เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย - ตอนที่ 56 เรื่องเล่าหน้าร้อนของอาจารย์ใหญ่นั้นช่างอันตราย - 2
- Home
- เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย
- ตอนที่ 56 เรื่องเล่าหน้าร้อนของอาจารย์ใหญ่นั้นช่างอันตราย - 2
บทที่ 3 ตอนที่ 1.2
『เอ อย่างที่ได้พูดไป ระหว่างช่วงวันหยุดฤดูร้อนนั้นมีสิ่งล่อตาล่อใจที่ไม่ดีมากมาย อยากจะให้ทุกคนพึงระลึกถึงความรับผิดชอบในฐานะของนักเรียนโรงเรียนนี้ ให้เข้มแข็งเข้าไว้และต่อต้านสิ่งล่อตาล่อใจเหล่านั้น—- 』
โรงยิมที่เต็มไปด้วยอากาศชื้นและอบอ้าว
ที่รอบๆห้องมีพัดลมไฟฟ้าขนาดใหญ่เรียงรายกำลังหมุนอย่างเต็มกำลัง แต่มันก็ทำได้แค่พัดเอาลมที่รู้สึกไม่สบายเข้ามาเท่านั้น
อากาศที่เหมือนจะดูดพลังงานไปได้แม้เพียงแค่อยู่ในที่แห่งนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แค่เพราะความชื้นและอุณหภูมิของหน้าร้อน แต่ยังเป็นเพราะเหงื่อ และคาร์บอนไดออกไซด์ที่เหล่านักเรียนซึ่งอัดแน่นกันอยู่เต็มโรงยิมขนาดใหญ่ได้ปล่อยออกมา
ขณะที่นักเรียนทุกคนต่างสวดภาวนาให้ถูกปล่อยไปเร็วๆ แต่ทว่าอาจารย์ใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงแท่นโพเดี่ยมนั้นยังคงพูดต่อเนื่องไปเรื่อยๆและไม่มีทีท่าว่าจะจบลง
มีภาพในใจอยู่ว่าการพูดของอาจารย์ใหญ่นั้นจะต้องยืดยาวเป็นปกติ แต่ว่านี่มันรู้สึกชัดเลยว่ายาวกว่าของตอนประถมกับม.ต้นไปซัก 2 เท่าได้
ด้วยอากาศที่ราวกับซาวน่าภายในห้อง ไม่มีนักเรียนคนไหนเลยที่จะตั้งใจฟังสิ่งที่อาจารย์ใหญ่พูดมา
หลังจากที่เมินเรื่องที่อาจารย์ใหญ่พูดไปเรื่อยๆ ในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึง
「…..ในตอนที่ชั้นเองยังเป็นนักเรียนอยู่นั้น ได้เกิดเรื่องอันแสนเศร้าขึ้น ตัวชั้นในตอนนั้นกำลังคบหาอยู่กับหญิงสาวที่ชื่อเรียวโกะซัง แต่ทว่าในช่วงวันหยุดฤดูร้อน เธอได้ตกไปอยู่ในเงื้อมือของพวกอันธพาลแล้วลงเอยด้วยการตั้งท้อง ขณะที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ เมื่อก่อนนั้นยังมีความเข้มงวดอยู่มาก มันจึงแน่นอนว่าได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ โชคร้ายที่ชั้นได้รู้สถานการณ์ของเธอก็หลังจากที่เธอออกจากโรงเรียนไปแล้ว และต้องรู้สึกเสียใจอย่างที่สุดที่ไม่สามารถปกป้องแฟนสาวที่รักเอาไว้ได้ แต่ทว่าในขณะเดียวกัน ในตอนที่ได้รับรู้ว่าคนที่รักได้ถูกล่อลวงไปลับหลัง นอกจากความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาณที่รุนแรงจนไม่อาจหายใจได้นั้น ด้วยบางเหตุผล เลือดมันเริ่มที่จะเดือดดาลและความรู้สึกกระสับกระส่ายที่ไม่อาจอธิบายได้มันก็—-」
「…..อาจารย์ใหญ่,…..อาจารย์ใหญ่! ถึงเวลาต้องไปแล้วครับ…..」
「มู ได้เวลาแล้วเหรอเนี่ย…..」
ด้วยคำของรองอาจารย์ใหญ่ อาจารย์ใหญ่ทำหน้าไม่พอใจออกมาอยู่ครู่หนึ่ง ทำการกระแอมไอแล้วจึงพูด
『เอ ถ้างั้นก็มีเรื่องสุดท้ายที่อยากจะบอก』
ในที่สุดก็มาแล้ว! แสงสว่างได้กลับมายังดวงตาปลาตายของเหล่านักเรียน
ในขณะที่เหล่านักเรียนยืดตัวตรงเพื่อตั้งใจฟังเรื่องสุดท้าย อาจารย์ใหญ่ก็มีสีหน้าค่อนข้างบูดบึ้งขึ้นมา
『เอ คิดว่าทุกคนเองก็คงทราบกันแล้วแต่ ที่โรงเรียนของเราได้มีเขาวงกตปรากฏขึ้นมา』
—-จ้อก, แจ้ก
ในตอนนี้ เป็นหัวข้อที่เหล่านักเรียนสนใจมากที่สุด ในโรงยิมจู่ๆก็เกิดเสียงอึกทึกขึ้นมา
『เงียบ, เงียบ! ถ้าไม่เงียบล่ะก็จะเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นเลย!』
ด้วยประโยคนั้น -ชิ้ง-เสียงอึกทึกก็หยุดลงในทันที
กับเหล่านักเรียนที่ราวกับกลายเป็นแมวบ้านแสนเชื่อง อาจารย์ใหญ่ทำหน้าตาที่ยากจะอธิบายแล้วทำการพูดต่อ
『เอ เพื่อที่จะตรวจสอบเขาวงกตที่ปรากฏขึ้นที่โรงเรียนของเรา จะมีเจ้าหน้าที่จากกองกำลังป้องกันตัวเองกับกิลล์เข้ามา อย่าได้ไปขัดขวางการทำงานของพวกเขาล่ะ โดยเฉพาะ ห้ามเข้าไปในเขาวงกตโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด นั่นถือเป็นการฝ่าฝืนกฏหมายอย่างชัดเจน ต่อให้เป็นผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะก็ต้องถูกลงโทษทางอาญา แน่นอนว่าทางโรงเรียนก็ไม่มีทางเลือกนอกจากลงโทษขั้นรุนแรงที่สุด เพราะฉะนั้นแล้วให้ระมัดระวังเอาไว้ด้วย』
อาจารย์ขู่ถึงโทษอาญาและการไล่ออกมาตั้งแต่เริ่ม ส่งผลเกิดความตึงเครียดในหมู่นักเรียน
