เมียพรหมจรรย์ ชุด ภรรยาของมหาเศรษฐีซาตาน - ตอนที่ 36
หลังจากระเบิดอารมณ์ใส่บอดี้การ์ดของตัวเองจนสาแก่ใจแล้ว ไทเลอร์ก็เดินกลับไปกลับมาด้วยความกังวลใจเป็นที่สุด
“หายไปไหนของเธอนะเจ้าขา…”
“พี่ไทล์ดูอาการหนักนะครับ”
นิโคไลที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยอดไม่ได้ที่จะประชดประชัน เขาเกลียดผู้หญิงที่ใช้ตัวแลกเงินที่สุด และเขาก็คิดว่าจันทร์เจ้าขาก็ไม่ได้ดีไปกว่าอิงบุญผู้หญิงที่บิดาบังคับให้เขาแต่งงานด้วยเลยแม้แต่น้อย พวกผู้หญิงหิวเงิน
“ถ้านายคิดจะยั่วโทสะพี่ล่ะก็ ได้โปรดหยุดซะ เพราะพี่ไม่เหลือการควบคุมตัวเองอีกแล้ว นายอาจจะปากแตกเอาง่ายๆ”
ท่าทางของไทเลอร์เอาจริง โกรธจริงและก็คงต่อยจริงแน่ นิโคไลเห็นแล้วก็ไม่อยากจะเสี่ยงเจ็บตัว เขาเลยขอตัวเดินกลับไปห้องนอนของตัวเองแทน ทิ้งให้พี่ชายเดินวุ่นเป็นหนูติดจั่นแต่เพียงผู้เดียว
“เจอตัวเถอะจะจับมัดเสียให้เข็ด”
“คุณไทล์ครับ เจอแล้วครับ”
เหมือนเสียงสวรรค์เลยที่เขาได้ยิน ไทเลอร์ไม่เคยรู้สึกดีใจแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต
“เจอเมียของฉันแล้วอย่างนั้นหรือ”
“ใช่ครับ เอ่อ…”
“เอ่ออะไร บอกฉันมาว่าตอนนี้เจ้าขาอยู่ที่ไหน บอกมาสิ”
ไทเลอร์เต็มไปด้วยความร้อนรน และห่วงใย ทุกอย่างที่เกี่ยวกับจันทร์เจ้าขามันดูเชื่องช้าจนน่ารำคาญเป็นที่สุด
“เอ่อ… คุณเจ้าขาอยู่…”
“บอกมาสักทีว่าอยู่ที่ไหน!”
“อยู่ที่ผับเดิมที่คุณเจ้าขาเคยทำงานอยู่ครับ”
“ว่าไงนะ…”
ความหวังเปลี่ยนเป็นความเดือดดาลและโกรธแค้นสุดขีด สองมือกำเป็นหมัด ขณะที่กรามแกร่งขบกันแน่นจนเป็นสันนูน
“แม่นั่นกลับไปทำงานเป็นสาวเสิร์ฟในผับระยำนั้นอีกแล้วอย่างนั้นหรือ”
“ครับคุณไทล์ คนของผมรายงานมา ไม่ผิดแน่ครับ”
ดวงตาของไทเลอร์ลุกเป็นไฟ ขณะหันไปสั่งคนของตัวเอง
“ขับรถตามฉันไปที่ผับ เดี๋ยวนี้”
“ครับ คุณไทล์”
ร่างสูงใหญ่ของไทเลอร์แทบจะกระโดดออกไปจากตึก ไม่นานรถสปอร์ตคันงามก็แล่นทะยานออกไปจาก Demon’s Palace ด้วยความเร็วสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้
‘เธอกล้ามากที่ขัดคำสั่งของฉัน และเธอได้ยับคามือฉันแน่ จันทร์เจ้าขา!’
