เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 127 หนิงเส่าเฉินได้รู้ความจริง
นั่นเป็นวันที่สามหลังจากงานแต่งงานของชูหยูจี้กับอ้ายหมี่
"ประธานเย่ จดหมายของคุณ" อู่เล่อเล่อเข้ามาในห้องทำงาน นำจดหมายมาส่งให้เย่หลิน
เย่หลินหยุดการกระทำในมือของเขา มองอู่เล่อเล่ออย่างไม่เข้าใจเล็กน้อย เรื่องรับจดหมายของบริษัท แต่ไหนแต่ไรเธอก็ไม่เคยต้องลงมือด้วยตนเอง อู่เล่อเล่อจะต้องช่วยเธอจัดการ แล้ววันนี้คืออะไร?
"คนส่งบอกว่า จำเป็นต้องเปิดด้วยตัวเอง" มองออกว่าเธอสงสัย อู่เล่อเล่อก็เลยอธิบาย จากนั้น ก็นำจดหมายในมือวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าเธอ ถอยหลังอย่างยิ้มๆ แล้วหันกลับออกไป
เย่หลินขมวดคิ้ว เม้มๆปาก นิ้วมือที่เรียวยาวฉีกเปิดผนึกจดหมาย ด้านในมีกระดาษอยู่สองสามแผ่น
ดึงออกมา สีหน้าเธอก็เคร่งขรึมลงอย่างฉับพลัน หน้าแรก ผู้ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นมารดา : เย่หลิน ลูก : หนิงเสี่ยวซี
พลิกไปที่หน้าสุดท้าย
ความเป็นไปได้ของความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก : 99.9%
"กริ๊ง……”เกือบจะเวลาเดียวกัน โทรศัพท์ตั้งโต๊ะบนโต๊ะทำงาน จู่ๆก็ดังขึ้น เย่หลินตัวสั่นเล็กน้อยด้วยความตกใจ
เธอพยายามทำให้อารมณ์ของตนเองสงบลง แล้วรับสายขึ้นมา "ฮัลโหล……”
"คุณเย่……” น้ำเสียงที่คุ้นเคย โทนเสียงที่เย็นชา เห็นได้ชัดว่าได้ฟังแล้วก็อบอุ่นหัวใจ แต่ว่าในขณะนี้ มือเท้าของเธอกลับเย็นเฉียบ
"คุณคือใครคะ?" เธอพยายามทำให้น้ำเสียงของตนเองสงบเล็กน้อย
"ฉัน? ก็พ่อของเด็กไง" พ่อของเด็ก? เย่หลินคิดหนัก ชั่วขณะ ก็คาดไม่ถึงอย่างมาก อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มขึ้นมา
"คุณหนิง คุณพูดอะไร ฉันฟังไม่เข้าใจ"
"ออกมาแล้วเลี้ยวซ้าย จะรอคุณอยู่ในร้านน้ำชานั่น" พูดจบ เย่หลินยังไม่ทันได้เอ่ยปาก โทรศัพท์ก็ถูกวางสายไป
เมื่อเย่หลินมาถึง หลิวซูก็ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า เห็นเธอเดินเข้ามา สายตาก็มองพิจารณาเธออย่างแปลกๆ จากนั้นก็พาเธอเข้าไป
เมื่อเข้าไปถึง หนิงเส่าเฉินก็เอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ ไม่ได้สวมชุดสูทรองเท้าหนัง ทั้งตัวเป็นชุดกีฬาสีเทา ทำให้เขาดูสบายๆและมีเสน่ห์มาก กาลเวลาช่างเมตตากับเขามาก เวลาสี่ปีไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้เขาเลย และดูแมนมากยิ่งขึ้น
