เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 224 ใช้แผนพ่อบ้านเกี้ยวพานภรรยา
ช่า!
ปลาตัวใหญ่อ้วนพีหลากสีตัวหนึ่งถูกเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ตัวเล็กกว่ามันหลายเท่าดึงออกมาจากใต้ดินโคลนราวกับถอนหัวไชเท้า
ช่าๆ!
ปลาตัวใหญ่อ้วนพียังคงพยายามดิ้นรน รอบตัวมันแผ่ซ่านรังสีศักดิ์สิทธิ์อันเหลือเชื่อ ดูก็รู้ว่ามิใช่สัตว์ธรรมดา มิหนำซ้ำมันยังส่งเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับตบศีรษะมันไปหนึ่งที “อ้ะเนะ!”
ปลาตัวใหญ่อ้วนพีตัวนั้นก็ถูกตบจนตาลายราวกับจะสลบไป
เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงลากปลาตัวใหญ่อ้วนพีที่แน่นิ่งไปแล้วกลับไปหาท่านแม่คนงามของเขา “อ้ะเนะเนะ! อ้ะเนะเนะ…” เสี่ยวเป่าจับปลาตัวใหญ่ๆ ได้! รีบเอากลับไปให้เม่ยเอ๋อร์ทำอาหารเถอะ ไชโย..
เยี่ยนอวี๋อุ้มเด็กน้อยขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก นางเปลี่ยนเสื้อผ้าและเช็ดตัวให้เด็กน้อย ทำให้ลูกสุดที่รักที่ท้ายที่สุดก็ตัวสกปรกมอมแมมกลับมาสะอาดสะอ้านอีกครั้ง
ในระหว่างนี้ เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังจ้องปลาตัวใหญ่อ้วนพีของเขาเขม็ง ราวกับกลัวว่ามันจะหนีไป
ต้าซือมิ่ง “…”
เขามองเด็กน้อยก่อนจะหันไปมองปลาตัวนั้นที่ใหญ่กว่าเด็กน้อยสองถึงสามเท่าเป็นอย่างน้อย เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “เสี่ยวเป่าจับปลาเป็นแล้ว และยังเป็นปลาเย่ว์สวินอายุเกือบหมื่นปีด้วย”
แม้พลังการโจมตีของปลาประเภทนี้จะไม่รุนแรงมาก ทว่ายิ่งปลาเย่ว์สวินมีอายุมากก็ยิ่งซ่อนตัวเก่ง เอาเป็นว่าเขาไม่ทันรู้ตัวเลยว่าแถวนี้จะมีปลาเย่ว์สวินซ่อนอยู่ด้วย ทว่าลูกของเขาไม่เพียงแต่จะรู้ เขายังจับมันออกมาด้วย
“อ้ะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกเชยชมก็โบกมืออวบอ้วนของตน “อ้ะเนะเนะ!” เสี่ยวเป่าเก่งที่สุด!
“เก่งจริงๆ”
หรงอี้เข้าใจสีหน้าของเด็กน้อย เขากล่าวชื่นชมอย่างจริงใจ “เสี่ยวเป่าเก่งเช่นนี้ พ่อจะทำปลาตัวนั้นให้เจ้ากินนะ ถือว่าเป็นรางวัลให้เสี่ยวเป่าที่จับปลาตัวใหญ่ได้”
เมื่อได้ยินดังนั้น…
“เจ้า?”
“อ้ะ?”
