เมื่อกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธจากเพื่อนสมัยเด็ก จึงตัดสินใจกระโดดตึกกับสาวสวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 25 [บทที่ 5 มิไร] หวนคืน
- Home
- เมื่อกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธจากเพื่อนสมัยเด็ก จึงตัดสินใจกระโดดตึกกับสาวสวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 25 [บทที่ 5 มิไร] หวนคืน
“หืม? เป็นอะไรหรือเปล่า อากิดูเหม่อๆนะ”
อิโอริที่ยืนอยู่ข้างๆ ทักผมด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“อิโอริ…”
ผมตอบกลับด้วยหัวสมองที่ยังมึนงง
แล้วพอรู้ตัวว่าพูดออกมาได้
“อึ่ก…! “
ความคลื่นไส้ที่ไม่อาจทานทนเข้าจู่โจม
ผมทรุดตัวลงและอาเจียนออกมา
หัวผมปวดจนเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ
ภาพความทรงจำเลวร้าย
ที่กำลังจะเกิดขึ้นฉายชัดในหัวอีกครั้ง
ความโง่เขลาของตัวเอง
ย้อนกลับมาเล่นซ้ำในความคิด
ความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน
ความโกรธ และความสูญเสีย
ทั้งหมดนั้นหลั่งไหลกลับมาพร้อม ๆ กัน
จนหัวใจผมแทบจะแหลกสลาย
ถ้าผมสามารถเสียสติได้ ผมคงทำไปแล้ว
ใบหน้าสุดท้ายของนัตสึกิ
ภาพครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นโคโยอิ
พวกมันวนเวียนอยู่ในหัวของผมไม่หยุด
ผมพยายามยื้อสติของตัวเองไว้
“ขอโทษ…นัตสึกิ ขอโทษจริง ๆ… “
ผมเอ่ยขอโทษซ้ำๆ
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ตรงนี้
เพื่อรับคำขอโทษของผม
จนเมื่อกระเพาะว่างเปล่า
และไม่มีอะไรให้อาเจียนอีกนอกจากน้ำย่อย
อิโอริจึงพูดขึ้นมา
“นายไหวแน่นะ อากิ?! “
คำพูดของอิโอริดึงผมกลับมาสู่ความเป็นจริง
อิโอริมองผมด้วยสายตากังวล
ขณะที่นักเรียนคนอื่นเริ่มมามุงดูรอบ ๆ
“…ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“งั้นไปห้องพยาบาลกันเถอะ”
“…แต่ว่า… ผม… ต้องทำความสะอาด…”
หนึ่งในนักเรียนหญิงที่ยืนมองอยู่พูดขึ้นว่า
[ฉันเป็นเวรทำความสะอาดพอดี
เดี๋ยวฉันจัดการเอง
นายรีบไปห้องพยาบาลเถอะ]
“ขอบคุณนะ! ไปกันเถอะ เดินไหวไหม?”
ผมพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้น
อิโอริจับมือของผมที่ยังเปื้อนน้ำย่อย
และอาเจียนไว้แน่นโดยไม่แสดงความรังเกียจ
และพาผมไปที่ห้องพยาบาล
ด้วยมืออีกข้างหนึ่งที่ไม่ได้ถูกจับ
ผมแตะไปที่คอของตัวเอง
แน่นอน มันไม่มีบาดแผลใดๆ อยู่ตรงนั้น
แต่ถึงอย่างนั้น
ผมกลับรู้สึกถึงความเจ็บแสบร้อน
ราวกับมันมีอยู่จริงๆ
***
“ดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ
อาจจะเป็นเพราะอาหาร
ที่ทานจากร้านค้าเล่นงานก็ได้นะ
พอจะนึกออกไหมว่าทานอะไรไปบ้าง? “
เมื่อไปถึงห้องพยาบาล
ครูพยาบาลตรวจดูอาการผมอย่างละเอียด
“ที่โทวะกับอากิกินก็แค่ชูโรสเองค่ะ”
ผมพยักหน้าตามคำพูดของอิโอริ
“ถ้าอย่างนั้น
อาจจะเป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอหรือเปล่า?
