เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 165 ให้สิ่งที่คุณต้องการมาตลอด
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังรอบตัวเขา เย่หลินได้ยินคนพูดว่า สวิทช์ไฟช็อต
เธอตกตะลึง แต่ก็ยังค่อยๆกลืนอาหารเข้าไปในปาก
เธอยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับไปไหน
ในใจเธอไม่ได้ตกใจ จากนั้น เธอก็ได้กลิ่นกายที่คุ้นเคย
มุมปากกระตุกขึ้น
“ห่างตั้งไกลขนาดนี้ คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่ ?”
ในเวลานี้ไฟได้สว่างขึ้นอีกครั้ง แต่เธอเห็นใครบางคนกำลังเอียงศีรษะโน้มเข้าใกล้ใบหน้าของเธอ และเห็นได้ชัดว่ากำลังจะทำอะไร ในเวลานี้ ไฟสว่างขึ้น เขาตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น พร้อมกับใบหน้าที่ลำบากใจ
เย่หลินฉีกยิ้มออกมา และหันศีรษะไปด้านหนึ่ง
“โอเค ไม่ต้องห่วงฉัน คุณไปทำธุระเถอะ ?” จากสายตาด้านของเธอเห็นว่าอวี๋ย่าหนานคนนั้นกำลังมองมาทางนี้
"โดยทั่วไปก็พูดเกือบหมดแล้ว ผมไปทักทายสักครู่ เดี๋ยวกลับมา รอผมนะ "พูดจบ หนิงเส่าเฉินก็ขมวดคิ้ว และดึงสายที่จ้องมองเย่หลินกลับมา เขายกริมฝีปากขึ้น ตบที่มือของเธอ จากนั้นก็หันหลังเดินไปทางอวี๋ย่าหนาน
เย่หลินมองไปที่แผ่นหลังนั้น หลังจากสติกลับมา เธอก็เริ่มก้มหน้าทานอาหารตรงหน้าอีกครั้ง
หลังจากทานปลิงทะเลเข้าไปในปากแล้ว เธอก็ยื่นมือไปที่จานอื่นอีก
“คนสนิทของหนิงเส่าคนนี้ รู้จักการทานจริง” หลังจากที่หนิงเส่าเฉินมาถึง อวี๋ย่าหนานก็เฝ้ามองเธออย่างตลก
ผู้หญิงคนนี้ไร้ความกังวลจริงๆ วันนี้เธอเป็นผู้หญิงของหนิงเส่าเฉิน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องง่ายที่เธอจะกลายเป็นจุดสนใจ
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงทุกคนล้วนสวมชุดเดรส แต่เธอใส่ชุดลำลอง ถ้าหากไม่ใช่เพราะหนิงเส่าเฉินพาเข้ามา เธอจะไม่สามารถเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ได้
ตอนนี้ดูเธอทานและดื่มอย่างไม่สนใจอะไร ผู้คนจำนวนมากหลายคนเริ่มพูดถึงที่มาของเธอ
“ใช่ เธอทานได้น่าสนใจมาก” หนิงเส่าเฉินกลับไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของอวี๋ย่าหนาน สายตาเขาหยุดมองไปที่เย่หลิน มุมปากยกขึ้น แววตาเขาเต็มไปด้วยความเอาแต่ใจ
แล้วเขาก็ลุกขึ้น “คุณนั่งไปก่อนนะ ผมไปดูเธอหน่อย”
อวี๋ย่าหนานพยักหน้า เธอคิดว่าหนิงเส่าเฉินจะต้องรู้สึกว่าอาย และไปหยุดเธอ
แต่ไม่คิดเลยว่า………
เมื่อหนิงเส่าเฉินมาถึงข้างเธอ เขาก็แค่ยืนอยู่ข้างหลังของผู้หญิงคนนั้น ช่วยเธอถือจาน เขายังช่วยเธอดึงของที่เธอเอื้อมไม่ถึงด้วย
ขณะนี้เธอเต็มไปด้วยอารมณ์ เมื่อครู่ที่ไฟดับ เธอรู้สึกถึงลมกระโชกแรงที่ข้างกาย เมื่อลืมตาขึ้นมา หนิงเส่าเฉินก็ไปอยู่ข้างกายผู้หญิงคนนั้นแล้ว
เขารักผู้หญิงคนนั้นจริงๆเหรอ ? เขาถึงมีการกระทำของจิตใต้สำนึกแบบนั้น ?
