เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 108 เหนือความคาดหมาย
เมืองS เป็นเพียงเมืองเล็กๆระดับจังหวัด ระดับการรักษาพยาบาลมีจำกัด ชูหยูจี้เป็นห่วงเธอ ไม่คำนึงถึงการคัดค้านของเธอ ต้องรับมาให้ได้
"เอาล่ะ คุณนอนพักก่อน อย่าพูดเยอะ อีกสักพักหมอจะมาตรวจก่อนคลอดให้คุณ"
ชูหยูจี้เพิ่งจะพูดจบ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตู
"ฉันก็ว่าอยู่ได้ยินเสียงอยู่ด้านนอกทำไมคุ้นหูฟัง อย่างนี้เอง ใช่คุณจริงๆด้วยน้องชาย?" ที่พูดคือหนิงเชี่ยน ซึ่งแก่กว่าชูหยูจี้ 2 ปี ไปทำการวิจัยทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาในต่างประเทศ อายุยังน้อย แต่ผลงานมีมากมาย และเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในด้านนี้
"พี่สาว คุณ……คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?" ชัดเจนว่า สำหรับการมาเยือนอย่างกะทันหันของหนิงเชี่ยน ชูหยูจี้ เหนือความคาดหมายอย่างมาก
มองชุดทำงานของหนิงเชี่ยนอีกครั้ง ก็ขมวดคิ้ว "คุณ……ไม่ได้อยู่ต่างประเทศหรอ?"
"โรงพยาบาลเชิญกลับมาเพื่อร่วมกันตรวจโรค ว่ากันว่า มีคนจ่ายเงินจำนวนมาก ให้โรงพยาบาลเราเอาหมอเข้ามา นี่ไม่ใช่ว่า ฉันมางานแต่งงานของพี่ชายพอดี ก็เลยถือโอกาสเข้ามาเลย"
หนิงเชี่ยนพูดจบ ชูหยูจี้ขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน เขามองเย่หลินที่หลับตาอยู่บนเตียงโดยจิตใต้สำนึก
นี่คือพระเจ้าจัดวางให้ใช่ไหม? เขาก็เชิญคนมาร่วมกันตรวจโรค แต่ที่เชิญมาจะเป็นจะเป็นน้องสาวของหนิงเส่าเฉิน……
เห็นสีหน้าของเขา หนิงเชี่ยนก็ปิดปาก ชี้ไปที่คนบนเตียง "เป็นไปไม่ได้……”
ชูหยูจี้ดึงแขนเธอ แล้วก็ลากเธอ ผลักออกนอกห้องผู้ป่วย
"ไอ๊ยะ คุณเบาๆหน่อย เข้าใจการทะนุถนอมต่อสตรีไหม?" หนิงเชี่ยนนวดๆแขนตนเอง จ้องมองชูหยูจี้
คิดๆแล้ว ดวงตาก็เบิกกว้าง "ว้าว น้องชาย ผู้หญิงด้านในนั้น ไม่ใช่เมียน้อยคุณใช่ไหม? อ้ายหมี่คนนั้นที่ฉันพบครั้งที่แล้วในต่างประเทศ ไม่ใช่แม่ฉันบอกว่า พวกคุณหมั้นกันแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงท้องป่องได้ยังไงล่ะ?"