ช่วงนี้อ่านหนังสือสอบหนักเกินไปไหม? “
“อา เกรดของอากิดีขึ้นมากเลยช่วงนี้
อาจจะโหมหนักไปหน่อยค่ะ”
ผมพยักหน้าอีกครั้งตามคำพูดของอิโอริ
“เข้าใจว่าเป็นช่วงที่ต้องตั้งใจ
แต่ก็ควรดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ
ถ้าร่างกายพังไปจะไม่เป็นผลดีเลย
มีเตียงว่างอยู่
ไปนอนพักจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้นดีกว่า
อ้อ แล้วก็ไปล้างมือกับบ้วนปากหน่อย
ถ้าปากยังรู้สึกไม่สบาย”
ครูพยาบาลพูดพลางชี้ไปที่เตียง
“เสื้อผ้าของเธอเปื้อนด้วย
เดี๋ยวครูจะซักให้
ถอดออกมาแล้วเปลี่ยนเป็นชุดวอร์มนี้ก่อน
ส่วนอิโอริเองก็เปื้อนเหมือนกัน
เดี๋ยวซักให้พร้อมกันเลย”
“ค่ะ ขอโทษที่รบกวนนะคะ
อากิ นายเปลี่ยนชุดเองได้ใช่ไหม?”
อีกครั้งที่ผมพยักหน้าตอบคำพูดของอิโอริ
ระหว่างที่ผมล้างมือและล้างเศษอาเจียน
ที่ยังเหลืออยู่ในปาก
ครูเตรียมชุดวอร์มให้เรา
ผมหยิบชุดวอร์มมาเปลี่ยน
ผมถอดชุดนักเรียนออก ใส่มันลงในตะกร้า
ด้วยความรู้สึกอ่อนแรง ผมทิ้งตัวลงบนเตียง
ผมไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว…
แต่ความทรงจำต่างๆ ก็ผุดขึ้นมาไม่หยุด
มันเลวร้ายที่สุด
ผมปล่อยให้นัตสึกิตาย
ทำให้พ่อของเธอกลายเป็นอาชญากร
สร้างบาดแผลในใจให้โคโยอิไปตลอดชีวิต
การย้อนกลับของผมได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย
มันมีแค่การบังคับให้ผมเผชิญหน้า
กับความไร้ความสามารถ
และความไร้ค่าของตัวเอง
—ผมเบื่อเหลือเกิน
ครั้งนี้ผมก็คงล้มเหลวอีก
เพราะผมไม่สามารถทำอะไรได้
ก่อนที่ผมจะรู้ตัว
อิโอริก็เปลี่ยนเป็นชุดวอร์มเรียบร้อยแล้ว
เธอเลื่อนผ้าม่านปิดเตียงออก
และนั่งลงบนเตียงข้างๆ
“ต้องเป็นเพราะชูโรสนั่นแน่ๆ เลยใช่ไหม?
ขอโทษนะที่ทำให้อากิต้องกินที่เหลือจนหมด”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเล็กน้อย
“…ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม อิโอริก็มีสีหน้ากังวล
“อากิขอโทษอีกแล้วเหรอ”
ผมพึมพำคำว่า [ขอโทษ] ออกมาอีกครั้ง
อิโอริถอนหายใจเบา ๆ และพูดขึ้น
“…นี่ อากิกับนัตสึกิ มิไร มีเรื่องอะไรกันเหรอ?”
อิโอริมองหน้าผมด้วยแววตาเป็นห่วง
ผมเกาะเกี่ยวกับความเมตตาของเธอ
เธอที่ไม่รู้อะไรเลย
“ผมทำสิ่งเลวร้ายกับเธอไว้ ผมอยากขอโทษเธอ
แต่ผม…รู้สึกผิดเกินกว่าจะเผชิญหน้าเธอได้”
ผมก้มตัวลง เอามือกุมหัว
แม้ว่าผมจะไปขอโทษนัตสึกิตอนนี้
เธอก็คงไม่เข้าใจว่าผมพูดถึงอะไร
แต่ถึงอย่างนั้น
ผมก็ยังอยากได้รับการลงโทษจากนัตสึกิ
อิโอริโอบกอดผมไว้ในขณะที่ผมตัวสั่น
และก้มลงบนเตียง
“เข้าใจแล้ว
ถ้าอย่างนั้นโทวะจะไปขอโทษเธอกับอากิด้วย”
“…ว่าไงนะ?”