ไม่เคยรู้สึกอยากจมหายลงไปในแผ่นธรณีอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต สายตาคมกริบท่ามกลางความสลัวของแสงสีจ้องเขม็งมาที่ร่างของหล่อน เนื้อตัวชาดิก ร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้ ขนทั่วร่างกายลุกชันด้วยความรู้สึกน่าสะพรึงกลัว
เป็นเขาจริงๆ ด้วย… ไทเลอร์ อิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ…
เขาเดินฝ่าฝูงชนตรงเข้ามาหาหล่อน ท่าทางของเขาไม่ผิดแผกไปจากราชสีห์ผู้หิวโซที่กำลังจะขย้ำคอหนูสกปรกอย่างหล่อนเลยสักนิด หล่อนจ้องมองเขาด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา อากาศรอบตัวที่ว่าเย็นฉ่ำกลับไม่อาจดับความร้อนผ่าวที่อยู่ภายในกายสาวให้ลดลงได้เลย ตรงกันข้ามหล่อนกำลังจะละลายสลายไปพร้อมๆ กับกับสายตาคมๆ ของไทเลอร์อยู่แล้ว
“อาจารย์…”
เขาก้าวมาหยุดตรงหน้าของหล่อน ระยะห่างกันแค่ไม่ถึงหนึ่งเมตร และนั่นก็ทำให้หล่อนได้สังเกตเห็นความสมบูรณ์แบบไม่เคยเปลี่ยนของเขาได้เช่นเดิม เส้นผมหนานุ่มที่หล่อนมักจะสอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปจิกทึ้งยามถึงฝั่งฝันคาปากของเขาสะท้อนกับแสงระยิบระยับของดวงไฟสวยงามภายในผับ สายตาดุดันเหมือนกับโกรธแค้นใครมาเป็นร้อยชาติตวัดจ้องมองมาที่หล่อนเขม็ง และบอกให้รู้ว่าเขากำลังโกรธจัดแค่ไหน
“เธอกล้ามากนะที่ทำแบบนี้”
หญิงสาวหันรีหันขวางไปมองรอบๆ กายอย่างต้องการขอความช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็เห็นเพียงแค่คนของไทเลอร์เท่านั้นที่เดินพล่านอยู่ในผับ
“ฉัน… ฉันต้องทำงาน”
“เธอก็ทำอยู่ทุกคืนแล้วนี่ ยังจะต้องการอะไรอีก”
“แต่ฉันต้องการเงิน… เงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของฉัน”
ไทเลอร์แสยะยิ้มให้กับปัญหาโลกแตก ก่อนจะคว้าข้อมือบางเอาไว้แน่น
“กลับไปกับฉัน ไปรับโทษของเธอซะดีๆ”
“ไม่ค่ะ ฉันจะไม่กลับ เวลางานของฉันยังเหลืออีกสามชั่วโมง”
สิ่งที่ฟิลิเซียกรอกหูมาเมื่อตอนเช้าทำให้จันทร์เจ้าขาขุ่นเคืองใจเป็นที่สุด และนั่นก็ทำให้หล่อนต่อต้านอย่างสุดๆ เช่นกัน
“กรุณาปล่อยมือฉันด้วยค่ะ”
“ปล่อยหรือ…”
เขาแค่นยิ้มน่าสะพรึงกลัว
“นอนหลับแล้วฝันเฟื่องเอาเถอะ มานี่ตามฉันไปที่รถ”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ไป ปล่อยฉันนะ”
หล่อนหรือจะสู้แรงช้างสารของไทเลอร์ได้ และสุดท้ายหล่อนก็ถูกหิ้วปีกมายัดใส่รถสปอร์ตอย่างไม่ปรานีปราศรัย
“คนเผด็จการ คนบ้า!”
