เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 683 สุดท้าย
ตอนที่ 683 สุดท้าย
เทียนตี้ในบัดนี้ เขารับรู้ได้อย่างแจ่มชัดว่าที่นี่มีกลิ่นอายของท่านพ่อของเขาจริงๆ แม้จะเบาบางมากก็ตาม แต่เขามั่นใจว่ามี
แต่ว่า… อาจารย์พูดไว้ว่าท่านพ่อสูญสิ้นวิญญาณและเจตนารมณ์ไปหมดแล้วเหมือนกับไท่เฮ่าพวกเขาที่กลับสู่ธรรมชาติอย่างสมบูรณ์
เช่นนั้นเหตุใดยามนี้เขาจึงสัมผัสถึงกลิ่นอายของท่านพ่อได้เล่า
เทียนตี้ไม่เข้าใจ กระทั่งอดคิดไม่ได้ว่าตนคิดไปเองหรือไม่
ผ่านไปครู่หนึ่ง… เทียนตี้ส่งโทรจิตหาหยวนสื่อเทียนจุน “หยวนสื่อ”
“ว่าอย่างไร” หยวนสื่อเทียนจุนที่ตอบกลับอย่างรวดเร็วคิดว่าตำหนักสวรรค์เกิดเรื่องแล้ว
เทียนตี้จึงกล่าวว่า “ข้าสัมผัสถึงกลิ่นอายของท่านพ่อข้า ท่านช่วยข้าทำนายว่าเขามีโอกาสเกิดใหม่หรือไม่ เกิดใหม่เหมือนกับอาจารย์น่ะ”
“ท่านพ่อของท่าน? จวินโฮ่ว?” หยวนสื่อเทียนจุนไม่ทันตั้งสติได้
เทียนตี้ถ่มน้ำลายทันที “ไม่ใช่พ่อเลี้ยงข้า พ่อแท้ๆ ของข้าต่างหาก เซวียนหยวนหวงตี้”
“อ๋อๆๆ” หยวนสื่อเทียนจุนตกอยู่ในภวังค์ “ทำเอาข้าตกใจหมด คิดว่าจวินโฮ่วร่วงหล่นไปตั้งแต่เมื่อใดกัน โอกาสเกิดใหม่อะไรนั่นอีก”
“…” เทียนตี้เงียบ ในใจกลับเป็นกังวล ถึงอย่างไรตอนนี้เขาไม่สามารถรับรู้ถึงกลิ่นอายและร่องรอยของอาจารย์พวกเขาแล้ว
หลุมศพนั่นไม่ธรรมดาจริงๆ
สิ่งน่าเจ็บใจที่เขาเพิ่งค้นพบตอนนี้คือ เมื่อก่อน…
“ข้าเป็นเทียนตี้ได้อย่างไรกัน”
เทียนตี้ที่สงสัยในตัวเองอดทบทวนตนเองไม่ได้อีกครั้ง ในขณะเดียวกันก็ลองสัมผัสสถานการณ์ของไป๋ตี้ พบว่าสถานการณ์ของฝ่ายหลังปกติดีมาก จึงวางใจลง
ครานี้เอง… ในหลุมศพ
เยี่ยนอวี๋สัมผัสถึงกลิ่นอายของเทพทั้งสี่ได้แจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีกลิ่นอายของเซวียนหยวนจริงๆ ด้วย แม้พวกเขาจะอำพรางอย่างไร นางก็รับรู้ได้
“หาว…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่รู้สึกง่วงนอน เขาก็อ้าปากหาวในอ้อมอกของท่านพ่อ
ต้าซือมิ่งที่ไล่ตามข้างหน้าไปจึงเริ่มกล่อมเด็กน้อยเข้านอน มือข้างหนึ่งตบหลังนุ่มนิ่มน้อยๆ ของลูกเป็นจังหวะเบาๆ
น้ำหนักที่อ่อนโยนและเท่าๆ กันของท่านพ่อเขาทำให้เด็กน้อยเคลิ้มหลับไปทันที ความมืดก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้
จางอวิ๋นเมิ่งที่เห็นภาพเช่นนี้ นางก็พยักหน้าให้ตนเองนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
