เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 46
คอร์เนลกระฟัดกระเฟียดออกมาจากห้องนอนด้วยความหงุดหงิดขัดเคือง ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่ายาหยีมาอยู่ด้วยเพราะอะไร ทั้งๆ ที่คิดว่าจะทนมันได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขาก็แพ้ราบคาบ แค่คิดว่าทุกอย่างที่ยาหยีแสดงออกมานั้นเป็นแค่การหลอกลวง เขาก็แทบคลุ้มคลั่งแล้ว
‘ให้ตายเถอะ ทำไมเขาถึงเป็นบ้าได้ถึงขนาดนี้นะ ทำไมถึงยอมให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามาครอบงำความรู้สึกนึกคิดได้อย่างเบ็ดเสร็จอย่างนี้’
หนุ่มหล่อกระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้หนังในห้องทำงานแรงๆ เพื่อระบายอารมณ์เครียดเคร่งของตัวเอง พลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหาคนสนิท
“พายาหยีไปพบไอ้ยอดชาย แล้วก็ปล่อยให้อยู่กันตามลำพังครึ่งชั่วโมง”
หลังจากได้ยินเซอร์เกรับคำ ชายหนุ่มก็กดตัดสายทันที พลางเอนกายพิงกับพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางอ่อนล้า สมองตายไม่ทำงานเอาซะดื้อๆ
‘แล้วคืนนี้เขาจะทำใจแข็งนอนคนเดียวได้ไหมนะ’
ชายหนุ่มยกมือขึ้นบีบขมับด้วยความเคร่งเครียด พลางถอนใจออกมาหนักๆ เมื่อคำตอบที่กลั่นออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจร้องบอกว่าไม่ได้ เขาไม่มีทางนอนคนเดียวโดยที่ในอ้อมแขนไม่มียาหยีได้อีกแล้ว
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นนะ ทำไมเขาไม่สามารถบังคับร่างกาย บังคับสมอง และที่สำคัญบังคับหัวใจของตัวเองได้เหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมานะ ทำไมทุกความรู้สึกนึกคิดของเขาต้องมุ่งเจาะจงไปที่ผู้หญิงคนนั้นเพียงคนเดียวด้วย
ยาหยี โรจน์มหามงคล แม่ลูกสาวของมหาโจร
คอร์เนลถอนใจแรงๆ ออกมาอีกครั้ง ปิดแฟ้มเอกสารที่กางอยู่ตรงหน้าลง แล้วก็ผุดลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว เขาต้องไปที่ไหนก็ได้สักแห่งหนึ่งที่มันจะทำให้สมองของเขาปลอดโปร่ง และที่สำคัญ…ให้เขาสามารถเลิกคิดถึงแม่ยาหยีแสนหวานสักที! เขาขอแค่นี้จริงๆ
“นายน้อยโทรมาหรือครับน้าเซอร์เก”
อีวานเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าของน้าชายเคร่งเครียดราวกับอมโลกไว้ทั้งใบ เซอร์เกได้ยินคำถามของอีวานก็ถึงกับถอนใจออกมาแรงๆ
“นายน้อยโทรมาให้ไปที่หน้าตึกน่ะ” เซอร์เกเลี่ยงที่จะบอกออกไปว่าคอร์เนลให้ตนเองไปที่หน้าตึกทำไม
“อ้าว…แล้วทางนี้ล่ะครับ เรายังตกลงกับยอดชายไม่จบเลย”
อีวานร้องค้าน จ้องหน้าน้าชายด้วยความสับสน ก่อนจะหันไปจ้องหน้ายอดชายที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ด้วยความหงุดหงิด
“หรือว่าน้าเซอร์เกจะล้มเลิกความคิดแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างที่แกคิดหรอกน่า” เซอร์เกคำรามใส่หน้าอีวาน ก่อนจะหันไปกำชับกับยอดชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เรื่องที่เราตกลงกันไว้ก็อย่าเบี้ยวล่ะ”
