ครืนนน ซ่าาา ครืนนนน ซ่าาา
เวลาผ่านไปเป็นเดือน และวันนี้ก็เหมือนเดิมอีกเช่นเคยกองเรือใหญ่หลายสิบลำได้เดินทางมาถึงยังบริเวณด้านนอกของทวีปยูโทเปียและผู้คนที่ได้เห็นทวึปก็ต้องตะลึงกับภาพตรงนั้น
“ แบบนี้เองสินะครับท่านฟารุนถึงได้ให้พวกเรามาถึงยังที่นี้ ”
“ อ่า ตอนแรกชั้… เราก็นึกว่าให้มาเอาความลับของเรือเหล็กพวกนั้นกลับไป แต่ดูท่าคงจะมากกว่านั้นแล้วล่ะนะ ”
ภาพตรงหน้านั้นน่าตกใจกว่าภาพเรือเหล็กทั้งหลายที่กำลังล้อมและนำทางเรือสำเภาทุกลำอยู่ เมืองตรงหน้านั้นมีกำแพงสีเทาขนาดใหญ่ขวางกั้นไว้จนมองไม่เห็นข้างในนอกไปจากตึกอาคารสูงที่สูงขึ้นมากว่ากำแพงนั้น
และนอกกำแพงเองก็มีเมืองที่เป็นระเบียบทำจากหินและปูน อีกทั้งยังมียานพหนะประหลาดกำลังวิ่งไปมาระหว่างเมืองกับกำแพงหรือไม่ก็วิ่งหายเข้าไปในป่า
สิ่งเหล่านั้นล้วนมีวิทยาการที่ล้ำหน้ากว่าเมืองใหญ่ๆหรือแม้แต่สถานที่ที่พวกเขาทั้งหลายจากมาอย่างมาก ทั้งตัวสถาปัตยกรรม ทั้งวิศวกรรม ทั้งหมดอาจจะพูดได้ว่าที่ด้านนอกนั้นยังไม่มีที่ใดมีได้ขนาดนี้
ซ่า ซ่า ซ่า ซ่า ซ่าาา
“ พวกตรวจสอบมากันแล้วสินะ ทุกคนเตรียมตัว… ”
อย่างไรก็ดีพวกเขาที่อยู่บนเรือลำหนึ่งในกองเรือนั้น มันเป็นเรือที่แตกต่างจากเรือลำอื่น มันเป็นเรือที่ดูมีภูมิฐานมากที่สุด และคนบนนั้นเองก็เช่นกัน แน่นอนว่าการมีเรือมาทุกครั้งก็ย่อมต้องมีการตรวจสอบเป็นปกติ กองเรือขนาดเล็กหลายสิบลำของยูโทเปียได้ออกจากฝั่งแล้วมุ่งตรงเข้าหาเรือทุกลำไม่เว้นแม้แต่เรือหรูลำนี้
กึง กึก กึก กึก
“ พวกเรากองทหารรักษาชายฝั่งของยูโทเปีย ขอเข้าตรวจสอบเรือลำนี้ตามกฎหมายของพวกเรา หากไม่ให้ความร่วมมือก็ขอเรียนเชิญให้กลับออกไปครับ! ”
ทหารนายหนึ่งในชุดประหลาดที่พวกคนบนเรือไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นชุดที่เป็นลายโทนสีฟ้ามากมาย ที่ทำให้ทหารเหล่านี้ถ้ามองดูผ่านๆก็จะพรางไปกับท้องทะเลที่อยู่ด้านหลังพวกเขา
อย่างไรเสียเมื่อทหารคนนั้นพูดจบ พวกเขาก็กระจัดกระจายเดินเข้าไปในตัวเรือแล้วไล่คนที่ยังอยู่ใต้ท้องเรือขึ้นมาพร้อมกับบังคับให้ทุกคนเข้าแถวเพื่อเตรียมรับการตรวจจากกลุ่มคนที่มาพร้อมกับทหาร กลุ่มชายหญิงในชุดสีดำที่เป็นเครื่องแบบหรูหรา พวกนั้นในมือต่างถือกล่องประหลาดเอาไว้ ซึ่งคนที่เข้ารับการตรวจสอบจะต้องวางมือไว้บนกล่องนั้นทุกคน
