เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 312 เฉินลู่เหยาตกหลุมพราง
เหลิ่งรั่วปิงที่หยิ่งยโสต่อหน้าเธอมาโดยตลอด เวลานี้กลับอ้อนวอนขอร้องเธอ อธิบายได้แค่ว่าเหลิ่งรั่วปิงเอาหนานกงเยี่ยไม่อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคนอย่างเหลิ่งรั่วปิงไม่มีวันมาขอร้องเธอแน่นอน
เมื่อมั่นใจในความคิดนี้ เฉินลู่เหยาจะยอมทิ้งโอกาสนี้ไปได้อย่างไร รอยยิ้มของเธอสวยงามราวกับดอกไม้ คล้ายกับตัวร้ายในละครสงครามนางใน “ขอโทษด้วยนะคะ คุณเหลิ่งรั่วปิง ฉันกลับเมืองหลงก็เพื่อกลับมาหาคุณหนานกง ดังนั้นฉันไม่มีวันไปจากเขาแน่นอนค่ะ”
เหลิ่งรั่วปิงมองเฉินลู่เหยานิ่งๆ อยู่พักหนึ่ง ถอนหายใจด้วยความเศร้า “ฉันรู้ว่าฉันคงโน้มน้าวใจเธอไม่ได้ เธอพูดถูก สำหรับผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างคุณหนานกง การที่ต้องให้เขาหยุดทำเรื่องอย่างว่าระหว่างที่ฉันกำลังตั้งครรภ์เป็นการทำให้เขาทรมาน เขาต้องการมีอะไรกับเธอฉันเองก็ไม่มีอะไรจะพูด เพื่อลูกในท้องฉัน ฉันทำได้แค่อดทนเท่านั้น ฉันแค่อยากให้เธอจำเอาไว้ ไม่ว่าคุณหนานกงเยี่ยจะชอบเธอมากแค่ไหน แต่ถึงยังไงฉันก็เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา”
เฉินลู่เหยาเลิกคิ้วขึ้นอย่างลำพองใจ ”ตอนนี้คุณเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณหนานกงเยี่ยก็จริง แต่อนาคตข้างหน้าจะยังเป็นหรือไม่นั้น ต้องดูที่ความสามารถแล้ว”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเฉินลู่เหยาแสดงละครสงครามนางในมากไปหรือเปล่า จนทำให้กลายเป็นนิสัยของเธอ หรือเป็นเพราะตัวของเธอมีคุณสมบัตินี้อยู่แล้ว การแสดงออกของเธอในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นสนมในวังหลวงที่กำลังแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น อาศัยการได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ พร้อมกับจับจ้องไปที่ตำแหน่งฮองเฮา
เหลิ่งรั่วปิงมองหน้าเฉินลู่เหยา นัยน์ตาของเธอแสดงความเย้ยหยัน “ได้ คุณหนานกงเยี่ยอยากจะครอบครองเธอ ฉันเองก็ห้ามไม่ได้ ทำได้เพียงปล่อยให้พวกเธอทำในสิ่งที่ต้องการ ความใจกว้างของฉันจะแลกความทะนุถนอมและความรักของเขามาได้แน่นอน ถ้าเธออยากจะได้ตำแหน่งภรรยาหลวงของฉัน คงต้องเปลืองแรงหน่อย”
ขณะพูด เหลิ่งรั่วปิงแสยะยิ้ม แล้วดันคีย์การ์ดห้องไปตรงหน้าเฉินลู่เหยา “ไปเถอะ เขารอเธออยู่ที่ห้อง 1308”
