เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - ตอนที่ 99 ชายผู้แบกปืนRPG
“เย่เทียนเฉินคงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ หรอกใช่ไหม?”
หลิ่วหรูเหมยที่นั่งอยู่ในรถ อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองข้างหลัง เธอไม่อาจยับยั้งจิตใจที่เป็นห่วงเย่เทียนเฉินของตนเองได้เลย และไม่รู้ว่าทำไม หากกล่าวตามเหตุผลแล้วทั้งสองเป็นศัตรูคู่แค้นกัน ชั่วชีวิตนี้ไม่อาจมองอีกฝ่ายได้อย่างสบายตา แต่ตอนนี้ เธอถึงกับเป็นห่วงเจ้าคนชั่วนั่น โลกนี้ช่างมีแต่เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นจริงๆ
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หากไม่ใช่เพราะเย่เทียนเฉิน ก็ไม้รู้ว่าเธอหลิ่วหรูเหมยจะตายไปแล้วกี่ครั้ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ที่นำข้อมูลลับของเทคโนโลยีนิวเคลียร์กลับไป
“วางใจเถอะ ความสามารถของเจ้าเด็กนั่นลึกล้ำเกินคาดเดา พวกเราดูแลตัวเองให้ดีๆ ก็พอแล้ว!” หย่งชุนไท่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลิ่วหรูเหมยพยักหน้า ในใจอดไม่ได้ที่จะร้อนรน หวังว่าเย่เทียนเฉินจะไม่เป็นอะไร
หลิวอวี่กำลังขับรถมุ่งหน้าไปสู่สถานที่ที่มีเฮลิคอปเตอร์ระหว่างประเทศจัดเตรียมไว้นานแล้ว ขอเพียงไปให้ถึงที่นั่นและขึ้นเครื่องได้สำเร็จ ก็จะสามารถกลับประเทศจีนได้แล้ว ภารกิจในครั้งนี้ก็นับว่าประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์
ขับรถอย่างบ้าคลั่งมาตลอดทางราวหนึ่งชั่วโมง หลิวอวี่จึงจอดรถในที่สุด สามารถพบป่าแห่งที่บริเวณชานเมืองวอชิงตัน นี่คือการเตรียมการล่วงหน้าที่เตรียมพร้อมไว้นานแล้ว
“คุณหนู พวกเราลงรถกันเถอะครับ คุ้มครองคุณขึ้นเครื่องไปก่อน พวกเราจะดูหลังให้เอง” หลิวอวี่หันไปกล่าวกับหลิ่วหรูเหมย
“อืม!” หลิ่วหรูเหมยพยักหน้า
“ทุกคนระวังตัวด้วย ฉันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง ให้เตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา” หย่งชุนไท่มองรอบด้านที่เงียบสงัดพลางกล่าว
หลิวอวี่ เจียงเหมิงและเฟยอวิ๋นลงรถ ยืนอยู่รอบๆ อย่างระมัดระวัง ทั้งหมดต่างถือปืนไว้ในมือ นี่ถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดแล้ว จะต้องรับประกันให้ได้ว่าจะไม่มีความผิดพลาดใดๆ
หลังจากนั้นหย่งชุนไท่เปิดประตูรถแล้วเดินออกมาก่อน หลิ่วหรูเหมยตามมาทีหลัง ไหนเลยจะรู้ว่าหลิ่วหรูเหมยเพิ่งจะลงจากรถ รอบด้านก็ปรากฏแสงไฟสปอร์ตไลท์สว่างจ้า ตามมาด้วยเสียงปืนราวห่าฝน พวกเขาถูกซุ่มโจมตีแล้ว