เขาขึ้นมานั่งข้างๆ และหันมาแสยะยิ้มน่ากลัว มันเหมือนรอยยิ้มของซาตานไม่มีผิด
“ฉันยังบ้าได้มากกว่านี้อีก เธอคอยดูสิ”
แล้วรถสปอร์ตคันงามก็กระชากให้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วปานจรวด หญิงสาวนั่งตัวสั่นระหว่างทางก็อดต่อว่าในความใจร้ายของไทเลอร์ไม่ได้
“คุณมันเอาแต่ใจ ไม่ใช่คน ฉันต้องการทำงานนะ”
“เราตกลงกันแล้วนี่จันทร์เจ้าขา เธอทำงานที่ห้องครัวของDemon’s Palace และฉันก็จะจ่ายเงินให้เธอเป็นค่าจ้าง”
“แต่ฉันไม่ต้องการเงินของอาจารย์ แม้แต่เหรียญเดียว!”
คำพูดของหล่อนทำให้รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงเบรกและหักเลี้ยวเข้าจอดริมฟุตบาทกะทันหันจน หล่อนแทบหัวทิ่มดีนะที่ขืนตัวเอาไว้ได้ทัน
“คนบ้า!”
เขาไม่สนใจคำด่าทอของหล่อน แต่กลับปลดเข็มขัดนิรภัยออก และชะโงกหน้าเข้ามาใกล้หล่อนด้วยท่าทางอำมหิต หล่อนเอนกายหนีอย่างหวาดกลัว แต่ในรถมันแคบเกินกว่าจะหนีไปไหนได้
“ทำไมถึงรับเงินของฉันไม่ได้ เพราะอะไร”
คนฟังเชิดหน้าสูง ความน้อยใจมีมากกว่าความหวาดกลัวอย่างชัดเจน
“ไม่มีเหตุผล ฉันก็แค่ไม่อยากได้เงินของอาจารย์เท่านั้นเอง โอ๊ย… ปล่อยมือฉันนะ”
ร้องลั่นเมื่อข้อมือถูกเขาคว้าหมับและบีบอย่างไม่ปรานี
“เธอไม่อยากได้เงินของฉัน แต่เธอยอมรับเศษเงินจากไอ้ผู้ชายพวกนั้น”
“ค่ะ ฉันยินดีรับเงินจากผู้ชายคนอื่น…”
น้ำตาในดวงตาของหล่อนมันล้นทะลักออกมาอาบแก้มจนได้ แต่เขากลับไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ของหล่อนเลยสักนิดเดียว
“แต่ไม่มีทางรับเงินจากอาจารย์”
หล่อนรับรู้ได้ว่าไทเลอร์เนื้อตัวเกร็งเครียด แม้ใบหน้าของเขาจะยังแสดงความรู้สึกเดิม แต่สายตาของเขาบอกให้รู้ได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังเปี่ยมไปด้วยโทสะแค่ไหน
“ก็ดี… จะได้ไม่ต้องสิ้นเปลือง”
“ปล่อยมือฉันค่ะ”
“เสียใจด้วยคนสวย เลยเวลาทำงานของเธอมานานแล้ว ดังนั้นสมควรที่เธอจะเริ่มงานสักที”
คนฟังหน้าแดงก่ำก่อนจะเปลี่ยนเป็นซีดเผือด ขณะมองใบหน้าหล่อกระด้างสลับกับรถคันงามด้วยความตกใจ
“อย่าบอกนะว่า…”
“เธอคิดไม่ผิดหรอก ฉันจะเอาเธอให้ยับในรถคันนี้แหละ รับรองได้เลยว่าเธอจะมาเป็นสาวเสิร์ฟที่ผับนี่ไม่ได้ไปหลายวันเลยทีเดียวแหละ”
ไทเลอร์ใช้แรงที่มีมากกว่ากระชากร่างของหล่อนให้เข้าไปนั่งคร่อมตักแกร่ง จากนั้นก็จัดการตลบชายกระโปรงของหล่อนให้ขึ้นไปอยู่บนเอวคอด
