แซก แซก แซก
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ราวๆ 10 นาที ก่อนที่มาร์จะมาหยุดบนต้นไม้ต้นหนึ่งก่อนที่เขาจะกลับไปยังแคมป์ ที่นั้นได้มีสิ่งสิ่งหนึ่งที่ตอนนี้มองเผินๆเหมือนจะไม่มีอะไรนอกไปจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหญ้าซึ่งมีกองไฟมอดแล้วอยู่ตรงกลาง ทว่าแท้จริงแล้วห่างจากจุดก่อกองไฟไปเพียงไม่กี่เมตรนั้นก็คือสถานที่ลับที่กำลังมีกลุ่มคนจำนวน 7 คนซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน
“ ทุกคนที่อยู่ที่นี้มากันพร้อมแล้วค่ะหัวหน้า ”
“ อื้ม! ทุกคนนั่งได้… ”
และที่ใต้ดินนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าห้องโถงโล่งๆที่แบ่งมุมไว้หลายมุมไม่ว่าจะมุมที่เต็มไปด้วยข้าวของ มุมที่เต็มไปด้วยที่นอน อย่างไรก็ดีตรงกลางในตอนนี้ที่มีตะเกียงไฟแสงห้อยเอาไว้กำลังมีชายหญิงจำนวนหนึ่งนั่งล้อมรอบกันเป็นวงกลมโดยที่คนที่ถูกเรียกว่าหัวหน้านั้นกำลังยืนอยู่ด้านในสุดตรงข้ามกับบันไดทางขึ้นไปข้างบน
“ ก่อนอื่นชั้นคงต้องกล่าวต้อนรับพวกนายสินะ เอาล่ะ ยินดีต้อนรับสู่ปาร์ตี้วิทดรอคนิค หรือแปลจากภาษาโบราณของชั้น ผู้เป็นหัวหน้าก็…ราชินีสีขาว และชั้นมีชื่อว่าโซเฟีย ต่อจากจากนี้ก็ฟังและทำตามคำสั่งของชั้นให้มันดีๆก็…พอ ”
สถานที่แห่งนี้มันเป็นของปาร์ตี้วิทดรอคนิค กลุ่มปาร์ตี้หน้าใหม่ที่ไต่เต้าขึ้นไปเป็นแรงค์ A ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่ถึง 1 ปี โดยคนที่กำลังยืนอยู่ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกไปจากหัวหน้าปาร์ตี้ผู้มีผมสีทองแซมสีดำและดวงตาสีขาว ใบหน้าของเธอช่างงดงามทว่าร่างกายของเธอกลับผอมบางและดูอ่อนแอมากเมื่อเทียบกับนักพจญภัยทั่วไปที่มาที่นี้ แต่ความอ่อนแอนั้นก็ถูกทดแทนด้วยสิ่งที่ต่างออกไปจากนักพจญภัยปกติอีกสองอย่างคือ เครื่องแบบกับอาวุธของเธอ
“ มาถึงตรงนี้พวกนายก็ผ่านการทดสอบเข้ามาเป็นสมาชิกของปาร์ตี้แล้ว แต่ว่ายังไงก็ตามชั้นจะอธิบายแนวทางการสู้ของพวกชั้นให้พวกนายได้รู้ อย่างที่เห็นพวกเราใช้ปืนทั้งหมดและจัดการทุกอย่างดังนั้นพวกนายอย่าคิดมาอยู่แนวหน้า ใช่ แนวหน้า พวกนายในตอนนี้มีหน้าที่แค่ยืน ยืนรออยู่ข้างหลังแล้วก็พวก"แก"อย่าทำอะไรนอกจากที่ชั้นสั่งแค่นั้น ”
“ ค ครับ!! ”
“ เข้าใจแล้วครับท่านโซเฟีย!! ”
กริ๊งๆๆๆ
“ เห้อออ ”
ทว่าระหว่างที่โซเฟียกำลังพูดกับสมาชิกหน้าใหม่ทั้งสองคนนั้น จู่ๆเสียงกระดิ่งที่เบาแสนเบาก็ดังขึ้นแล้วมันก็ทำให้โซเฟียหยุดพูดก่อนจะถอดหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วก็เดินไปยังที่มาของเสียงนั้น ที่มุมด้านในสุดของที่นี้ มันคือนาฬิกาปลุกธรรมดาที่เข็มสั้นกำลังเคลื่อนออกจากเลข 1 อย่างช้าๆ