[ เครื่องช่วยตรวจสอบประวัติสินะ ก็เอาสิ…พวกเราฝังอุปกรณ์เวทย์มนต์สร้างประวัติปลอมไว้ในร่างกายกันหมด ตรวจยังไงก็ไม่เจอประวัติแดงหรอก ถ้ามีปัญหาก็ใช้สักโกลล์แก้ปัญหาก็ได้ล่ะนะ ]
ใช่…กลุ่มคนเหล่านี้นั้น มีวิธีป้องกันไม่ให้เครื่องตรวจประวัติอาญากรตรวจสอบพวกเขาได้ อีกทั้งพวกเขาก็ฝึกทุกอย่างเพื่อให้สามารถตอบคำถามหรือตอบโต้อย่างไม่เป็นพิรุธได้อีกด้วย ทว่าระหว่างที่รอเข้ารับการตรวจสอบอยู่นั้น
“ ทหาร!! พาผู้กระทำความผิดรายนี้เข้าห้องขังฐานพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่!! ”
“ ค่ะท่านผู้ตรวจการ! ”
“ อย่า อย่านะ อย่าาาา!! ”
[ ใช้โกลล์แก้ปัญหาไม่ได้… ชิ เจ้าพวกนี้มันไม้แข็งสินะ ]
ตามที่เห็น มีบางคนพยายามจะขอผ่านไปด้วยการจ่ายสินบน แต่ว่าก็ต้องถูกกลุ่มคนในชุดดำจับส่งไปยังห้องขังที่เรือลำเล็กด้านล่างนั้น ไปพร้อมกับสัมภาระของพวกเขา และก็ไปในฐานะอาชญกรเสียด้วย แต่นอกจากเรื่องนั้น…
ตึก ตึก ตึก ตึก
“ ท่านผู้ตรวจการครับ!! ไม่พบสิ่งผิดปกติครับผม!! ”
“ อ่า ขอบใจนะ ”
“ ครับ!! ”
[ มีตรวจใต้ทางเรือด้วยสินะ… สมกับเป็นท่านฟารุน นี้สินะทำไมถึงไม่อนุญาตให้พวกเราเอาของอันตรายมาด้วย ]
พวกทหารที่ลงไปตรวจได้กลับขึ้นมาพร้อมกับรายงาน ทำให้หลายคนบนเรือรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่พวกกลุ่มคนที่ว่า ทำให้ตอนนี้คนที่เหลือและไม่ได้ทำผิดอะไรก็ได้ต่อแถวเพื่อรอรับการตรวจสอบกันต่อ
การตรวจนั้นเป็นไปได้อย่างเรียบร้อย คำถามกับเครื่องประหลาดไม่พบคนมีปัญหาสสักราย จนกระทั่งมาถึงคนกลุ่มนั้น กลุ่มที่เป็นวอร์บีสต์ทั้งกลุ่ม พวกเขาสวมชุดดำอย่างเป็นระเบียบโดยหัวที่นำมาเป็นหนุ่มหล่อที่คอยจับตามองทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น เขามีผมสีดำยาวและหูของแมว ทั้งเขาเองก็ยังมีดวงตาสีดำนัยตาสีแดงเลือด
รินรินเท ชายหนุ่มคนนั้น…
“ คุณ…รินรินเท ก่อนอื่นยื่นแขนมาด้วยค่ะ ”
“ ครับ ”
ติ๊ด… ติ๊ด… ติ๊ด…
ชายผู้นี้ยื่นมือออกมา และผู้ตรวจการสาวที่อยู่ตรงหน้าก็เอาสายรัดจากกล่องประหลาดนั้นติดเข้ากับแขนของเขา สายที่มีทั้งสีแดง สีเขียว สีฟ้าซึ่งทันทีที่มันติดตั้งแล้วเครื่องประหลาดก็ทำงานทันที มันเริ่มแสดงเส้นความถี่เป็นเส้นตรงนิ่งๆบนหน้าจอสีเขียวบนกล่องนั้น พร้อมกับเสียงเบาๆที่เป็นจังหวะอย่างพอดี