เขาวงกตที่ถูกค้นพบใหม่ไม่ว่าจะที่ไหน จะต้องถูกตรวจสอบก่อนจากกองกำลังป้องกันตัวเองและกิลล์โดยไม่มีข้อยกเว้น ระหว่างช่วงเวลานั้น จะไม่มีใครแม้แต่นักผจญภัยมืออาชีพที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป
นั่นเพราะ เขาวงกตแห่งใหม่นั้น『อาจจะมีคุณสมบัติพิเศษที่ไม่เคยพบมาก่อน』หรือ『ควรจะเปิดแก่สาธารณะหรือไม่』เป็นเหตุผลที่บอกมาอย่างเป็นทางการ แต่เหตุผลที่แท้จริงนั้น『เพื่อที่ทางประเทศที่ได้ผูกขาดรางวัลจากการพิชิตเขาวงกตครั้งแรก』เป็นที่พูดกัน
ความจริงนั้นยังไม่แน่ชัด แต่ก็มีข่าวลือว่าเมื่อเขาวงกตแห่งใหม่ถูกพิชิต จะมีโอกาศสูงที่จ้าวจะดรอปการ์ด
ซึ่งอัตราดรอปนั้น แบบอย่างเว่อร์ มากกว่าปกติถึงพันเท่า ถ้าจนถึงการ์ดแรงค์ C แล้วล่ะก็เหมือนเป็นการการันตี ส่วนถ้าเป็นการ์ดแรงค์ B ก็มีโอกาศ 50/50 ที่จะดรอป ประมาณนั้น
ผลของมัน ทำให้ทางประเทศสามารถสะสมการ์ดระดับสูงที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้มาจากอัตราดรอปปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ….. ก็เกิดข่าวลือแบบนี้แพร่อยู่บนเน็ต
ซึ่งในความเป็นจริง แม้แต่ในประเทศกำลังพัฒนาที่แทบจะไร้การควบคุมการเข้า-ออกเขาวงกต ก็ยังเป็นคนแรกที่ส่งกองกำลังไปในเขาวงกตแห่งใหม่อยู่เสมอ เพราะแบบนั้นข่าวลือจึงมีความน่าเชื่อถืออยู่บ้าง
『เอ การตรวจสอบนั้นยังไม่ถูกกำหนดว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน แต่น่าจะใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 หรือ 2 อาทิตย์ ในระหว่างช่วงวันหยุดฤดูร้อน ขอให้เหล่าอาจารย์ที่ดูแลกิจกรรมชมรมในพื้นที่ของโรงเรียน ระมัดระวังอย่างที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนจะไม่ทำพฤติกรรมอะไรที่เป็นอันตรายด้วย』
ตรงจุดนี้ -กระตุก- ได้เกิดปฏิกริยากับเหล่านักผจญภัยจำนวนหนึ่งที่อยู่ภายในโรงเรียน ณ ปัจจุบัน
ที่เขาวงกตปรากฏขึ้นมาในโรงเรียนก็ผ่านมาแล้ว 1 อาทิตย์
ตามปกติ ถ้าเป็นเขาวงกตระดับมือสมัครเล่น ใช้เวลาอย่างมากสุดก็แค่ 1 อาทิตย์
ความจริงที่การสำรวจใช้เวลา 2 – 3 อาทิตย์ ก็หมายถึงว่าเขาวงกตที่ปรากฏในโรงเรียนเป็นเขาวงกตระดับมืออาชีพ หรือไม่ก็เป็นเขาวงกตลับที่ต้องได้รับการสำรวจอย่างระมัดระวัง
『เอ สุดท้ายนี่ ถึงแม้เขาวงกตจะปรากฏในโรงเรียน มันก็ไม่ได้ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของทุกคนแต่อย่างใด อย่างมากก็แค่มีสาขาของดันเจี้ยนมาร์ทเข้ามาเปิดเพิ่มเท่านั้น ซึ่งก็ทำให้อะไรๆสะดวกสบายขึ้น ถ้าหากเข้าใจกันแล้วก็ระมัดระวังอย่าทำอะไรด้วยความประมาทล่ะ!』
อาจารย์ใหญ่พูดโดยใส่อารมณ์เข้าไปมากกว่าปกติ
ถ้าหากจะให้แปลประโยคนี้ออกมาให้เข้าใจกันง่ายๆแล้วล่ะก็「กับอีแค่มีเขาวงกตโผล่มาในโรงเรียนก็อย่าได้คิดไปเป็นนักผจญภัยเชียว」ได้เป็นอะไรแบบนี้
อย่าไปเป็นนักผจญภัยเชียว! แต่การที่ไม่ได้บอกเตือนออกมาตรงๆ นั่นก็เพราะพวกผู้ใหญ่เองก็อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
แต่ว่า….. ผมมองไปรอบๆแบบผ่านๆ
เหล่านักเรียนหลังจากได้ยินคำกล่าวของอาจารย์ใหญ่แล้ว มีอาการอยู่ไม่สุขอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะกับนักเรียนชายปีหนึ่ง
เขาวงกตใหม่ที่ปรากฏขึ้นในพื้นที่ของโรงเรียน ผนวกเข้ากับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ดูจะกลายเป็นตัวแปรที่ทำให้นักผจญภัยกับเขาวงกตซึ่งแต่ก่อนเห็นเป็นสิ่งที่ไม่ปกติธรรมดา เกิดเป็นอะไรที่ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
ยกเว้นกับนักเรียนชั้นปีสามที่กำลังจะสอบเอ็นทรานซ์ กับปีสองที่เพิ่งสูญเสียเพื่อนร่วมชั้นปีไป เหล่าปีหนึ่งที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นจากที่เพิ่งเข้าโรงเรียนม.ปลาย คงจะไม่ได้เห็นความเสี่ยงในการเป็นนักผจญภัยเลย
ที่โผล่มาในหัวของพวกเขาและพวกเธอคงไม่ใช่ภาพของตัวเองกลายเป็นศพในเขาวงกต แต่เป็นภาพที่ตัวเองได้เป็นนักผจญภัยที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
แถมด้วย ที่แย่ที่สุดสำหรับทางโรงเรียน มันมีตัวตนของ『กรณีตัวอย่าง』หลายกรณีอยู่ภายในโรงเรียนซะด้วย
ถ้าอย่างนั้นชั้นเองก็ด้วย…..ก็ เป็นปกติที่พวกเขาจะคิดแบบนั้น
ตัวช่วยเพียงอย่างเดียวก็คือ อุปสรรคเริ่มแรกที่สูงของเงินทุนที่ต้องใช้ในการเป็นนักผจญภัย
แต่ว่า วันหยุดฤดูร้อนมันก็เป็นช่วงเวลาที่ดีในการหารายได้
สงสัยเหลือเกินว่า หลังจากหมดวันหยุดฤดูร้อน บรรยากาศภายในโรงเรียนจะเป็นยังไง…..