หย่งชุนไท่สายตาเฉียบแหลมมือเท้าว่องไว คุ้มครองหลิ่วหรูเหมยไปข้างหลังรถ ตอนนี้ หลิวอวี่ เจียงเหมิง และเฟยอวิ๋น ทั้งสามได้เริ่มต้นโจมตีตอบโต้แล้ว เพียงแต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายมีคนเยอะมาก พลังโจมตีก็รุนแรง พวกเขาไม่อาจฝ่าออกไปได้ในทันที
“ขึ้นรถ ไปจากที่นี่ก่อน” หย่งชุนไท่ตะโกนเสียงดัง
เมื่อเผชิญหน้ากับการซุ่มโจมตีอันโหดเหี้ยมของอีกฝ่ายเช่นนี้ ทุกที่เต็มไปด้วยทหารที่ถือปืนกลมือ พวกหลิ่วหรูเหมยต้องการขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง ถ้าหากไม่รีบไปจากที่นี่ ไม่ต้องพูดเรื่องขึ้นเครื่องหรอก กระทั่งชีวิตก็เก็บไว้ไม่ได้
ไม่กล่าวไม่ได้ว่า หย่งชุนไท่ หลิวอวี่ เจียงเหมิงและเฟยอวิ๋น ทั้งสี่คนนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เจอกับการล้อมฆ่าของทหารที่ถือปืนกลมือนับร้อยคนก็ยังสามารถฆ่าเปิดทางไปได้อย่างดุดัน จากนั้นจึงขับรถทะลวงลึกเขาไปในป่า
“ตามไป แล้วก็รายงานนายพลบีชทันที บอกว่าพวกเราพบชาวตะวันออกพวกนี้แล้ว ตอนนี้กำลังตามไปฆ่า!” ชายวัยกลางคนชาวประเทศMผู้หนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นผู้บังคับบัญชากล่าวอย่างโหดเหี้ยม
รถบรรทุกลำเลียงทางการทหารหลายคัน ไล่ตามหลังรถของพวกหลิ่วหรูเหมยไปติดๆ พวกเขามิอาจสลัดทิ้งไปได้ในเวลาสั้นๆ จำนวนคนของอีกฝ่ายเยอะกว่าพวกเขามาก อีกทั้งพลังทำลายล้างก็รุนแรงกว่าพวกเขาหลายเท่า สามารถฆ่าเปิดทางหนีออกมาได้ก็ไม่ง่ายแล้ว
เอี๊ยด!
หลิวอวี่เหยียบเบรกครั้งหนึ่งจนรถหยุดลง บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นๆ ผุดออกมา เมื่อสักครู่เกือบจะได้ฆ่าตัวตายเสียแล้ว เพราะด้านหน้ารถเป็นภูเขาสูงลูกหนึ่ง หากว่าขับชนเข้าไปด้วยความเร็วเช่นนี้ จะต้องมีจุดจบที่รถพังคนตายเป็นแน่ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่มีทางให้ถอยแล้ว
“ลงรถ!” หย่งชุนไท่ตัดสินใจอย่างรวดเร็วพลางเปิดประตูรถ
หลิวอวี่ เจียงเหมิงและเฟยอวิ๋นก็รีบลงรถ ดูเหมือนว่าพริบตาที่พวกเขาลงจากรถ ทหารถือปืนนับร้อยที่ไล่ตามหลังพวกเขามาก็ตามมาถึงแล้ว ทั้งหมดต่างถือปืนกลมือเล็งมายังพวกเขา
“วางอาวุธของพวกแกแล้วยอมจำนนซะ ไม่มีใครสามารถต่อต้านประเทศMของพวกเราได้” ชายวัยกลางคนที่เป็นผู้บังคับบัญชาตะโกนไปทางพวกหลิ่วหรูเหมยเสียงดัง
“ฆ่าสิ ต่อให้ต้องสู้จนตาย ก็ไม่ยอมเป็นเชลย!” หย่งชุนไท่กล่าวอย่างเย็นชา