“ คำถามแรกนะคะ คำถามถัดไป คุณรินรินเทกะจะมาอยู่ที่นี้อย่างถาวรหรือเปล่าคะ? ”
“ ไม่ครับ ”
ติ๊ด… ติ๊ด… ติ๊ด…
“ ค่ะ งั้นคำถามถัดไปนะคะ คุณรินรินเทมีจุดประสงค์อะไรที่มายังที่นี้งั้นเหรอคะ? ”
“ มาหางานทำเพื่อส่งเงินกลับไปที่บ้านเกิดน่ะครับ ”
ติ๊ด… ติ๊ด… ติ๊ด…
“ ถ้าเช่นนั้นคุณรินรินเทคิดว่าจะอยู่นานสักเท่าไหร่กันเหรอคะ? ”
“ จนกว่าจะมีเงินพอให้ที่บ้านตั้งตัวได้ครับ ”
ติ๊ด… ติ๊ด… ติ๊ด…
“ เห… ถ้าเช่นนั้นคำถามถัดไปเลยนะคะ คุณคิดว่าการมาอยู่ที่นี้จะก่อปัญหาอะไรให้พวกเราหรือเปล่าคะ? ”
“ ไม่ครับ ไม่มีทางครับ ”
ติ๊ด… ติ๊ด. ติ๊ด…
“ อืม…? งั้นคำถามสุดท้ายนะคะคุณรินรินเท คุณเป็นสปายจากประเทศ หรือรัฐใดหรือเปล่าคะ? ”
“ … ไม่ครับ ”
ติ๊ด… ติ๊ด… ติ๊ด…
“ เรียบร้อยค่ะ ยินดีต้อนรับสู่โยโทเปียและเชิญรับสายรัดสีแดงแล้วก็ไปรอตรงหัวเรือได้เลยนะคะคุณรินรินเท ”
“ ขอบคุณมากครับ ”
รินรินเทตอบคำถามทุกอย่างโดยไม่มีปัญหาอะไร เครื่องนั้นตัวรินรินเทไม่อาจรู้ได้ว่ามันทำงานอย่างไรแต่ตอนนี้เขาก็รอดมาแล้วและรับสายรัดสีแดงไว้ก่อนจะเดินไปรอตามที่ผู้ตรวจการบอก
ซึ่งจริงๆแล้ว เครื่องนี้มันคือจับเท็จที่อาศัยความผิดปกติของชีพจรของผู้ถูกตรวจ มันจะจับอัตราการเต้นของหัวใจที่เป็นพื้นฐานสักพักก่อนจะตั้งแค่แล้วเริ่มตรวจหาการฝืนของร่างกายเมื่อโกหก ซึ่งทันทีที่มีการโกหกเกิดขึ้นความถี่ของเครื่องที่วัดได้ก็จะแกว่งเป็นพิเศษทำให้ทราบได้ว่าการพูดตอบออกมานั้นเป็นเรื่องที่อาจจะโกหกก็ได้
อย่างไรก็ดีเหล่าผู้ติดตามของรินรินเทก็ผ่านมาได้อย่างไม่ยากนั้น เพราะทุกคน…ฝึกมาแล้ว ฝึกจนการโกหกก็เป็นเหมือนการพูดจริงของพวกเขา ทำให้ทุกคนได้รับสถานะ [คนนอก] และต้องสวมสายรัดคอสีแดงกันหมด
“ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ยูโทเปีย ”
หลังจากนั้นทหารกับผู้ตรวจการก็ได้ลงจากเรือและออกเรือกลับไปที่ฝั่งทันที ส่วนพวกคนที่ได้รับการตรวจขั้นต้นแล้วก็ได้เดินทางต่อไปยังชายฝั่งตรงหน้าด้วยเรือสำเภา
ครืนนน ซ่าาา กึกึกึกึกึ กึงง
“ สมอลงแล้ว ต่อจากนี้ใครจะไปที่ฝั่งก็เชิญใช้เรือเล็กที่ด้านข้างเข้าไปได้เลยนะ ”