『หน้าที่ของนักเรียนก็คือการเรียน! อย่าได้ประมาทเพราะว่าเป็นช่วงวันหยุดฤดูร้อน และระมัดระวังอย่าได้ทำอะไรที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บได้! เข้าใจแล้วนะ!』
การเตือนของอาจารย์ใหญ่นั้น ไม่เข้าหูเหล่านักเรียนที่กำลังตื่นเต้นอยู่อย่างเงียบๆเลย
หลังสิ้นสุดพิธีปิดแล้วกลับมากันที่ห้องเรียน บรรยากาศภายในห้องก็กลายสภาพเป็นของวันหยุดฤดูร้อน
มีการรวมกลุ่มหลากหลายขนาดทั่วห้องเรียน พูดคุยกันถึงแผนการในวันหยุดฤดูร้อนอย่างสนุกสนาน
จากสถานการณ์แล้ว ดูจะไม่มีใครเลยที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งที่สูญเสียไปในเหตุการณ์อันน่าสะพรึง….. ไม่แม้แต่ในกลุ่มที่สนิทกับชิชิโด
นี่มัน แทนที่จะเป็นการเย็นชา แต่เป็นเหมือนการทำตัวให้ร่าเริงกว่าปกติเพื่อที่จะได้ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อันที่จริง ผมเองก็ด้วยเหมือนกันอยู่นิดหน่อย…..
「แล้วคิทากาว่า อย่างที่คิดว่าจะใช้เวลาทั้งวันหยุดหน้าร้อนอยู่ในเขาวงกตใช่รึเปล่านั่น?」
「ไม่หรอกน่า มันก็มีไปเขาวงกตอยู่หรอก แต่ก็ไปเที่ยวกับครอบครัวแล้วก็เล่นกับเพื่อนๆด้วย」
ขณะที่สมาชิกกลุ่มชนชั้นท็อปคนอื่นๆกำลังคุยอยู่กับเพื่อนร่วมชั้นที่สนิทกัน ผมก็อยู่ด้วยกันกับชินโดเพียงคนเดียวซึ่งเป็นอะไรที่หายาก
「เห~ แปลกใจนะเนี่ย เพราะมีอิมเมจว่าคิทากาว่าเป็นพวกคลั่งไคล้การผจญภัยอยู่」
「มันอะไรล่ะนั่น」
หัวเราะไปเล็กน้อย ชินโดเองก็หัวเราะกลับมา
「ก็แบบคิทากาว่าเนี่ยถ้าเป็นช่วงสุดสัปดาห์แล้วก็แน่นอน แต่ทั้งวันธรรมดาหลังเลิกเรียนเองก็ด้วย ไปเขาวงกตทุกวันเลยไม่ใช่เหรอ?」
「อืม…..ก็นะ มันก็ใช่แหละ」
「นั่นน่ะเสพติดเขาวงกตแล้ว ขนาดนักผจญภัยของโรงเรียนเราเองยังไปกันแค่เดือนล่ะประมาณ 4 ครั้งเลย เห็นบอกกันว่าไปต่อไม่ไหว」
「ก็นะ ไม่ค่อยอยากจะพูดหรอกแต่นั่นก็แค่พวกเอาสนุกไม่ใช่เหรอ?」
「มันก็ใช่หรอก แต่จากที่โอโน่บอก แม้แต่พวกที่เล็งจะเป็นมืออาชีพยังลงกันแค่ 3 ~ 4 วันต่ออาทิตย์เอง」
「อืม…..」
นั่นก็จริง ตามที่ชินโดบอก แม้แต่พวก 3 ดาวที่เป็นกึ่งมืออาชีพ หลังจากที่สำรวจเขาวงกตแรงค์ D ไป 3 ~ 4 วันแล้ว ก็จะใช้เวลาพักเท่าๆกันเป็นปกติ
ต่อให้เวทมนตร์สามารถฟื้นฟูบาดแผลและความเหนื่อยล้าได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรักษาความเหนื่อยล้าทางใจได้ แม้แต่ในพื้นที่ปลอดภัยเอง การนอนหลับในที่แบบนั้นก็เป็นการเผยตัวเองกับจิตสังหารกับศัตรูที่อยู่ภายนอก ซึ่งเป็นการกระตุ้นสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด สิ่งนี้ทำให้ความเครียดเกิดการสะสมอย่างมาก
ความเครียดที่สะสมจะไปรบกวนสมาธิ ซึ่งในเขาวงกตแรงค์ D ความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้ถึงตายได้
เพราะแบบนั้น เคล็ดลับของความปลอดภัยก็คือการพักผ่อนให้เท่าจำนวนวันที่เข้าไปในเขาวงกต เพื่อทำร่างกายและจิตใจให้สดชื่น
…..แต่ว่านี่มันก็สำหรับนักผจญภัยทั่วไปที่ไม่มีทางเลือกต้องนอนหลับภายในเขาวงกต แต่สำหรับผมที่สามารถกลับบ้านเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการด้วยขลุ่ยของฮาเมลินมันก็จะแตกต่าง
ไม่สามารถอธิบายเรื่องนั้นจึงได้แต่ทำหน้าตาแปลกๆไป และชินโดก็หัวเราะ
「ก็ไม่ได้จะวิจารณ์อะไรหรอก ทุกคนต่างก็คิดว่าสุดยอดด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะพวกเราในชมรมกีฬา พวกเราเองก็พยายามอย่างเต็มกำลังเพื่อที่จะไปสู่อินเตอร์ไฮ*ให้ได้ แต่ก็ไม่สามารถพยายามได้หนักเท่าคิทากาว่าเลย รู้สึกกันว่าถ้าไม่พยายามมากถึงขนาดนั้นก็คงจะเป็นมืออาชีพไม่ได้」
การชมอย่างตรงไปตรงมาของชินโดทำเอาผมรู้สึกเขินนิดหน่อยก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุย
「จะว่าไป ชินโดเองก็ใช้เวลาของวันหยุดฤดูร้อนแทบทั้งหมดไปกับการฝึกและเข้าค่ายฝึกซ้อมใช่รึเปล่าล่ะ?」
พอผมพูดแบบนั้น ชินโดก็คอตกด้วยความเสียใจ
「นั่นมันก็ใช่แหละน้า~ เอาแต่ฝึกตั้งแต่เช้า~ยันเย็น ไม่มีเวลาไปหาแฟนเลย」
「อาเร๊ะ? ชินโดยังไม่มีแฟนหรอกเหรอ?」
ผมรู้สึกตกใจแล้วทำการจ้องมองใบหน้าอย่างละเอียด