ได้ยินคำพูดของหย่งชุนไท่ พวกหลิวอวี่ก็พยักหน้า พวกเขาต่างก็รู้สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างดี หากต้องการบุกออกไป ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ มีเพียงต้องสู้สุดชีวิตเท่านั้น
การต่อสู้อันดุเดือดดำเนินไปราวครึ่งชั่วโมง หลิวอวี่ เจียงเหมิง เฟยอวิ๋ยและหย่งชุนไท่ รวมทั้งหลิ่วหรูเหมยเข้าร่วมการต่อสู้ ลูกกระสุนปืนทั้งหมดต่างยิงถูกอากาศ เหล่าทหารที่ล้อมโจมตีพวกเขาก็บาดเจ็บล้มตายไปมาก ส่วนพวกเขาห้าคนจะมากจะน้อยก็ได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง ในหมู่พวกเขาเจียงเหมิงบาดเจ็บหนักที่สุด ถูกปืนยิงที่ไหล่ซ้าย ทะลุไปถึงปอด เลือดสดๆ ไหลออกมาไม่ขาดสาย พริบตาก็เปียกชุ่มเสื้อผ้าเขาไปหมด
“เจียงเหมิง เจียงเหมิง นายไม่เป็นไรใช่ไหม?” เฟยอวิ๋นยิงปืนตอบโต้ไปพลางตะโกนถามเจียงเหมิงไปพลาง
“ยังไม่ตาย ทุกคนระวังตัวให้ดี มีสไนเปอร์” เจียงเหมิงใบหน้าซีดขาว พยายามอดกลั้นความเจ็บปวดอย่างเต็มที่
เมื่อสักครู่นี้เจียงเหมิงถูกปืนยิงเข้าโดยไม่คาดคิด อีกฝ่ายมีสไนเปอร์หลบอยู่ในที่ลับ เมื่อมีโอกาสก็จะลั่นไกยิงหัวพวกเขา ต้องการที่จะฆ่าพวกเขาให้ได้ ไม่ปล่อยให้พวกเขากลับปะเทศ
หลิ่วหรูเหมยมองทุกอย่างด้วยความร้อนใจ พวกเขาถูกล้อมไว้แล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฝ่าออกไป ต้องเผชิญกับยอดทหารจำนวนมากขนาดนี้ ทำได้เพียงสู้ตายเท่านั้น ไม่มีทางฝ่าทะลวงไปได้ หรือว่าครั้งนี้พวกเขาจะต้องตายอยู่ที่นี่จริงๆ?
อีกด้านหนึ่ง นายพลบีชแห่งเขตสิบห้าของวอชิงตันก็ได้รับรายงานของลูกน้องแล้ว บอกว่าพบชาวตะวันออกที่มาแลกเปลี่ยนข้อมูลหลายคนนั้นแล้ว ทั้งลูกน้องของตนยังส่งคนไปล้อมพวกเขาไปและกำลังไล่ฆ่าอยู่
“ฆ่าซะ ฆ่าพวกเขาให้หมด จะให้พวกชาวตะวันออกเหล่านี้กลับประเทศไปไม่ได้เด็ดขาด ประกาศให้ประเทศอื่นๆ ในโลกรู้ว่าอย่าเป็นศัตรูกับประเทศMของพวกเรา” บีชกล่าวอย่างโอหัง
“ครับท่านนายพล!” ทหารที่ยืนอยู่ข้างๆ กล่าวอย่างเคารพ
“ใช่แล้ว เจ้าปีศาจตะวันออกนั่นก็ถูกล้อมไว้แล้วใช่ไหม?” บีชคิดถึงเย่เทียนเฉิน นี่เป็นสิ่งที่เขากังวลมากที่สุด ดังนั้นจึงได้กล่าวถามออกไป
“นี่…ตะ ตามที่ปรากฏในรายงาน ไม่มีร่องรอยของปีศาจตะวันออกคนนั้นครับ…” ทหารคนนั้นกล่าวเสียงเบา
“ไอ้โง่เอ๊ย ปีศาจตะวันออกถึงจะเป็นคนที่เราต้องฆ่าอย่างแท้จริง รีบตามหาให้ผมเดี๋ยวนี้ ฆ่าเขาให้ได้” บีชโกรธจนตะโกนด่าออกมา
“ครับ!”
