เรื่องราวของการซื้อเพื่อนร่วมชั้นอาทิตย์ละครั้ง Shuu ni Ichido Kurasumeito wo Kau Hanashi - ตอนที่ 6 วันนี้เองมิยากิก็เอาเงิน 5,000 เยนให้ฉัน ตอนที่ 3
- Home
- เรื่องราวของการซื้อเพื่อนร่วมชั้นอาทิตย์ละครั้ง Shuu ni Ichido Kurasumeito wo Kau Hanashi
- ตอนที่ 6 วันนี้เองมิยากิก็เอาเงิน 5,000 เยนให้ฉัน ตอนที่ 3
วันนี้เองมิยากิก็เอาเงิน 5,000 เยนให้ฉัน ตอนที่ 3
วันหยุดหน้าหนาวสั้น ๆ ได้จบลงแล้ว และในวันนี้ที่เป็นวันเปิดพิธีการศึกษา ฉันนั้นอยู่ที่ห้องของมิยากิ
เหตุผลก็คือ โดนเธอเรียกมา
เพื่อที่จะได้รอทำตามคำสั่งของเธอ ฉันเลยนอนเล่นกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง
ทันทีที่เข้าห้องมา ก็รับมา 5,000 เยน
ในตอนที่มิยากิยังไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ก็จะมีช่วงเวลาอิสระพักนึง ช่วงแรก ๆ ที่โดนเรียกมา ฉันไม่ชินกับช่วงเวลาว่าง ๆ แบบนี้เลย แต่ว่าตอนนี้กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกสบายใจมากกว่าตอนอยู่ที่โรงเรียนซะอีก
หนังสือที่เรียงอยู่บนชั้นนั้นส่วนใหญ่ก็อ่านไปเกือบหมดแล้ว จนทำให้ฉันคุ้นชินกับบรรยากาศนอนอ่านมังงะที่ชอบบนเตียงแบบนี้
「เซ็นไดซัง วันหยุดทำอะไรมาบ้างเหรอ?」
มิยากิที่เอาหลังพิงเตียงพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์
「อ่านหนังสือ」
ไม่ได้โกหกนะ
เตรียมตัวสอบด้วยการเข้าร่วมโรงเรียนกวดวิชาหลักสูตรภาคฤดูหนาว ช่วงที่ว่างจากตอนเรียนก็ไปกินแพนเค้กกับพวกอูมินะบ้าง ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่บ้าง เป็นช่วงวันหยุดฤดูหนาวที่ยุ่งสุด ๆ
「มิยากิล่ะ อ่านหนังสือบ้างมั้ย?」
ผลการเรียนของเธอเองก็ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดี แถมยังชอบยัดเยียดการบ้านวิชาที่ไม่ถนัดมาให้ฉันทำตลอด
「ไม่ได้อ่านเลย」
「การบ้านทำเสร็จหมดแล้วเหรอ?」
「ก็ทำไปแล้วแหละ แต่อยากเรียกเซ็นไดซังมาทำให้สุด ๆ」
「การเรียกมาในวันหยุดอยู่นอกสัญญานี่นะ」
「อื้อ รู้แล้วล่ะ」
หลังจากที่มิยากิถอนหายใจด้วยความผิดหวัง เธอก็เริ่มอ่านมังงะต่อ บทสนทนาเลยจบเพียงเท่านี้
เราไม่มีหัวข้อคุยกันเท่าไหร่
พอลองชวนคุยเรื่องนิตยสารเอย หนังเอย หรือเรื่องที่โรงเรียน มิยากิที่ดูรำคาญและไม่สนใจเรื่องพวกนี้ก็ทำได้แค่พยักหน้าตอบรับไปงั้น เพราะงั้นฉันจึงเลิกหาความสนุกกับการพูดคุยกับเธอ เพราะการจะหาหัวข้อเรื่องที่มิยากิสนใจนั้นมันยากพอ ๆ กับการงมเข็มในมหาสมุทรนั่นแหละ
หากบทสนทนากับเธอขาดช่วงลง การที่จะต่อบทสนทนาอีกครั้งนั้นเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์ ถ้าหากบทสนทนามันขาดไปแล้วก็ปล่อยให้มันขาดไปอย่างนั้นแหละ นี่คือสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้มาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้
ภายในห้องที่เงียบสงัด ฉันถอดเสื้อเบลสเซอร์ออกและวางไว้ข้างล่างเตียง
ไม่รู้ว่ามิยากิเป็นคนขี้หนาวรึเปล่า ห้องถึงได้ร้อนตลอดเวลา