"คุณเย่ เห็นผู้ชายแล้ว หลงใหลขนาดนี้เลยเหรอ?" หนิงเส่าเฉินเอ่ยพูด และคำว่าหลงใหลสองคำ ก็เพิ่มน้ำเสียงหนักขึ้น อย่างฉับพลันเย่หลิน ก็หน้าแดงขึ้นมา คิดๆดูแล้ว ก็กลุ้มใจจริงๆ สองสามปีนี้ เพราะเกี่ยวข้องกับอาชีพ เคยเห็นหนุ่มหล่อๆมาไม่น้อย แต่ว่า เมื่อเห็นชายคนนี้ เธอก็ไม่อาจละสายตาได้
"คนกับสิ่งของที่ดูดี ใครจะไม่ชอบมองล่ะ?" เธอตอบยอกย้อนกลับ
ผู้ชายตรงหน้า ชั่วขณะสีหน้าก็เปลี่ยนไป นั่งตัวตรง เขามองเย่หลินด้วยสายตาประหลาดใจ "ก่อนหน้านี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งเคยพูดคำพูดเดียวกันนี้กับฉัน"
เย่หลินรู้สึกว่าในใจเต้นระรัวขึ้นมา และมีบางอย่างพังทลายลง ดูเหมือนว่าเธอจะเคยพูดคำพูดนี้มาก่อน
เธอก้มหน้า ยกถ้วยน้ำชาตรงหน้าขึ้น จิบหนึ่งที ความรู้สึกบอกเธอว่า หนิงเส่าเฉินวันนี้ดูผิดปกติเล็กน้อย
"ผู้หญิงคนนั้น ชื่อเฉินเป้ยอี" หนิงเส่าเฉินช่วยเธอเติมชา จ้องมองแล้วพูดเรียบๆ
มือที่เย่หลินกุมแก้ว สั่นระริก น้ำชาที่เพิ่งรินมาร้อนเล็กน้อย กระเด็นออกมา เธอยกมือขึ้นสะบัด เป่าเสียง"ฟู่"
"ถูกลวกมือเหรอ?" ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าแทบจะลุกขึ้นยืนในทันที หยิบผ้าขนหนูที่วางอยู่ข้างน้ำชา ห่อมือของเธอ
"ปะ เปล่า….." คำพูดยังไม่จบ ก็เห็นผ้าขนหนูกับนิ้วมือที่เรียวยาวบนมือของเธอ จึงกลืนคำกลับไป เย่หลินทึมทื่อ การตอบสนองนี้ของหนิงเส่าเฉิน ชัดเจนอย่างมากว่าไม่ใช่เย่หลิน แต่เป็น เฉิน……เป้ยอี
"คุณว่า ฉันควรจะลงโทษคุณยังไงดี?" ชายคนนั้นพูดพลาง หยิบผ้าขนหนูออก เป่าที่หลังมือของเธอ ลมเย็นๆ ทำให้ความเจ็บปวดบนหลังมือ ทุเลาลงไปมาก
เย่หลินชักมือกลับทันที มองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาก็กำลังมองเธออยู่ ดวงตาประสานกัน ในดวงตาของเขามีความหมายลึกซึ้ง ถึงแม้จะมีความโกรธ แต่ก็ชัดเจนว่าไม่ได้เยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง มีความรู้สึกอ่อนโยนอย่างมาก กับเย่หลินนั้นไม่เคยมีสีหน้าแบบนี้
ริมฝีปากบางๆของหนิงเส่าเฉินแยกเป็นเส้นตรง มองเย่หลินด้วยใบหน้าที่เย็นชาแล้วกล่าวว่า: "สี่ปีนี้ คุณเย่ ผ่านมาอย่างมีความสุขไหม?"