“ เอ้า!! ได้เวลาเปลี่ยนกะเวรแล้วเห้ย!! ”
“ ค่าาา!! หัวหน้า!! เข้าใจแล้วค่าาา!!! ”
ตึก ตึก ตึก ตึก กึง ตุบ ตุบ ตุบ
โซเฟียพูดออกมาด้วยเสียงที่ดุดันก่อนจะหันไปมองยังสมาชิกปาร์ตี้คนหนึ่งซึ่งกำลังนั่งสัปหงกอยู่ที่วงล้อมนั้นซึ่งเธอพอโดนมองไปแบบนั้นก็สะดุ้งพร้อมกับลุกขึ้นในทันทีก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบเอาชุดคลุมสีดำกับอาวุธปืนของตนที่อยู่มุมห้องแล้วก็รีบเปิดประตูออกไปยังด้านนอกอย่างรวดเร็ว
“ ทีนี้ทุกคน เงียบ… ”
พอลูกน้องคนนั้นวิ่งออกไปได้เรียบร้อยแล้ว ด้านในฟิงก้าก็ได้มองดูสมาชิกปาร์ตี้ทุกคนพร้อมกับสั่งออกมาด้วยเสียงที่เบาทำให้ทุกคนเงียบตามเป็นเวลาหลายนาที ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าทั้งหมดเป็นไปเพราะป้องกันไม่ให้การออกไปของสมาชิกปาร์ตี้ระบุตำแหน่งของที่ซ่อน
“ พอ… ”
“ อึก…ครับ ”
“ ทีนี้ก็ … เอล่า เอล่าได้ยินหรือเปล่า? ”
และเมื่อทุกอย่างสงบลงแล้วโซเฟียก็ได้หยิบเอาลูกแก้วบางอย่างขึ้นมาก่อนจะเปิดใช้งานมันด้วยการพูดใส่ไปด้วยเสียงที่เบาแสนเบาอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่นานนักที่ลูกแก้วจะเรืองแสงก่อนจะมีเสียงบางอย่างตอบกลับมาในระดับที่เบาแสนเบา
“ ค ค คะ? ได้ยินค่ะพี่…เดี๋ยวนะ!! จริงด้วย!! อะแฮ่ม!! ตอนนี้กำลังกลับไปค่ะหัวหน้า!! ”
“ เห้อ…ให้ตายเถอะ ให้ตายเถอะ ”
หุหุหุหุ ยัยเอล่าเอาอีกแล้วสินะ ฮ่าๆๆๆ ให้ตายเหอะ ให้ตายเหอะ
เสียงตอบกลับนั้นทำให้เธอถึงกับกุมขมับไปชั่วครู่ ส่วนสมาชิกปาร์ตี้ที่เป็นผู้หญิงต่างก็พากันหัวเราะคิกคักกันอย่างเงียบๆ ทว่าฝ่ายสมาชิกชายนั้นก็ต่างก้มหน้าเครียดกันทันทีเพราะว่าพวกเขาไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการที่หัวหน้าพูด ให้ตายเถอะซ้ำกันถึง 2 ครั้ง
“ เอาล่ะ…เงียบ…แล้วฟัง เรื่องต่อจากนี้คือสิ่งที่ชั้นอยากจะให้ทุกคนได้มาประชุมกันก่อนจะไปต่อยังชั้นถัด ถัด ถัด ไป ใช่…เรื่องที่ทำให้พวกเราที่ควรจะฝ่าไปเกินกว่า 80 ชั้นต้องหยุดลง ทั้งหมดเป็นเพราะสมาชิกไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวสองคน… ”
“ อ่าา ไอเจ้าพวกนั้นสินะ จะว่าไปแล้วพวกนายเองก็ด้วยนี่… ”
“ จริงด้วยพอมานึกดูแล้วก็อย่างที่หัวหน้าว่า ไอสองคนนั้น… ”
“ …ไอเวรพวกนั้น… ”
คำพูดนั้นของฟิงก้าทำให้สมาชิกหญิงทุกคนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดจากตอนแรกที่หญิงสาวทุกคนหัวเราะกันก็เปลี่ยนมาเป็นการจ้องมองไปยังสมาชิกใหม่ทั้ง 2 คนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยแรงแค้นบางอย่าง สายตาที่เหมือนกับจะเสียบแทงพวกให้ตายได้เลย