ชินโดมีผมสีน้ำตาลตัดสั้นให้ความรู้สึกสดใส เป็นหนุ่มหล่อพร้อมด้วยหนา้ตาที่ใจดี ส่วนสูงมากกว่า 180 ซม. และบางทีอาจจะเพราะทุ่มเทให้กับเทนนิสทุกวัน ทำให้หุ่นดีกระชับเข้ารูป
มีบุคลิกร่าเริงและเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย บรรยากาศที่ออกมารู้สึกผ่อนคลายทำให้พูดคุยด้วยง่ายทั้งชาย-หญิง การที่หนุ่มวัยรุ่นแบบนี้ยังไม่มีแฟนจึงเป็นที่น่าตกใจ
「ก็ไม่มีหรอก แบบ…..แฟนก็อยากจะมีนะแต่ว่า นั่นไง มัวยุ่งอยู่แต่กับเรื่องเทนนิสใช่ม้า? ถ้าเกิดว่าไม่ให้ความใส่ใจมากพอก็คงไปรอดได้ไม่นาน เพราะงั้นในตอนนี้เลยยังไม่มีไปก่อนนั่นแหละ อื้ม」
「ถ้าเป็นชินโดแล้วล่ะก็ คงมีสาวๆหลายคนตกลงได้นั่นแหละ…..แล้วนอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวันหยุดจากกิจกรรมชมรมเลยใช่ไหมล่ะ?」
「อืม ก็นะ ก็จริงอยู่ว่ามีหยุดวันอาทิตย์แต่…..ร-เรื่องของผมน่ะช่างมันเถอะ! แล้วคิทากาว่าล่ะ ทำไมถึงไม่หาแฟนบ้างล่ะ? กับคิทากาว่าในตอนนี้น่าจะมีตัวเลือกเต็มไปหมดนี่นา มีทั้งเงิน แถมยังเป็นฮีโร่ของโรงเรียนด้วย」
คำของชินโดทำให้ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ
จริงอยู่ที่หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมได้กลายเป็นอะไรที่คล้ายกับฮีโร่ของโรงเรียนไป
นั่นเพราะได้ไปไขคดีที่มีอาชญากรตัวเป้งในระดับที่สื่อยังต้องจำกัดการเผยแพร่
แถมยังเป็นนักผจญภัยระดับที่ได้ไปปรากฏตัวใน TV ทั้งๆที่ยังเป็นแค่นักเรียนม.ปลาย
ไม่แปลกเลยที่จะเป็นที่นิยม
นักเรียนรุ่นน้องที่ต้องการจะเป็นนักผจญภัยต่างเข้ามาขอเป็นลูกศิษย์, พวกผู้หญิงจากห้องและชั้นปีอื่นมีมาส่องตอนช่วงพัก (ถึงจะมีสีหน้าผิดหวังในตอนที่ได้มาเจอตัวจริงก็เถอะ)
ณ จุดนี้ ก็เหมือนกับนักกีฬาเบสบอลมืออาชีพที่เป็นที่นิยมถึงแม้ว่าจะหน้าตาไม่ดี แม้แต่คนหน้าตัวประกอบอย่างผมก็สามารถเป็นที่นิยมได้
ใช่แล้ว ได้กลายเป็นที่นิยมอยู่ แต่…..
「อะ เน่เน่ ชินโดคุง คิทากาว่าคุง」
ในตอนนั้นเอง มีเด็กผู้หญิง 2 คนของห้องเราเดินเข้ามาหาพวกผม
หนึ่งในกลุ่มคนหน้าตาดีของห้อง มิกิโนะซังกับซาโนะซัง คู่หูซ้าย-ขวา*ล่ะ
พวกเธอต่างปลดกระดุมเสื้อไว้ 2 เม็ด เผยให้เห็นร่องอกที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ พูดกับพวกผมด้วยเสียงแหลมสูง
「พวกชินโดคุงเนี่ย ได้วางแผนช่วงหน้าร้อนเอาไว้แล้วรึยังเหรอ?」
「ถ้าไม่ว่าอะไรล่ะก็ พวกชั้นวางแผนจะไปทะเลกัน อยากจะไปด้วยกันรึเปล่า?」
———-ทะเล…..!
ผมกับชินโดต่างมองหน้ากัน
นี่มัน เป็นข้อเสนอมที่น่าดึงดูดไม่น้อยเลย
คู่หูซ้าย-ขวา เป็นสมาชิกจากกลุ่มไอดอลหนึ่ง ถึงแม้ว่าใบหน้าและทรงผมจะไม่เป็นที่โดดเด่นแต่ก็มีความน่ารัก ทั้งสไตล์ก็ให้ความรู้สึกที่ดี
กับพวกเธอที่เป็นแบบนั้น ไปเที่ยวเล่นที่ทะเลในชุดว่ายน้ำ…..
มีความรู้สึกว่า ถ้าหากก้าวผิดไปแม้แต่ก้าวเดียว มันจะกลายเป็นการทำพลาดแบบ A Summer Adventure*
อ-เอายังไงดี…..ควรจะตอบรับคำเชิญนี่ดีไหม?
ถ้ามองในแง่ดีแล้วพูดตรงๆก็คู่หูซ้าย-ขวามีบรรยากาศแบบง่ายๆไม่จริงจังอะไร บางทีนะบางที มีโอกาศที่จะเกิดเหตุการณ์ลามกขึ้นมาได้
แต่ว่า ถ้าหากพยักหน้ารับโดยที่คาดหวังไปแบบนั้น ทุกคนในห้องคงจะมีอิมเมจว่า「คิทากาว่าคุงจริงๆแล้วเป็นพวกแอบหื่น」เอาแน่ๆ…..(หมายเหตุ・มันสายไปแล้ว)
ถ้าหากพยายามทำเป็นใจแข็งแล้วปฏิเสธก็จะไม่เกิดอะไรขึ้น และก็ไม่ได้อะไรกลับมาไว้ในมือเช่นกัน
โอกาศแบบนี้ ในชีวิตของผมจะยังมีอีกรึเปล่า…..?
…..-ห๊ะ-!? ในตอนนั้นเอง เกิดกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านสมอง
ไม่สิ เดี๋ยวก่อน! ผิดแล้ว! มันไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว…..!
ถ้าหากได้ขึ้นเป็นนักเรียนปีสาม ช่วงเวลาวันหยุดหน้าร้อนนั้นจะถูกใช้ไปกับการเรียนเพื่อเตรียมสอบ จะไม่มีเวลาสำหรับการวางแผนเพื่อเล่นอีกต่อไป สำหรับผมที่ใช้เวลาตอนปีหนึ่งไปกับการทำงานพาร์ทไทม์ทั้งหน้าร้อน นี่น่าจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอกับอีเวนต์การไปทะเลกับสาวๆของห้อง!
ต-แต่ว่า…..ถ้าหากไปทะเลด้วยกันกับคู่หูซ้าย-ขวาแล้ว พวกอุชิคุระซังจะคิดยังไงตอนที่ได้ยินเข้า…..