เขาพูดประโยคนี้ เรียบเฉยอย่างมาก แต่เมื่อฟังแล้วในใจของเย่หลิน ก็เหมือนกับถูกโยนเข้าไปในก้อนหิน ตกตะลึงอย่างมาก
การแสดงออกของเธอแข็งทื่อ จู่ๆก็ลุกขึ้นยืน หยิบกระเป๋าขึ้น ต้องการจะหนีออกไปด้านนอก
"คุณคิดว่าฉันหลอกง่าย แล้วก็ดูน่าตลกขบขันใช่ไหม?" เสียงกล่าวถามที่เย็นชาดังเข้ามาจากด้านหลัง
เย่หลินหยุดชะงักฝีเท้า หันตัวกลับ เห็นหนิงเส่าเฉินที่ยิ้มมุมปาก รอยยิ้มที่ขมขื่นหยุดชะงักอยู่ที่ริมฝีปาก หลับตา เพื่อปิดบังความเศร้าในดวงตา
เย่หลินรู้สึกเพียงว่าภายในใจกลัดกลุ้ม เธอกำมือทั้งสองที่ห้อยอยู่ข้างลำตัวแน่น "คุณหนิงกำลังพูดอะไร? ฉันไม่เข้าใจ" เธอต่อสู้ดิ้นรน ทั้งที่รู้จัดเจนว่า ความอ่อนโยนของเขา ความกระวนกระวายใจของเขา ความเศร้ารันทดของเขา ที่มีให้กับคนรัก สามารถมีได้เพียงเฉินเป้ยอี รู้ชัดเจนว่า เวลานี้เขารู้สถานะของตนเองอย่างชัดเจนแล้ว
แต่จะทำยังไงได้ล่ะ? ถ้าเวลานี้คืนดีกันเหมือนเดิม ความเจ็บปวดเมื่อสี่ปีก่อนนั้นล่ะ เพื่ออะไร?
หนิงเส่าเฉินเก็บรอยยิ้มที่มุมปากอย่างช้าๆ ต่อจากนั้น ก็กล่าวทีละคำๆ: "เป้ยอี คุณใจร้ายจัง"
เย่หลินตกใจอย่างมาก หัวใจกระตุกอย่างรุนแรง หลังจากนั้นก็เข้าสู่ความสงบ เธอเงยหน้าขึ้น เผชิญกับสายตาของหนิงเส่าเฉิน ฉีกยิ้มอย่างหวานชื่น ยกคิ้วขึ้น สวยงามอย่างยิ่ง
"คุณหนิง ผ่านไปแล้ว ก็เป็นเพียงแค่ความทรงจำ"
หนิงเส่าเฉินหรี่ตา ขยับคิ้วเล็กน้อย หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา: "ความทรงจำอย่างนั้นเหรอ? เป้ยอี คุณคิดแบบนี้จริงๆเหรอ?"
เย่หลินตัวสั่น ไม่ได้คิดแบบนี้ แล้วยังไงล่ะ?
หลบสายตาลง ขณะที่หลับตา ในใจก็มีความคิด เงยหน้าขึ้น มองหนิงเส่าเฉิน
"ในเมื่อคุณหนิงชอบฟังความจริงแบบนี้ อย่างนั้นฉันบอกคุณก็ได้ ในปีนั้นที่ฉันเข้าใกล้คุณ ก็เพียงเพราะหนิงเสี่ยวซี ใช่ เขาคือลูกของฉัน เด็กอายุสิบกว่าขวบ ไม่รู้ประสา ดังนั้น จึงนำตัวเองมาขาย อุ้มบุญให้กับคนอื่น พอโตขึ้นหน่อย ก็อยากไปเจอหน้าลูก บังเอิญ คาดไม่ถึงว่าจะถูกคุณหนิงชื่นชอบ"
พูดถึงตรงนี้ เธอก็หยุดชะงักลงเล็กน้อย สูดลมหายใจเข้า หันตัวกลับมา เดินไปสองสามก้าวตรงที่หนิงเส่าเฉินยืนอยู่ ต่อจากนั้นก็กล่าวอีกว่า: "เวลานั้น ฉันก็คิดว่า แต่งหน้าให้น่าเกลียด เข้าไปมีความรักความผูกพันกับหนิงเสี่ยวซี มันก็ไม่ได้แย่ว่าไหม? ต่อมา รู้สึกว่าคุณหนิง รวย หล่อ ได้เป็นสามี ก็คงใช้ได้ แต่ต้องขอโทษด้วย ฉัน…..ไม่ชอบของมือสอง ดังนั้น ในเมื่อคุณหนิงจะแต่งงานกับคุณเกา แน่นอนว่าฉันก็ต้องออกมา เป็นทางที่ดีที่สุด"
หนิงเส่าเฉินหน้าโหดเหี้ยมอำมหิตจนทำให้คนตกใจ เขาเอ่ยปากอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า "อย่างนั้นเฉินเป้ยอีที่ตายไป คุณเป็นคนทำเหรอ?"