“ ทุกคนใจเย็นลงก่อน… อย่าพึ่งไปกดดันสมาชิกใหม่อย่างงั้นสิ อ่า… ส่วนพวกนายเองก็น่าจะรู้ไว้ด้วยเรื่องของพวกเราที่พิชิตชั้น 76 ของหอคอยนี้ได้มันเป็นเรื่องที่น่าอัปยศสำหรับพวกเราเพราะตัวถ่วง 2 ตัว ตัวถ่วงที่เป็นแบบพวกนาย…ผู้ชาย ”
และคราวนี้โซเฟียก็เปลี่ยนไปเช่นกัน สายตาของเธอมองไปยังผู้ชายทั้งสองที่เป็นสมาชิกใหม่ราวกับว่าเธออยากจะฆ่าพวกเขาทิ้งซะ แน่นอนว่าสองคนที่โดนจ้องไปแบบนั้นก็หน้าซีดในทันทีแถมยังเริ่มจะค่อยๆถอยไปยังบันไดทางออกไปยังด้านนอก
“ พวกผู้ชาย… ที่เป็นสมาชิกเก่าน่ะนะ พวกมันมัวแต่สนใจเรื่องสมบัติ แล้วก็หลงแต่ในเงินทองจนทำให้ลืมหน้าที่ หน้าที่แค่ไม่กี่อย่างของตนเองที่พวกนั้นต้องทำมาโดยตลอดตั้งแต่วันแรกที่ชั้นรับเข้ามาเพราะพวกเราไม่มีเวลาว่างไปทำ หน้าที่ง่ายๆแค่คอยจัดการเรื่องยาและแบกเสบียงให้พวกเรา หึ…แต่เพราะชั้นไว้ใจ้พวกมัน เป็นยังไงล่ะ เสบียงหมดตอนชั้นที่ 74 เสบียงที่น้องสาวชั้นคำนวณไว้อย่างดีหมดไปเร็วกว่าที่คาดไว้จากการเอาสมบัติมาแทนที่…และหลังจากนั้นก็…หึ ฮ่า ฮ่าๆๆๆๆ!!! ”
ฟิงก้าหัวเราะออกมาด้วยเสียงเย็นยะเยือก มือของเธอเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยเพราะมือนั้นคว้าเอาปืนพกของเธอออกมาพร้อมกับเปลี่ยนสายตาจากตอนแรกที่ดูน่ากลัวอยู่แล้วเป็นสายตาที่เกินกว่าจะบรรยายออกมาได้เป็นคำพูดแต่ที่แน่ๆมันทำให้พวกผู้ชายในตอนนี้ขวัญเสียหมดแล้ว
“ หึหึ อึก…พอๆ หมดเวลาสำหรับเรื่องเก่าๆ ผู้หญิง!! ไปทำความสะอาดปืนของตนเอง ส่วนผู้ชาย!! ต่อจากนี้ฟังแล้วทำตามที่ชั้นพูดชั้นทุกอย่างวันนี้ พวกนายไปนอนเฝ้าทางลงซะ! ”
“ ค่ะ!! หัวหน้า!! ”
“ ครับผม!! ”
กี กึก กึก
“ …นั้นสินะที่ว่าทำไมถึงมีสายตาดุขนาดนั้น ”
ปิ๊บๆ
“ โอ้…เช็คเสร็จแล้ว…หืม ”
ทว่าท่ามกลางการพูดคุยนั้นก็ไม่มีใครได้สังเกตุเห็นเลยว่าบนเพดานที่หลบซ่อนนี้นั้นมีแมลงตัวเล็กกำลังปีนป่ายไปมาอยู่และแมลงนั้นก็เชื่อมโยงไปยังด้านนอกของที่หลบนี้ เชื่อมไปยังคนที่ยืนหลบในเงามืดบนต้นไม้ใหญ่…มาร์
[ ไม่เจอสินะ ในระบบพนักงานไม่มีคนชื่อโซเฟียกับหน้าตาแบบนั้นก็ไม่มีบันทึกไว้อีก แถมคนที่เหลือก็ไม่มีด้วย งั้นแสดงว่าตรงหน้านี้ก็คือพวกคนรวยที่ซื้อปืนเราไปแหงๆ แต่ว่าอืม… อืมมม ยังไงว้าา ปืนนั้นมันลิมิตเต็ตสุดๆนี้หว่าจะซื้อไปทางไหนกันเนี้ยแล้วลงทะเบียน อ๋อ!! ทะเบียนปืน …ชิบหาย!! ไอนั้นมันต้องไปให้ทิเรียตรวจนี้หว่า เห้อออ เอาเถอะ…กดส่ง ปุ๊บ เคร… ]
ปิ๊บๆ
[ ดิชั้นจะนำไปตรวจสอบให้โดยเร็วเจ้าค่ะนายท่าน ]
“ ไม่หลับไม่นอนสมกับเป็นทิเรียจริงๆเลยนะ เอาล่ะทีนี้ก็ได้เวลา ฮึบ กลับจริงๆสักที ”