เฉินลู่เหยารับคีย์การ์ดมาด้วยความได้ใจ ยิ้มราวกับดอกทิวลิปที่พลิ้วไหวตามสายลม “คุณเหลิ่งรั่วปิงฉลาดมากค่ะ แต่น่าเสียดายไม่ว่าผู้หญิงจะฉลาดแค่ไหน ถ้ารักษาผู้ชายของตนเองเอาไว้ไม่ได้ สุดท้ายก็มีจุดจบที่น่าสงสาร ฮ่าๆๆ…”
เฉินลู่เหยาหัวเราะราวกับดอกป๊อปปี้ เดินอ้อนแอ้นออกไปจากห้อง เธอรู้สึกว่าสงครามแย่งชิงความรักในครั้งนี้ เธอต้องเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน หลังจากนี้ก็แค่รอให้เด็กในท้องของเหลิ่งรั่วปิงคลอดออกมา แล้วเธอค่อยพูดเกลี้ยกล่อมหนานกงเยี่ย เพียงเท่านี้ก็เหยียบเหลิ่งรั่วปิงให้จมดินได้แล้ว
หลังจากเฉินลู่เหยาเดินลับหายไป ประตูที่อยู่ภายในห้องถูกเปิดช้าๆ หนานกงเยี่ยและอวี้ไป่หันเดินออกมาพร้อมกัน
สีหน้าของหนานกงเยี่ยยังคงนิ่งงัน ไม่มีความรู้สึกใดๆ คล้ายกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเรื่องธรรมดา เขาเดินไปใกล้เหลิ่งรั่วปิง แล้วดึงตัวเธอเข้ามากอดอย่างรักใคร่
เหลิ่งรั่วปิงหุบยิ้ม ยกแก้วน้ำในมือขึ้น ดื่มด้วยท่วงท่าสง่างาม
อวี้ไป่หันหัวเราะอยู่ด้านข้าง “รั่วปิง วิธีนี้ของเธอโหดมาก ทำให้ลู่เหยาทรมานยิ่งกว่าตายอีก สุดๆ ไปเลย…” เขาส่ายหน้าไปมา “สมแล้วที่คุณกับหนานกงเป็นครอบครัวเดียวกัน เวลาโหดเหี้ยมขึ้นมา ร้ายยิ่งกว่านกอินทรีกับหมาป่าเสียอีก”
เหลิ่งรั่วปิงชำเลืองมองอวี้ไป่หัน “นักข่าวมาพร้อมรึยัง”
อวี้ไป่หันพยักหน้า “เรียบร้อย อีกครึ่งชั่วโมง พวกเขาต้องล้อมห้อง 1308 เอาไว้แน่นนอน รับประกันว่าข่าวดาราชื่อดังเฉินลู่เหยาไม่รักตัวเอง ลอบขายตัวต้องดังกระฉ่อน ทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงในทันที”
เหลิ่งรั่วปิงคลี่ยิ้มบางๆ “ดีมากค่ะ เรื่องที่รบกวนให้คุณจัดการไม่เคยทำให้ต้องเป็นกังวล”
อวี้ไป่หันยิ้ม “คุณไม่คิดจะขอบคุณผมหน่อยเหรอ”
เหลิ่งรั่วปิงเชิดคางขึ้นอย่างยากจะคาดเดา “อยากจะให้ฉันขอบคุณคุณยังไงคะ”
อวี้ไป่หันเหมือนเด็กน้อยที่อยากได้ลูกอม มือทั้งสองข้างที่วางไว้บนโต๊ะเกยคางเอาไว้ “รั่วปิง เห็นแก่ที่ผมพยายามช่วยคุณทำงานนี้ คุณช่วยพูดเรื่องดีๆ ของผมให้ไซ่หย่าเซวียนฟังหน่อยได้ไหมครับ”
เหลิ่งรั่วปิงถอนหายใจเบาๆ “ฉันจะช่วยคุณพูดอะไรได้คะ ตอนนี้หย่าเซวียนยังไม่รู้ใจตัวเอง เธอยังไม่รู้ว่าใครคือคนที่เธอรักมากที่สุด คุณให้เวลาเธอหน่อย ให้เธอคิดทบทวนก่อนดีไหมคะ ยิ่งคุณพยายามเข้าใกล้เธอยิ่งทำให้เธออยากจะไปจากคุณ”
