ขึ้นชื่อเชื้อสายกษัตริย์ไม่มีความรักจีรังมีแต่เอ็นดูกับผลประโยชน์เท่านั้น แต่จ้าวเฟิ่งหยางอย่างไรก็เป็นพี่ชายเพียงคนเดียวที่ร่วมสายโลหิต
“เหม่ยเซียนเปิ่นหวางกับเสด็จแม่ยังตามหาเจ้าไม่ได้เพิกเฉยแม้แต่น้อย”
จ้าวเหม่ยเซียนมองคนตรงหน้าอย่างเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงแน่ใจว่านางคือน้องสาวของเขาจริงๆ
“ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่าข้าเป็นน้องสาวของท่าน” จ้าวเหม่ยเซียนเอ่ยถามดวงตาจ้องมองความเย็นชาซึ่งอ่อนลงหลายส่วนจากร่างสูงตรงหน้าอย่างจริงจัง
“ตอนแรกเปิ่นหวางไม่แน่ใจ แต่จากสายข่าวและการสนทนาเมื่อครู่ล้วนไม่ได้ผิด แม้เจ้าจะเปลี่ยนแปลงไปมากแต่อย่างไรเจ้าก็คือน้องสาวเปิ่นหวาง”
จ้าวเหม่ยเซียนมองอีกฝ่ายนิ่งๆ ก่อนจะแบมือสิ่งยืนยันว่าเจ้าตัวเป็นพี่ชายจริงๆ หยกสีเขียวหมอกสลักอักษรจ้าวเฟิ่งหยางวางบนมืออย่างแผ่วเบา นางมองครู่หนึ่งก่อนจะหยิบป้ายหยกตัวเองมาวางคู่ลงล็อกพอดี
เหตุที่ทำเช่นนี้เพราะความรู้สึกห่วงใยจากร่างเดิมยังคงอยู่ นางลุกขึ้นยืนและทำความเคารพเหมือนองค์หญิงควรกระทำตั้งแต่แรก
“หม่อมฉันจ้าวเหม่ยเซียนถวายพระพรเสด็จพี่เพคะ”
หมับ!
จ้าวเหม่ยเซียนเบิกตากว้างมองร่างสูงหนาของพี่ชายวัยยี่สิบสองปีดึงร่างตัวเองไปกอดอย่างตกใจ นางยืนแข็งทื่อในอ้อมกอดที่ดูอบอุ่น แต่นางรู้สึกหายใจไม่ออกจะกอดแน่นไปถึงไหน แต่ร่างที่สั่นน้อยๆ ทำให้ไม่กล้าปริปาก ไม่คิดว่าจะดีใจที่เจอนางอย่างนี้
“เหม่ยเซียนเปิ่นหวางขอโทษที่ปกป้องเจ้าไม่ได้”
น้ำเสียงแหบต่ำเหมือนข่มความรู้สึกตัวเอง นางยกมือกอดปลอบอย่างประหม่าเพราะยังไม่คุ้นชิน แม้องค์หญิงจะสนิทสนมกับพี่ชายมากแต่ตอนนี้คนที่อยู่ในร่างนี้คือนาง
“หม่อมฉันสบายดีเพคะ”
จ้าวเหม่ยเซียนเอ่ยบอกเสียงเบาหลังจากที่รับรู้ความจริงใจของพี่ชายในภพนี้ นางจึงยอมเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงให้จ้าวเฟิ่งหยางได้เห็น
ตอนนี้พวกเราได้พากันมาอยู่ภายในห้องส่วนตัวแล้ว นางได้บอกความตั้งใจเดิมของตัวเองให้ฟังซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่เห็นด้วย นางจึงยอมให้มีผู้ติดตามสี่คนซึ่งให้ตามคุ้มครองอยู่ห่างๆ อีกทั้งฝีมือนางไม่ได้ต่ำช้าคนที่ติดตามได้ต้องระดับฝีมือเดียวกันหรือมากกว่า
ทว่าหลังจากที่พี่เฟิ่งหยางเปิดเผยโฉมหน้าภายใต้หน้ากากกับทำให้จ้าวเหม่ยเซียนตกตะลึง ใบหน้าที่เคยคมคายกลับเสียโฉมไปกว่าครึ่งมีเพียงดวงตาที่ไม่ได้รับความเสียหาย นางจึงรั้งอยู่เมืองนี้ต่อเพื่อรักษาใบหน้าให้พี่ชาย
“น้องหญิงรักษาได้?”
จ้าวเหม่ยเซียนมองใบหน้าที่มีรอยแผลน่ากลัวแล้วพยักหน้ารับก่อนจะบอกเล่าบางส่วนที่ทำให้ดวงตาคมเข้มประกายยินดีเพียงครู่
“หม่อมฉันได้หมอปีศาจช่วยชีวิต จึงได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์พอมีวิชาอยู่บ้างเพคะ”
“เปิ่นหวางภูมิใจในตัวเจ้าน้องหญิง หากเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ทรงทราบคงยินดีไม่น้อย” นางมองมือใหญ่ที่ลูบศีรษะยังเอ็นดูแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ
“หม่อมฉันอยากให้รู้เพียงแค่เราสองพี่น้องเพคะ”
เฟิ่งหยางมองนางอยู่พักใหญ่ก่อนจะพยักหน้ารับเหมือนเข้าใจ สามปีมานี้เขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากจากความทรงจำที่รู้จัก
“แต่เจ้าควรไปพบเสด็จแม่”
จ้าวเหม่ยเซียนมองอย่างอึกอักเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับพร้อมมีข้อแม้ว่าเรื่องการปรากฏตัวขององค์หญิงจะยังเป็นความลับจนกว่าจะถึงเวลาสมควร
หลังจากที่ตกลงกับเฟิ่งหยางเรียบร้อยแล้วจ้าวเหม่ยเซียนจึงได้เดินทางกลับวังหลวงทันที ช่วงนี้คลื่นใต้น้ำยังสงบต่างเก็บตัวเงียบองค์ชายอื่นยังไม่เคลื่อนไหว
แต่เหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนทำให้สูญเสียองค์ชายสามไปเพราะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสังหารพี่น้องครั้งเมื่อประพาสป่า แต่ยังเหลือองค์ชายอีกหลายคนที่หมายตำแหน่งฮ่องเต้โดยคิดกำจัดรัชทายาทอย่างเฟิ่งหยาง
หลังจากที่จ้าวเหม่ยเซียนปรากฏตัวอย่างลับๆ ที่รู้กันเพียงแค่คนที่ไว้ใจได้ ฮองเฮาซึ่งเป็นเสด็จแม่ในปัจจุบันกอดนางทั้งน้ำตาด้วยความดีใจ ตอนแรกก็เก้อเขินเพราะนางก็เหมือนคนแปลกหน้าทว่าความรู้สึกที่หลงเหลือขององค์หญิงที่เสียสละร่างให้ทำให้ไม่ได้ประหม่าอย่างที่ควรจะเป็น
MANGA DISCUSSION