พอมาร์ได้จัดการส่งข้อมูลภาพที่ได้จากแมลงนั้นไปให้ทิเรียแล้ว เธอก็ตอบกลับมาแทบจะในทันทีทำเอามาร์ถึงกับหลุดพูดความคิดของเขาออกมา แต่ก็ไม่นานหลังจากนั้นเขาลุกขึ้นแล้วเริ่มจะเดินทางกลับไปยังแคมป์ของตนอย่างรวดเร็วด้วยการกระโดดไปบนต้นไม้
“ แต่จากที่ฟังมา…คงได้เจอกันแน่ๆสินะในอนาคต ”
เจ้าตัวพูดออกมาด้วยเสียงที่เบาแสนเบาปนกับรอยยิ้มที่ดูคาดหวังไม่ก็ชั่วร้าย แต่ว่าไออนาคตที่ว่าก็เร็วแสนเร็วเสียเหลือเกินเพราะระหว่างที่กระโดดไปนั้นมาร์ก็สัมผัสถึงอะไรบางอย่างได้และนั้นก็ทำให้เขาหันไปมองแทบจะทันที
[ 7 คน? มายืนล้อมผู้หญิงคนเดียวเพื่ออะไรกันล่ะนั้น? ]
ด้วยความสงสัยจากสัมผัสของตัวเองนั้น มาร์ก็เปลี่ยนทิศทางไปยังตำแหน่งที่ว่าในทันทีและก็เพียงไม่ถึงเสี้ยววินาทีเขาก็มาถึงยังตำแหน่งที่ว่าและมันก็ทำให้เขาได้พบเจอกับหญิงสาวผิวเข้ม ผมสีเงินแซมส้มในชุดเครื่องแบบคล้ายๆกับชุดทหารต่างที่เธอไม่ได้สวมกางเกงลายพรางและไม่ได้ใส่เสื้อยูนิฟอร์มของกลุ่ม เธอสวมเพียงเสื้อกล้ามสีดำกับเวสสีเขียวออกน้ำตาล อย่างไรก็ตามในมือของเธอนั้นคือปืนรุ่นเดียวกันกับคนที่ออกมาจากที่หลบซ่อนของปาร์ตี้วิทดรอกนิคที่มาร์เห็นก่อนหน้านี้ ต่างเพียงมันถูกตกแต่งด้วยสีชมพูเป็นหลัก
“ ดูท่าจะแย่นะนั้น ”
ทว่าในสายตาของมาร์ เธอกำลังถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มคนราวๆ 6 คน โดยคนที่ล้อมเธออยู่นั้นก็ล้วนแล้วแต่ถืออาวุธเอาไว้ครบมือไม่ว่าจะดาบ จะหอก จะค้อน จะมีดก็ตามและมาร์ที่เห็นก็อ่านใจพวกมันได้อย่างไม่ยากเลยว่า ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการปืนกับอุปกรณ์จากหญิงสาว
“ สาวน้อย เธอคงจะเห็นสินะว่าพวกเราน่ะมีมากกว่า อ๊ะๆ! อย่าคิดจะฆ่าพวกเราล่ะ เพราะเจ้า" อุปกรณ์ช่วยเหลือ " นี้จะส่งเธอไปเจอกับอะไรน่ะ ฮ่าๆๆ ทีนี้ก็ยอมส่งทุกอย่างมาแล้วเราจะปล่อยเธอกลับไปแบบไม่ทำอะไรแน่นอน ช่ายย…แน่นอน ”
[ โฮ่? ในหัวอย่างชั่วเลยนะนั้น ปล่อยไปไม่ทำอะไรแน่นอน ถุ้ย ตรงกันข้ามน่ะสิ ]
พวกมันขู่ให้เธอคนนั้นส่งมอบทุกอย่างมาให้โดยจะแลกกับการที่ไม่ทำอะไรและปล่อยให้เธอกลับไปได้ แน่นอนมันเป็นคำโกหกในแบบที่มาร์ก็มองออกได้โดยไม่ต้องใช้สกิล แต่ยังไงก็ดีพวกมันก็พูดถูกในหอคอยนี้ฝ่ายถูกรุมก็ใช่ว่าจะตอบโต้ได้เพราะถ้าเธอลงมือสังหารขึ้นมามันก็จะไปขึ้นว่าเธอฆ่าคนอื่นซึ่งจะนำไปสู่การถูกไต่สวนและอาจจะมีความผิดได้
[ เอาเป็นว่าตอนนี้…ขอดูอะไรดีหน่อยก็แล้วกัน ]
มาร์ที่ยังอยู่บนต้นไม้พอคิดได้แบบนั้นก็เลยนั่งลงพร้อมกับมองดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพราะเขาเห็นว่า หญิงสาวคนนี้นั้นกำลังเก็บปืนของตัวเองไปที่ด้านหลังก่อนจะเอื้อมมือลงไปหยิบเอามีดพกขนาดเล็กที่เหน็บอยู่ตรงเวสออกมาพร้อมกับพูดบ่นด้วยเสียงเซ็งๆที่ทำให้มายิ้มออกมาได้