ถึงแม้จะไม่แน่ชัดว่าธงของอุชิคุระซังนั้นมีอยู่หรือไม่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะจินตนาการเห็นว่ามันถูกหักลง
อ-เอายังไงดี…..จะเอายังไงดี
ขณะที่ผมกำลังวิตกกังวลอยู่ไม่ถึง 1 วินาที ชินโดที่มีสีหน้าวิตกกังวลไม่แพ้กันก็ถามคำถามมา
「อ-เอายังไงดี…..?」
「จะเอายังไงล่ะ…..?」
「…..ถ-ถ้าคิทากาว่าคุงไปผมก็จะไปด้วยเอาไหม?」
「!?」
ม-หมอนี่…..!
กำลังบังคับให้ผมตัดสินใจ
บางทีแล้ว ชินโดเองก็คงจะมีความสนใจ สำหรับเขาที่ต้องใช้เวลาแต่ละวันอยู่กับเทนนิส โอกาศที่จะได้ทำเรื่องลามกกับสาวๆน่ารักของห้องนั้นไม่ได้มีมาง่ายๆ แต่ว่าในขณะเดียวกัน ก็ไม่อยากจะทำลายภาพพจน์ที่สดใสของตัวเอง…..
ในจุดนั้น ชินโดได้โยนความสามารถในการตัดสินใจมาให้กับผม เป็นการเลือกตัวเลือกที่รักษาภาพพจน์อันสดใสของตัวเองเอาไว้ได้อยู่ และในขณะเดียวกันก็ยังเปิดช่องความเป็นไปได้ที่จะได้ไปทะเลกับคู่หูซ้าย-ขวาเช่นกัน!
หน็อย! เจ้าชินโด! เห็นหน้าตาออกจะใสๆ แต่มีดีเหมือนกันนี่นา!
แต่คงไม่ถึงกับเรียกว่านักวางแผน อันที่จริงแล้วรู้สึกอยากจะหัวเราะใส่ตัวเองที่โง่เง่าคิดไม่ออกกับวิธีการง่ายๆแบบนี้
แย่แล้ว…..ที่คู่หูซ้าย-ขวาพูดชวนมาก็ผ่านไปแล้ว 5 วินาที ถ้าหากว่าใช้เวลาคิดมากกว่านี้ คงจะถูกมองว่าไม่ได้สนใจ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นพวกเธอก็จะเลือกถอยกลับเพื่อปกป้องหน้าตาชื่อเสียงของตัวเอง
ถ้าเป็นแบบนั้นก็เหมือนกับได้ปล่อยให้ปลาใหญ่หลุดไป
ก่อนอื่นก็ต้องถ่วงเวลาเอาไว้!
「นั่นสิน้า ก็มีแผนจะพิชิตเขาวงกตอยู่หรอก เพราะงั้นมันก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาด้วยล่ะนะ แล้วสมาชิกมีกัน 4 คนตรงนี้เหรอ?」
พอผมถามคำถามด้วยท่าทีสบายๆไป ซาโนะซังผู้ที่มีผมหยักศกสั้นประบ่าชูนิ้วเป็นรูปตัว V ขึ้นมาแล้วตอบ
「แน่นอน! ถ้ามีกันหลายคนเกินไปมันก็น่าอายน่ะสิ」
น่าอายถ้ามีกันหลายคนงั้นเรอะ! ดวงตาของผมเปิดกว้าง หรือก็คือ มาเป็นรูปแบบนั้นงั้นเรอะ!?
มองไปทางชินโด ถึงแม้ว่าภายนอกเขาจะดูนิ่งเงียบ แต่ดวงตานั่นกำลังมองมาทางนี้ราวกับกำลังอ้อนวอน
……………ฟู่ ช่วยไม่ได้ล่ะน้า ครั้งนี้ผมจะรับหน้าให้ล่ะกัน ติดหนี้เอาไว้แล้วนะ?
เมื่อผมตัดสินใจรับเอาตราบาปเพื่อเพื่อนแล้วกำลังจะตอบคู่หูซ้าย-ขวา—-ในตอนนั้นเอง
「อะ นี่ไงนี่ไง」
เสียงใสที่ไม่สามารถระบุเพศได้ดังมาจากตรงทางเข้าห้องเรียน
เสียงนี่มัน…..!
ไม่เพียงแค่ผมเท่านั้นแต่นักเรียนทุกคนในห้องต่างพากันหันหน้าไปทางนั้น
เจ้าของเสียงเดินตรงมาทางผมโดยไม่สนใจสายตาที่ได้รับ
「ไง มาโร่ ขอเวลาหน่อยได้ไหม?」
「คันนาซูกิ…..」
ถึงแม้จะอยู่ช่วงฤดูร้อนแต่อาจารย์ก็ยังใส่ชุดเบลเซอร์แขนยาว แต่สีหน้าสดใสและรอยยิ้มที่มีกลับดูแล้วไม่ได้รู้สึกร้อนอะไรเลย นี่ไม่มีต่อมเหงื่อรึยังไง? หรือว่าใช้อุปกรณ์เวทกัน…..
「มีอะไรล่ะ? หายากนะที่คันนาซูกิจะมาที่ห้องของผมเนี่ย」
ผมถามอาจารย์ด้วยน้ำเสียงสบายๆ
สาเหตุที่ใช้ภาษาไม่เป็นทางการที่โรงเรียนก็「คำสุภาพ, อาจารย์ เลิกซะ」อาจารย์บอกให้หยุดเพราะมันจะทำให้เด่นในทางที่แย่
「อืม ก็แบบโอริเบะซังอยากให้ชมรมนักผจญภัยไปรวมตัวกันหลังเลิกเรียนน่ะ เมื่อกี้เจอกันตรงระเบียงถูกบอกมา」
「ซาโยะเหรอ? ใช้สมาร์ทโฟนติดต่อมาก็ได้นี่นา」
ใช้รุ่นพี่มาเป็นคนส่งข่าว…..กับเธอที่เป็นประเภทให้ความเคารพในตัวรุ่นพี่แล้วออกจะน่าแปลกใจ
「อืม คิดว่าอาจจะเป็นอะไรที่สำคัญน่ะ ดูค่อนข้างจริงจัง หรือไม่ก็โมโหอยู่หน่อยๆ」
「หืม?」
สงสัยจริงว่าเกิดอะไรขึ้น
ขณะที่ผมกำลังเอียงคออยู่นั้นเอง…..
「ค-คือว่าน้า~…..」
คู่หูซ้าย-ขวาพูดอย่างอายๆกับอาจารย์ ที่แก้มค่อนข้างมีสีแดงมากกว่าตอนที่คุยกับผมและชินโด
「ถ้าไม่ว่าอะไรแล้วล่ะก็…..อยากจะไปทะเลด้วยกันกับพวกชั้นไหม?」
「ตอนนี้ กำลังชวนพวกคิทากาว่าคุงอยู่ แต่ดูเหมือนว่าทั้ง 2 คนดูจะยุ่งๆอยู่ล่ะน้า~」
『…..!?』
เอ๋อ๋อ๋!? ผมกับชินโดมองหน้ากันด้วยความตกใจ อะไรกันเนี่ย!?
