จ้าวเหม่ยเซียนพุ่งไปกอดขาหญิงชราตรงหน้าด้วยตาเป็นประกาย ความหน้าหนาหน้าหนาของนางเอามาใช้อย่างไม่อาย
“หื้ม เจ้าอยากเป็นลูกศิษย์ข้าหรือ” จ้าวเหม่ยเซียนพยักหน้ารับอย่างแข็งขันรอยยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มมุมปากสองข้างของตัวเอง
“ดีๆ หน่วยก้านเจ้าดี เฉลียวฉลาดข้าจะรับเจ้าเป็นลูกศิษย์”
“ขอบคุณท่านยาย ลูกศิษย์ขอคารวะอาจารย์”
จ้าวเหม่ยเซียนคุกเข่าพร้อมหาน้ำชาที่จืดชืดคำนับอาจารย์โหยวลี่ด้วยความดีใจ โดยไม่ทันได้สังเกตรอยยิ้มอันร้ายกาจของอาจารย์แม้แต่น้อย
เพราะกว่าจะรู้ความหมายของมันนางก็แทบตายวันละหลายรอบ ตำราแพทย์มากมายที่ต้องนั่งอ่านและนั่งคัดจนหลังแข็ง สมุนไพรหนึ่งเล่มต้องคัดลอกออกมาให้ได้สิบเล่มจนนางจำได้ขึ้นใจ และที่สำคัญพอคัดลอกเสร็จอาจารย์เผาทิ้งอย่างไม่ไยดี นางแทบร้องไห้ที่ผ่านมาให้คัดลอกเพื่อ?
แต่นางก็ไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งนอกจากคัดลอกเล่มต่อไปอย่างตั้งใจเท่านั้น ยังดีที่ความสามารถในการเขียนอักษรของเจ้าของร่างมันอยู่ในขั้นเทพอีกทั้งเคยเขียนอ่านภาษาจีนได้จึงไม่มีปัญหาข้อนี้
จ้าวเหม่ยเซียนนั่งคัดลอกตำราสมุนไพรอยู่สามเดือนในจำนวนสามร้อยเล่ม สมุนไพรที่อาจารย์เชี่ยวชาญมีทั้งยาพิษและยารักษาทั้งๆ ที่ส่วนประกอบตัวยามากมายกลับท่องจำได้อย่างแม่นยำ
ต้องยกความดีความชอบให้กับอาจารย์ที่ให้นางนั่งหลังขดหลังแข็ง อย่างน้อยก็มีความรู้ในสมองโดยไม่ต้องพกหนังสือสามร้อยเล่มไปไหนมาไหนด้วย
ที่นี่คือหุบเขาไห่เอ้อ ซึ่งไม่ใช่ยอดฝีมือไม่มีทางมาถึงได้ เส้นทางรกทึบที่สำคัญมันมีสัตว์ป่าดุร้ายเยอะมาก เชื่อสิ นางวิ่งหนีป่าราบมาแล้ว!
“เก่งมากเด็กดี”
จ้าวเหม่ยเซียนยกยิ้มยินดีรู้สึกหลุดออกมาจากขุมนรก ทว่าหลังจากนั้นก็รู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นเพราะตำราที่อ่านต้องนำมาปรุงเองทั้งหมด บางวันต้องออกไปหาสมุนไพรเอง วิ่งหนีหมาป่าจนป่าราบก็เคยมี
ยังดีที่อาจารย์สอนวิชาตัวเบาให้นางเลยรอดตายมาหลายครั้งหลายครา จนเชี่ยวชาญด้านการหนี
เวลานี้สิ่งที่ชื่นชอบที่สุดคือตำรากวนอิมพันหน้าที่แปลงโฉมตัวเองให้ได้ดั่งใจเพียงแค่รู้จักส่วนของสมุนไพร และมีบ้างที่ต้องใช้น้ำยางจากต้นไม้มาทำหนังให้คล้ายมนุษย์ มันสามารถป้องกันน้ำได้และไม่ต้องกลัวสีตก วิธีนี้นางเอาความรู้ในอดีตมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ลองผิดลองถูกก็หลายครั้ง
อีกหนึ่งปีต่อมาจ้าวเหม่ยเซียนก็สำเร็จวิชาการแพทย์ของหมอปีศาจที่ยุทธภพร่ำลือ ระหว่างที่นางได้ปรุงยาเวลาว่างอาจารย์ชอบให้นั่งสมาธิจับสัมผัสลมปราณของโลกนี้เพื่อเพิ่มพลังวัตรให้กับตัวเอง
“เซียนเอ๋อร์เจ้าออกมาหน่อยสิ”
จ้าวเหม่ยเซียนลุกขึ้นหลังออกจากกระท่อมโกโรโกโสไปหาอาจารย์ข้างนอก นางเห็นชายชราสวมใส่อาภรณ์สีดำยืนลูบหนวดพูดคุยกับอาจารย์อยู่และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
“เซียนเอ๋อร์คารวะท่านอาวุโสเจ้าคะ”
จ้าวเหม่ยเซียนย่อตัวลงทำความเคารพอย่างอ่อนน้อม แววตาที่มากด้วยประสบการณ์หรี่ตามองนางเหมือนจะมองให้ทะลุเข้าไปในจิตใจ
“ตาแก่อย่ามองสำรวจร่างลูกศิษย์ข้านะ” อาจารย์เอ่ยเสียงดุชายชราตรงหน้าซึ่งทำให้ผู้อาวุโสรั้งสายตากลับมามองอาจารย์อีกครั้ง
“นังหนูนี่ใช่คนที่เราเจอที่ใต้น้ำตกหรือเปล่า”
คำถามของชายชราทำให้จ้าวเหม่ยเซียนหันไปมองอย่างสนใจ มือเหี่ยวย่นลูบหนาดขาวของตัวเองอย่างครุ่นคิด นางยังจำได้ว่าอาจารย์เคยเล่าว่าพบเจอนางพร้อมเฒ่าทารก
“ใช่ มีอะไรหรือแก่จนเลอะเลือนไปแล้ว”
“เฮอะ ข้าอายุแค่สองร้อยปี จะไปเลอะเลือนเหมือนยายเฒ่าอย่างเจ้าได้อย่างไร”
“หน้อยย ตาแก่ข้ากับเจ้าห่างกันแค่ปีเดียว หากข้าเลอะเลือนเจ้าก็ไม่ต่างจากข้าหรอก”
จ้าวเหม่ยเซียนมองทั้งสองคนตาปริบๆ อายุสองร้อยปี! นางได้ยินไม่ผิดใช่ไหม
“ข้าไม่มีเวลามาทะเลาะกับเจ้า ว่าแต่เจ้าเถอะหนึ่งปีมานี้ออกจากหุบเขาบ้างยัง”
“ยัง ทำไมข้าต้องไปปรากฏตัวไปทั่วด้วย” อาจารย์นางตอบกลับอย่างไม่สนใจขณะรินน้ำชาขึ้นจิบอย่างอารมณ์ดีเหมือนกับว่าการเถียงกันของทั้งคู่เป็นเรื่องปกติ
MANGA DISCUSSION