“ พอมาคิดดูแล้วกระสุนมีค่าเกินไปสำหรับพวกแกจริงๆด้วย ”
“ ฮ่าๆๆๆ! ดูยัยนั้นพูดสิ!! ”
“ ไม่ใช้ปืนแล้วจะใช้มีด เพราะ กระ สุน มี ค่า เกิน ไป มั่นใจดีเนอะฮ่าๆๆ ”
“ เอาน่าๆ ให้มันมั่นใจอย่างงี้แหล่ะ เดี๋ยวตอนจะตายก็คงร้องขอให้เราช่วยเอง ”
“ เอาสิ เอาสิ ไม่ใช่ปืน? มั่นใจดีเนอะ? ”
…
“ สายตานั้น อืมมมม น่านั่งดูขึ้นเยอะ ”
พวกมันต่างหัวเราะเยอะในสิ่งที่เธอทำ อย่างไรเสียเธอนั้นไม่ได้มีสีหน้าเกรงกลัวแต่อย่างใดกลับกันเธอตั้งท่าพร้อมสู้แถมยังมองไปศัตรูด้วยสายตาที่ไม่ธรรมดาเลยสักนิด สายตาที่เหมือนกับกำลังวางแผนอะไรบางอย่างและสายตานั้นก็ทำให้มาร์ถึงกับเอ่ยปากชมออกมา
“ เอ้า ในเมื่อไม่ยอมกันดีๆก็… เอาเลย!! ”
“ อย่าลืมล่ะ จับเป็น จับเป็น!! ”
“ อ่าๆ อ๋อใช่ๆ ยัยนั้นใช้ปืนอะไรนั้นใช่มะ งั้นสู้ระยะประชิดก็โคตรกากเลยอ่ะดิ ”
“ ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่ช่างๆมันเหอะ ”
“ แผนๆ อย่า 1 1 นะเห้ย!! ”
“ เครๆ ”
การปะทะเริ่มขึ้นฝ่ายกลุ่มโจรนั้นตะโกนบอกกันว่าเหยื่อเป็นพวกใช้อาวุธโจมตีระยะไกลยังไงก็สู้คนรุมขนาดนี้ไม่ได้แน่ๆ พวกมันก็ฉลาดพอจะพยายามรุมเข้าไปเลยเพื่อไม่ให้เหยื่อได้สู้แบบ 1 ต่อ 1 เด็ดขาดเพราะถ้าเธอทำได้มันจะทำให้จำนวนที่มากกว่าไม่มีประโยชน์
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ฉึก ฉัวะ!!
“ อ๊ากกกกกกก!! ”
ทว่าอีกฝ่ายก็ประเมินต่ำไป หญิงสาวผิวเข้มผู้นี้วิ่งเข้าใส่ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าซึ่งเป็นคนที่ใกล้ที่สุด และทันทีที่เธอถึงตัวของศัตรูเธอก็ไม่รอช้าเลยที่จะใช้มีดแทงสวนเข้าไปที่ข้อพับอย่างรวดเร็วทำให้ศัตรูล้มลงในทันที อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ซ้ำเพื่อจะฆ่า แต่เธอกลับใช้มีดแทงลงไปที่ข้อศอกทั้งสองข้างอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้มันลุกขึ้นมาได้อีก
“ อึก อย่ามัวแต่เล่นสิวะ!! ”
“ พร้อมกัน!! ”
ฟุบ ฟุบ
อีกฝ่ายที่เจอไปแบบนี้ก็ตกอยู่ในความประหลาดใจที่คนที่ควรจะใช้ปืนสู้กลับมีทักษะต่อสู้ระยะประชิดสูงจนล้มคนที่ตัวใหญ่กว่าได้เร็วขนาดนี้ แต่พวกนั้นก็ไม่ใช่มือใหม่พวกมันวิ่งเข้าหาเธอพร้อมกันอีกหน โดยคราวนี้คือหอกที่พุ่งมาจากทั้งซ้ายและด้านขวา
ควับ
“ หลบเก่งนักนะ!! ย้ากกกกกกกก!! ”
แต่ว่าหญิงสาวก็ไม่ได้จะตกใจเลยสักนิด เธอทิ้งตัวลงกับพื้นปล่อยให้หอกนั้นพุ่งไปยังอีกฝั่งก่อนที่ตัวของเธอเองจะคว้าหอกทั้งสองนั้นไว้ด้วยมือทั้งสองข้างแล้วก็ใช้หอกนั้นเป็นคานให้ม้วนตัวเองขึ้นมายืนอยู่บนหอกทั้งสอง ทว่าการขึ้นมานั้นของเธอก็เจอกับนักดาบที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว เจ้านั้นมันง้างดาบแล้วฟันลงมา
ฟุบ เก็ง!! ฉัวะ!! ฉัวะ!!