แม้จะพลาดการเลี้ยงดูบุตรสาวเติบโต จางอวิ๋นเมิ่งยังคงหวังว่าจะได้เห็นสามีที่บุตรสาวเลือกว่าเหมาะที่จะฝากฝังชีวิตที่เหลือให้ได้หรือไม่ หากได้ย่อมเป็นการดีที่สุด หากไม่ได้ แม้จะถูกบุตรสาวโกรธเกลียด สิ่งที่นางควรพูดก็ต้องพูด นี่คือหน้าที่ของผู้เป็นแม่
แต่จนถึงบัดนี้ จางอวิ๋นเมิ่งนอกจากจะพอใจกับลูกเขยคนนี้แล้วก็มีแต่พอใจ
ลูกเขยคนนี้… แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ก็สามารถทำให้หลานชายน้อยผู้เฉลียวฉลาดหลับลึกอย่างสบายใจ เห็นได้ว่าเป็นคนจิตใจมั่นคงยิ่งนัก ความสามารถก็คงแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เขาแสดงให้เห็นจนถึงบัดนี้แน่นอน ถึงอย่างไรก็มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงที่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ในทุกสภาพแวดล้อม
…
ขณะที่จางอวิ๋นเมิ่ง ‘ทดสอบ’ ลูกเขยอีกครั้งเสร็จ เยี่ยนอวี๋ที่ไม่รู้ตัวเลยก็เห็นบางอย่างด้วยสายตาที่แหลมคม นางเอ่ยขึ้นว่า “จวนซวี หยุดเถอะ”
จวนซวีที่อยู่ข้างหน้าจริงๆ ตกใจ คิดว่าถูกจับได้แล้วว่ามีเพียงเขาอยู่ที่นี่ มิเช่นนั้นเหตุใดปฐมราชินีจึงเรียกชื่อเขาคนเดียว แต่เขายังคงสงบอารมณ์ลงและเร่งความเร็วต่อไป
แม้อันที่จริงนี่จะเป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว แต่เขายังคงต้องเร่ง มิเช่นนั้นเขาอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่เขาตั้งไว้ นั่นก็คือส่งปฐมราชินีเยี่ยนและทุกคนไปยังแดนมรณะ
เร็วเกินไปแล้ว
พวกเขาเร็วเกินไปแล้วจริงๆ
“เข้าใจได้หากปฐมราชินีเยี่ยนและแซ่หรงคนนั้นจะเร็ว แต่ซีหวังหมู่พวกมันตามทันได้อย่างไร” จวนซวีไม่เข้าใจ สัญชาติญาณของเขาบอกว่าซีหวังหมู่และเทพอัสนีแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อน
หลายร้อยล้านปีมานี้ นอกจากพวกเขาที่อยู่ในหลุมศพแข็งแกร่งขึ้นแล้ว เหมือนกับว่าเหล่าพี่น้องที่อยู่ข้างนอกก็ก้าวหน้าอย่างมากด้วย
แต่ว่า เพราะเหตุใดเล่า
ถึงอย่างไรพวกเขาได้รับโอกาสจึงเป็นเช่นนี้ได้ แต่พี่น้องเหล่านี้เพิ่งจะหลุดพ้นจากความตาย ยิ่งไม่ควรมีโอกาสเช่นนี้หรือไม่
จวนซวีไม่เข้าใจ แต่เขาไม่มีเวลาครุ่นคิดแล้ว เขาต้องเร่งความเร็วเต็มที่
ไท่เฮ่าและเทพอีกสององค์ที่คอยสังเกตการณ์อยู่ในที่ลับ บัดนี้ล้วนกังวลใจ “พวกเขาเร็วมากจริงๆ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป จวนซวีจะถูกตามทันก่อนจะถึงที่นั่น”
เจ้าแม่หนี่ว์วาจึงเสนอว่า “ไท่เฮ่า ให้ข้าปล่อยกองกำลังทหารออกไปก่อนเถอะ หากสถานที่แห่งนี้ไม่เอื้ออำนวยก็จะไม่มีทางกลับแล้ว”
“…ได้” ไท่เฮ่าพยักหน้า