「อ-เอ่อคือ…..?」
「นะ? นะ? ถ้าทะเลมันยากไปก็เป็นสระว่ายน้ำก็ได้!」
「อะ หรือถ้าไม่ชอบว่ายน้ำก็เป็นสวนสนุกก็ได้!」
คู่หูซ้าย-ขวาพูดมีความกระตือรือร้นที่แตกต่างไปจากตอนที่ชวนผมกับชินโดอย่างเห็นได้ชัด
พวกสาวๆที่เป็นแบบนั้น อาจารย์ก็มีท่าทางเขินอาย
แล้ว ในตอนนั้นเอง
「—–เดี๋ยวเถอะ! หยุดเลย มันรบกวนกันนะ!」
กลุ่มผู้หญิงในห้องที่ดูสถานการณ์อยู่รอบๆ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออาจารย์
กลุ่มสาวแกล, กลุ่มสายศิลป์, กลุ่มชมรมกีฬา เหล่าสาวๆที่ในตอนนี้ก้าวข้ามขอบเขตของกลุ่ม เลิ่กตาจ้องไปที่คู่หูซ้าย-ขวา
ขณะที่คู่หูซ้าย-ขวาตัวสั่นภายใต้แรงกดดันของสายตาเหล่านั้น กลุ่มสาวแกลก็เข้าไปล้อมตัวอาจารย์
「ปล่อยเจ้าพวกนั้นเอาไว้เถอะ ไปคาราโอเกะด้วยกันหลังเลิกเรียนไหม?」
「ยังใหม่กับแถวนี้อยู่ใช่ไหมล่ะ จะพาไปดูรอบๆสถานที่เอาไว้นั่งเล่นให้เอง」
「ห๊ะ! อย่ามาล้อกันเล่นนะ!」
กลุ่มสาวๆกับคู่หูซ้าย-ขวาโมโหจัดกับการรุกโดยฉับพลันนี้
ดูเหมือนว่าจะเข้าใจผิดเรื่องที่ก้าวข้ามขอบเขตของกลุ่มได้ไป
แล้วสถานการณ์ก็ค่อยๆดำเนินไปเป็นการต่อสู้ของเหล่าสาวๆเพื่อตัวคันนาซูกิ
「เดี๊…..มาโร่ ช่วย—-」
อาจารย์ถูกคลื่นของเหล่าสาวๆกลืนแล้วหายไป
ผมกับชินโดที่ถูกทิ้งเอาไว้ ต่างมองหน้ากันแล้ว ฟุ่…..หัวเราะ
พวกผมน่ะ จริงอยู่ว่าเป็นปกติที่จะนิยม แต่ท้ายสุดแล้วก็เป็นแบบปกติล่ะ
หน้าหล่อ? มันก็จริงอยู่ที่ชินโดเป็นพวกหน้าหล่อ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นแค่หล่อแบบปกติ ไม่ได้อยู่ในระดับหล่อเลิศประเสริฐศรีอย่างอาจารย์ที่ก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างชาย-หญิงไปแล้ว
นักผจญภัย 3 ดาวขณะที่อยู่ม.ปลาย? จริงอยู่ว่าสุดยอด แต่มันมีกันกี่คนในญี่ปุ่นล่ะ—-อาจารย์ก็เป็นมืออาชีพแล้วอีก
ช่วยคลี่คลายคดีร้ายแรง? จริงอยู่ว่าเป็นฮีโร่ แต่คนที่เป็นหัวหน้าทีมมืออาชีพนั้นมันก็อาจารย์ยังไงล่ะ?
รูปลักษณ์, บุคลิก, ความสามารถ, ความสำเร็จ, การเงิน ผู้ที่มีองค์ประกอบที่ทำให้เป็นที่นิยมที่เหนือชั้นกว่าผมและชินโด นั่นก็คือคันนาซูกิ สึบาซะนั่นเอง
ช่างเถอะ ผมยังมีเหล่าการ์ดอยู่ ชินโดเองก็ยังมีเทนนิส
ความเสียใจ ไม่มีหรอก—-
พวกเราต่างเงยหน้าขึ้น พยายามฝืนกลืนอารมณ์ที่กำลังพวยพุ่งขึ้นมา แล้ว-คิกคิก-ก็ได้ยินเสียงหัวเราะน่ารัก
มีคน 2 คนอยู่ตรงนั้น ชิโนมิยะซังที่กำลังยิ้มราวกับแมวเชสเชียร์ กับอุชิคุระซังที่ยิ้มแห้งๆอย่างอ่อนโยน
「เป็นอา~ไรกันเหรอ ทั้ง 2 คน ดูเศร้าๆนา~ นี่อยากจะเห็นสาวๆในชุดว่ายน้ำมากขนาดนั้นเชียว?」
ชิโนมิยะซังพูดขณะที่-จึ้งจึ้ง-จิ้มมาที่แก้มของผม
「ไม่หรอก ของแบบนั้น ไม่ได้เศร้าอะไรกันเลย เนอะ ชินโด?」
「ช-ใช่ใช่ พวกผมตั้งใจจะปฏิเสธไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก็เพราะว่ายุ่งอยู่กับเทนนิสกับสำรวจเขาวงกตไง」
「หื~ม?」
ขณะที่พวกเรากำลังแก้ตัวอย่างน่าสมเพช ชิโนมิยะซังก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย
「งั้นเหรอ แย่จัง กะว่าจะมาชวนไปสระว่ายน้ำกับพวกชั้นแทนซักหน่อย」
『จริงดิ!?』
「แต่ถ้าไม่ว่างก็คงจะไม่ได้ล่ะนะ ช่วยไม่ได้ ไปกันแค่ 2 คนละกันชิซุกะ แต่ก็ต้องทนรำคาญพวกมาคอยจีบอยู่แหละ」
「นั่นสิน้า~ แต่ถ้ายุ่งกันมันก็ช่วยไม่ได้」
「ไม่ไม่ไม่ ไม่เป็นอะไรหรอก! ไปได้อยู่แล้ว! เดี๋ยวจะพักจากกิจกรรมชมรมเอาไว้ก่อนเลย! เนอะ คิทากาว่า!」
「ผมเองก็จะจัดตารางเวลาใหม่ด้วย!」
เพื่อไม่ให้โอกาศนี้หลุดมือไปเช่นกัน พวกเราต่างกระโจนเข้าใส่โดยไม่ต้องคิด
「เหรอ? งั้นก็ส่งตารางวันที่ว่างมาให้หน่อยได้ไหม? เดี๋ยวจะพยายามจัดให้สะดวกกันมากที่สุดเอง」
พอพูดสิ่งที่ต้องการหมดแล้ว ชิโนมิยะซังก็จากไปอย่างเท่ อุชิคุระซังก่อนที่จะไล่ตามไปก็หันกลับมายิ้มให้เล็กน้อยพร้อมโบกมือ
หลังจากที่มองส่งทั้งคู่ ผมกับชินโดก็มองหน้ากันแล้วกำหมัดด้วยความตื่นเต้น