เยี่ยนอวี๋และเด็กน้อยแสดงสีหน้าสงสัยแบบเดียวกัน ทว่าคนหนึ่งไม่เชื่อว่าต้าซือมิ่งทำปลาเป็น ส่วนอีกคนหนึ่งไม่คิดว่าท่านพ่อจะทำข้าวต้มปลาเป็น
จากนั้นเยี่ยนเสี่ยวเป่าก็รีบพยักหน้า เขาลูบท้องน้อยๆ ของตนเองพลางส่งเสียง “อ้ะเนะเนะ! อ้ะเนะเนะ…” เช่นนั้นท่านพ่อรีบทำอาหารเถอะ เสี่ยวเป่าหิวแล้ว
“ที่แท้ก็หิวแล้วนี่เอง” เยี่ยนอวี๋เข้าใจความหมายของเด็กน้อย นางอดเหลือบมองต้าซือมิ่งอย่างเย็นชาไม่ได้
ต้าซือมิ่งเตะจมูกเป็นสันของตนอย่างรู้เท่าทัน เขารู้ว่ามารดาเด็กน้อยกำลังตำหนิเขาที่ไม่ได้ป้อนข้าวให้เด็กน้อย ทำให้เด็กน้อยหิวโซ แต่เขาเป็นพ่อครั้งแรกนี่ ยังไม่คุ้นเคย…
หลังจากนั้นทั้งสามคนก็ไม่ได้เร่งเดินทางกลับโยวตู พวกเขาหาสถานที่ ‘ตั้งค่าย’ ใกล้หุบเขา เพื่อทำอาหารให้เสี่ยวเป่า
เยี่ยนอวี๋รับรู้ได้ว่าในเมืองโยวตูยังมิได้เกิดสงคราม พวกเขาจึงไม่ต้องรีบกลับไปก็ได้ ในขณะที่ต้าซือมิ่งทำอาหารให้เด็กน้อย นางก็เริ่มปรับลมปราณเพื่อเตรียมทานพืชตะไคร่น้ำ
พืชตะไคร่น้ำเหล่านั้นที่ได้มาจากหอจวินเป่ามีพลังของตำหนักไท่ชาง ถึงแม้มันจะจางมากก็ตาม แต่สำหรับเยี่ยนอวี๋ในตอนนี้แล้ว มันคือสมุนไพรล้ำค่าที่ช่วยฟื้นตัวนางได้ดีที่สุด
“ทานพืชตะไคร่น้ำเปล่าๆ เช่นนี้ ไม่อร่อยหรอก ข้าเอาไปตุ๋นให้เจ้าหน่อยดีหรือไม่” หรงอี้รู้ว่าเยี่ยนอวี๋นำพืชตะไคร่น้ำออกมาเพื่อจะทาน เขาจึงเสนอตัวอย่างมีไหวพริบ
เยี่ยนอวี๋ที่แต่เดิมคิดจะหลอมพืชตะไคร่น้ำเป็นยาเม็ดแบบลวกๆ นางก็มองไปที่ต้าซือมิ่งด้วยความสงสัย ทว่านางเห็นฝ่ายหลังพับแขนเสื้อขึ้น กำลังใช้มีดครัวหลากหลายประเภทที่นำติดตัวทำอาหารต่อไปอย่างชำนาญ…
ก่อนหน้านี้ เยี่ยนอวี๋เห็นจากหางตาว่า ต้าซือมิ่งคนนี้จัดการปลาตัวนั้นอย่างคล่องแคล่ว ดูแล้วช่ำชองกว่าเม่ยเอ๋อร์และชุ่ยชุ่ย
นอกจากนี้ ซุปหัวปลาที่กำลังส่งกลิ่นหอมเย้ายวนหมอนั้นก็แสดงให้เห็นว่าต้าซือมิ่งพิลึกคนท่านนี้ เขาเก่งงานครัวจริงๆ ทำเอาเจ้าตัวน้อยน้ำลายไหลอยู่ข้างหน้าซุปหัวปลาแล้ว…
“อ้ะ… พอ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าผู้หิวโหยควบคุมน้ำลายตนเองไม่ให้ไหลออกมาพลางส่งเสียงร้องไปที่ท่านพ่อ จนเปล่งเสียง ‘พอ’ ออกมาถี่ๆ คาดว่าอีกไม่นานเขาคงร้อนใจจนเรียก ‘พ่อ’ ได้อีกแล้ว
ท่าทางตะกละเช่นนี้ ทำเอาต้าซือมิ่งรื่นเริงนัก เขาวางลูกไว้บนหัวไหล่ มือข้างหนึ่งจับเด็กน้อยไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งก็เปิดฝาหม้ออันวิจิตรออก
ใครจะไปรู้ว่าต้าซือมิ่งท่านนี้จะพกหม้อติดตัว ซ้ำยังเพียบพร้อมอุปกรณ์ครัวทุกอย่างเช่นนี้…
สายตาของเยี่ยนอวี๋หยุดอยู่บนหม้อใบนั้น หม้อใบงามวิจิตรที่ส่องประกายระยิบระยิบเหล่านี้สอดคล้องกับมาตรฐานความงามและการใช้งานของปฐมราชินีเยี่ยนในระดับหนึ่ง