อิโอริพูดพร้อมกับลูบหลังผมเบาๆ เพื่อปลอบใจ
“โทวะเองก็อยากจะขอโทษเธอเหมือนกัน
แต่ไม่เคยมีโอกาสเลยจนถึงตอนนี้”
คำพูดของเธอสั่นเล็กน้อย
“แต่ถ้าอากิจะไปขอโทษ
โทวะก็จะไปขอโทษด้วย…
หรือไม่ก็ให้โทวะขอโทษก่อนได้นะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของอิโอริ
ผมพยักหน้ารับเบา ๆ
ผมไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น—ผมก็ยังเริ่มต้นใหม่ได้
ครั้งที่แล้ว ผมทำให้อิโอริหมดกำลังใจ
ที่จะขอโทษนัตสึกิ
แต่ครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิม
–ผมเชื่อว่าอนาคตสามารถเปลี่ยนแปลงได้
…เปลี่ยนแปลงครอบครัวของนัตสึกิ
อนาคตของโคโยอิ
และชะตากรรมของตัวผมเอง ผมมั่นใจ
“…อ๊ะ!”
แล้วหลังจากคิดอยู่สักพัก
ในที่สุดผมก็รู้ตัวถึงบางสิ่งที่สำคัญ
ผมลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว
อิโอริที่กำลังกอดปลอบผมอยู่
ถอยออกไปด้วยความตกใจ
“ว้าย! เป็นอะไรไป อากิ?”
“วันนี้เป็นวันเทศกาลวัฒนธรรม…”
“หา? ก็ใช่น่ะสิ…แล้วไง?”
ไม่มีเวลาให้ตอบรับเสียงงุนงงของอิโอริ
วันนี้เป็นวันเทศกาลวัฒนธรรม
เวลาผ่านไปมากแล้ว
นับตั้งแต่วันที่ผมดูดอกไม้ไฟ
บนดาดฟ้ากับนัตสึกิ
กฎเกณฑ์ของการย้อนเวลาเป็นแบบไหนกันแน่?
หรือมันสุ่มโดยสิ้นเชิง?
ผมสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีกกี่ครั้ง?
หรือว่าห่วงโซ่นี้ไม่มีที่สิ้นสุดตั้งแต่แรก?
…ไม่ใช่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องพวกนี้!
ในวันแรกของเทศกาลวัฒนธรรม
นัตสึกิหมดหวังเพราะคำพูดของโคโยอิ
ก่อนอื่น ผมต้องหยุดมันให้ได้!
“วันนี้ของเทศกาลวัฒนธรรมเป็นวันที่เท่าไหร่?”
“เอ๊ะ?…ก็วันแรกไง?”
ผมมองนาฬิกา
ครั้งที่แล้ว ผมเริ่มลงมือในตอนเย็น
หลังจากทุกอย่างจบลงแล้ว
ตอนนี้—มันเพิ่งจะเกือบบ่ายสองเอง
ผมไม่รู้ว่าที่เวลานี้ยังพอทันไหม
แต่ถึงอย่างนั้น
ผมก็ไม่มีเวลามานอนเฉยๆ ที่นี่อีกแล้ว
“อิโอริ ช่วยไปดูที่ห้องสมุดหน่อยได้ไหม
ว่านัตสึกิอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?”
“เอ๋…คนเดียวเหรอ? แล้วอากิล่ะ?”
“ผมจะไปที่ดาดฟ้าดูว่าเธออยู่ที่นั่นไหม!
ถ้านัตสึกิอยู่ที่ห้องสมุด โทรหาผมด้วยนะ!”
ผมทิ้งอิโอริไว้ข้างหลัง
และเดินออกจากห้องพยาบาล
ในขณะที่ผมกำลังเดินไป เธอตะโกนเรียกผม
“ที่ดาดฟ้า? ว่าแต่ไหวแล้วแน่นะ อากิ?”
ผมหันกลับไปมองเธอ
ผมยังไม่ได้ฟื้นตัวเลย
แค่ไม่มีเวลามานั่งเสียใจ
แต่เหตุผลที่ผมสามารถก้าวแรกออกไปได้—
“เป็นเพราะอิโอรินั่นแหละ!”
ผมพูดก่อนจะรีบมุ่งหน้าไปยังดาดฟ้า
หนูเป็นคนดีจริงๆนะอิโอริ