หนิงเชี่ยนเผชิญหน้าถามอย่างสงสัย เวลานี้ชํหยูจี้ลำบากใจจริงๆ เขาจะบอกว่าไม่ใช่ กลัวว่าหนิงเชี่ยนจะไล่ถามอีก แต่……ถ้าต้องพูด ในกรณีที่หนิงเชี่ยนพูดออกไป คนตระกูลชูนั้น ต้องทะเลาะกันใหญ่โตแน่นอน
ถึงเวลานั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเย่หลินได้
นึกถึงตรงนี้ เขาก็ได้แต่โกหกว่า "ไม่ใช่ นี่คือเพื่อน นี่กลัวว่าในครอบครัวจะรู้ ตนเองเลยไม่กล้ามาโรงพยาบาล ฉันเลยจนปัญญา……”
หนิงเชี่ยนยังต้องการจะพูดอะไร แต่เขาก็นำเธอหันกลับมา "โอเค คุณหมอใหญ่ คุณไปทำงานได้แล้ว" นึกๆแล้ว ก็พูดเสริมว่า "เรื่องนี้ รบกวนคุณเก็บเป็นความลับด้วย คุณเป็นหมอ คุณน่าจะรู้ว่าอาการของผู้ป่วยเป็นเรื่องส่วนตัว เปิดเผยไม่ได้"
พูดจบ ก็หันกลับ เข้าไปในห้องผู้ป่วย ถอนหายใจอย่างแรง
เมื่อกี้จริงๆแล้วเย่หลินไม่ได้หลับไป เธอได้ยินการสนทนาระหว่างคนทั้งสอง
ชูหยูจี้เรียกผู้หญิงคนนั้นว่าพี่สาว พี่ชายของพี่สาว จะต้องแต่งงาน……
ก็คือหนิงเส่าเฉินหรอ?
"เอ่อ เมื่อกี้คือว่า……”
"หยูจี้ เธอคือน้องสาวของหนิงเส่าเฉิน ใช่ไหม?" ไม่รอให้ชูหยูจี้อธิบายจบ เย่หลินก็เอ่ยถาม
ชูหยูจี้ดึงเก้าอี้มา นั่งลงข้างๆเธอ
"ใช่ไหม อาการของฉันไม่ค่อยดีใช่ไหม? ทำไม คุณต้องเชิญหมอมาจากต่างประเทศด้วย?" เมื่อวานหลังจากไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาล หมออก็เรียกชูหยูจี้ไปที่ห้องทำงาน เพราะกลัวว่าคนนอกจะปฏิบัติต่อเธอไม่ดีพอ ดังนั้น จึงติดต่อคนในครอบครัว พ่อของเด็กเลยเขียนชื่อเป็นชูหยูจี้
"คุณเป็นพ่อของเด็ก ใช่ไหม? คุณดูแลหญิงตั้งครรภ์ยังไง? โลหิตจางรุนแรงขนาดนี้ คุณไม่รู้หรอ การคลอดบุตรภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ หญิงตั้งครรภ์มีแนวโน้มที่จะมีเลือดออกมาก คุณยังต้องการชีวิตของเธออยู่หรือเปล่า?"
คำพูดของหมอข้างๆหู เสียงดังกึกก้อง ดังนั้น เธอตัดสินใจแทนเธอง่ามห้มาคลอดลูกที่เมืองCอย่างไม่ต้องลังเลสงสัยเลย อีกทั้งยังยื่นคำขอให้โรงพยาบาลเอามอจากต่างประเทศมา
แต่ว่า ความรุนแรงของโรคนี้ เขาไม่ได้บอกกับเย่หลิน
เขาเพียงแค่บอกเธอ บอกว่าโลหิตจางอย่างรุนแรง เป็นห่วงเธอ
"พูดไร้สาระอะไรน่ะ? ฉันไม่ได้หวังให้ไร้ข้อผิดพลาดหรอกน่ะ? คนอื่นต่างบอกว่า ผู้หญิงคลอดลูก นั่นคือการเดินการผ่านประตูผี ฉันอยากให้คุณออกห่างประตูผีให้ไกล….." เขาพูดจบ หันตัวกลับ ไปดึงผ้าม่าน แต่ปกปิดความกลัวในดวงตา
เขากลัวจริงๆ….
ถึงแม้ว่าชั่วชีวิตนี้จะไม่ได้เธอ ได้ปกป้องเธอไปแบบนี้ เขาก็รู้สึกพอใจมากแล้ว แต่ ถ้าเธอเกิดเหตุไม่คาดฝัน เขาก็ไม่สามารถจินตนาการได้……
"หยูจี้ ฉันมองออก เสี่ยวอ้ายเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักคนหนึ่ง คุณต้องรักและทะนุถนอม" เย่หลินหยิบแก้วชาที่อยู่ข้างๆ จิบชา เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
ชูหยูจี้พยักหน้า เขาคิดในใจ เขาเข้าใจด้วยตัวเอง แต่ สถานการณ์แบบนี้ เขาอยากทำให้เย่หลินเบาใจ
"ฉันก็คิดว่าไม่เลวนะ รอคุณคลอดแล้ว ฉันก็จะจัดงานแต่งกับเธอ"
"ห๊ะ…."
