“ ทำไมทำสีหน้าอย่างงั้นล่ะเรา? อ่า…คงอยากจะถามอะไรสินะเชิญเลย เชิญเลย ”
ภายในพื้นที่รับรองนักพจญภัยระดับสูง มาร์ที่ได้เห็นว่าชายหนุ่มในชุดเกราะนามว่าคอนเซนเทลที่อยู่ตรงหน้ากำลังตกอยู่ในความสับสนอะไรบางอย่างนั้น เขาก็ถามออกมาด้วยท่าทีสุภาพและเป็นมิตรทั้งๆที่แม้ว่าในใจของเขาจะรู้อยู่แล้วว่าทำไมชายผู้นี้ถึงได้เป็นแบบนี้
“ ก ก ก็…ท ท ท่านมาร์เป็นระดับ S และท่านอคโตเป็นระดับ A ผมก็ ล ล เลยตกใจ… ต ต แต่ว่าถ้าแบบนี้ ผมก็คง… ”
[ เราก็คงเข้าร่วมปาร์ตี้ไม่ได้แน่ๆ… ระดับต่างกันเกินไป ]
คอนเซนเทลพูดออกมาอย่างติดๆขัดๆ ก่อนที่ไม่นานเขาจะนึกขึ้นมาได้ว่า กฎของการเข้าร่วมปาร์ตี้นั้นระดับ S จะรับขั้นต่ำที่ A- เท่านั้น นั้นทำให้เขาจะถามออกไปแต่ดูเหมือนว่าก็คงจะไม่ได้ถามเพราะมาร์ที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้าเป็นการตอบกลับก่อนจะเริ่มพูดต่อพร้อมกับยื่นมือเข้ามาหาเขา
“ อย่าทำสีหน้าอย่างกับจะบอกว่า[ ถ้าแบบนี้ ผมก็คงเข้าร่วมปาร์ตี้ไม่ได้แหงๆเลย ]สิคอนเซนเทล ไอกฎข้อนั้นทางกิลล์ที่นี้เขายกเว้นให้เพราะว่าต่อจากนี้จะเป็นภารกิจพิเศษน่ะนะ ”
“ ภารกิจพิเศษเหรอครับ? ”
ด้วยคำพูดราวกับรู้ใจของมาร์ ก็ทำให้คอนเซนเทลต้องชะงักไปอีกครั้งแล้วเริ่มจะตั้งคำถามขึ้นมาในระหว่างที่เขากำลังลุกขึ้นยืน ทว่าเมื่อได้มองหน้าของมาร์ผู้เป็นระดับ S อีกครั้ง เขาก็รู้ได้ว่าเด็กชายคนนี้ทรงอำนาจและมีข้อมูลมากมายจากกิลล์ ถ้าเขาบอกเช่นนั้นตัวของคอนเซนเทลก็จำต้องเชื่อเช่นนั้น นั้นทำให้เขาตัดสินใจหยุดที่จะสงสัยก่อนจะหันมาสนใจในสิ่งที่เรียกว่าภารกิจพิเศษแทน
“ อ่า ใช่ ใช่ ภารกิจไม่ได้ยากอะไรหรอกก็แค่ เอ่อ…นั้นน่ะ สำรวจหอคอ… สำรวจดันเจี้ยนให้ครบทุกที่ก็เท่านั้นเอง ”
“ เอ๋!!!! จะเป็นไปได้เหรอครับ!! ภารกิจระดับนั้นมันเหมือนกับถูกส่งไปตายเลยนะครับ!? ”
กึง!! หมับ!!
