เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 70: ปราสาทราชาแห่งผี (ตอนที่ 5)
เส้นทางแห่งโชคชะตา เล่ม 1 ตอนที่ 70: ปราสาทราชาแห่งผี (ตอนที่ 5)
เล่ม 1 ตอนที่ 70: ปราสาทราชาแห่งผี (ตอนที่ 5)
เมื่อเห็นว่าทุกคนพักผ่อนกันจนหายเหนื่อยแล้ว มู่หรงเสี่ยวเทียนก็เป็นแรกที่เดินไปตามทางที่ผู้พิทักษ์แห่งประตูนรกเดินออกมา จากนั้นก็มีสายลมได้พัดออกมาอย่างรุนแรงจนทําให้พวกเขาถึงกับขนลุก บันไดลงไปข้างล่างนั้นมีประมาณ 36 ขั้น ตอนนี้และมู่หรงเสี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ นั้นก็กําลังเดินลงไปเรื่อย ๆ ตรงปลายทางบันไดจะเป็นห้องโถงตรงสุดห้องโถงนั้นมีประตู 3 บานตั้งเรียงกัน อยู่ประตูแต่ละบานนั้นจะมีคําเขียนจากซ้ายไปขวาว่า หมิง โลกหลังความตาย (คําเรียก นรก) โยว ความมืดมิด กุ่ย วิญญาณตามลําดับ
“หมิงซิน เราจะไปทางไหนดี ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนหยุดชะงัก เขาไม่รู้ว่าจะต้องเลือกทางไหน
“ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย ทุกเส้นทางนั้นยาวเป็นอย่างมาก” หมิงซินส่ายหัว
“ฉันว่าพวกเราไปทางขวาจะดีกว่า ตรงที่มันเขียนเอาไว้ว่า วิญญาณ บางทีมันอาจจะเป็นที่อยู่ของราชาแห่งผีก็ได้” สายฟ้าซวนแสดงความคิดเห็นออกมา จากนั้นทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย
“มันเป็นทางเลือกเดียว คงมีแต่ต้องลองเข้าไปเท่านั้นแหละถึงจะรู้” มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่มีความคิดดี ๆ กว่านี้อีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงเดินไปตามทางของประตูด้านขวาตามที่ทุกคนต้องการ แต่เมื่อออกแรงผลักมากมายขนาดไหน ประตูมันก็ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
“ดูเหมือนว่าเพียงแค่ใช้พลังดันอย่างเดียวคงจะไม่สามารถเปิดได้ มันน่าจะมีกลไกอะไรบางอย่าง” มู่หรงเสี่ยวเทียนพึมพํากับตัวเอง จากนั้นเขาก็เริ่มลูบคลําประตูเพื่อทําการสํารวจอย่างใกล้ชิด และแล้วเขาก็พบว่ามีรูอะไรบางอย่างอยู่ใต้อักษรคําว่า วิญญาณ ที่ตรงกลางของประตู มันเป็นคราบที่ทับถมกันจากเวลาที่ล่วงเลยมานาน จากนั้นมันก็เผยให้เห็นลูกบิดวงกลม มู่หรงเสี่ยวเทียนใช้มือทั้งสองข้างหมุนมันจนสุดแรง ขณะนั้นประตูหนักอึ้งก็ค่อย ๆ เปิดออกพร้อมกับเสียง “แอ๊ด !” คราวนี้มันไม่มีกลิ่นสาปโชยออกมาแต่อย่างใด แต่ทว่ากลับเป็นลมเย็น ๆ พัดออกมาจนขนลุก
เบื้องหลังของประตูนั้นเป็นทางเดินยาว และทุก ๆ สองสามเมตรจะมีตะเกียงแขวนเอาไว้เกิดเป็นแสงสลัว ๆ ออกมา
มู่หรงเสี่ยวเทียน ดาราดังจื่อเฟิง และวู่เฟิงเดินนําหน้า ส่วนหมิงซิน กวยหลง หยางซ่ง เดินอยู่กลางขบวน ส่วนสายฟ้าซวน สายฟ้า โพ สายฟ้าปาฉีเดินปิดท้ายเอาไว้ เมื่อเดินไปได้สักประมาณ 5 นาที มันก็มีเสียง “พรึบ พรึบ” อันแผ่วเบาดังมาจากด้านหน้าของทุกคน เสียงนี้ทําให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะระมัดระวังตัวให้มากขึ้น
