เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 104 เฉินเป้ยอีจากไปโดยใช้วิธีพิเศษ
ณ สถานีรถไฟหัวกระสุน เฉินเป้ยอีกอดกระเป๋าไว้ในอ้อมแขน เม้มๆปาก เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่สามารถหยุดยั้งน้ำตาไม่ให้ไหลได้
เธอคิดว่า เธอประทับใจหนิงเส่าเฉินจริงๆ
มิเช่นนั้น สักครู่นี้ ที่ต้องจากกัน เธอก็ไม่สามารถเจ็บได้ขนาดนี้หรอก
เธอขอบคุณเขาในใจ อย่างลึกซึ้ง ที่ถูกเขาทำให้ประทับใจ ถึงอย่างไร ผู้ชายที่หล่อมากมาย ผู้ชายที่มีเงินก็เยอะแยะ แต่ ที่ผู้ชายที่ใจกับตน ผ่านเข้ามา แต่ไม่สามารถครอบครองได้
หนิงเส่าเฉินเต็มใจเพราะเธอ จึงเสนอจะถอนหมั้นกับเกาเหวิน น้ำหนังของตรงกลางนี้ เธอไม่ได้โง่ เธอเข้าใจดี
แต่ ยิ่งเป็นเช่นนั้น เธอก็ยิ่งโทษตัวเอง
ความเห็นแก่ตัวของพวกเขาสองคน ไปทำร้ายเกาเหวิน
เธอก้มหน้า มองไปที่ตั๋วสองใบในมือ หนึ่งใบ ไปยังเมืองS หนึ่งใบ ไปยังเมืองW
"แม่น้อย……” คือน้ำเสียงของเสี่ยวซี ตอนที่ตัดสินใจว่าจะไป เธอไม่สามารถปล่อยหนิงเส่าเฉินได้ แล้วนับประสาอะไรกับหนิงเสี่ยวซี เพราะฉะนั้น คิดอยู่นานมาก เธอยังคงตัดสินใจว่าจะไปเจอหนิงเสี่ยวซีแล้วค่อยไป
"แม่น้อย พ่อของผมชอบคุณแล้ว ทำไมคุณยังต้องจากไปด้วย?" เปลือกตาของหนิงเสี่ยวซีบวม ของตาแดง มองออกว่า เขาน่าจะร้องไห้มาตลอดระหว่างทาง
เฉินเป้ยอีไม่ได้บอกเขาเรื่องเกาเหวิน เธอรู้ว่าเขาฉลาด ถึงที่สุดแล้วยังคนเด็กเกินไป ไม่ควรจะแบกรับสิ่งเหล่านี้
"เสี่ยวซี เรื่องของผู้ใหญ่ หนูไม่เข้าใจหรอก ฉันกับพ่อของหนูไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้"
"ทำไมหรอ?"
เธอหัวเราะ ส่ายหัว แล้วลูบหัวของหนิงเสี่ยวเฉิน จากนั้นก็ค่อยๆกดเข้ามาในอ้อมกอดเบาๆ ไม่ได้ตอบกลับ ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร จะบอกกับลูกชาย ว่าความสุขของตนเองและพ่อของเขาก่อให้เกิดความเจ็บปวดทรมานของคนอื่นงันหรอ?
"แม่น้อย ฉันไม่อยากให้คุณไป" หนิงเสี่ยวซีเงยหน้าขึ้นในอ้อมกอดของเธอ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่บนใบหน้าเล็กๆ เต็มไปด้วยน้ำตาแล้ว
เฉินเป้ยอีรู้สึกว่าใจทั้งใจนั้นชักกระตุกอยู่ เจ็บจนเธอไม่อยากหายใจ
ตัดใจไม่ลง? เธอ ไม่เคยตัดใจลง? แต่ เธอไม่มีตัวเลือก ถึงแม้ว่าเธอจะเต็มใจติดตามหนิงเส่าเฉินโดยไม่มีชื่อเสียงไม่มีฐานะ แต่ว่า ในใจเธอจะถูกประณามด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไปตลอดชีวิต เธอเชื่อว่าหนิงเส่าเฉินก็เช่นกัน พวกเขาถูกกำหนดว่าไม่สามารถมีความสุขได้
"แม่น้อย คุณไม่ไปไม่ได้หรอ?"