ฉันคลายเนคไทออกและถอดกระดุมเสื้อ 1 เม็ด
ในขณะที่กำลังจะนอนกลิ้งอ่านมังงะต่อ มิยากิก็พูดขึ้นมา
「มานี่หน่อยสิ」
「คำสั่งเหรอ?」
「อื้อ มานั่งตรงนี้」
มิยากิยืนขึ้น และชี้ไปยังที่ตัวเองนั่งเมื่อกี้
ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นนั้น
ต่อให้ไม่ต้องบอกก็รู้
แต่ถึงอย่างนั้น ฉันที่นั่งอยู่ด้านล่างเตียงก็จงใจถามออกไป
「ให้ทำอะไรดี?」
「ถอดให้หน่อย」
มิยากิที่นั่งอยู่บนเตียงตอบกลับมา
สิ่งที่เธอพูดนั้น เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ เธอยกเท้ามาวางบนต้นขาฉัน
ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ฉันผู้ซึ่งได้รับคำสั่งให้เลียเท้ามิยากิที่มากเกินกว่าเงื่อนไขสูงสุดที่บอกว่าจะไม่มากไปกว่าอ่านมังงะโป๊ออกเสียงไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากตอนนั้น ช่วงก่อนหน้าวันหยุดฤดูหนาว ก็โดนเธอเรียกมาอีกครั้งนึงเพื่อจัดชั้นหนังสือ และดูเหมือนวันนี้จะได้เลียเท้าเธออีกครั้งแล้ว
ที่ด้านหน้าของฉันมีเท้าสุขภาพดีที่ไม่ถึงกับขาวหรือดำเกินไปอยู่ ถอดถุงเท้าออก และสัมผัสกับเท้าที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ลูบจากส้นเท้ายาวจนมาถึงปลายนิ้ว เท้าเธอสั่นกระตุกเล็กน้อย
「เลียให้หน่อยสิ」
ไม่รู้ว่าไม่ชอบวิธีที่ฉันลูบเท้าเธอหรือเปล่า เธอเลยพูดออกมาเสียงเบา
「เข้าใจแล้ว」
ฉันตอบสั้น ๆ และใช้อีกมือจับที่ข้อเท้า
ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ จากนั้นก็เอาลิ้นแตะลงบนเท้าที่เย็นเล็กน้อย
ถึงแม้จะไม่รู้ว่ามิยากิกำลังคิดอะไรอยู่ก็ตาม แต่คิดว่ามันค่อนข้างเป็นการทำลายประเภทเฉพาะกลุ่มด้วยการให้เลียเท้าเลย จากที่เริ่มให้อ่านมังงะโป๊ออกเสียง จนมาถึงขั้นให้เลียเท้าเนี่ย จินตนาการไม่ออกเลยว่าเป็นมิยากิคนเดียวกับที่เห็นที่โรงเรียน
ทั้งเงียบขรึม ไม่เป็นที่สะดุดตา คงมีแค่ชื่อล่ะมั้งที่พอจะจำได้ ถ้าไม่ได้ทำกระเป๋าตังหายที่ร้านหนังสือตอนนั้นล่ะก็ บางทีชีวิตนี้คงไม่ได้คุยกันอีกเลยก็เป็นได้
และฉัน กำลังเลียเท้าให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่
ผิวที่ทั้งเรียบและนุ่ม
แต่ไม่อร่อยสักนิด
มันก็แน่อยู่แล้วสิ เพราะที่เลียอยู่มันคือเท้าคนนี่นะ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ชอบอะไร
กดปลายลิ้นลงปลายนิ้วเท้า แล้วเลียขึ้นไปจนถึงข้อเท้า
ค่อย ๆ ใช้เวลาไปอย่างช้า ๆ
จากนั้นก็เงยหน้ามองมิยากิ
เธอทำหน้าเหมือนกับว่ารู้สึกดีอยู่
แก้มแดงนิดหน่อยด้วยสิ
ก่อนหน้านี้ก็เหมือนกัน
หลังจากที่เลียเท้าให้ เธอก็หายใจติดขัดเล็กน้อย แก้มเองก็แดงขึ้นนิดหน่อย
บางทีเจ้าตัวคงไม่ทันรู้สึกตัวล่ะมั้ง
「เซ็นไดซัง ทำต่อสิ」
ฉันไม่ได้ตอบกลับ และเอาฟันไปวางบนนิ้วเท้าเธอ
กัดเข้าไปอย่างแรง จนเป็นรอยฟัน
มิยากิขยับขาราวกับว่าพยายามต่อต้าน จากนั้นก็จับที่หัวฉัน
「อย่าทำแบบนั้นสิ มันเจ็บนะ」
พอปล่อยนิ้วเท้าตามที่เธอบอกมา ก็ได้ยินเสียงหายดัง ฟู่ว เบา ๆ
ที่กัดนิ้วเธอหลังจากโดนบอกให้เลียเท้าในตอนนั้น ก็เพราะอยากจะต่อต้านเธอยังไงล่ะ
ไม่ได้ต่อต้านตัวคำสั่งโดยตรงก็จริง
แต่การโดนดูถูกโดยการบอกให้เลียเท้าให้เนี่ย มันรู้สึกไม่ชอบใจเอาซะเลย
เพราะงั้นก็เลยกัดไงล่ะ
แต่ว่าวันนี้น่ะไม่ใช่
เพราะการตอบสนองของมิยากิมันน่าสนใจก็เลยกัด
เสียงที่บอกว่าเจ็บหรือบอกให้หยุดขาดเป็นช่วง ๆ และดูเหมือนอุณหภูมิของตัวเองเพิ่มขึ้นนิดหน่อย
เท้าเธอสั่นเล็กน้อย
บางทีคงคิดว่าอาจจะโดนกัดอีกรอบก็ได้
ฉันน่ะ อยากจะเห็นมิยากิที่เป็นแบบนั้นอีกครั้ง
อาจจะเพราะว่าเธอกำลังระแวงอยู่ พอเอาลิ้นแตะลงไปบนเท้าเธอก็มีอาการตกใจสั่นเล็กน้อย
เอาริมฝีปากลงบนหลังเท้า
พอทำท่าที่เหมือนกับจุ๊บไปหลาย ๆ ครั้ง ก็โดนดึงผมขึ้น
「เซ็นไดซัง หยุดทำที แบบนั้นมันรู้สึกแย่อะ」
เธอหรี่ตามอง
แต่ก็ไม่ได้เป็นการดึงที่ถึงกับทำให้รู้สึกเจ็บ
「งั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่ารู้สึกดีอยู่หรอ」
「ไม่สักนิด รู้สึกแย่สุด ๆ ต่างหาก」
เธอปล่อยผมที่ดึงไว้
แม้หน้าจะคิ้วขมวด แต่แก้มก็ยังแดงอยู่
หน้าตาของเธอฉันก็ไม่ได้เกลียดอะไร
ถึงแม้จะไม่ได้น่ารักอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็จัดว่าเป็นคนน่ารักอยู่ ถ้าแต่งหน้าด้วยก็คงจะน่ารักกว่านี้อีก แต่เจ้าตัวไม่ได้สนใจก็เลยไม่ได้แต่ง ถึงจะคิดว่าน่าเสียดายก็เถอะ แต่ก็ไม่จำเป็นถึงกับต้องบอกเธอ
ฉันแนบริมฝีปากลงบนเท้าของมิยากิ
เนื่องจากจังหวะหายใจของเธอปกติดี เพราะงั้นที่แก้มเธอแดงอาจเป็นเพราะในห้องมันร้อนล่ะมั้ง แต่ถึงอย่างนั้น มิยากิก็ทำหน้าต่างจากปกติให้เห็น เลยทำให้ฉันเริ่มคิดว่าการเลียเท้ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
「ตั้งใจเลียดี ๆ สิ」
และก็โดนเตะเข้าที่ไหล่เบา ๆ
「ห้ามใช้ความรุนแรงนะ」
พอบีบไหล่ที่ไม่ได้เจ็บอะไรเลยสักนิด มิยากิก็พูดว่า「เลียให้หน่อยสิ」อีกครั้ง
ฉันเลียเท้าเธออย่างเงียบ ๆ
ถึงเธอจะคิดว่าตัวเองเป็นคนออกคำสั่งอยู่ก็ตาม แต่ฉันก็แค่ยอมให้เธอสั่งก็เท่านั้น
คนที่นำจริง ๆ คือฉันต่างหาก
ถ้าคิดจะต่อต้าน ก็ทำได้ตลอด
ถ้าหากผิดสัญญา ก็สามารถออกจากที่นี่ตอนไหนก็ได้
แต่เพราะว่าการอยู่ที่ห้องของมิยากิมันรู้สึกสบายกว่าตอนอยู่ที่บ้านของตัวเองก็เลยยังอยู่ที่นี่ต่อ
ฉันใช้ลิ้นเลียเท้าที่เย็นเล็กน้อยของมิยากิต่อ
แต่ทันทีเอาริมฝีปากแนบลงบนเท้าที่เปียกเหนอะหนะของเธอ
เท้ามิยากิสั่นเล็กน้อย
บางที ต่อให้ขึ้นม.6 หรืออยู่คนละห้องแล้วก็ตาม มิยากิเองก็คงจะเรียกฉันมาและให้ 5,000 เยน และฉันก็จะยอมรับข้อเสนอนั้น
ไม่ใช่เพราะว่าอยากได้ 5,000 เยน
ก็แค่อยากเห็นมิยากิที่พึงพอใจและเชื่อว่าได้ออกคำสั่งฉันไปซักพักก็เท่านั้น เพราะอย่างนั้น คิดว่าอย่างน้อยแค่ช่วงม.ปลาย จะยอมเล่นเกมไร้สาระพวกนี้กับมิยากิต่อไป
เพราะยังไง ขึ้นมหาลัยก็คงไม่ได้ทำแล้ว ได้แค่ช่วงเวลานี้เท่านั้น
พอคิดว่าเป็นแค่ความสัมพันธ์แค่ช่วงนึงแบบนี้มันก็ไม่เลว
ฉันยกริมฝีปากขึ้นแล้วถอนหายใจ
หลังจากนั้น ก็แยกเขี้ยวแล้วงับเข้าไปที่ข้อเท้ามิยากิ