“ แก…กำลังจะบอกว่าท่านมาร์ไร้ความสามารถอย่างงั้นน่ะเหรอ? ”
เมื่อได้รู้ถึงภารกิจ คอนเซนเทลก็หน้าซีดทันที ภารกิจที่ให้ไปเสี่ยงตายสำรวจดันเจี้ยนลึกลับทั่วทั้งทวีปยูโทเปีย ดันเจี้ยนที่คร่าชีวิตนักพจญภัยระดับสูงไปแล้วอย่างน้อยๆก็ 100 กว่าคน ถ้าเทียบเป็นระดับทั่วไปก็คงเป็นหมื่นแล้ว ทว่าการพูดแบบนั้นก็ดันไปทำให้คนคนหนึ่งไม่พอใจเป็นอย่างมาก จนเดินมากระชากคอเสื้อและยกร่างที่หุ้มไปด้วยเกราะให้สูงขึ้นจากพื้นด้วยมือเพียงข้างเดียว…อคโต
“ อ อ ออค ป ป เปล่า เปล่าครับ! ผ ผ ผมก็แค่… ”
“ เห้ออ… วางเขาลงก่อนเถอะอคโต ”
“ ค ค ค่ะ!! ”
ตึง
ยังไงก็ตามมาร์ที่อยู่ตรงนั้นก็ได้เข้ามาห้ามก่อนที่ทุกอย่างจะวุ่นวายไปมากกว่านี้ และอคโตที่ได้ฟังคำสั่งของนายท่านของเธอก็ปล่อยมือในทันที ทิ้งให้คอนเซนเทลตกลงสู่พื้นอย่างรุนแรงเพราะน้ำหนักของชุดเกราะของเขาจนเกิดเป็นเสียงดังไปทั่ว ทว่าก็ไม่มีใครเข้ามาห้ามหรือล้อมดูเหตุการณ์แต่อย่างใดเนื่องจากเหตุการณ์ทะเลาะกันของนักพจญภัยนั้นมีขึ้นอยู่ตลอดทุกคนก็เลยชินกันไปหมดแล้ว หากจะเข้ามาก็คงตอนที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะฆ่ากันเท่านั้นนอกนั้นไม่เป็นไร
“ ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะ เธอค่อนข้างจะใจร้อนเวลามีคนมาพูดอะไรเสียๆหายๆเกี่ยวกับผมน่ะ เอ้าลุกขึ้นมาสิ ”
“ ค ค ครับท่านมาร์ ฮึบบ…?? ขอบคุณครับ แต่ว่ายังไงผมเองก็ผิดที่พูดออกไปแบบนั้นทั้งๆที่ท่านเป็นถึงระดับ S แท้ๆ ”
มาร์ดึงตัวของคอนเซนเทลขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าคราวนี้คอนเซนเทลก็ต้องประหลาดใจกับแรงของมาร์ แรงจากร่างเล็กๆที่จัดว่าเตี้ยกว่าเขามาก ไหนจะกล้ามเนื้อที่ดูบอบบางราวกับเป็นหญิงสาว สิ่งเหล่านั้นไม่น่าจะมีแรงดึงให้เขาลุกขึ้นมาได้ด้วยมือเดียวแน่ๆ แถมการดึงนี้ก็ทำให้ตัวของคอนเซนเทลรู้สึกเหมือนกับว่าร่างเขาเป็นเพียงก้อนหินไม่ก็เศษกระดาษที่ถูกยกขึ้นด้วยฝ่ามือขนาดยักษ์
“ น่า น่า ถือว่าหายกัน โอเคนะ เอาล่ะทีนี้เข้าเรื่องเลยละกัน สรุปจะร่วมสำรวจดันเจี้ยนด้วยกันหรือว่าจะถอนตัวล่ะคอนเซนเทล? ”
เด็กชายตรงหน้าถามอีกครั้ง คำถามที่จะชี้อนาคตของคอนเซนเทลและด้วยการยื่นโอกาสเข้ามานี้ประกอบกับจดหมายที่นำพาให้เขาได้มาพบ เจ้าตัวก็ไม่ช้าเลยที่จะตอบกลับอย่างผู้ศรัธราในโชคชะตาจะตอบ
“ ไปครับ แม้ว่าผมจะทำอะไรไม่ได้มากอย่างน้อยก็จะไม่เป็นตัวถ่วงแน่นอนครับผม!! ”
“ ดีๆ ยินดีต้อนรับอีกครั้งนะ อืมมม ต่อจากนี้ก็ไปลงทะเบียนปาร์ตี้แล้วก็เริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ?? ”
“ อ๊ะ!! จะเริ่… อ่าา อืมม เข้าใจแล้วครับ ”