เฉินเป้ยอีเงยหน้า ไม่กล้ามองเขา เพียงแค่พยักๆหน้า
"แม่น้อย คุณไปแล้ว ยังสามารถกลับมาได้ใช่ไหม?"
เฉินเป้ยอีกัดริมฝีปาก ยังคงเงยหน้า แต่ไม่กล้ารับปาก
ผ่านไปนาน เธอพยายามปรับอารมณ์ของตัวเอง นั่งลง และจ้องมองหนิงเสี่ยวซี "เสี่ยวซี แม่น้อยก็ทิ้งหนูไม่ลง แต่ แม่น้อย ต้องมีครอบครัว ต้องแต่งงาน ดังนั้น แม่น้อยไม่สามารถอยู่เมืองนี้ได้ ตลอดไป ถูกไหม? หลังจากที่แม่น้อยไปแล้ว เสี่ยวซีต้องเป็นเด็กดีเชื่อฟังนะ จะได้เติบโตอย่างสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ตลอดชีวิตนี้แม่น้อยจะไม่ลืมเสี่ยวซีเลย แม่น้อยสัญญา!"
เธอหยุดไปชั่วคราว หายใจเข้าเบาๆ ยกมือขึ้น เช็ดน้ำตาให้หนิงเสี่ยวซี "เพียงแต่ว่า แม่น้อยรับปากกับหนู ว่าแม่น้อย จะกลับมาดูหนูแน่นอน ดีไหม?" รอเวลาให้ทุกอย่างนี้เป็นปกติ รอให้หนิงเส่าเฉินกับเกาเหวินแต่งงานกัน เธอ บางทีอาจจะกลับมาอีกครั้ง
"คุณอยู่กับพ่อผมได้ไหม? คุณแต่งงานกับพ่อผมได้ไฟม? พ่อผมก็ชอบคุณ ไม่ใช่หรอ?" หนิงเสี่ยวซีตอบกลับอย่างรวดเร็ว เฉินเป้ยอีฝืนใจยิ้ม ลูบๆหัวของเขา แกล้วทำเป็นพูดอย่างอารมณ์ดี : "แต่ว่า ฉันไม่ได้ชอบพ่อหนูไม่ใช่หรอ? พ่อของหนูดูดีเกินไป ฉันรับไม่ไหว"
"อย่าเลย แม่น้อย ขอร้องล่ะ อย่าไปเลย ได้ไหม? เสี่ยวซีไม่มีแม่ ถ้าคุณไป ก็จะไม่มีใครดูแลเสี่ยวซีแล้ว……แม่น้อย ขอร้องคุณล่ะ ได้ไหม? อย่าไปเลยนะ……”
ตอนนี้หนิงเสี่ยวซี ไม่มีความเย่อหยิ่ง ไม่มีไอคิวที่สูง เป็นเพียงเด็กอายุห้าขวบทั่วไป
"แม่น้อย ฉันเชื่อฟังคุณ โอเคไหม? ผมเป็นลูกชายคุณ โอเคไหม?" เขากล่าวถามอีกครั้ง
น้ำตาของเฉินเป้ยอี หลังจากประโยคนี้ ก็หยุดไว้ไม่อยู่ เธอลุกขึ้นยืน หลับตา ดึงกระเป๋าสัมภาระ หันตัวกลับ เดินไปยังประตูตรวจบัตร
"แม่น้อย คุณอย่าไป!"
"แม่น้อย ฉันขอร้องคุณล่ะ คุณอย่าไป ได้ไหม?"
"อ่า…." เธอได้ยินเสียงร้องที่น่าสงสารของเขา หันกลับไป เห็นหนิงเส่าเฉินหกล้มลงบนพื้น เธออยากจะหันกลับไปประคองเขาแบบไม่มีเงื่อนไข แต่เมื่อเธอยกเท้าขึ้น ก็เหยียบลงอีกครั้ง กัดริมฝีปาก เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันตัวกลับ
"แม่น้อย คุณอย่าไป ได้ไหม?"
"แม่น้อย…."