“ผมยินดีจะทำทุกอย่างที่คุณต้องการ ขอเพียงอย่าให้นายน้อยทำร้ายยาหยีก็พอ” ด้วยความห่วงใยในตัวบุตรสาวทำให้ยอดชายยอมตกลงทำตามแผนการของเซอร์เกอย่างง่ายดาย
เซอร์เกระบายยิ้มพึงพอใจเมื่อได้ยินคำยืนยันจากมหาโจรยอดชาย
“ฉันจะเปิดทางให้นายกับลูกสาวได้หนีไปพร้อมๆ กัน”
“ขอบคุณมากครับ ผมจะไม่มีวันลืมบุญคุณของคุณเลย เซอร์เก” ยอดชายยกมือไหว้
“ไม่ต้องขอบอกขอบใจอะไรฉันหรอกนายยอดชาย เพราะที่ฉันทำไปทุกอย่างก็เพื่อนายน้อยคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้คิดจะช่วยเหลือใครเป็นพิเศษ” เซอร์เกพูดเสียงเรียบ ขณะเดินตรงไปยังปากประตู โดยมีอีวานหลานชายเดินตามไปติดๆ
“แต่ถึงยังไงผมก็ต้องขอบคุณอยู่ดี”
เซอร์เกหันกลับมาจ้องหน้ายอดชายอีกครั้งด้วยสายตาเหี้ยมเกรียมกว่าปกติ
“แล้วไปให้ไกลล่ะ อย่ากลับมาให้ฉันหรือนายน้อยเห็นหน้าอีก เพราะไม่อย่างนั้นฉันนี่แหละจะเป็นคนปลิดชีวิตทั้งนายและลูกสาวของนายด้วยมือของฉันเอง จำเอาไว้ให้ดี”
“ครับ”
แม้จะอดสงสัยในความช่วยเหลือของเซอร์เกไม่ได้ แต่ยอดชายก็จำต้องเก็บมันเงียบไว้ในอก ในตอนนี้ไม่มีสิ่งใดที่เขาอยากได้เท่ากับอิสรภาพและความปลอดภัยของลูกสาวอีกแล้ว ต่อให้เซอร์เกจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงในการช่วยเหลือเขาครั้งนี้ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น ยังไงก็ต้องเสี่ยง
“แล้วฉันจะมาส่งข่าวอีกทีว่าจะให้นายหนีวันไหน”
เซอร์เกพูดจบก็ก้าวออกจากเรือนคุมขังของยอดชายไปในทันที อีวานสั่งให้คนขุมล็อกกุญแจเสร็จก็รีบวิ่งตามน้าชายที่กำลังมุ่งหน้าไปยังหน้าตึกใหญ่อย่างรวดเร็ว
“เราคิดผิดหรือเปล่าครับน้าเซอร์เกที่เลือกจะปล่อยตัวนายยอดชายไป ทั้งๆ ที่นายน้อยก็ยังไม่ได้เพชรสีทองคืนมา”
คำถามของหลานชายทำให้ชายร่างสูงที่มีศักดิ์เป็นน้าหยุดเดิน เสียงลมถูกเป่าออกมาจากปากหนักหน่วงก่อนที่คำพูดราบเรียบจะดังตามออกมา
“ตอนนี้เรื่องที่น่าห่วงที่สุดไม่ใช่การค้นหาเพชรสีทอง แต่เป็นการช่วยดึงนายน้อยขึ้นจากบ่วงรักต่างหาก และการที่จะช่วยนายน้อยขึ้นมาจากบ่วงรักได้ก็มีแค่วิธีเดียวเท่านั้น นั่นก็คือการทำให้เด็กยาหยีหายไปจากชีวิตของนายน้อย”
“น้าเซอร์เกก็เลยเลือกจะปล่อยนายยอดชายไปใช่ไหมครับ”
เซอร์เกพยักหน้ารับ “ใช่ เพราะเด็กยาหยีรับปากว่า หากพ่อของเธอเป็นอิสระ เธอก็จะไปจากนายน้อยทันที”
“แล้วเพชรสีทองล่ะครับ หากหาไม่เจอ นายน้อยก็ไม่มีทางเป็นสุขได้เหมือนกัน”
ดวงตาคมกริบของเซอร์เกวาววับขณะเอ่ยตอบความสงสัยของหลานชาย
“เพชรสีทองอยู่ไม่ไกลหรอกอีวาน และอีกไม่นานนายน้อยก็จะได้ครอบครองมันเหมือนเดิม เชื่อฉันสิ”
แม้จะมึนงงกับคำพูดที่มีลับลมคมในของน้าชายแต่พอเห็นความมั่นใจที่ฉายออกมาจากแววตาของเซอร์เกแล้ว อีวานก็จำต้องกลืนความสงสัยทั้งหลายทั้งปวงลงคอไปจนหมด ก่อนจะพยักหน้ารับหงึกๆ อย่างเห็นด้วยกับทุกการกระทำของน้าชาย
“ผมเชื่อน้าเซอร์เกครับ”
เซอร์เกเลือกที่จะนิ่งเงียบและก้าวเท้าเดินต่อไป มุ่งหน้าสู่หน้าตึกใหญ่ที่เด็กยาหยีกำลังรออยู่ในทันที ขณะที่อีวานขอตัวแยกกลับเข้าไปในเรือนพักของตนเอง