มาร์ที่ได้รับการตอบตกลงแล้ว เขาก็ยิ้มพร้อมกับมองอคโตก่อนจะพยักหน้าให้สัญญาณเธอ ทำให้อคโตก้มหัวลงแล้ววิ่งตรงไปยังเค้าเตอร์แล้วก็จัดแจงเอกสารที่ต้องใช้ทั้งหมดร่วมกันกับวัลคีย์ที่ลงมือจัดงานนี้ด้วยตัวเอง ก็แหงล่ะ ถ้าให้คนอื่นมาทำก็คงไม่ได้ดั่งใจของเธอแล้วก็เขาคนนั้นแน่ๆ ส่วนทางด้านคอนเซนเทลที่ตอนแรกจะถามขึ้นมา ก็หุบปากของตัวเองแล้วก็ได้แต่พูดรับทราบไปแบบนั้น
“ ระหว่างรอลงทะเบียนให้เสร็จ เรามาคุยเรื่องหน้าที่ของนายกันดีกว่านะ ”
“ ครับผม ”
ในระหว่างที่อคโตไปจัดการในส่วนของเธอนั้น มาร์ก็ได้เชิญให้คอนเซนเทลนั่งลงที่โซฟาก่อนที่ตัวของเขาจะนั่งลงที่ข้างๆแล้วก็เริ่มรินชาที่ยังร้อนๆให้กับอัศวินหนุ่มอย่างสวยงามและก็เริ่มพูดไปพร้อมๆกัน พูดถึงสิ่งที่คอนเซนเทลต้องทำเมื่อเข้ามาในปาร์ตี้
“ ตำแหน่งในปาร์ตี้ทั่วไปก็อย่างที่เห็นนะผมเป็นหัวหน้า ส่วนอคโตจะจัดการงานเอกสารกับเงินให้ แต่ว่าเรื่องเงินนี้ไว้ได้แล้วค่อยมาคุยกัน ส่วนตำแหน่งในตอนต่อสู้นั้นไม่ยากเลย ผมจะรับหน้าที่แนวหลังคอยซัพพอร์ตให้ ส่วนอืมมม อคโตเธอจะเป็นแนวหน้าร่วมกันกับนายนะ ต่างกันที่เธอจะเป็นดาบ ส่วนนายจะเป็นโล่ เค๊? ”
“ หมายความว่าผมมีหน้าที่ปกป้องสินะครับ ”
“ ว่างั้นก็ได้ อ๋อ! ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะคอยเสริมพลังให้ดังนั้นเรื่องความเจ็บปวดไม่มีแน่นอน ”
“ อ่า… ถ้าแบบนั้นผมก็สบายใจขึ้นมาได้บ้างล่ะมั้งครับ ฮ่าๆๆ ”
“ นั้นสินะ แล้วก็งานตอนไม่ได้ต่อสู้ก็ไม่มียากหรอก แค่วาดรูปกับบันทึกเรื่องราวของพวกเราก็พอเนอะ? ”
“ ถ้างานนั้นก็สบายๆเลยครับ ผมถนัดงานบันทึกกับวาดรูปอยู่แล้วไว้ใจได้เลยครับท่านมาร์ ”
“ โอ้ ขอบใจมากนะ แล้วก็ไม่ต้องเรียกท่านมาร์หรอก เรียกมาร์ก็พอ เรียกแบบท่านๆนี้มันรู้สึกแปลกไงก็ไม่รู้อ่ะนะ ”
ทั้งสองคนคุยกันอย่างสนิทสนม พร้อมกับจิบชาไปด้วยนานกว่า 10 นาที โดยระหว่างที่พูดคุยนั้นมาร์ก็สังเกตุเห็นได้ว่าตัวของคอนเซนเทลนั้นค่อนข้างจะไม่ถือตัวแม้เขาจะเป็นอัศวินก็ตาม อย่างไรก็ดีอคโตนั้นกำลังเดินมาทางที่เขาอยู่ และมาร์ก็รับรู้ถึงการมานั้นได้ ทำให้เขาลุกขึ้นแล้วหันไปมองยังอคโต
“ เสร็จแล้วเหรอ? ”
“ ค่ะท่า… ค่ะมาร์ ตามที่ได้สั่… ตามที่ตกลงไว้ปาร์ตี้ของเราจะชื่อว่า Pathfinder ที่มีสมาชิกแบบ 6 คนค่ะ ”
“ 6 คน? ”
คอนเซนเทลมองไปรอบๆพร้อมกับพยายามหาสมาชิกอีก 3 คนที่เหลือเพราะสิ่งที่เขาได้ยินนั้นมันขัดกับสิ่งที่เห็นอย่างชัดเจน ส่วนมาร์เองก็เดินเข้าไปหาอคโตแล้วรับเอกสารยืนยันการตั้งปาร์ตี้ไว้ก่อนจะทำท่าทีเป็นใส่ในกระเป๋าที่จริงๆแล้ว ด้านในคือความมืดสีดำที่ดูดกลืนเอาเอกสารเข้าไปเก็บเอาไว้