ก่อนหน้านี้ไม่มีการปฏิบัติแบบนี้กับแม่ เฉินลั่วอีรู้เพียงว่า คิดถึงเด็กคนนี้ ขณะนี้ เธอจึงเข้าใจ กระดูกกล้ามเนื้อแยกออกจากกัน มันเป็นรสชาติอะไร แต่ ทำยังไงได้? ไม่จากไป คนทั้งหมดก็ต้องเจ็บปวด
เฉินเป้ยอีเดินไปที่ประตูตรวจบัตร เธอยืดหลังตรง ไม่กล้ากลับไปมองอีก เธอกลัวว่า หากมองมากแล้ว เธอก็ไม่กล้าจะจากไป
เดินตรงเข้าไปในรถไฟหัวกระสุน รถไฟปิดประตู ช่วงเวลาสั้นๆนั้นก็เคลื่อนตัว เธอนั่งยองๆลงที่หน้าประตู กอดเข่าทั้งคู่ ร้องไห้โฮ
เธอร้องไห้อยู่นาน นานจนคนที่ผ่านไปผ่านมา ต่างมองมายังเธอ หลังจากนั้น เธอหยิบกระเป๋าข้างๆตัวขึ้นมา ก่อนที่จะไปนั่งบนที่นั่งเดิม ที่นั่งข้างๆ ลุงคนหนึ่งนั่งอยู่ เธอก็ทักทายเขาอย่างเป็นมิตรอย่างมาก ถามดขาว่าจะไปที่ไหน?
คนทั้งสองพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยอยู่ครู่หนึ่ง ได้ยินเสียงรถไฟประกาศ จะถึงสถานีหนึ่ง เธอลุกขึ้น ไปที่ห้องน้ำ รถไฟจอดลง แล้วเริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง
เธอจึงออกมา เธอ แต่ไม่ใช่เธอแล้ว
ต่อจากนั้น ตามคนที่หลั่งไหลเข้ามา เธอก็หาที่ว่างแล้วนั่งลง
วิวทิวทัศน์นอกรถที่เลื่อนถอยหลัง ความทรงจำของเฉินเป้ยอีก็ถอยย้อนกลับไป ย้อนกลับไปวันแรกที่เธอเข้าไปคฤหาสน์ตระกูลหนิง…..
ทุกสิ่งทุกอย่าง ราวกับความฝัน เวลานี้ ตื่นจากฝันแล้ว
รถไฟถึงสถานีสถานีถัดไป เคลื่อนที่ไปได้ไม่นาน ก็ได้ยินตู้โบกี้รถไฟตรงข้ามเธอ มีเสียงเอะอะลางๆดังเข้ามา
เงยหน้าด้วยจิตสำนึก เธอก็เห็นหนิงเส่าเฉินสวมชุดสีดำยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน
ยังคงเป็นเสื้อสูทรองเท้าหนัง เนคไทถูกดึงไปยังตำแหน่งกระดุมเม็ดที่สอง รู้สึกไม่มีชีวิตชีวาเล็กน้อย แต่มันช่วยเสริมความรู้สึกอิสระในความหล่อของเขา ใบหน้าของเขาคร่ำเครียด ห่างไกลกันมาก ยังสามารถรู้สึกได้ถึงความโกรธและความกระวนกระวายใจของเขา
เธอไปแล้ว เขาก็ต้องกระวนกระวายใจอย่างแน่นอน? แต่ หนิงเส่าเฉิน ถ้าฉันอยู่ คุณจะจัดการกับฉันอย่างไร? พวกเรา ตวรจะจัดการตัวเองอย่างไร?
มีความสุข เป็นไปไม่ได้!
แต่ ในใจก็ยังอบอุ่น อย่างน้อย เขาก็ยังไล่ตามมา
น่าเสียดาย……
เธอนั่งตัวตรง ถอดหมวกแก๊ปออกจากหัว ปรากฎให้เห็นโฉมหน้าที่สวยงาม การแต่งหน้าที่ค่อนข้างเข้ม สูญเสียความสดใสแต่เดิม แต่ก็ปกปิดไว้ไม่อยู่ ซึ่งความสวยเพริศพริ้งของเธอ เสื้อไหมพรมคอเต่าสีขาว กางเกงหนังสีดำ กลิ่นน้ำหอมที่เข้ม
เธอ ไม่ใช่เฉินเป้ยอีอีกต่อไปแล้ว
จากนี้ไป บนโลกใบนี้ ไม่มีเฉินเป้ยอีอีกต่อไป
หนิงเส่าเฉิน ลาก่อน!