“ แขนข้า แขนข้าาาา!! ”
ทว่าแทนที่ดาบนั้นจะฟันลงมาโดน เธอก็ได้ใช้มีดเล่มเล็กๆนั้นปัดป้องดาบขนาดใหญ่ให้มันแฉลบออกไปฟันโดนตัวหอกด้านขวาขาดออกเป็นสองท่อน แน่นอนเธอไม่ได้อยู่เฉยแต่อย่างใด ทันทีที่ดาบนั้นเลื่อนออกไม่โดนเธอแน่ๆแล้ว เจ้าตัวก็พุ่งเข้าใส่ก่อนจะใช้มีดที่ถืออยู่เฉือนเข้าไปในหัวไหล่ซ้ายและขวาของนักดาบอย่างรวดเร็วทำให้หมอนั้นลงไปนอนโอดครวญในทันที
“ ยัยนี้มัน!! ”
“ เออ!! รู้แล้ว!! ”
“ บอกแล้วว่าอย่า 1 1ไงวะ!! ”
“ ใจเย็น ใจเย็น…อย่าวู่วาม ”
ฟุบ ฟุบ ควับ ซุบ
“ อึก… ”
ศัตรูนั้นยังไม่หมด พวกมันยังเหลืออีก 4 คนและด้วยจำนวนเท่านั้นพวกมันก็ตัดสินใจพุ่งเข้าหาเป้าหมายในทันทีโดยทุกคนต่างก็คิดคล้ายกันว่า ห้ามให้ยัยนี้ได้สู้กับใครแบบ 1 ต่อ 1 เด็ดขาด นั้นเองทำให้หญิงสาวเริ่มจะตึงมืออย่างเห็นได้ชัด เธอที่ตอนแรกจัดการศัตรูได้ก็กลายมาเป็นฝ่ายต้องป้องกัน
“ ตอนนี้ ตอนนี้แหล่ะ!! ย้าาากก!! ”
“ เห้ยยย!! อย่าทำอย่างงั้น!! ”
ฉึบ…ครืดดด ฉัวะ
“ อ๊าาาาาาาาก!!! ”
ทว่า 1 ในนั้น ผู้ใช้ค้อนสงครามที่เห็นว่าตนได้เปรียบ ตัดสินใจพุ่งเข้าใส่หญิงสาวอย่างรวดเร็วหวังเผด็จศึก ทว่ามันก็เป็นการเปิดช่องว่างให้เธอเอียงตัวหลบได้อย่างไม่ยากและใช้มีดของเธอปาดเข้าไปที่ใต้รักแร้ข้างขวาทันทีซึ่งจุดนั้นไม่ได้มีเกราะหรืออะไรป้องกันไว้เลย มันทำให้มีดกรีดเข้าไปในเนื้อจากหน้าสุดไปหลังสุดอย่างไม่ยากเย็น และนั้นก็ทำให้ผู้ใช้ค้อนล้มลงหมดสภาพไปโดยปริยาย
“ หอกนำหน้า!! แกเปลี่ยนไปใช้ดาบแล้วกันบนกับซ้ายไว้ เดี๋ยวกูจะกันด้านล่างกับด้านขวาไว้เอง!! ”
“ เออ เออ! ”
“ เข้าใจแล้ว!! ”
ฟุบ ฟุบ ฟุบ ฟุบ
“ นั้นแหล่ะ! ยัยนั้นเริ่มจะถอยแล้ว!! ”
“ อึก…แบบนี้… ”
แต่สำหรับ 3 คนที่เหลือพวกมันมองตากันก่อนจะตัดสินใจวิ่งเข้าใส่อย่างเป็นแบบแผนมากขึ้น หน้าสุดคือหอก ถัดมาคือดาบ 2 คนที่เดิมที 1 ในนั้นคือผู้ใช้หอก พอเจอกระบวนรบแบบนี้ เป้าหมายก็เริ่มจะหาทางไปต่อไม่ได้ เธอรู้ได้ทันทีว่าหากพุ่งเข้าไปสู้กับหอก ก็จะโดนดาบที่อยู่ข้างหลังจัดการได้แน่ๆ และถ้าถอยไปเธอก็จะโดนหอกจัดการซึ่งต่อให้หลบได้ก็จะมีดาบพุ่งมาต่อ ซ้ายขวาเองก็ยากเพราะมันยังอยู่ในแนวของหอก
“ เอาล่ะหมดเวลาดูแล้วแหะ ”
ปุก ปุก ปุก
“ อ๊ากกกก ”
“ อ…อะไรกัน… ”
“ ท ท ทำไมมันถึง ”
ตุบ ตุบ ตุบ