“ อ่า เข้าใจแล้วล่ะ ขอบคุณมากนะกัปตัน ยังไงผมก็ไปก่อนนะดูแลตัวเองด้วยล่ะ ”
“ คร้าบ คร้าบ ยังไงก็พยายามกู้ชื่อเสียงของตระกูลให้ได้ล่ะคุณรินรินเท ”
รินรินเทที่ได้บอกลากัปตัน เขากับผู้ติดตามหลายสิบคนก็ได้ใช้เรือขนาดเล็กพายเข้าไปยังชายฝั่งใช้เวลานานหลายต่อหลายนาที ทว่ายิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งเห็นชัดกำแพงสีเทานั้นมันใหญ่จนรินรินเทรู้ได้เลยว่า…
“ พวกเราลอบข้ามไอกำแพงนั้นไปไม่ได้แน่ๆล่ะนะ ”
“ นั้นสิครับท่านรินรินเท สูงขนาดนั้นถ้าปีนขึ้นไปร่วงลงมาแน่ๆ ”
“ ถ้าเราขุดลอบ… ไม่ได้แหงๆ กำแพงสูงแบบนั้นก็ต้องฝังฐานลงไปใต้ดินลึกน่าดูเลยล่ะ "
“ ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะพวกแก ตอนนี้หาที่พักก่อนก็แล้วกัน ”
เพราะแบบนั้นพวกเขาจึงต้องเริ่มสำรวจจากจากการหาที่พักก่อน ซึ่งทันทีที่ไปถึงฝั่งและเข้ามาในเมืองได้ พวกเขาก็ใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมงแล้วก็พบว่า
“ เต็มหมดแล้วแหะ… ”
“ ขอโทษด้วยครับท่านรินรินเทพวกเราหาไม่ได้จริงๆครับ ”
“ เอาเถอะ ยังไงช่วงนี้ก็นอนกันริมป่าก่อนแล้วกัน ขืนกลับไปที่เรือก็จะวุ่นวายอีก ”
คืนนั้นเองพวกเขาจึงต้องอาศัยเต็นท์นอนที่ริมป่า โดยตลอดทั้งคืนก็ไม่ได้มีแค่พวกเขา ผู้คนที่ไม่มีที่พักเองก็มาอยู่ด้วยเช่นกัน ทว่าตลอดทั้งคืนก็มีพวกทหารเดินลาดตระเวนกันตลอดทำให้พวกเขาไม่สามารถไปไหนมาได้อย่างสะดวกนัก
…
วันถัดมาพวกเขาก็ได้เข้าไปในเมืองอีกครั้งเพื่อสำรวจหาทางที่จะได้เข้าไป แล้วก็พบว่าการจะเข้าไปนั้น จำต้องเลื่อนไปเป็นระดับ [ผู้ได้รับการตรวจสอบ] และใช้เจ้าสิ่งนั้นเป็นใบเบิกทางเข้าไปยังหลังหลังกำแพงหรือไปยังเขต [01]
“ ตามที่รู้กันมา พวกเราคงไม่สามารถเข้าไปในเมืองได้ตราบใดที่ยังไม่มีสายรัดของ [ผู้ได้รับการตรวจสอบ] ดังนั้นตอนนี้คงต้องแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเพื่อให้การทำงานของพวกเร็วขึ้น กลุ่มแรกนำโดยเราซึ่งจะใช้วิธีการเข้าไปตามปกติ คือต้องแลกกับการรอสอบสัมพากษ์และการวางเงินประกันรายได้ว่าพวกเรามีเงินทุนมากพอจะอาศัยในเมืองนั้น และกลุ่มที่สองคือการหาทางเข้าไปด้วยวิธีอื่นไม่ว่าจะเดินไป หรืออะไรก็ตามแต่อย่าลืมถ้าถูกจับได้…ปิดปากให้สนิทล่ะ ”