“อ้ะ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับไม่สนใจ ในสายตาของเขาไม่มีหม้อเหล่านั้น มีเพียงซุปที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนจนเขาแทบจะกระโดดเข้าไปในซุปแล้ว
“ใกล้เสร็จแล้ว เสี่ยวเป่ารอหน่อยนะ” ต้าซือมิ่งหรงจับศีรษะโล้นน้อยๆ ของเด็กน้อยไว้พลางกล่อมเด็กน้อยด้วยความอดทน มือของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว คงเป็นเพราะไม่อยากให้เด็กน้อยรอนานเกินไป
เยี่ยนอวี๋มองผู้ชายคนนั้นด้วยความสงสัย เขาใช้เวลากว่าครึ่งชั่วยามเคี่ยวซุปปลาให้กลายเป็นของเหลวๆ ให้บุตรของนาง ของเหลวๆ นั่นก็ไม่รู้ทำออกมาอย่างไร มันส่งกลิ่นหอมสดชื่นนัก
เมื่อใส่ซุปหัวปลาลงไป ปลาที่ถูกเคี่ยวจนนิ่มและของเหลวๆ ค่อยๆ เดือด มันส่งกลิ่นหอมน่าทาน จากนั้นต้าซือมิ่งยังใส่ของที่ถูกสับเป็นชิ้นเล็กๆ ลงไป เยี่ยนอวี๋ไม่รู้เลยว่าคืออะไร
ทว่าเมื่อใส่ของเหล่านี้ลงไป ของเหลวๆ ในหม้อใบเล็กนั่นก็มีกลิ่นหอมโชยจนนางมีความอยากอาหารแล้ว…
“อ้ะ! อ้ะๆๆๆๆ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าทนอยู่นิ่งไม่ไหวแล้ว!
“เสร็จแล้ว ใจเย็น” ต้าซือมิ่งสงบอารมณ์ของเด็กน้อยที่กำลังรออาหารพลางตักข้าวต้มปลาให้เขา แสงสีม่วงจางๆ ยังห่อหุ้มข้าวต้มปลาไว้เพื่อลดอุณหภูมิลง
“ว้าว!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้อนรนจนรอไม่ไหวแล้ว!
ต้าซือมิ่งเองก็ว่องไวไม่แพ้กัน เขารีบป้อนอาหารให้เด็กน้อยที่โวยวายรอไม่ไหวทันที
เยี่ยนอวี๋คอยมองอยู่ตลอด…
“อ้ะ! หงึบหงับ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าอ้าปากรับคำแล้วคำเล่า เขาดื่มด่ำกับรสชาติพลางพยายามเอียงถ้วยในมือท่านพ่อของเขา ท่าทีร้อนใจอยากจะยกซดลงไปให้หมดในคราเดียว ทว่าท่านพ่อของเขาก็เอียงถ้วยกลับมา “จับไม่ได้นะ เจ้าก้อนมอมแมม”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าหดมือกลับมาพลางทานข้าวต่อไปและประท้วงเสียงอู้อี้ เสี่ยวเป่าไม่ใช่เจ้าก้อนมอมแมม เสี่ยวเป่างามๆ…
“มีอีกเยอะ เจ้าจะรีบทำไม จะกินเท่าไหร่ก็ได้ ปลาตัวใหญ่กว่าเจ้าเสียอีก”
“หงึบหงับ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่ายิ่งทานก็ยิ่งเคลื่อนไหวน้อยลง เขาค่อยๆ นั่งรอให้ท่านพ่อป้อนข้าวอย่างเชื่อฟังแล้ว แม้แต่ยามท่านพ่อของเขาไปเติมข้าวต้ม เด็กน้อยก็ไม่ได้ปีนขึ้นมาก่อกวน เขายอมนั่งนิ่งๆ แล้ว
ข้าวต้มสามถ้วยลงไปอยู่ในท้องของเขาในคราเดียว…
“อ้ะ…”
เสี่ยวเป่าบอกว่าเขาจะเอาอีก
เยี่ยนอวี๋ “….” เจ้าเด็ก ‘ตะกละ’ นี่ลูกใครกันนะ
เยี่ยนอวี๋เริ่มนั่งไม่ติด นางจะลุกขึ้นไปห้ามไว้ กลัวว่าเด็กน้อยจะอิ่มท้องแตกเสียก่อน