อวี้ไป่หันเองก็ถอนหายใจ “ถึงแม้จะพูดแบบนี้ แต่ผมกลัวว่าหย่าเซวียนจะไม่รู้ใจตัวเองสักที เดี๋ยวจบงานแต่งงานของคุณกับหนานกง หย่าเซวียนก็จะกลับประเทศเอ้าตูแล้ว รอให้เธอได้เจอกับฉู่เทียนรุ่ยก็จะลืมผมอีก”
เหลิ่งรั่วปิงมองอวี้ไป่หันเงียบๆ รู้สึกสงสารขึ้นมากะทันหัน ผู้ชายที่ในอดีตไม่เคยรักใคร มาวันนี้กลับรักผู้หญิงคนหนึ่งจนถอนตัวไม่ขึ้น ซูบผอมลงทุกวันๆ เดี๋ยวได้รับความรักเดี๋ยวไม่ได้รับความสนใจ น่าเสียดาย ความรักเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ ไม่ใช่เรื่องที่เขารักเธอและเธอก็คิดเหมือนกันกับเขา แม้ว่าคนทั้งสองจะรักกันก็ใช่ว่าจะได้คบกัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ ‘โชคชะตา’
สุดท้าย เหลิ่งรั่วปิงก็พูดขึ้น “ไป่หัน ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาเถอะนะคะ”
ใช่ ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาเถอะ ถ้ามีวาสนาต่อกัน แม้ว่าจะแยกจากกันไปแล้วแต่สักวันหนึ่งก็ต้องกลับมาเจอกัน เหมือนกับเธอในตอนนั้น ทั้งที่ระหว่างเธอกับหนานกงเยี่ยแตกหักจนถึงขั้นต้องตายไปข้างหนึ่ง แต่สุดท้ายพวกเขาก็กลายเป็นสามีภรรยากัน ทั้งยังมีลูกด้วยกัน เธอเชื่อว่าเป็นเพราะ ‘โชคชะตา’ นำพา
อวี้ไป่หันเงียบ คำว่า ‘โชคชะตา’ เป็นอะไรที่ทำให้ทรมานหัวใจอย่างมาก โชคชะตาคืออะไรกันแน่ ต้องใช้เงินมากมายเท่าไหร่ถึงจะซื้อมาได้ ถ้าสามารถซื้อขายโชคชะตาได้ เขาจะใช้เงินทั้งหมดที่มีเพื่อแลกกับการได้รักไซ่หย่าเซวียน
ในความเงียบ ก่วนอวี้และอวี้หลานซีเปิดประตูเข้ามา อวี้หลานซีรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เยี่ย รั่วปิง ฉันเห็นนักข่าวยกขบวนขึ้นไปชั้นบน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ไม่ห้ามอะไรเลย ระบบรักษาความปลอดภัยของโรงแรมอิมพีเรียลหละหลวมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
อวี้ไป่หันยิ้ม “นักข่าวพวกนั้นผมเป็นคนสั่งให้ขึ้นไปเอง แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องไม่ห้ามพวกเขาอยู่แล้ว”
อวี้หลานซียิ่งสับสนมากกว่าเดิม “พวกคุณกำลังทำอะไรกันคะ”
อวี้ไป่หันพูดอย่างรู้สึกสนุก “ห้อง 1308 ดาราชื่อดังเฉินลู่เหยากำลังขายตัว อีกฝ่ายยังเป็นถึงชายชราอายุครึ่งร้อย คุณคิดว่าข่าวนี้ดังพอไหมครับ”
หลังจากตกตะลึงไปสองวินาที คนที่ฉลาดอย่างอวี้หลานซีก็เข้าใจทุกอย่างทันที หันไปมองเหลิ่งรั่วปิงด้วยความตกใจ “รั่วปิง วิธีแก้แค้นของเธอเหี้ยมโหดจริงๆ”