เสียวประตู เปิดเข้ามาจากด้านนอก อ้ายหมี่เดินเข้ามาจากด้านนอกประตู
โอบกอดชูหยูจี้ "จริงหรอ? ที่รัก เมื่อกี้ที่คุณพูดเป็นเรื่องจริงหรอ?"
อ้ายหมี่เป็นคนที่ไม่อ่อนไหวง่าย แต่ เธอยังเข้าใจว่าชูหยูจี้รักเย่หลิน ดังนั้น เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู ก็พอดีได้ยินคนทั้งสองพูดถึงเธอ ก็หยุดฝีเท้าด้วยจิตสำนึก
แต่คาดไม่ถึง ได้ยินชูหยูจี้ยกย่องเธอ และพูดคุยเกี่ยวกับการแต่งงานกับเธออีกด้วย
จึงอดไม่ได้ พุ่งตรงเข้ามา
ชูหยูจี้อ้าปากค้าง ยังไม่ทันได้หันกลับ ริมฝีปากก็ถูกปิด
เขาเบิกตาโพลง ยกมืออยากดันอ้ายหมี่ออก วินาทีต่อมาก็นึกอะไรขึ้นได้ ยกมือขึ้น ในที่สุดก็ลูบที่เอวของผู้หญิง
เห็นคนทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่ม ในสมองของเฉินเป้ยอีก็ปรากฎภาพของหนิงเสาเฉิน เธอกุมหน้าอกด้วยจิตสำนึก ภาพนั้นทำให้เธอเจ็บปวดจนหายใจไม่ออก
อ้ายหมี่กำลังเผชิญหน้ากับเย่หลิน หางตาก็เหลือบไปเห็นปฏิกริยาของเธอ
ปล่อยชูหยูจี้ แล้วรีบวิ่งไปยังข้างเตียง
"พี่เย่ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?"
เย่หลินส่ายหน้า สูดลมหายใจเข้า แล้วปล่อยออกมา ฉีกริมฝีปาก ฝืนยิ้มแล้วพูดว่า: "ฉันเพียงแค่ถูกคุณสองคนกระตุ้นน่ะ"
พูดจบ ก็มองค้อนชูหยูจี้ทีหนึ่ง "ยังไงก็ตามคนก็เคยรักฉันมาหลายปี เห็นคนเอาอกเอาใจคนอื่น ในใจนี้ของฉัน จะทำใจได้ยังไง"
เธอสงบจิตใจ โกหกอ้ายหมี่ แต่โกหกชูหยูจี้ไม่ได้
เขายืนอยู่ด้านหลังอ้ายหมี่ สายตาตกอยู่บนใบหน้าของเย่หลิน เป็นเวลานาน จึงยกมุมปากขึ้น โอบเอวของอ้ายหมี่ "รอคุณคลอดเสร็จแล้ว พี่จะแนะนำหนุ่มหล่อให้คุณคนนึง เป็นยังไง?"
อ้ายหมี่ลดสายตาลง มองไปยังมือของชูหยูจี้ที่โอบไว้แน่น มีความหดหู่เล็กน้อยในสายตา แต่ก็ หายไปในชั่วพริบตา
ชูหยูจี้อ้าปาก กำลังเตรียมจะพูดอะไร ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตู
เขาหันไปมอง ประตูไม่ได้ปิด ดังนั้น เขาจึงเห็นกลุ่มแพทย์กลุ่มใหญ่สวมเสื้อคลุมสีขาวยืนอยู่ที่ด้านนอก….
หัวหน้าก็คือหนิงเชี่ยน
"นี่พวกคุณทำอะไร?" มีหมออยู่ด้วยมากมายขนาดนี้ ตัวชูหยูจี้เองก็รู้สึกประหม่า ยิ่งเฉินเป้ยอีไม่ต้องพูดถึง น้ำเสียงของเธอก็ไม่ค่อยดีเล็กน้อย