ทว่าต้าซือมิ่งรู้ดี เขาวางถ้วยลงก่อนจะอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาพร้อมลูบท้องน้อยๆ ของเขา “พ่อว่าเจ้าอิ่มแล้วนะ”
“อ้ะ!” เสี่ยวเป่าส่ายศีรษะ บอกว่าเขายังทานได้อีก
ต้าซือมิ่งใช้นิ้วดีดแก้มจ้ำม่ำน้อยๆ ของเขาเบาๆ “ค่อยกินนะ อีกอย่างต่อไปพ่อจะอยู่กับเสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่าจะกินเมื่อไรก็ได้”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเบิกตามองท่านพ่อของเขาทันที จากนั้นก็มองไปที่ท่านแม่ของเขา “อ้ะเนะเนะ! อ้ะเนะเนะ?” ท่านแม่ ท่านแม่! จริงหรือขอรับ
“…” เยี่ยนอวี๋รู้ดีว่าเป็นกลอุบายของต้าซือมิ่ง ทว่าภายใต้ดวงตาอันสดใส เต็มไปด้วยความปรารถนาและความอ่อนโยนนั้น นางทำได้เพียงพยักหน้าตอบเงียบๆ
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากอดท่านพ่อไว้แน่นอย่างมีความสุขทันที ท่านพ่อรูปงามดีจังเลย! นอกจากเป็นคนงามแล้ว ยังมีเสียงเพราะๆ ตัวหอมๆ ด้วย และยังทำอาหารอร่อยกว่าเม่ยเอ๋อร์และชุ่ยชุ่ย ดีจังเลย…
เจ้าตัวน้อยที่กลิ้งไปมาในอ้อมอกของท่านพ่อก็รู้สึกมีความสุขจนตัวจะลอยขึ้นไปอยู่แล้ว รอบตัวยังมีแสงสีชมพูแผ่ซ่าน
เด็กน้อยรื่นเริงและมีความสุขเช่นนี้ ทำให้เยี่ยนอวี๋รู้สึกทั้งสุขและทุกข์ใจ ก่อนหน้านี้นางคิดมาตลอดว่าเด็กน้อยไม่มีพ่อก็ไม่เป็นไร ทว่าบัดนี้ ถึงแม้นางยังคงคิดเช่นนี้ แต่ดูก็รู้ว่าเด็กชอบท่านพ่อคนนี้มาก…
ลูกที่ตนเลี้ยงมาเองกับมือ เยี่ยนอวี๋ย่อมรู้ดี นางรู้ว่าถึงแม้เด็กน้อยดูเหมือนจะเชื่อฟังและคล้อยตามง่าย ทว่าอันที่จริงเขามีบุคลิกภาพที่สวนทางกับความรู้สึกนัก แม้ทารกน้อยอายุเพียงเท่านี้ แต่เขาก็มีความชื่นชอบ นิสัย และความสามารถในการตัดสินใจแล้ว
“ทำให้เสี่ยวเป่าชอบได้เพียงนี้…” เยี่ยนอวี๋เหลือบมองต้าซือมิ่งที่กำลังเกลี้ยกล่อมเด็กน้อยด้วยแววตาที่มิอาจคาดเดาได้ นางรู้แก่ใจดีว่าเขาไม่มีเจตนาร้ายต่อเด็กน้อย มิเช่นนั้นเด็กน้อยเฉลียวฉลาดของนางคงไม่ถูก ‘ล่อซื้อ’ เร็วเช่นนี้ เขาเป็นพ่อโดยแท้…
พ่อโดยแท้
อืม…
เยี่ยนอวี๋กุมขมับไม่อยากคิดต่อไป ทว่าต้าซือมิ่งก็มองไปที่นางอีกครั้ง “ว่าไง ให้ข้าช่วยทำพืชตะไคร่น้ำให้เจ้าหรือไม่”
“…” เยี่ยนอวี๋อยากจะปฏิเสธ
“อ้ะ!” เสี่ยวเป่าพยักหน้าแทนท่านแม่ของเขา และยังเร่งเร้าให้ท่านพ่อของเขารีบไปเอาพืชตะไคร่น้ำมาด้วย
เยี่ยนอวี๋ “…”
“ให้ข้าทำให้เจ้าเถอะ ข้าจะไม่ทำลายประโยชน์ของมันและสร้างผลดีต่อเจ้าแน่นอน” หรงอี้ที่อุ้มเด็กเดินมาหาเยี่ยนอวี๋ เขาก็หยิบพืชตะไคร่น้ำไปแล้ว
เยี่ยนอวี๋อ้าปากทำท่าจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ปฏิเสธ นางเดินตามสองพ่อลูกไปข้างหน้ากองไฟและรับเด็กน้อยอิ่มแปล้แล้วไว้ “เจ้าสัญญากับเขาว่าต่อไปจะทำอาหารให้เขากิน เจ้าทำได้หรือ”
เมื่อได้ยินดังนั้น…