เสียงประหลาดดังขึ้นจากด้านหน้าของเธอ เสียงของบางอย่างที่เธอไม่รู้จัก มันดังขึ้น 3 ครั้งก่อนจะทำให้ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าล้มลงไปนอนกับพื้นอย่างเจ็บปวด และเธอก็ได้เห็นตัวต้นตอของเสียงนั้น เด็กหนุ่มผมดำปลายสีแดงในชุดคลุมตะข่ายสีที่กำลังยืนนิ่งมองมาที่เธออยู่ โดยในมือของเขาเองก็มีปืนขนาดเล็กที่มีท่อยาวสีดำอยู่ตรงปลายกระบอกปืน
แกร็ก
เธอที่ไม่รู้ว่านั้นคือมิตรหรือศัตรูก็ได้เหวี่ยงเอาปืนที่สะพายเอาไว้ด้านหลังมาโดยตลอดออกมาไว้ที่มือของตนเองแล้วก็พร้อมกับยกปืนขึ้นเล็งไปยังทางเด็กชายคนนั้นก่อนจะปลดเซฟตี้อย่างรวดเร็วเตรียมปะทะได้ทุกเมื่อ
ฟุบ
“ โอ๊ะๆ อย่าเล็งปืนมาใส่กันแบบนี้ดิเห้ย… ”
แกร็ก กริ๊ก
ทว่ามันก็ช้าไปเสียแล้ว เด็กหนุ่มตรงหน้าจู่ๆก็เดินเข้ามายืนตรงหน้าของเธอโดยที่เธอไม่ทันจะได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น เขานั้นวางมือลงบนปืนของเธอก่อนจะค่อยๆกดมันลงชี้ไปยังพื้นพร้อมกับปลดแม็กและใส่เซฟด้วยมือข้างนั้นข้างเดียว
ตึก ตึก แกร็ก ฟุบ!
“ เดี๋ยวๆ พึ่งบอกว่าอย่าเล็งมาแล้วจะชักปืนพกขึ้นมาเพิ่อ?? ”
หญิงสาวพยายามจะถอยออกมาแล้วกำลังจะชักปืนพกขึ้นมาเตรียมสู้ แต่เด็กหนุ่มนั้นก็มายืนอยู่ข้างหลังพร้อมกับรับเธอเอาไว้ ทำเอาเธอหันไปมองด้วยความสับสนเป็นอย่างยิ่ง ทว่าเขาก็ยิ้มก่อนจะเอ่ยปากพูดอย่างช้าๆ
“ ใจเย็นๆก่อนนะคุณผู้หญิง ผมไม่ใช่คนเลวหรอกจริงๆนะ!! เนี้ยถ้าผมจะทำก็ทำไปนานแล้วเห็นไหม?? ”
“ อ่า… ”
“ ถ้างั้น ผม! มาร์ ซันเบิร์น! จากปาร์ตี้พาทไฟเดอร์ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ”
คำพูดที่เป็นมิตรนั้นทำให้เธอเหมือนจะใจเย็นลง ยังไงก็ตามเธอไม่ได้เชื่อคำพูดของเขาทั้งหมดทว่าตอนนี้เธอก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการพูดคุยกับเด็กหนุ่มแปลกหน้าคนนี้ที่ตอนนี้กำลังยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าเธอ
“ ชั้นแอช จากปาร์ตี้…ผู้กวาดล้าง ”
แกร็ก
“ โอ้? งั้นเหรอครับ? ”
ตึก ตึก
เธอแนะนำตัวเองอย่างช้าๆด้วยชื่อปลอมๆของตน ก่อนจะที่จะค่อยๆเก็บปืนของตัวเองลงในซองที่ต้นขา ส่วนเด็กหนุ่มตรงหน้าเขาก็ยิ้มก่อนจะถอยหลังห่างออกไปอย่างช้าๆทีละก้าว ทีละก้าวด้วยท่าทางสบายๆ
“ เอาล่ะ นี้ก็ใกล้เช้าแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ อ่า…ยังไงก็ขอให้สนุกกับการพิชิตชั้นที่ 76 อีกครั้งนะครับคุณแอช ไม่สิ ไม่สิ ต้องเป็น “คุณเอล่าจากวิทดรอคนิค” ต่างหากเนอะ? ”
ฟุบ
“ ด ด เดี๋ยวนะ!!!! มัน… ชื่อเรา!! พี่!! ”
ตึกตึกตึกตึกตึก