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ดาราชื่อดังอย่างเฉินลู่เหยาก็จะเสื่อมเสียชื่อเสียง กลายเป็นผู้หญิงชั้นต่ำที่ทุกคนรังเกียจ วิธีนี้เหี้ยมโหดมากจริงๆ
เหลิ่งรั่วปิงนิ่งสงบ “ผู้หญิงคนนั้นคิดจะยั่วยวนสามีของฉัน ทั้งยังวางยาทำร้ายฉันกับลูกในท้อง ฉันทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ”
ก่วนอวี้เลิกคิ้วขึ้น “ผมคิดว่า วิธีนี้ยังไม่เหี้ยมโหดมากพอ รอให้เฉินลู่เหยาเสื่อมเสียชื่อเสียง เราค่อยขายเธอให้กับสถานค้าประเวณี ให้เธอถูกขังอยู่ในนั้นทั้งชีวิต”
อวี้หลานซีหันไปมองก่วนอวี้ด้วยความตกใจ “ที่รักคะ ทำไมเมื่อก่อนฉันถึงไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณเป็นคนเหี้ยมโหดแบบนี้”
อวี้ไป่หันยิ้มอย่างมีเลศนัยราวกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ “แน่นอนว่าคุณไม่เคยรู้ ก่วนอวี้เป็นผู้ชายอบอุ่นเสมอเวลาอยู่กับคุณ แต่เบื้องหลังเขาเหี้ยมโหดมากแค่ไหนคุณรู้บ้างไหม เขาติดตามหนานกงและคอยทำเรื่องไร้ศีลธรรมมากน้อยแค่ไหนคุณรู้บ้างรึเปล่า”
อวี้หลานซีเบิกตาโต หันไปมองก่วนอวี้อย่างพินิจพิจารณา อยากจะมองหาความแตกต่างในตัวเขา เธอมองจนก่วนอวี้รู้สึกประหม่า ด้วยเหตุนี้เขาจึงยิ้มอ้อน ตบแขนของเธอเบาๆ เพื่อบอกให้เธออย่าจริงจัง
หนานกงเยี่ยที่นั่งเงียบมาโดยตลอด จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา “หลานซี คุณอยากรู้ไหม พวกเด็กผู้ชายกลุ่มนั้นที่ตอนเด็กๆ คอยตามตอแยคุณ สุดท้ายทำไมต้องวิ่งหนีคุณทุกครั้งที่เจอหน้ากัน”
ดวงตากลมโตของอวี้หลานกลอกไปมา หันไปมองหนานกงเยี่ย “เพราะถูกคุณทำร้ายไม่ใช่เหรอคะ”
หนานกงเยี่ยหัวเราะต่อ “ผมต้องเรียนรู้ทักษะต่างๆ ทุกวัน จะเอาเวลาที่ไหนไปยุ่งเรื่องพวกนี้ คนพวกนั้นถูกก่วนอวี้ทำร้ายต่างหาก คนที่มายุ่งกับคุณตั้งแต่เล็กจนโตล้วนถูกก่วนอวี้จัดการทั้งนั้น”
“ฮ่าๆๆ…” อวี้ไป่หันเงยหน้าขึ้นหัวเราะ “ก่วนอวี้ คิดไม่ถึงว่านายจะเป็นคนที่คอยทำร้ายคนอื่นลับหลังตั้งแต่เล็กจนโต”
เหลิ่งรั่วปิงเองก็หัวเราะ “คิดไม่ถึงว่าสงครามปกป้องความรักของก่วนอวี้จะผ่านการต่อสู้มาตั้งแต่เล็กจนโต”
ก่วนอวี้ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะจนรู้สึกประหม่า ตอนที่เขาหันไปมองเห็นสายตาขุ่นเคืองของอวี้หลานซีก็ยิ้มออดอ้อน
ถูกต้อง ตั้งแต่เล็กจนโต นอกจากหนานกงเยี่ยแล้ว ผู้ชายคนไหนที่เข้าใกล้อวี้หลานซี ล้วนถูกเขาจัดการจนหมด เขาคิดว่าจะปิดเรื่องนี้ไม่ให้อวี้หลานซีรู้ได้ตลอดชีวิต แต่ใครจะไปคิดว่าจะถูกเปิดโปงในสถานการณ์แบบนี้