———-หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ในร้าน Denims ที่ตอนที่มีคนแน่นและกำลังยุ่งในช่วงเที่ยง
『……………』
ด้านหลังสุดของมุมปลอดสูบบุหรี่ มีโต๊ะซึ่งถูกจองเอาไว้สำหรับชมรมนักผจญภัยจนราวกับเป็นกิจวัตร ที่ตรงนั้น พวกผมกำลังล้อมอันนาที่กำลังคอตก
หลังจากพิธีปิดการศึกษาเสร็จสิ้น เหล่านักเรียนที่มากับเพื่อนๆ กับครอบครัวหลากหลายต่างก็พากันมาทานอาหารเที่ยงกันอย่างมีความสุข ทว่ามีเพียงโต๊ะนี้เพียงโต๊ะเดียวที่มีบรรยากาศตรงกันข้ามไปอย่างสิ้นเชิง
โอริเบะที่นั่งฝั่งตรงข้ามอันนา พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
「โอ่ย ประธาน」
「ค่ะ…..」
「นี่มันอะไร」
ราวกับจะพ่นคำเหล่านั้นออกมา โอริเบะพูดขณะใช้สายตามองไปที่กระดาษข้อสอบซึ่งสอบตกเรียงรายอยู่
「มันใครกันนะ『ถ้าหากสอบตกล่ะก็ต้องเข้าชั้นเรียนเสริม ทำให้ไม่สามารถไปทำการสำรวจได้ ดังนั้นมาทำให้แน่ใจกันว่าจะไม่มีใครในชมรมนักผจญภัยต้องสอบตกกันเถอะ!』ที่พูดแบบนี้ออกมา?」
「ชั้นเอง…..แหละ」
「『ถ้าหากว่าใครสอบตกล่ะก็ จะมีบทลงโทษด้วย!』มันใครพูดกัน?」
「ช-ชั้นเอง…..แหละ」
เด็กสาวแสนสวยผมแดงกำลังทำตัวหดพร้อมเหงื่อแตกพลั่ก แต่ก็ไม่มีใครแสดงความเห็นใจ
「คะแนนย่ำแย่สุดๆเลย….. ไปได้คะแนนน้อยขนาดนี้มาได้ยังไงในเมื่อทำแบบทดสอบที่คาดการณ์มาโดยซาโยะล่ะเนี่ย?」
แบบทดสอบที่โอริเบะเตรียมไว้สำหรับสมาชิกนักผจญภัยนั้น แม้จะอยู่แค่ปีหนึ่งก็จัดเตรียมออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบไปจนถึงระดับชั้นปีสองเลยทีเดียว ต่อให้เป็นไอ้โง่หน้าไหน ขอแค่จำให้ได้ก็สามารถทำคะแนนได้สูงๆแล้ว
แม้แต่ผมที่มักจะได้คะแนนตามเกณฑ์เฉลี่ย ยังเป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าโรงเรียนม.ปลายนี้มา สามารถทำคะแนนได้เฉลี่ยสูงถึง 90 คะแนนเลยทีเดียว
…..หรือว่าบางที เพราะมัวแต่มาจัดเตรียมแบบทดสอบของปีสองอยู่ก็เลยละเลยแบบทดสอบของปีหนึ่งไป?
ถ้าหากว่าเป็นแบบนั้นล่ะก็คงต้องขอโทษด้วยจริงๆ แล้วทำการมองไปทางโอริเบะ แต่เธอก็-หึ-ฮึดจมูกขณะที่เอามือกอดอก
อันนาพูดอย่างลนลาน
「ม-ไม่ใช่นะ! บททดสอบของซาโยะถูกเตรียมมาอย่างสมบูรณ์แบบเหมือนอย่างทุกทีเลย!」
ถ้างั้นแล้วทำไมถึงสอบตกล่ะ…..
「เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว บทลงโทษที่คิดได้เห็นทีจะมีแค่ต้องให้ลงจากตำแหน่งประธานแล้วสินะ?」
「อ-อะไรกัน!?」
โอริเบะมองอันนาแล้วพูดอย่างเย็นชา
「ค-แค่เรื่องนั้นเท่านั้น! ขอแค่เรื่องนั้นเท่านั้น!」
อันนาที่น้ำตาไหลนองแล้วเข้าไปเกาะตัวอย่างสิ้นหวัง แต่โอริเบะมองเธออย่างไร้ความปราณี ราวกับว่าเป็นคนเชือดหมูกำลังมองดูหมูที่อยู่ในฟาร์ม
「น่าน่า ก่อนอื่นก็ลองฟังว่าเกิดอะไรขึ้นดูก่อน มันอาจจะมีสถานการณ์ไม่คาดฝันอะไรก็ได้」
ที่ช่วยตามมาก็คืออาจารย์ซึ่งชุดเครื่องแบบดูจะยับและเปื้อนฝุ่นมากกว่าที่ได้เจอกันก่อนหน้านี้
อาจารย์มองมาทางนี้ด้วยความไม่พอใจ แต่ผมก็เมินสายตานั้นแล้วพยักหน้ารับ
「นั่นสิ บางทีวันนั้นอาจจะมีไข้ขึ้นสูง ไม่ก็สัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไว้ตายไป ก็เลยทำให้ไม่สามารถรวบรวมสมาธิได้ก็เป็นได้」
รุ่นพี่ทั้ง 2 คนพยายามพูดให้ โอริเบะที่ปกติเป็นประเภทที่ให้ความเคารพผู้อาวุโสกว่าจึงยอมถอยอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
ภายใต้การเฝ้าดูของพวกเรา อันนาก็ชูนิ้วชี้ขึ้นมาแล้วตอบ
「ช-ใช่ ความจริงแล้วเพราะเป็นห่วงเรื่องที่เขาวงกตปรากฏขึ้นมาที่โรงเรียน ก็เลยไม่มีสมาธิตอนระหว่างเรียน…..」
『อืม มีความผิด』
คำตัดสินเป็นเอกฉันท์ เหตุผลมันไร้สาระเกินกว่าที่คิดเอาไว้
「แต่ว่า จะทำยังไงกันดีเนี่ย แบบนี้ก็ไปทำการสำวจกันไม่ได้เลย」
ขณะที่โอริเบะกำลังใช้ท่าเฮดล็อคใส่อันนาและค่อยๆเพิ่มแรงหนีบ ผมก็แหงนหน้ามองฟ้าใช้ความคิด
คราวนี้ ชมรมนักผจญภัยวางแผนที่จะใช้วันหยุดยาวช่วงหน้าร้อน ไปทำการสำรวจเขาวงกตทั่วญี่ปุ่น