“ ครับท่านรินรินเท ”
“ ค่ะ รับทราบแล้วค่ะ ”
[ เห้อ…ถ้าไม่ติดว่าพวกเรามีพันธะล่ะก็ คงสมัครเป็นนักพจญภัยแล้วใช้ทางนั้นเข้าไป…ชิ… ]
อย่างไรก็ดีมันมีวิธีนึงที่ง่าย แต่ไม่มีทางทำได้ การเป็นนักพจญภัย เพราะว่าทันทีที่พวกเขาสมัครความลับที่ถูกปิดบังไว้ก็จะถูกเปิดเผยทันทีและจะนำอันตรายมาสู่พวกเขา ความลับของพันธะสัญญาที่พวกเขามี
และเมื่อตกลงแนวทางได้แล้วพวกเขาก็แยกกลุ่มกัน ก่อนจะเริ่มทำตามเป้าหมายของแต่ละกลุ่มทันที รินรินเทจึงได้นำกลุ่มที่ 1 ตามเขาไปยังทางเข้าเมืองที่ถูกเรียกว่า เมืองคนนอก
[ ปัญหาตอนนี้ของเราก็คงเป็นการหาเงินวางประกันเท่านั้นสินะ ไอการสอบสัมพากษ์และตรวจประวัติไม่ใช่ปัญหาหรอกยังไงอุปกรณ์เวทย์ก็ช่วยได้ ไหนพวกเราจะถูกฝึกมาเพื่อการแทรกซึมโดยเฉพาะอีกแต่… ]
รินรินเทที่เดินอยู่ ก็มองไปยังถุงที่เล็กๆที่เหน็บไว้ข้างกาย ถุงใส่เงินสำหรับทำภารกิจซึ่งในนั้นก็อัดแน่นไปด้วยเหรียญทองมากมาย ซึ่งถ้าไปยังด้านนอกของยูโทเปียมันก็คงจะมีค่ามากมายแม้ว่าจะเป็นเงินเพียง 1 โกลล์ก็ตาม
[ เห้อ…สมกับเป็นประเทศที่ทรงพลังล่ะนะ แค่ค่าวางประกันรายได้ของคนจะเข้ารับการตรวจสอบก็ปาไป 15000 เครดิต เทียบเป็นเงินโกลล์ในตอนนี้ก็ราวๆ…อึก… 150 โกลล์ เยอะชะมัด… ]
แม้ว่ารินรินเทจะประเมินไว้เช่นนั้น ทว่าความจริงเมื่อต้องแลกเปลี่ยนแล้วราคาค่าก็จะอยู่ที่ 165 โกลล์เพราะต้องรวมค่าแลกเปลี่ยนเข้าไปด้วย ซึ่งนั้นเป็นเงินที่เยอะมากต่อการส่งคนเข้าไปยังเมืองต่างๆ
ตามปรกติแล้ว การจะสอดแนมเมืองๆหนึ่ง สปาย หรือสายสืบจะมีงบอยู่ที่ 5 โกลล์เท่านั้นใช้เป็นทั้งค่าเดินทาง ค่ากินค่าอยู่ ที่มากพอสำหรับภารกิจ 5 เดือนเลยทีเดียว แต่นี้ 1 คน ต้องใช้เงินทุนเทียบเท่ากับการปฏิบัติงานถึง 175 เดือน
“ แบบนี้คงต้องหาเงินทางไวสินะ ”
นั้นทำให้รินรินเทและพวกพ้องไม่คิดมากแล้วเดินตรงไปยังสถานที่อโคจรที่ที่ผู้คนมาเพื่อรับการบำเรออย่าง…ร้านนั่งดื่ม ซ่อง บ่อน ของเมืองคนนอก สถานที่ที่จะทำเงินได้เยอะหากพวกเขาใช้เสน่ห์ความหล่อเหลาและวาจาอันยั่วยวนนั้น
“ ที่แบบนี้อีกแล้วสินะครับท่านรินรินเท ”
“ อ่า ก็มีแต่ทางนี้แหล่ะ ที่จะหาเงินตั้งร้อยกว่าโกลล์ได้เร็วภายในไม่กี่เดือน ”
………
MANGA DISCUSSION