ตอนแรกนึกว่าอวี้หลานซีจะโมโห แต่เธอแค่มองเขาด้วยแววตาขุ่นเคืองพักหนึ่ง จากนั้นก็คลี่ยิ้มบางๆ รอยยิ้มของเธอฉายความสุขที่เก็บซ่อนเอาไว้ไม่ได้ อันที่จริงผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าจะมีนิสัยยังไง เป็นคนดุร้ายก็ดี อ่อนหวานก็ช่าง หรือเป็นกุลสตรีก็ตาม ล้วนมีความสุขที่ได้รับความรักและเอาใจใส่จากสามี ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต
คนที่อยู่ชั้นล่างนั่งดื่มน้ำชาอยู่ในห้อง พูดคุยหยอกล้อกัน ทางด้านเฉินลู่เหยาเดินเข้าไปในห้อง 1308 อย่างมีชัย
ภายในห้องมืดสนิท เห็นเพียงร่างใหญ่ของชายหนุ่มบนเตียงเท่านั้น
ภายในใจของเฉินลู่เหยาทั้งดีใจและตื่นเต้น เธอรอมานานกว่าห้าปีแล้ว แค่คิดว่าจะได้เป็นผู้หญิงของหนานกงเยี่ย หัวใจของเธอก็เหมือนมีกวางน้อยวิ่งไปมา ใจเต้นตึกตัก ทำให้เธอรู้สึกอ่อนระทวย
“คุณหนานกง?”
เสียงของเฉินลู่เหยาสั่นเทา เธอเดินไปที่เตียง แต่คนที่อยู่บนเตียงไม่มีทีท่าจะพูดกับเธอแม้แต่น้อย ตอนที่เธอเดินเข้าไปใกล้ เขาดึงตัวเธอเข้าไปกอด แล้วคร่อมเธอเอาไว้
เฉินลู่เหยาไม่รู้ว่าคนที่คร่อมตนเอาไว้ใช่หนานกงเยี่ยรึเปล่า แต่เธอไม่กล้าขัดขืน รูปร่างของคนตรงหน้าคล้ายกับหนานกงเยี่ยมาก ร่วมกับเธอไม่เคยใกล้ชิดจนถึงขั้นแนบเนื้อกับหนานกงเยี่ยมากก่อน ถึงแม้คืนนั้นจะได้กอดและจูบกันในระยะเวลาสั้นๆ แต่เพราะเธอกินยาปลุกเซ็กส์เข้าไปทำให้จำอะไรไม่ค่อยได้ ดังนั้นเมื่อไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าคือหนานกงเยี่ยหรือไม่ เธอก็ไม่กล้าขัดขืน กลัวว่าจะทำให้เขาโกรธ
“คุณหนานกง คุณไม่มีอะไรอยากจะพูดกับฉันเหรอคะ” เฉินลู่เหยาเป็นคนฉลาด เธอตอบรับเขา พร้อมกับลองใจในเวลาเดีวกัน
แต่ผู้ชายที่อยู่บนเตียงไม่มีทีท่าจะพูดแม้แต่น้อย
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เฉินลู่เหยาไม่ได้คิดอะไรอีก เธอเชื่อว่าหนานกงเยี่ยปกป้องและดูแลเธอมากขนาดนี้ เหลิ่งรั่วปิงไม่กล้าวางแผนทำร้ายเธอแน่นอน ดังนั้น เธอไม่เพียงแต่ไม่ขัดขืน ทั้งยังตอบรับเขา เพื่อให้เขายากที่จะลืมรสชาติของเธอ แล้วไม่สามารถไปจากเธอได้อีก
เฉินลู่เหยาที่กำลังตื่นเต้นและดีใจ ยอมถวายพรหมจรรย์ที่ตนเฝ้าเก็บรักษามาตลอดยี่สิบปี โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าตนเองกำลังจะเสื่อมเสียชื่อเสียง