เพื่อที่จะเลื่อนระดับเป็น 4 ดาว ได้วางแผนจะพิชิตเขาวงกตแรงค์ D ที่อยู่ห่างไกลออกไปอย่างที่ฮอคไกโดและโอกินาว่าซึ่งปกติแล้วไม่ค่อยจะได้ไป อีกทั้งยังมีแผนการจะลองเขาวงกตระดับมือมืออาชีพเพื่อรับเอาประสบการณ์และพลังใหม่ๆ
ทว่าการเรียนเสริมของอันนา…..แถมยังเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าต้องถูกกักตัวไว้อยู่อีกหลายวิชา ทำให้แผนพังไม่มีชิ้นดี
「ต้องขอโทษจริงๆค่ะ…..ได้โปรดทิ้งชั้นเอาไว้แล้วไปสำรวจกันเองเถอะค่ะ…..」
อันนามีท่าทางหดหู่จริงจัง พวกผมต่างก็มองหน้ากัน
「จะทำแบบนั้นได้ยังไงเล่า~」
「ถึงจะงี่เง่าแต่ก็ถือว่าเป็นพรรคพวกกันนะ」
「ใช่ใช่ อีกอย่างถ้าต้องทิ้งพรรคพวกเอาไว้มันก็ไม่น่าสนุกหรอก」
「ท-ทุกคน…..!」
ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของอันนาสดใสขึ้นจากคำพูดอันอบอุ่นของชมรมนักผจญภัย
…..ก็นะ เอาจริงๆเลยคือการที่มีหรือไม่มีอันนาเป็นผู้สนับสนุนอยู่ จะสร้างความแตกต่างอย่างมากเลยทีเดียว
จัดเตรียมการ์ดลี้ภัยฉุกเฉินกับเคลื่อนย้ายในตอนี่เข้าเขาวงกต, จัดเตรียมตั๋วเครื่องบินและโรงแรมสำหรับการสำรวจ, ทำรายชื่อเขาวงกตที่จะพิชิต, รวบรวมข้อมูลของการแข่งขันที่จะเข้าร่วม, สร้างเส้นสายที่มั่นคงและปลอดภัยกับตัวแทนจำหน่ายการ์ดเพื่อแลกเปลี่ยนการ์ดและอุปกรณ์ที่ได้มา…..
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ถูกจัดการโดยอันนา โดยใช้เส้นสายจากทางบ้าน
ว่ากันตามตรง มาถึงจุดนี้หากพวกเราจะวางแผนไปสำรวจโดยที่ไม่มีอันนาอยู่ล่ะก็….. ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้แต่ว่าก็ยุ่งยากมากเกินไป
ถ้าปราศจากอันนา ก็ไม่มีคนสร้างสีสัน
「ก็นะ ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้ เดี๋ยวพวกเราแต่ละคนจะไปสำรวจเขาวงกตใกล้ๆกัน แล้วอีกอย่าง มันก็มีช่วงพักระหว่างการเรียนเสริมอยู่ด้วย แล้วทุกอย่างก็จะเสร็จตอนช่วงครึ่งแรกของวันหยุดหน้าร้อนด้วยใช่ไหมล่ะ?」
「ค-ค่ะ จะมีการเรียนเสริม 1 อาทิตย์แล้วก็พัก 1 อาทิตย์ แล้วก็จะเสร็จในช่วงครึ่งแรกของวันหยุดหน้าร้อนส์」
จากคำพูดของผม อันนาก็พยักหน้ารับ ทางโอริเบะกับอาจารย์ก็พยักหน้าตาม
「งั้น พอถึงตอนนั้นก็ค่อยไปทำการสำรวจกัน」
「…..เอาเถอะ ถึงตารางของค่ายฝึกจะแน่นไปหน่อยแต่เดาว่าคงไม่เป็นอะไร」
ตามแผนการดั้งเดิม มีแผนที่จะไปเล่นกับเพื่อนและไปเที่ยวกับครอบครัวอยู่ไม่เท่าไหร่
ค่ายฝึกก็ตั้งหน้าตั้งตาคอยอยู่ แต่ว่าถ้ามีแค่นั้นมันก็ออกจะน่าเบื่อไปหน่อย
ผลที่ออกมาแตกต่างไปจากที่วางแผนเอาไว้ แต่ท้ายที่สุดแล้วอาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็เป็นได้
「งั้น ก็เอาเป็นตามนั้นแหละ」
และแล้ว วันหยุดหน้าร้อนก็ได้เริ่มขึ้นพร้อมกับความวุ่นวายตั้งแต่ต้น
【Tips】รางวัลพิชิตเขาวงกตครั้งแรก
เขาวงกตจะมีตัวตนของโบนัสครั้งแรกอยู่ ในครั้งแรกที่ทำการพิชิตได้ อัตราดรอปจะมากกว่าปกติ 1000 เท่า และสิ่งที่อยู่ภายในกล่องน่าผิดหวังจะมีความหรูหรามากกว่า…..ก็มีข่าวลือเช่นนี้อยู่
แม้ความจริงของเรื่องนี้จะยังไม่แน่ชัด แต่ว่าแม้แต่ในประเทศที่กำลังพัฒนาที่เขาวงกตเทียบเท่ากับสลัมและรังอาชญากร ก็ยังมีการส่งกองทัพเข้าไปปิดล้อมเขาวงกตที่ปรากฏขึ้นมาเป็นรายแรก ทำให้ข่าวลือมีความน่าเชื่อถืออยู่พอสมควร
ในทางกลับกัน ก็มีข้อโต้แย้งในกรณีที่ข่าวลือเป็นจริงอยู่ว่า ถ้างั้นก็แปลกที่การ์ดแรงค์ A มีดรอปออกมาเพียงไม่กี่ใบในโลก
ข้อมูลเพิ่มเติม
อินเตอร์ไฮ / International High School Tournament
งานแข่งขันกีฬาระดับม.ปลายระดับประเทศของญี่ปุ่น
https://www.facebook.com/Siamsport/photos/a.136046083106567/3891117514266053/?type=3
ชื่อมิกิโนะ(右野) ซาโนะ(佐野) ตัวอักษรตัวแรกจะแปลได้เป็น 右 = ขวา , 佐 = ซ้าย
A Summer Adventure / 一夏のアバンチュール
ศัพท์แสลงประมาณว่าช่วงเวลาความทรงจำสั้นๆของหน้าร้อนหนึ่งที่จะอยู่ในความทรงจำไปอย่างยาวนาน
https://woman.mynavi.jp/article/150723-36/