ยิ่งพวกเขาเข้าไปลึกมากขึ้นเท่าไหร่ เสียงนั้นก็เริ่มดังมากขึ้น เรื่อย ๆ เท่านั้น เสียงดังออกมาจนน่าขนลุก สิ่งนี้ทําให้หัวใจของพวกเขาทุกคนเริ่มสั่นไหว
เมื่อเดินไปถึงสุดทาง สายตาพวกเขาก็ถึงกับตกใจกว่าเดิมหลายเท่า ภาพตรงหน้าทําให้พวกเขาประหลาดใจจนตัวแข็งทื่อ ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่กําลังมองเห็นอยู่ตรงหน้า ถ้ําที่มืดมิดนั้นมีความกว้างหลายร้อยตารางเมตร ความสูงของมันก็น่าจะราว ๆ 10 กว่า เมตร ค้างคาวจํานวนนับไม่ถ้วนบินว่อนไปมาขณะที่พวกมันส่งเสียงร้องดังลั่นออกมาเป็นระยะ ๆ
“ป้าดด ไม่ต่ํากว่าพันตัวแน่นอน” ทุกคนแทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเอง พวกเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ใครกันที่กรีดร้องออกมา มันน่ากลัวเป็นอย่างมาก จากนั้นค้างคาวจํานวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งเป้าเข้ามาอย่างไม่ลังเล
“วิ่ง ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนตะโกนออกมา ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวิ่งกลับไปยังห้องโถงก่อนหน้านั้น มดจํานวนมากมายสามารถฆ่าช้างให้ตายได้ แต่ทว่านี้ไม่ใช่มดแต่มันเป็นมอนสเตอร์ค้างคาวที่มีเลเวลสูงกว่า 15 ที่สําคัญมันมีจํานวนมากมายมหาศาล ถ้าหากไม่วิ่งแล้วก็คงเท่ากับว่าเป็นการยืนรอความตายเท่านั้นเอง
ท้ายที่สุดวู่เฟิงก็หยิบคทาอัคคีลึกลับของจักรพรรดิที่เขาซ่อนเอาไว้ออกมา เพราะว่าตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่กําลังวิกฤติมาก ทั้งหมิงซิน กวยหลงนั้นก็เลเวลต่ําจนเกินไป นอกจากนี้สเตตัสของสายฟ้าปาฉีก็เหมาะสมกับการต่อสู้ระยะประชิด ดังนั้นผู้คนเหล่านั้นอาจจะกลายเป็นตัวถ่วงของพวกเขา
“ฝนดาวตกเพลิง” วู่เฟิงตะโกนดังลั่น จากนั้นเขาก็กวัดแกว่งคทาอัคคีลึกลับจักรพรรดิไปมา ลูกบอลไฟนับหนึ่งหมื่นลูกก็ร่วงหล่นลงมาทันที มันเผาไหม้ทุกสิ่งที่อยู่ในรัศมี 50 เมตรตรงหน้าของเขา จนเปลี่ยนสถานที่นั้นให้กลายเป็นทะเลเพลิง คลื่นแห่งไฟทําการสังหารค้างคาวจํานวนนับไม่ถ้วนให้หายไป
“ไปกันเร็ว ! ” วู่เฟิงเก็บคทาลงไป จากนั้นก็หันไปหาดาราดัง จื่อเฟิงและมู่หรงเสี่ยวเทียนที่กําลังยืนอยู่ใกล้ ๆ และบอกให้รีบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
เสียงร้องคร่ําครวญของค้างคาวที่ดังไล่หลังมาจนทําให้สามคนที่ได้ยินนั้นขนลุกซู่ พวกเขาทั้งสามถูกไล่ตามตลอดทาง ภายในเวลาสั้น ๆ พวกมันก็ไล่ตามเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ และได้ยินเสียงของพวกมันที่ตามหลังมาอย่างชัดเจน
“พักสักเดี๋ยวเถอะ” มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบอกให้ดาราดังจื่อเฟิงและวู่เฟิงหยุดพัก