“ อืม 6 คนแหล่ะ แต่ตอนนี้มีแค่ 3 ล่ะนะ ไม่สิ 4 คน บังเอิญว่าอีกคนดันติดงานน่ะ เห็นว่าถ้าเสร็จแล้วก็จะรีบตามมาทันทีเลย ”
“ อ๋อ แบบนั้นเองสินะครับ เห้ออ ผมก็นึกว่าจะไปกันแค่ 3 คน ”
“ ไม่หรอก จริงๆ สอ… อ่าา ไม่หรอกภารกิจแบบนี้ 4 คนขึ้นไปเท่านั้น ไม่งั้นคงไม่รอดหรอก ”
“ นั้นสิครับ ขนาดทีมระดับ 36 คน ยังไปกันไม่รอดเลยนี่ครับ ”
“ ก็นะ…เอาล่ะอย่าเสียเวลาแล้วไปกันเลยดีกว่า ”
มาร์เริ่มเดินออกไปในทันทีมุ่งตรงไปยังทางลงใต้ดินแล้วก็ลงไปยังข้างล่าง โดยที่อคโตกับคอนเซนเทลก็ตามไปติดๆ อย่างไรก็ตามระหว่างที่เดินไปนั้นอคโตก็แอบยิ้มอยู่ตลอดเพราะว่าเธอที่ตั้งใจฟังนายท่านตลอดเวลานั้นก็สังเกตุได้ว่า ตอนที่เขากำลังพูดเกือบจะหลุดปากออกมาในทำนองที่ว่า [ “ ไม่หรอก จริงๆ สองคนก็พอแล้วที่เอามาเพิ่มเพราะไม่งั้นลงดันไม่ได้ก็เท่านั้นเอง ” ]
“ ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ทางลงดันเจี้ยนรหัส ศูนย์หนึ่ง จะลงไปข้างล่างด้วยกันทั้ง 3 คน… สินะคะ อืมม ไม่ทราบว่าจะต้องการรับอุปกรณ์ช่วยเหลือไว้หรือเปล่าคะ? ”
พนักงานสาวถามเช่นนั้นทันทีที่เห็นทั้ง 3 คน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เธอจะถามเพราะการจะลงดันเจี้ยนในทวีปยูโทเปียยังได้มีกฎเพิ่มเติมไว้ด้วยว่า [ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ปาร์ตี้หรือทีมใดจะลงไปต้องมีสมาชิกรวมอย่างน้อย 4 คน อย่างไรก็ตามหากต่ำกว่านั้นทางเราก็มิได้ห้ามลงแต่อย่างใด ]
ทั้งนี้นอกจากเรื่องจำนวนของคนที่ลงไปแล้ว ยังมีอีกเรื่องคืออุปกรณ์ที่กิลล์ได้ว่าจ้างให้ยูโทเปียออกแบบและผลิตให้เพื่อใช้มันในการออกสำรวจในดันเจี้ยน โดยสิ่งนั้นถูกเรียกว่า “ อุปกรณ์ช่วยเหลือรุ่น VIII ” ชื่อง่ายๆคือ “ อุปกรณ์ช่วยเหลือ ” พวกมันคือสิ่งที่เต็มไปด้วยความสำคัญต่อการสำรวจของเหล่านักพจญภัย
อุปกรณ์นี้มีหน้าตามากมายหลายแบบ ทั้งแหวน สร้อยคอ กำไล ต่างหู โดยมันมีหน้าที่คือการระบุว่าผู้สวมใส่ตายหรือไม่ หรือหลงอยู่ที่ใด รวมทั้งยังคอยสำรวจแผนที่ด้านในให้อีกด้วย กระนั้นก็ดีรุ่นใหม่ที่ออกมาอย่างตัวปัจจุบันมีความสามารถเสริมคือ วาป วาปส่งคนที่สวมใส่ขึ้นมายังบนดินในทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกฆ่า อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ทำงานแบบอัตโนมัติ มันจะทำงานก็ต่อเมื่อ เอ่ย “ Save Word ” ที่ตั้งค่าไว้ เช่น “ แม่จ๋าช่วยด้วย ” “ ไม่นะ หนูไม่อยากตาย ”