ตอนนี้ เย่เทียนเฉินกำลังขี่มอเตอร์ไซด์ไล่ตามพวกหลิ่วหรูเหมยไปยังสถานที่ที่เตรียมเฮลิคอปเตอร์อย่างรวดเร็ว เขาเงยหน้ามองไปบนหัวพบว่าข้างบนมีเครื่องบินทหารบินมา จึงอดไม่ได้ที่จะคิดในใจ เห็นทีเรื่องครั้งนี้คงทำเสียยิ่งใหญ่เกินไปหน่อย ทำให้กระทั่งกองทัพประเทศMก็ออกมาเคลื่อนไหวแล้ว ต่อจากนี้คงจะสนุกแน่ๆ
ในขณะเดียวกันพวกหลิ่วหรูเหมยทั้งห้าคนอยู่ในสภาพที่เริ่มหมดแรงกันแล้วและยังไม่มีหนทางให้ถอย แม้ว่าจะฆ่าทหารที่ล้อมโจมตีพวกเขาไปมาก แต่จำนวนของอีกฝ่ายก็เยอะมากจริงๆ และทุกคนยังใช้ปืนกลมืออีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสไนเปอร์ซุ่มอยู่ในที่ลับ ทำให้พวกเขาแสดงตัวออกไปไม่ได้ ทำได้เพียงถอยหลังไปเรื่อยๆ จนตอนนี้ไม่มีที่ให้ถอยแล้ว
“พวกเราทำยังไงกันดี?” เฟยอวิ๋นประคองเจียงเหมิงที่ได้รับบาดเจ็บ มองไปยังหลิวอวี่พลางกล่าวถาม
“ต่อให้พวกเราต้องตาย ก็ไม่อาจปล่อยให้ถูกจับไปเป็นเชลยของประเทสMได้ ภารกิจครั้งนี้ไม่มีทางสำเร็จ คงได้แต่ขอโทษต่อประเทศชาติและประชาชนแล้ว ถ้าหากยังถูกคนประเทศMพวกนี้จับตัวไปอีก ก็ยิ่งทำให้พวกเราไม่อาจเงยหน้าเงยตาในประเทศจีนได้เลย” หลิวหรูเหมยกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว
“คุณหนูพูดถูก ต่อให้ตายก็ไม่ยอมเป็นเชลย” หย่งชุนไท่กล่าวพลางพยักหน้า
“ดี งั้นพวกเราบุกออกไปฆ่าให้สะใจ ฆ่าได้มากขึ้นคนเดียวก็คนเดียว” หลิวอวี่กำหมัดแน่น
ซู่ม!
ตอนที่พวกหลิวอวี่ทั้งหมดเตรียมตัวจะพุ่งออกไปโดยไม่เกรงกลัวว่าจะถูกลูกปืนยิงจนพรุนแต่ไม่ยอมเป็นเชลย แสงสว่างสายหนึ่งก็ทำลายความมืดมิดในท้องฟ้า
ตู้ม!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเสียดฟ้า รถบรรทุกลำเลียงของทหารถูกระเบิดจนปลิว ทหารประเทศMสิบกว่าคนถูกระเบิดจนกระจาย ทุกคนตกใจจนชะงักไปครู่หนึ่ง ใครกันที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ กระทั่งลูกปืนหัวจรวดก็เอามาใช้
ทุกคนต่างมองไปยังทิศทางที่ลูกปืนหัวจรวดถูกยิงมา เห็นเพียงเงาคนร่างหนึ่ง มือซ้ายล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง มือขวาแบกปืนRPG เดินเข้ามาช้าๆ จุดที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากที่สุดก็คือ บุหรี่ที่เขาคาบอยู่ในปากมวนนั้น ท่าทางการแสดงออกทั้งหมดเผด็จการเป็นอย่างมาก เท่ถึงขีดสุด
“เย่เทียนเฉิน!” หลิ่วหรูเหมยอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา
“ปะ ปีศาจตะวันออก…ฆ่าเขาซะ!” คนที่เป็นผู้บังคับบัญชาตอบสนอง ส่งสัญญาณมือเพื่อออกคำสั่งให้ทหารยิงปืนไปทางเย่เทียนเฉิน
เพียงแต่น่าเสียดายที่ทหารเหล่านั้นยังไม่ทันได้สติกลับมาจากอาการช็อค ก็มีเสียงดังสนั่นดังขึ้นอีกครั้ง การยิงครั้งที่สองของเย่เทียนเฉินตรงไปยังทหารวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าก่อนที่จะระเบิดจนปลิว เหลือไว้เพียงฝนเลือดกลางอากาศ ทั้งรุนแรงทั้งเผด็จการ
คนที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุทั้งหมดช็อคจนนิ่งไปแล้ว ทหารถือปืนที่เหลืออีกหลายสิบคนก็สั่นไปทั้งตัว พวกเขาเป็นทหาร การฆ่าคนสำหรับพวกเขาแล้วไม่นับเป็นอะไรได้ แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นการฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมเช่นเย่เทียนเฉิน คนคนนี้ถือปืนRPGที่มีลูกปืนหัวจรวดบรรจุอยู่ ฝีมือก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ยิงออกมาหนึ่งนัดสามารถระเบิดคนของพวกเขาได้เป็นแถบๆ ต้องเจอกับอาวุธหนักเช่นนี้และยังมีชายที่ถูกเรียกว่าปีศาจตะวันออกอีก ความกล้าของพวกเขาเริ่มจะหายไปแล้ว
“พวกแกยังไม่ไปอีก รอฉันยิงปืนRPGนี่เหรอไง? อย่ามาสละชีพโง่ๆ เพื่อประเทศMเลย กลับบ้านไปกอดเมียให้มีความสุขเถอะ!” เย่เทียนเฉินกล่าวกับทหารที่เหลือด้วยรอยยิ้ม
ไม่รู้ว่าใครที่โยนปืนในมือทิ้งและจากไปคนแรก แต่ขอเพียงมีผู้นำ คนที่เหลือเหล่านี้ต่างก็ทิ้งปืนวิ่งหนีไปตามๆ กัน จะมีใครบ้างที่ไม่กลัวตาย
“แม่งเอ๊ย เจ๋งไปเลย ฉันเอาลูกปืนหัวจรวดมาได้แค่สองลูกนี่แหละ!” เย่เทียนเฉินโยนปืนRPGลงพื้น ถอนหายใจออกมายาวๆ พลางกล่าว
“นายมักจะตามมาช่วยตลอดเลย ขอบคุณนะ!” หลิวอวี่เดินไปเบื้องหน้าของเย่เทียนเฉินพลางกล่าวอย่างจริงจัง
เย่เทียนเฉินมองเจียงเหมิงครู่หนึ่ง แล้วมองไปยังหย่งชุนไท่และเฟยอวิ๋น ทราบดีว่าพวกเขาผ่านการต่อสู้อันโหดร้ายมา จะมากจะน้อยก็ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้อีกไม่นานจะต้องมีทหารบุกมาอีกกลุ่มใหญ่ๆ ถึงตอนนั้นอยากจะไปก็ไปไม่ได้แล้ว
“รีบไปเถอะ ขึ้นเครื่องแล้วค่อยว่ากัน!” เย่เทียนเฉินเปิดปากกล่าว
“เย่เทียนเฉิน…” หลิ่วหรูเหมยมองเย่เทียนเฉินยิ้มๆ อยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่กลับถูกเย่เทียนเฉินกล่าวขัด
“ไปเถอะ คำพูดไร้สาระของผู้หญิงไม่ต้องพูดให้มากนัก ส่วนมากก็เหมือนกับน้ำนั่นแหละ ไหลไปทั่ว…”
“ไปตายซะ!”
……………………………………………………