ก่อนที่จะได้พักหายใจหายคอ ค้างคาวมากมายก็พุ่งตรงมายังพวกเขา โชคยังดีที่ทางนั้นแคบมาก มู่หรงเสี่ยวเทียนรวมพลังกับสองคนนั้นและป้องกันอย่างแน่นหนา ทั้งลูกไฟที่มาจากวู่เฟิง หอกแหลมที่มาจากจื่อเฟิงและการโจมตีที่รวดเร็วของมู่งหรงก็ทําให้ค้างคาวที่ผ่านเข้ามาถูกฆ่าเป็นจํานวนมาก แต่ทว่าพวกมันมีเยอะเกินไปมันจึงทําให้สามคนต้านทานไม่ได้และถูกโจมตีไปบ้าง พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล่าถอยพร้อมกับใช้มือล้วง เข้าไปในกระเป๋ามิติเพื่อเอายาเพิ่มพลังชีวิตออกมาดื่มอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดพวกเขาก็สามารถกลับมาถึงห้องโถงจนได้ ทั้งสามคนนั้น รีบกระโจนออกมาจากประตู โดยที่มู่หรงและดาราดังจื่อเฟิงนั้นทําการป้องกัน ส่วนวู่เฟิงนั้นก็ปิดประตูโดยเร็ว
วู่เฟิงจับไปที่ลูกบิดอย่างสิ้นหวัง และเมื่อที่ประตูใกล้จะปิดสนิท บางอย่างที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น มีค้างคาวติดคาอยู่ที่ประตู มันจึงทําให้ประตูนั้นไม่สามารถปิดลงได้ จากนั้นพวกค้างคาวมากมายก็ทยอยโผล่ออกมาจากช่องว่างของประตูนั้น
“ปกป้องหมิงซินกับกวยหลง ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนตะโกนออกมาอย่างกังวล
ดาราดังจื่อเฟิงวิ่งถอยออกมาอย่างรวดเร็วโดยที่มีสายฟ้าโพ สายฟ้าซวน และหยางซ่งทําการป้องกันหมิงซินอย่างแน่นหนาตรงมุมของห้องนั้น “ปาฉีรีบใช้ดาบใหญ่ ๆ ของเธอฆ่าเจ้าค้างคาวตัวนั้นซะ” มู่หรงเสี่ยวเทียนตะโกนออกมา หมิงซินไม่สามารถรับการโจมตีจากค้างคาวได้ ส่วนหยางซ่งนั้นก็ใช่ว่าจะสามารถป้องกันเธอได้ หากว่าปราศจากการช่วยเหลือของสายฟ้าซวนและสายฟ้าโพ
เมื่อเห็นว่ามีค้างคาวจํานวนมากพุ่งเข้ามายังห้องโถง ดาราดังจื่อเฟิงและอีก 4 คนตอนนี้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วเนื่องจากความเหนื่อยล้า วู่เฟิงจ้องไปที่ลูกบิดประตูและพยายามบิดมันสุดแรง มู่หรงเสี่ยวเทียนก็พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะปกป้องวู่เฟิงเช่นกัน ตอนนี้ทุกสายตากําลังจดจ้องไปที่สายฟ้าปาฉี
สายฟ้าปาฉีพุ่งไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว เธอเหวี่ยงดาบยักษ์เพื่อที่จะจัดการกับค้างคาวตัวนั้น แม้ว่าพลังชีวิตของตนเองจะลดลงเรื่อย ๆ แต่เธอเองก็ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เป้าหมายเดียวที่ตั้งเอาไว้ นั้นก็คือการจัดการกับเจ้าค้างคาวที่ติดอยู่ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีใคร สามารถรอดกลับไปได้อย่างปลอดภัย
ในที่สุดก็มีเสียงดัง “ฉีบ” ทําให้ร่างของค้างคาวตัวนั้นขาดออกจากกันในทันที ในตอนนี้ประตูถูกปิดลงอย่างสนิท สายฟ้าปาฉีรีบดึงเอายาเพิ่มเลือดออกมาจากนั้นก็ดื่มมันลงไปในทันที
ส่วนพวกค้างคาวที่เหลือก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร รูเฟิงได้ใช้ลูกไฟ เผาไหม้พวกมันในอากาศทันที ส่วนมู่หรงเสี่ยวเทียนนั้นก็ทําการโจมตีอย่างรวดเร็วเช่นกัน ค้างคาวที่ไม่ได้มีอยู่มากมาย ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป จากนั้นทุกคนก็ช่วยกันฆ่าพวกมันจนหมดทุกตัว
ในเวลานี้ พรสวรรค์ของทั้งเก้าคนนั้นราวกับได้ถูกปลดปล่อยออกมา เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว พวกเขาก็ทําได้แต่นั่งลงด้วยความเหนื่อยล้า แต่พอนึกถึงสถานการณ์เมื่อครู่แล้ว พวกเขาก็ยังคงรู้สึกกลัวไม่หาย