทีพาพรรคพวกกลับไปแล้ว เจียงป่ าวชิงก็สังให้มีหลิวกับสุน ถาวพักผ่อนให้มาก ๆ และบอกว่าถ้าหากว่ามีคนมาและเป็นเสียงคนไม่รู้จักก็ไม่ ต้องเปิ ดประตู ปล่อยให้ก่อกวนอยู่นอกประตูไปเลย เพราะถึงยังไงประตูบ้านก็ แข็งแรงมากพอทีจะกันคนไม่ให้พังเข้ามาได้ง่าย ๆ
เจียงป่ าวชิงดึงหมวกคลุมให้ตําลงแล้วตามพวกเจ้าหน้าทีออกไปข้างนอกเช่นกัน
เจิ้งหนานกับกานซุ่ยสบตากันเล็กน้อย พวกเขาซ่อนร่างตัวเองในทีลับตาคนและ ตามไปอย่างเงียบ ๆ
……
เจียงป่ าวชิงไปทีบ้านของเผิงไฉ่เสีย
หลังจากทีถูซีว่างไปบุกงานแต่งและช่วยเผิงไฉ่เสียไว้ได้ ประกอบกับทีเผิงไฉ่เสีย รู้ความจริงว่าใครทีเป็ นคนช่วยตอนนางตกนํ้า ท่าทีของนางทีมีต่อถูซีว่างก็ เปลียนไปทุกวัน
แรกเริมเผิงชือจินไม่ชอบหน้าถูซีว่างเป็ นอย่างมาก ก็อีกฝ่ ายเคยเป็ นอันธพาลทีเคย พาคนไปต่อยเขาอยู่บ่อยครั้ง เขามีเหตุผลทีจะเกลียดถูซีว่างแน่ ๆ ถ้าหากว่าถูซี ว่างไม่ได้เคยช่วยไฉ่เสียไว้ถึงสองครั้ง เขาจะต่อยถูซีว่างทุกครั้งทีเห็น
แต่ถูซีว่างกลับหน้าด้านหน้าทนมาก เขาไปบ้านตระกูลเผิงและขอให้เผิงชือจินรีบ ต่อยเขาเพือระบายอารมณ์ จะได้ไม่ต้องคัดค้านการติดต่อของเขากับเผิงไฉ่เสีย
แต่มีหรือเผิงชือจินจะทําตามทีถูซีว่างต้องการ เขาทําเพียงเมิน ไม่ค่อยสนใจถูซี ว่างเท่านั้น
เรืองนี้ทําให้ถูซีว่างกลุ้มใจมาก กว่าเผิงไฉ่เสียจะยอมยิมให้เขานั ้ ้นไม่ง่ายเลย ลุง ของนางกลับกลายเป็ นอุปสรรคในแง่หนึง แต่ถ้าหากว่าให้ความกล้ากับถูซีว่าง สักสิบความกล้าในครั้งนี้ เขาก็ไม่กล้าสังให้พวกลูกน้องของเขารุมต่อยเผิงชือจิ นอีกแล้ว
ตอนทีเจียงป่ าวชิงไปถึง ถูซีว่างอยู่ทีบ้านตระกูลเผิงจริง ๆ และกําลังช่วยตัดฟื น อย่างกระตือรือร้น
อากาศหนาวเย็นเช่นนี้แต่ถูซีว่างกลับใส่แค่เสื้อบาง ๆ และมีเหงือซึมอยู่บน หน้าผากของเขา ไม่รู้ว่าเขาตัดฟื นมานานแค่ไหนแล้ว ด้านข้างมีฟื นกองจน กลายเป็ นภูเขาเล็ก ๆ ดูเหมือนว่าในฤดูหนาวนี้บ้านตระกูลเผิงคงไม่ขาดฟื นแล้ว
เดิมทีลูกน้องของถูซีว่างต้องการช่วยตัดฟื นแทนเขา แต่เผิงชือจินแค่นเสียง ออกมาทางจมูกอย่างเย็นชาแล้วด่าว่า “เจ้านีมันไม่จริงใจจริง ๆ” ถูซีว่างจึงรีบ แย่งขวานทีอยู่ในมือของลูกน้องทันที ก่อนจะนังยอง ๆ และลงมือตัดฟื นเองอย่ าง ขยันขันแข็ง
เจียงป่ าวชิงรู้สึกชืนชมเมือเห็น และรู้สึกเสียดายเล็กน้อยทีในบ้านตัวเองไม่มี ผู้ใหญ่ มิเช่นนั้น ไม่แน่นางอาจได้เห็นกงจี้ของนางนังยอง ๆ ตัดฟื นก็ ได้ แต่คน อย่างกงจี้ นางค่อนข้างมันใจว่ าแม้จะตัดฟื น เขาก็คงตัดฟื นด้วยท่าทางสูงศักดิ< อย่างแน่นอน
“แม่นางเจียงเจ้ามาแล้ว!” เดิมทีเผิงไฉ่เสียถือผ้าขนหนูไว้ในมือซึงไม่ต้องบอก ก็รู้ว่าให้ใครใช้ แต่เมือเห็นว่าเจียงป่ าวชิงมา นางก็ลืมสนใจถูซีว่างทันทีแล้วเดิน มาต้อนรับเจียงป่ าวชิงอย่างดีใจ
เจียงป่ าวชิงมองถูซีว่างยิม ๆ สีหน้าของเขายําแย่ ้ มากราวกับว่าอึดใจต่อไปเขาจะ ด่าเปิ งใส่นาง
แต่ถูซีว่างรู้ว่าเจียงป่ าวชิงมีบุญคุณต่อเขาและไฉ่เสีย และถ้าหากว่าเขาด่าอีกฝ่ าย จริง ๆ เกรงว่าวันพรุ่งไฉ่เสียคงไม่ให้เขามาทีบ้านอีก
เขาจึงต้องอดกลั้นความโกรธและมองไฉ่เสียของเขาทักทายคนอืนด้วยใบหน้ายิม้ แย้ม