อย่างไรก็ตาม เธอไม่เต็มใจที่จะแพ้ให้กับผู้หญิงคนนี้
“หนิงเส่าเฉิน อีกเดี๋ยว พวกเขาจะขับไล่ฉันออกไปไหม ?” เย่หลินกลืนอาหารในปากของเธอ จากนั้นหันศีรษะไปมองหนิงเส่าเฉินแล้วถาม
หนิงเส่าเฉินมองมาที่เธอแล้วยิ้ม “ไล่ ที่นี่ไม่มีใครมีคุณสมบัติที่จะไล่คุณ ผมกลัวว่าคุณจะมีชื่อเสียงจากการทานอาหารที่นี่ ”
การรวมตัวของชนชั้นสูงที่นี่ ล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยการแสแสร้ง
ไม่ต้องพูดถึงการทานอย่างตะกละ คาดว่ามีน้อยคนที่จะยื่นมือออกไปที่จานสองครั้ง
หลังจากนี้ จะรู้สึกเสียดาย ถ้าใครยังไม่ได้ทานอะไรดีดีพวกนี้ ?
เหมือนกับวิธีการทานของเย่หลิน เดาว่าทำให้พวกเขาได้เปิดตา
“คุณไม่รู้สึกอายเหรอ ?”
หนิงเส่าเฉินส่ายศีรษะ และลูบหัวของเธอ “ไม่อาย คุณทานอาหารของตัวเอง จะมีอะไรน่าอาย”หลังจากหยุดไปชั่วครู่เขาก็พูดต่อว่า:“ เพียงแต่ คุณต้องพักหน่อย คุณทานเย็นขนาดนี้เขาไปรวดเดียว กระเพาะจะรับได้เหรอ ? ”
เย่หลินขมวดคิ้ว มองหนิงเส่าเฉิน ประโยคข้างหน้าของคุณ หมายความว่ายังไง ? อะไรเรียกว่าฉันทานตัวเอง ? หรือว่านี่ก็เป็นทรัพย์สินของหนิงกรุ๊ปด้วย ?
ริมฝีปากของหนิงเส่าเฉินยกขึ้น เขาเพียงยิ้มและไม่พูดอะไร
ในขณะนี้ ไฟในสถานที่จัดงานก็หรี่ลง แต่ไม่เหมือนกับความมืดเมื่อครู่ มันแค่สลัวลงไปหน่อย
เมื่อพิธีกรขึ้นมาบนเวที ความสนใจของเย่หลินก็ยังคงอยู่ที่อาหาร และแสงไฟสลัวก็ไม่ส่งผลกับการทานของเธอ
ดังนั้น เธอจึงไม่ได้ยินว่าพิธีกรกำลังพูดอะไร
ได้ยินพียงเสียงปรบมือที่หนาหู
แสงไฟบนเวทีค่อยค่อยเคลื่อนมาที่เธอ
เธอตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้น ทุกคนก็เห็นคุณชายใหญ่หนิงของพวกเรา หยิบกระดาษทิชชู่ข้างจาน เพื่อเช็ดปากของผู้หญิงที่ยังทานอาหารอยู่
ทุกคนถอนหายใจ
“มาเถอะ พวกเรามาเชิญอีกครั้ง เจ้าของคนใหม่รีสอร์ทของพวกเรา ขึ้นมาบนเวทีเพื่อพูดอะไรหน่อย”
จากนั้นก็มีเสียงปรบมืออีกครั้ง
ครั้งนี้เย่หลินได้ยินอย่างชัดเจน เธอมองหนิงเส่าเฉิน และพูดไปว่า “คุณขึ้นไปสิ ? ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อครู่เขาบอกว่าเป็นของตัวเอง ในใจเธอก็มีความสุขมาก อีกเดี๋ยวเธอจะได้ทานอย่างสบายใจ”
แต่ หนิงเส่าเฉินก็มองไปที่เธอ “เขาเรียกคุณขึ้นไป”
เย่หลินตกตะลึง และขยับเข้าไปใกล้หนิงเส่าเฉินอีกหน่อย “นี่มันอะไรกัน ? พวกเราผิดพลาดอะไรรึเปล่า ?”