เขาพูดเช่นนั้นกับเธอก่อนจะค่อยๆจางหายไปพร้อมกับรอยยิ้มนั้นทำเอาเธอต้องตกอยู่ในความกลัว เขารู้ชื่อเธอ เขารู้เป้าหมายของเธอ ทั้งยังหายตัวไปได้ทั้งๆที่อยู่ตรงหน้าแบบนั้น มันทำให้โซเฟียไม่รอช้าที่จะรีบวิ่งกลับไปยังที่หลบซ่อนของปาร์ตี้ในทันที เพื่อรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น
ตึก ตึก ตึก ตึก
“ ทุกคน!! ”
แกร็ก แกร็ก แกร็ก แกร็ก
อย่างไรก็ดีการที่เธอวิ่งมาแบบนั้นมันก็ก่อให้เกิดเสียงดังไปทั่ว ทำให้โซเฟียที่อยู่ในที่ซ่อนต่างบอกกับสมาชิกหญิงทุกคนทำให้พวกเธอต่างหยิบปืนขึ้นมาแล้วก็เล็งไปทางบันไดลงมายังด้านล่าง
“ พี่คะ!! แย่แล้ว!! ”
“ ทุกคนอย่ายิง อย่ายิง พวกเดียวกัน!! ”
ปึง
ทว่าเสียงที่ดังลงมาก็ทำให้โซเฟียรู้ได้ทันทีว่าด้านนอกนั้นคือน้องสาวของเธอ และด้วยคำสั่งของเธอก็ทำให้ทุกคนลดปืนลงก่อนจะที่ไม่นานนักคนที่ตะโกนจะเข้ามาด้านในอย่างเร่งรีบด้วยการพุ่งทะลุผ่านประตูเข้ามา
“ แย่แล้วค่ะพี่!! พี่…อ้าว… ”
“ มาอ้าวอะไรน่ะหะ โวยวายแล้วก็พุ่งเข้ามาแบบนี้น่ะ… ”
เอล่าที่พุ่งเข้ามาก็กระเด็นกระดอนลงจากบันก่อนจะไปหยุดลงที่ด้านหน้าของโซเฟียอย่างพอดีด้วยสภาพที่ดูไม่ได้สักเท่าไหร่ด้วยการนอนหงายอยู่ที่ตรงนั้น แน่นอนว่าคุณพี่สาวที่ยืนดูอยู่ก็ก้มลงมาด้วยสายตาที่เย็นชาๆสุด
“ อย่ามองกันแบบนั้นสิคะพี่! หนูนึกว่าพี่โดนไอเด็กนั้นจัดการไปแล้ว?? ”
“ เด็กนั้น? เด็กไหน?!? ”
“ เห… ”
โซเฟียนั้นยืนงงกับคำพูดของเอล่า ยังไงก็ตามการที่เธอมีอาการสับสนนี้เอง ทำให้เอล่ารู้ได้ทันทีว่าพี่สาวของเธอนั้นคงจะยังไม่รู้เรื่องของมาร์แน่ๆ และก็เพราะแบบนั้นเธอจึงเริ่มเล่าเรื่องที่เธอเจอให้กับพี่สาวของเธอได้ฟัง เรื่องเมื่อราวๆ15นาทีก่อน ตอนที่เธอโดนดักปล้นแต่ก็ถูกช่วยไว้โดยเด็กผมดำปลายสีแดง
“ เอล่า พี่ฟังไม่ผิดสินะว่าคนที่น้องไปเจอมาน่ะคือ…มาร์ ซันเบิร์น ”
ทว่าพอฟิงก้าได้รับรู้ถึงตัวตนอีกฝ่ายมันก็ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกราวกับว่าเธอกำลังเจอสิ่งที่ไม่ได้เจอมาอย่างยาวนานจนแสดงออกมาทางสีหน้าของเธอ
“ ใช่สิคะพี่ มาร์ ซันเบิร์น เด็กวัยราวๆ 19 ปี ผมดำปลายสีแดงแถมยังถือปืนประหลาดที่ยิงไม่มีเสียงด้วยค่ะพี่!! ”
“ โฮ่… ไม่น่าเชื่อว่าชั้นจะได้มีโชคมาเจอกับเทพที่มีชีวิตในที่แบบนี้ ”
“ เทพที่มีชีวิตงั้นเหรอคะ??! ”
“ อ่า…ชายคนแรกที่เอาเด็กๆพวกนี้มาลบล้างความอ่อนแอของพี่ยังไงล่ะ ”
……
MANGA DISCUSSION