เจ้าแม่หนี่ว์วาปล่อยกองกำลังทหารดึกดำบรรพ์ที่สร้างโดยนาง
จากนั้น…
แคร่ก
แคร่ก…
เสียงเคลื่อนไหวที่แข็งทื่อและเป็นระเบียบทำให้เยี่ยนอวี๋รู้ทันทีว่า “ระวัง เจ้าหม่นี่ว์วาปล่อยทหารหินดึกดำบรรพ์ออกมาแล้ว เม่ยเอ๋อร์ ซีซี เสี่ยวเหลย พยายามกำจัดพวกเขาและฝ่าเข้าไป พวกเขาต้องการยื้อเวลา”
“ให้ตายเถอะ” เจ้าแม่หนี่ว์วาที่แอบได้ยินโมโหมาก “นางรู้จักเราดีจริงๆ”
“มิอาจปฏิเสธได้ นางมีความรักที่ลึกซึ้งกับพวกเราด้วย หากไม่ใช่เพราะ…” ไท่เฮ่าถอนหายใจ มิอาจพูดต่อไปได้
เห็นได้ชัดว่าไท่เฮ่ายังคงหวนรำลึกถึงรักเก่าทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับเยี่ยนอวี๋
เจ้าแม่หนี่ว์วากัดปากเบาๆ นางก็เงียบงันเช่นกัน
สำหรับพวกเขาแล้ว ถึงอย่างไรการต้องเผชิญหน้ากับเยี่ยนอวี๋โดยตรงคือแผนการที่เลวร้ายที่สุด
เพียงแต่ว่าพวกเขาเดินถึงจุดๆ นี้แล้ว จึงจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป
ในขณะที่สองพี่น้องตระกูลฝูซีเงียบ ทหารหินดึกดำบรรพ์ของเจ้าแม่หนี่ว์วาก็จู่โจมเยี่ยนอวี๋และพรรคพวก กลายเป็นม่านกีดขวางข้างหน้าพวกเขา
“หนี่ว์วา…”
จวนซวีถอนหายใจเบาๆ กลับยังคงพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ผ่อนแรงลงเลย
ในขณะเดียวกัน…
ตูม
เทพอัสนีที่ปล่อยเสียงฟ้าคะนองเป็นคนแรก เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วถ้ำมรณะอย่างต่อเนื่อง ทำเอาโลกีที่ไม่ทันตั้งตัวแทบจะกระอักเลือด
ส่วนซีหวังหมู่ ขณะที่เทพอัสนีระเบิดกองกำลังทหารที่เป็นหินเหล่านั้น มันก็ขยายใหญ่และพุ่งออกไป “จงแตกซะ”
เสียงคำรามดังก้องอย่างดุร้าย กรงเล็บเสืออันน่าสะพรึงได้ฉีกก้อนหินนับหมื่นที่ขวางกั้นเยี่ยนอวี๋และพรรคพวกแตกละเอียด ฉวยโอกาสตอนที่พวกมันถูกสายฟ้าฟาดใส่ก็ถูกฉีกทึ้งไปหมด
เพียงเท่านี้… ทำให้จักรพรรดิเปลวเพลิงตะลึงงัน
ทว่าเม่ยเอ๋อร์ในครานี้ นางซัดพื้นดินในแนวราบแล้ว “สิ่งกีดขวางจงถอย”
เคร้ง เคร้งๆ…
เสียงดาบเล่มใหญ่ที่ซัดโดนหินที่แตกละเอียดดังสนั่นไปทั่วทั้งถ้ำ หินที่แตกกระจายนับไม่ถ้วนยังถูกแยกเป็นสองฝั่งในขั้นตอนนี้
วิชาดาบแท้จริงที่เฉียบคมเช่นนี้ ทำเอาไท่เฮ่าตกใจ
เยี่ยนอวี๋ในครานี้ นางก็ม้วนทุกคนในกลุ่มหายตัวข้ามกองหินไป และตรงไปทางจวนซวีที่อยู่ข้างหน้า
“ให้ตายเถอะ” เจ้าแม่หนี่ว์วาอดพ่อคำหยาบไม่ได้ “ตามทันแล้ว”
จวนซวีสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงกลิ่นอายของเยี่ยนอวี๋ที่เขาคุ้นเคยมาจากด้านหลัง
แต่ว่า…
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง