เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2273 ลงมาช่วย / ตอนที่ 2274 ลองใช้น้ำเต้าครั้งแรก
ตอนที่ 2273 ลงมาช่วย
ส่วนเฟิ่งจิ่วนั้นนัยน์ตาไหวระริก สังเกตการเคลื่อนไหวรอบๆ
ทันใดนั้น สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายดุร้ายโถมพุ่งเข้ามา เฟิ่งจิ่วรีบหันกลับไป ขณะเดียวกันก็เขย่งปลายเท้ากระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ที่อยู่ด้านหนึ่ง
“กรรซ์!”
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายแฝงไว้ด้วยแรงกดดันอันแข็งแกร่งกระจายออกไป กลิ่นอายกระหายเลือดและท่าทางเหี้ยมโหดทำให้กระแสพลังในอากาศกระเพื่อมไหว เธอที่อยู่บนต้นไม้เห็นเพียงสิ่งที่กระโจนเข้ามานั้นก็คือเสือดาวสีทอง ทั่วร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายดุร้ายกระหายเลือด อีกทั้งยังเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับเก้าขั้นสูงสุดแล้วด้วย
เสือดาวทองตัวนั้นโถมกระโจนใส่หนึ่งในผู้ฝึกวิชามาร มันเคลื่อนไหวรวดเร็วมาก ส่งเสียงคำรามลั่น อ้าปากเล็กน้อยเผยให้เห็นเขี้ยวอันแหลมคม ทุกอิริยาบถเต็มไปด้วยกลิ่นอายกระหายเลือด
ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นรีบกระโดดหลบ แต่เสือดาวสีทองตัวนั้นจู่โจมอีกครั้ง ขณะเดียวกันข้างหลังนั้น สัตว์อสูรฝูงหนึ่งกำลังวิ่งทะยานเข้ามา สัตว์อสูรพวกนั้นไม่ได้มีพลังแข็งแกร่งเท่าเสือดาวสีทองตัวนี้ แต่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด กลิ่นอายดุร้ายชัดเจน
สัตว์ร้ายฝูงนั้นกรูเข้ามาล้อมรอบผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้นในพริบตา พวกมันเผยกรงเล็บ แยกเขี้ยวอันแหลมคมพุ่งงับเข้ามา
“อ๊าก!”
ผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้นนึกไม่ถึงว่าเพิ่งเข้ามาได้ไม่นานก็ถูกฝูงสัตว์ร้ายล้อมโจมตี พวกเขารู้สึกได้เพียงความเจ็บปวดจากการถูกกัดที่แผ่ซ่านมา ต่างแหงนหน้ากรีดร้องโหยหวน
และเพราะแหงนหน้าขึ้น พวกเขาสองคนจึงเห็นเฟิ่งจิ่วกลับดูอยู่เฉยๆ อย่างนั้น ฝูงสัตว์ร้ายพวกนี้ก็ไม่เข้าไปโจมตีเขา ตรงกันข้ามกลับเลือกโจมตีแค่พวกเขาสองคน ทั้งสองทั้งร้อนรนทั้งโกรธแค้น คำรามใส่เขา “เจ้ายังทำอะไรอยู่ข้างบนนั้นอีก? รีบลงมาช่วยสิ!”
เฟิ่งจิ่วใช้มือหนึ่งโอบต้นไม้ยืนอยู่บนนั้น มองผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้นถูกฝูงสัตว์ร้ายกัดทึ้ง เธอลูบคลำเข้าไปในแขนเสื้อ หยิบผลไม้ลูกหนึ่งออกมากัด พลางตะโกนตอบ “ข้างล่างอันตรายขนาดนั้น ข้าคงโง่ถึงจะลงไป” เธอกินผลไม้อย่างสบายใจ มองดูเสื้อผ้าบนตัวสองคนนั้นถูกสัตว์ร้ายข่วนกัดจนฉีกขาด นัยน์ตาไหวระริกเล็กน้อย
ในร่างกายของเธอมีแรงกดดันของสัตว์เทวะโบราณ ขอเพียงเธอปลดปล่อยแรงกดดันนี้ออกไป สัตว์ร้ายที่อยู่ข้างล่างก็ไม่กล้าเข้าใกล้เธอแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกมันจะเลือกโจมตีแต่สองคนนั้นโดยไม่กระโจนใส่เธออย่างนี้หรือ?
ว่ากันว่าผู้มีพรสวรรค์รู้จักชั่งน้ำหนักสถานการณ์ แต่กลับไม่รู้เลยว่าสัตว์พวกนั้นเองก็รู้จักเอาชีวิตรอดเช่นกัน
บางทีอาจเพราะแรงกดดันของสัตว์เทวะโบราณบนตัวเฟิ่งจิ่วกระจายออกไป ผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้นสัมผัสได้ พวกเขาสะท้านไปทั้งใจ มองเฟิ่งจิ่วพร้อมกับอุทานด้วยความตะลึง
“จะ เจ้าทำไมจึงมีแรงกดดันของสัตว์เทวะโบราณได้? เจ้าเป็นใครกันแน่!”
เฟิ่งจิ่วที่กำลังกัดกินผลไม้ได้ยินก็ยกยิ้มขึ้นมา จ้องมองผู้ฝึกวิชามารสองคนข้างล่างด้วยสายตาลึกล้ำ ด้วยพลังของสองคนนี้ ขอเพียงเธอปล่อยแรงกดดันออกมา พวกเขาไม่มีทางไม่รู้สึก และที่เธอกล้าทำอย่างนี้ นั่นก็เพราะว่าเธอรู้ว่าสองคนนี้จะไม่มีทางรอดกลับไป
“รอพวกเจ้ารอดมาได้ค่อยบอกก็แล้วกัน!” เธอตะโกนลงมาจากบนต้นไม้ มองดูสองคนนั้นถูกพุ่งชนจนล้ม จากนั้นเสือดาวสีทองอ้าปากกัดคอของพวกเขาจนหักในคำเดียว จากนั้นก็กัดไปที่จุดตันเถียนของผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้น
เห็นเพียงเลือดสาดกระเซ็น เสียงกระดูกแตกหักดังตามมา ไม่นาน ผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้นสิ้นลม ร่างของพวกเขาถูกสัตว์ร้ายฝูงนั้นกัดทึ้งกระจายไปทั่วพื้น
ศพถูกกัดทึ้งและฉีกกิน สุดท้ายเหลือไว้เพียงเศษเสื้อผ้าเปื้อนเลือดที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น…
………………………………….
ตอนที่ 2274 ลองใช้น้ำเต้าครั้งแรก
เสือดาวสีทองตัวนั้นถอยไปหลังจากที่ผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้นตาย มันส่งเสียงคำรามคอยระแวดระวังเฟิ่งจิ่วที่อยู่บนต้นไม้ ดวงตากระหายเลือดมีแววหวาดกลัวและลังเล
เฟิ่งจิ่วจ้องเสือดาวพร้อมกับแค่นเสียง “จ้องข้าทำอะไร? หรืออยากจะสู้กับข้าสักตั้ง?” เธอยิ้มอย่างยุแหย่ จ้องเสือดาวที่อยู่ข้างล่าง เอ่ยว่า “หากเจ้ายังไม่ไปอีก ข้าก็จะจับเจ้ามาเป็นคู่ซ้อมมือ”
ราวกับฟังเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด เสือดาวตัวนั้นคำรามต่ำ ถอยหลังไปทีละก้าวๆ จากนั้นก็กระโจนเข้าไปในพุ่มหญ้า หายลับไปจากครรลองสายตาของเฟิ่งจิ่วอย่างรวดเร็ว
เธอมองดูฝูงสัตว์ร้ายที่อยู่ข้างล่าง เบ้ปากอย่างนึกรังเกียจ ยังไม่พูดถึงเนื้อของสัตว์ร้ายพวกนี้ทั้งแข็งทั้งเหนียว แค่เห็นฉากที่พวกมันฉีกทึ้งกัดกินร่างของผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้น เธอก็กระเดือกเนื้อของพวกมันไม่ลงแล้ว
แม้ในนี้จะมีสัตว์อสูรโบราณอยู่ด้วย แต่ด้วยพลังของเธอในตอนนี้หากต้องสู้กับสัตว์อสูรโบราณก็คงจะมีแต่ซวยเท่านั้น ดูท่า จับสัตว์ร้ายใหม่สักสองสามตัว จากนั้นก็ย่างเนื้อให้สุกแล้วค่อยไปจากที่นี่ดีกว่า รอวันหน้าหากปลดผนึกพลังวิญญาณได้ ค่อยมาสำรวจในป่าอสูรแห่งนี้อีกครั้ง
หลังตัดสินใจ เธอโยนเม็ดผลไม้ทิ้ง เขย่งปลายเท้า เหาะผ่านฝูงสัตว์ร้ายที่อยู่ข้างล่าง มุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึกของป่า…
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เสียงคำรามโหยหวนของสัตว์ร้ายในป่าอสูรดังขึ้น ยังได้ยินเสียงหมาป่าหอนแว่วๆ ด้วย ในป่าผืนนี้ เฟิ่งจิ่วกำลังย่างเนื้ออยู่ กลิ่นหอมฉุยของเนื้อกระจายไปทั่วผืนป่าภายใต้ท้องฟ้ายามราตรี
เธอหยิบมีดเล็กออกมาปาดเนื้อย่างกิน ทันใดนั้นเสียงกระดิ่งที่เอวดังขึ้น อากาศรอบตัวพลันเย็นเฉียบ เธอขมวดคิ้ว หันไปกวาดมองรอบๆ
รอบข้างมืดมิดมองอะไรไม่เห็น แต่ความรู้สึกถูกจ้องชัดเจนมาก เธอจึงกินเนื้อย่างในมือให้หมดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เก็บเนื้อหมูที่ยังย่างอยู่เหนือไฟใส่ห้วงมิติ เช็ดปากและมือ เสียงแฝงพลังเร้นลับกระจายออกไป
“หากพวกเจ้ายังตามข้า ข้าจะจัดการพวกเจ้าเรียงตัว”
เสียงของเธอเย็นชาและดุดัน แฝงไปด้วยกลิ่นอายพลังเร้นลับและแรงกดดันของสัตว์เทวะโบราณ เสี้ยวนาทีที่เสียงของเธอเปล่งออกไป กระดิ่งที่เอวพลันเงียบเสียงครู่หนึ่ง ก่อนจะดังขึ้นอีกครั้ง
“ไม่เชื่อ?”
เธอหยักยิ้มมุมปาก หยิบเครื่องประดับห้อยเอวชิ้นนั้นขึ้นมา กำน้ำเต้าเล็กไว้ในมือ ถ่ายเทพลังเร้นลับจากฝ่ามือ เห็นเพียง น้ำเต้าเล็กๆ ขวดนั้นค่อยๆ ใหญ่ขึ้นอยู่กลางฝ่ามืออีกข้างของเธอ
เธอเปิดฝาน้ำเต้า โยนมันขึ้นไปเหนือหัว เห็นเพียงน้ำเต้าเปล่งแสงเรืองรองแห่งพลังเร้นลับ จากนั้นประกายแสงนั้นก็กระจายไปทั่ว กระแสพลังรอบๆ กระเพื่อมไหว ราวกับถูกน้ำเต้าดูดเข้าไป
เฟิ่งจิ่วมองน้ำเต้า ประหายมืดหม่นพาดผ่านดวงตา เธอเองก็เพิ่งเคยใช้เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างพี่สาวคนนั้นของเธอบอกไว้หรือไม่?
“วูบ!”
น้ำเต้าขวดนั้นหมุนวนดูดอากาศโดยรอบ พริบตานั้น เธอเห็นเพียงใบไม้รอบๆ ปลิวไหว เหมือนมีบางอย่างถูกดูดเข้าไปในน้ำเค้า จากนั้นเสียงกรีดร้องโหยหวนและตกใจก็ดังตามมา เสียงนั้นทั้งเล็กแหลมและเย็นยะเยือกชวนขนลุก ดังเป็นจังหวะสูงต่ำไม่เท่ากันก้องไปทั้งผืนป่า เธออดหรี่ตาไม่ได้
ท่ามกลางค่ำคืน ภายใต้การทำงานของน้ำเต้า วิญญาณที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดรอบๆ มาโดยตลอดค่อยๆ ปรากฏตัว เงาร่างแต่ละร่างปรากฏเลือนราง เดี๋ยวมาเดี๋ยวหาย เพียงแต่ยามนี้พวกมันกลับกำลังหนีกันอย่างเตลิดเปิดเปิง
………………………………….