“อย่านะ อย่าทำแบบนี้นะ ฉันไม่ยอม…”
“เธอไม่ยอม ฉันก็จะปล้ำ จะปล้ำให้สลบคาปาก คามือเชียว”
นิ้วแกร่งรูดขอบกางเกงชั้นในตัวน้อยให้ไปรวมกันในฝั่งหนึ่ง เปิดทางให้ปลายนิ้วของเขาได้ถูไถแตะต้องกลีบสาวอย่างถนัดถนี่ เขาเขี่ย บี้คลึงอย่างหนักหน่วง ไร้ความอ่อนโยน
“อย่านะ อย่า… อ๊ะ…”
แม้จะพยายามขัดขืนยังไงแต่เมื่อถูกพ่อเจ้าประคุณถูไถกลีบสาวเมื่อไหร่ หล่อนก็เป็นอันละลายกลายเป็นหยดน้ำในทันที
“อู๊ย… อาจารย์…”
“ชอบใช่ไหมล่ะ ชอบใช่ไหม”
เขากัดฟันถามและใช้นิ้วสอดใส่เข้าไป ดึงเข้าดึงออกเป็นจังหวะทำให้ร่างอรชรส่ายระริกด้วยความเสียวกระสันที่ไม่อาจจะห้ามได้อีก
“อาจารย์ขา… อ๊า…”
ไทเลอร์ระบายยิ้มพึงพอใจ ต่อจากนั้นก็จัดการปลดปล่อยความใหญ่โตของตนเองออกมาจากกางเกง มันแข็งชูชัน และพร้อมใช้งาน
“โยกมัน เจ้าขา… เธอต้องโยกมันให้สุดเหวี่ยง”
และก็ไม่ต้องรอให้เขาพูดซ้ำสอง เพราะแค่เสี้ยววินาทีต่อมาเท่านั้น สะโพกงามก็สวมทับลงไปบนแก่นกายยาวใหญ่ทันที เสียงคำรามผสมกับเสียงครางดังลั่นรถ
“โอ้ว… โยกเก่งมาก… โยกอีก เอาอีก…”
รถสปอร์ตคันงามภายในเย็นฉ่ำด้วยแอร์ชั้นดี แต่กระนั้นก็ไม่สามารถดับเพลิงปรารถนาที่กำลังเผาไหม้สองหนุ่มสาวให้มอดลงได้ ทั้งคู่โยกคลึงเข้าใส่กันอย่างดุเดือด เมามัน และหนักหน่วง รุนแรงจนรถทั้งคันสั่นไหว ก่อนที่เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเสียวกระสันจะดังเล็ดลอดออกมาจากรถยนต์ราคาแพงระยับคันนั้น
“อ๊า… อาจารย์ขา… ไม่ไหวแล้ว อาจารย์…”
ไทเลอร์เองก็ทนไม่ไหวเช่นกัน เขาจับบั้นเอวคอดให้กระแทกลงมาและยกสะโพกเพรียวของตนเองเด้งขึ้นรับอย่างเหมาะเจาะแรงเร็ว และสุดท้ายก็…
“สุดยอด… ยังสุดยอดเหมือนเดิม เจ้าขา…”
เมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลง ความจริงที่แสนอดสูก็แล่นมาใส่ร่าง จันทร์เจ้าขาน้ำตาไหล แม้จะสุขสม แต่ก็รู้ดีว่าตัวเองไม่มีค่าอะไรเลยต่อผู้ชายคนนี้ อีตัว เขาอยากเอาที่ไหนก็ได้ ได้ทุกที่
“สะใจแล้วใช่ไหมคะ”
ไทเลอร์ที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่กับความเสียวกระสันหรี่ตาแคบมองทันควัน
“ปากดีอย่างนี้ คงต้องสั่งสอนอีกรอบ”
“ไม่นะ… อย่านะ…”
เขาแสยะยิ้ม และก็ไม่คิดจะฟังคำทัดทานใดๆ อีก เขาซัดเพลิงเสน่หาเข้าใส่กายสาวอีกครั้งและอีกครั้งจนรถทั้งคันแทบพังไปกับแรงขับเคลื่อนทรงพลัง ซ้ำแล้วซ้ำเล่าสุดท้ายเจ้าหล่อนก็สลบไสลคาอกไปเพราะความอ่อนเพลีย