กระนั้นก็ดีพลังที่ยิ่งใหญ่ย่อมมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ นั้นคือการจะวาปขึ้นมานั้นจะวาปมาเฉพาะร่างของผู้สวมใส่กับอุปกรณ์ที่ที่นำติดตัวลงไปเท่านั้น ของอย่างอื่นที่ถูกพบในดันเจี้ยนจะไม่สามารถเอาออกมาได้เว้นเสียแต่จะเช่ารุ่นพรีเมี่ยมที่มีฟังก์ชั่นเอาของออกมาด้วยแต่ก็ได้มากสุดสุ่มที่ 1 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แถมของที่จะเอาออกมาก็สุ่มอีก ยังไงก็ตามมันก็เป็นฟังก์ชั่นที่นักพจญภัยหลายต่อหลายคนเลือกจ่ายเพิ่มอยู่ดี
“ งั้นผมขอแบบธรรมดาอันนึงละก… ”
คอนเซนเทลเขาไม่เคยใช้มัน แต่ก็อยากจะลองใช้เพราะราคาที่ต้องจ่ายก็ไม่ได้แพงมากเพราะเป็นสิทธิพิเศษของนักพจญภัย ไหนการได้ใช้มันก็เป็นเหมือนเครื่องยืนยันว่าเขาเคยลงไปนั้นดันเจี้ยนที่แสนจะอันตรายนี้ ทว่าทางด้านของมาร์กับอคโตนั้นต่างออกไปและมาร์ก็เป็นคนพูดออกมา
“ ไม่เป็นไรครับ พวกเราไม่ใช้หรอกครับ ขอบคุณมากสำหรับข้อเสนอนะครับ ”
“ เอ๋!! ถ้าแบบนั้นมัน?!? ”
คำตอบของมาร์ทำเอาคอนเซนเทลหันมาถามเลยทีเดียว ส่วนพนักงานที่ดูแลยืนงงไปชั่วครู่เลยด้วย เพราะตลอดการทำงานมานั้นพนักงานในกิลล์มักจะเจอคนขี้งกไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือมาก็มาก แต่ว่าพวกคนตรงหน้าที่เป็นประชาชนจากยูโทเปีย น่าจะมีเงินเยอะแต่กลับไม่ใช้แบบนี้มันผิดปกติ ยังไงก็ตามพนักงานก็ไม่มีสิทธิไปยัดเยียดให้กับนักพจญภัย
“ ค่ะ 3 ท่านไม่รับอุปกรณ์ช่วยเหลือนะคะ ยังไงก็ขอให้ระวังตัวไว้ตลอดนะคะ เชิญค่ะ ”
แอ๊ดดดดดด
อคโตวางเงินค่าเข้าให้กับพนักงานสาวและประตูก็เปิดออกพร้อมกันนั้นมาร์ก็เดินลงไปโดยไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด เช่นกันกับอคโตที่อยู่ด้านหลังเธอก็ตามลงไปติดๆ ก่อนที่คอนเซนเทลจะได้สติและรีบวิ่งตามลงไปในทันทีสู่ทางเดินยาวที่จัดเรียงสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ระเบียบ เรียบร้อย สะอาดและสว่าง
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก
“ ไม่มืดเลยนะครับ นึกว่าจะเป็นแบบพวกถ้ำที่มีมอนสเตอร์ซะอีก สมกับคำบอกเล่าเลยแหะ ”
“ อืมมม นี้น่ะไม่ใช่รูปลักษณ์จริงๆหรอก ”
“ ครับ?? ”
และก็เพียงไม่นานเลยที่ทั้งสาม จะลงมาถึงยังชั้นแรกของหอคอยนี้ คอนเซนเทลก็ได้พบเห็นกับสิ่งที่เขาไม่คาดคิดว่าจะมีอยู่ในนี้ สถานที่ที่ราวกับเป็นต่างโลก สถานที่ที่เกินกว่าจะเชื่อได้ว่าเป็นจริงภาพของทุ่งหญ้ากว้างขวางสีเขียวที่เต็มไปด้วยดอกไม้มากมาย และที่สำคัญเหล่ามอนสเตอร์ทุกตัวในสายตาของเขานั้น…มันไม่เหมือนมอนสเตอร์เลย
“ ไอตัวเล็กๆกลมๆที่วิ่งกันนั้นมัน…?? ”
“ อ๋อ นั้นน่ะเรียกว่า…อะไรนะ อคโต? ”
“ แฮมสเตอร์ค่ะ มอนสเตอร์ประเภทสี่ขา มีหลากหลายแบบตัวขาวที่ถูกเรียกว่า White Winter , ตัวขนาดไม่ใหญ่มากแต่นิสัยดุ เรียกว่าแคมเบลค่ะ ”
“ เอ่อ… รู้เยอะสมกับเป็นอคโตเลยนะ ”
“ ค ค ค่ะ… ขอบคุณค่ะ ”
……
MANGA DISCUSSION