“ผมให้ของขวัญวันเกิดคุณ”
คุณให้ของขวัญวันเกิดฉัน……….
ประโยคนี้ก้องอยู่ในหูของเย่หลินซ้ำแล้วซ้ำเล่า
วันเกิดของเธอ เดือน 11 ไม่ใช่เหรอ ? เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ยังเป็นฤดูใบไม้ผลิ ?
พ่อของคุณบอกว่า ที่จริงแล้วนี่เป็นวันเกิดที่แท้จริงของคุณ หนิงเส่าเฉินมองความสงสัยของเธอออก จึงกระซิบที่ข้างหูของเธอ
เย่หลินเม้มริมฝีปาก ส่ายศีรษะ ไม่เอา นี่มันแพงเกินไปแล้ว มีใครที่ไหนเขาให้รีสอร์ทเป็นของขวัญกัน ?
“ที่จริงแล้วรีสอร์ทเป็นเพียงของเสริม เหตุผลหลักคือด้านหลังที่นี่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถจอด
เฮลิคอปเตอร์ได้ อาหารทะเลที่นี่ ส่งตรงมาทางเครื่องบินภายในหนึ่งชั่วโมง และไม่มีการเปลี่ยนมือบ่อย ไม่อย่างนั้นจะสดขนาดนี้ได้อย่างไร ? ผมคิดของขวัญไว้เยอะมาก และสัญชาติญาณบอกว่า คุณจะต้องชอบที่นี่ ”
เย่หลินรู้สึกแสบจมูก ความตั้งใจของหนิงเส่าเฉินซาบซึ้งถึงจิตใจเธอ แต่เห็นได้ชัดว่าสองวันที่เขาอยู่กับเธอมา ทำไมเขาถึงทำอะไรมากมายเพื่อเอขนาดนี้ล่ะ ?
“อย่าร้องไห้ ผู้คนมากมายกำลังมองอยู่นะ ?”
จากนั้น เย่หลินก็ขึ้นไปพูดอะไร แล้วจะลงมาอย่างไร แล้วจะกลับบ้านอย่างไร ความทรงจำของเธอคลุมเครือไปหมด
เธอแค่จำได้ว่าตัวเองหัวเราะตลอดเวลา ยิ้มร้องไห้ ยิ้มน้ำตาไหล
อันที่จริง เธอไม่สนใจรีสอร์ทนี้เลย เธอไม่เคยคิดถึงเงินด้วยซ้ำ
และ หนิงเส่าเฉินก็ใจดีมากแล้ว
เขายุ่งมาก แต่เพียงเพื่อเพราะเธอ เขาเต็มใจที่ใช้เวลาขนาดนี้
“คุณว่า คุณดีกับฉันขนาดนี้ ฉันควรจะตอบแทนคุณยังไงดี ?” เธอโอบแขนคล้องคอของเขา และฝังศีรษะลงในอ้อมแขนของเขา เธอสูดดมเบาๆและกระซิบ
หนิงเส่าเฉินจ้องมองดวงตาสีแดงที่กำลังร้องไห้ แล้วค่อยๆขมวดคิ้ว “เมื่อเทียบกับคุณสามารถให้กำเนิดลูกได้ สิ่งที่ผมทำก็ไม่มีอะไรเลย !”
เย่หลินกระแอมเบาๆ เดิมทีฉันต้องการให้รางวัลกับคุณ ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ งั้นก็นับไปด้วยเลยละกัน !
ชายคนหนึ่งก้มศีรษะลงมองเธอด้วยความประหลาดใจ “ให้ผม ? รางวัลอะไร ?”
“ก็คือ……ก็คือสิ่งที่คุณคิดมาตลอด……”เมื่อพูดถึงตรงนี้ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นและมองออกไป ใบหน้าของเธอแดง
หนิงเส่าเฉินตกตะลึงในตอนแรก จากนั้นก็มีปฎิกิริยาตอบสนอง มองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าอย่างคาดหวัง
เขาหายใจอย่างหนัก จนตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว:“ เย่หลิน……….”