เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2225 สบายอารมณ์ / ตอนที่ 2226 คารวะนายท่าน
ตอนที่ 2225 สบายอารมณ์
“ทะ ท่านได้โปรดระงับโทสะ ที่จริงพวกข้า ที่จริงพวกข้าก็ทำไปเพื่อความปลอดภัยในเมือง” หัวหน้าทหารประตูเมืองรีบแก้ต่าง “ท่านยังไม่รู้ หลายวันมานี้ในเมืองมีคนถูกฆ่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า หนำซ้ำไม่ใช่เพียงคนสองคน พวกข้าจึงต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา หากผิดพลาดตรงไหนไป พวกเราจะแก้ไขแน่นอน แก้ไขแน่นอน”
เฟิ่งจิ่วขี้คร้านจะพูดกับพวกเขา เพียงเอ่ยว่า “จะให้ดีจำคำพูดของเจ้าไว้ ดูแลลูกน้องของเจ้าหน่อย หากเกิดเรื่องการเอารัดเอาเปรียบเช่นนี้ขึ้นอีก เช่นนั้นก็อย่าโทษข้าหากจะไปหาเจ้าเมืองของพวกเจ้าก็แล้วกัน”
“ขอนับๆๆ ไม่กล้าแล้ว ไม่กล้า” หัวหน้าทหารรับคำ พลางปาดเหงื่อ ค้อมเอวยิ้มส่งพวกเขาเข้าไปในเมือง จากนั้นก็พ่นลมหายใจอย่างโล่งอก
“หัวหน้า ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง กลัวนางทำไมกัน?” ทหารคนหนึ่งกระซิบถาม เขาไม่เข้าใจ ผู้หญิงคนนั้นก็แค่ดูบุคลิกโดดเด่นกว่าคนอื่นเล็กน้อย หน้าตางามกว่าหญิงงามทั่วไปสามส่วน นางเป็นผู้หญิงบอบบางตัวเล็ก รอบกายก็ไม่มีกลิ่นอายพลังวิญญาณ ไม่รู้ว่าเหตุใดหัวหน้าจึงตกใจกลัวขนาดนี้
หัวหน้าองครักษ์ได้ยินก็ถีบทหารคนนั้นเต็มแรงหนึ่งที “เจ้าจะไปเข้าใจอะไร!” เขาถลึงตาด่า “รีบไปเฝ้าดูให้ดี ใคจะเข้าเมืองก็ปล่อยให้เข้า ห้ามเอารัดเอาเปรียบผู้หญิงเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้น ข้าจะถลกหนังเจ้าเสีย!”
ทหารที่เหลือหน้าซีด รีบรับคำ “ขอรับๆ” จากนั้นก็แยกย้ายกลับไปประจำตำแหน่งของตนเอง ที่ต่างจากเมื่อครู่คือพวกเขาแต่ละคนสงบเสงี่ยมขึ้นไม่น้อย ไม่กล้าทำอะไรส่งเดชอีก
ผู้ฝึกตนกลุ่มหนึ่งที่กำลังต่อแถว อดหันไปมองเงาร่างสีแดงที่เดินห่างออกไปไม่ได้ ลอบรู้สึกประหลาดใจ ปกติแล้ว ผู้ฝึกเซียนมักไม่ค่อยอยากยุ่งเรื่องพวกนี้ กลับนึกไม่ถึงว่าผู้หญิงชุดแดงคนนั้นจะยื่นมือเข้ามาแทรก กล่าวเตือนทหารเหล่านั้นไปยกหนึ่ง
ทว่า เหมือนกับที่ทหารประตูเมืองคนนั้นกล่าว ผู้หญิงชุดแดงคนนั้นไม่มีกลิ่นอายพลังวิญญาณเลยแม้แต่น้อย ดูไม่เหมือนผู้ฝึกเซียน แต่ถึงแม้อย่างนั้น ด้วยสายตาของพวกเขา กลับรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายเซียนของผู้หญิงคนนั้น นางต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
ยังมีผู้ชายที่ตามนางมาด้วย ดูอายุยังน้อย แต่กลิ่นอายของเขากลับน่าตกตะลึง เดาว่าสองคนนี้อาจจะเป็นคนสำคัญจากสำนักเซียนใดก็เป็นได้
ต้วนเยี่ยที่เดินอยู่บนถนนมองเฟิ่งจิ่วที่กำลังเดินทอดน่องอย่างสบายอารมณ์ข้างหน้า อดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้า เดินมาข้างกายเธอ ถามว่า “หาสาขาย่อยที่เจ้าพูดถึงเจอหรือไม่?”
“บนถนนเส้นนี้ไม่มี ลองเดินเข้าไปดูอีกหน่อย” เธอตอบ แต่กลับเดินเลี้ยวไปยังร้านขายขนมแป้งอบเนื้อร่วน ก่อนจะซื้อมาสิบชิ้น
“อืม กลิ่นหอมมาก” เธอสูดดมยาวๆ ดมกลิ่นหอมของขนมนั้น เผยรอยยิ้มแห่งความสุขออกมา
ท่าทางของเธออย่างนี้ ทำเอาต้วนเยี่ยส่ายหน้ากับตนเอง ถามว่า “ถ้าอย่างไรหาที่นั่งดื่มชาสักถ้วย? ให้เจ้าได้กินอะไรหน่อย?”
ขณะเสนอ เขาหันไปมองรอบๆ เห็นแถบนี้มีร้านค้ามากมาย แผงลอยเองก็มีไม่น้อย จึงถามเจ้าของแผงลอยขายขนมแป้งอบว่า “ท่านผู้เฒ่า ในเมืองนี้หอสุราไหนมีชื่อเสียงที่สุด?”
ชายชราที่ขายขนมแป้งอบยิ้มตาหยี ตอบว่า “ทั้งสองท่านคงมาจากต่างถิ่น จึงได้ไม่รู้ว่าในเมืองของเราหอสุราที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือหอสุราไป๋เซียง อาหารขึ้นชื่อของที่นั่นมีแปดอย่าง อาหารอย่างอื่นรสชาติก็ดีมากเช่นกัน นอกจากนี้ ชนิดชาก็มีมากมาย เพียงแต่ที่นั่นราคาของค่อนข้างแพง คนทั่วไปไม่มีปัญญากิน”
………………………………….
ตอนที่ 2226 คารวะนายท่าน
“เงินกินข้าวพวกเรายังพอมี ท่านผู้เฒ่า ท่านบอกมาเถิด หอสุราไป๋เซียงไปทางไหน?” ต้วนเยี่ยยิ้มถาม รู้ดีว่าเฟิ่งจิ่วเลือกกิน โดยเฉพาะชอบกินของอร่อย ในเมื่อมาถึงนี่แล้วอยากนั่งพักผ่อน ย่อมต้องเลือกที่ดีๆ หน่อย
“ก็ไม่ไกลนักหรอก เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย จากนั้นเดินไปเล็กน้อยก็ถึงแล้ว” ชายชราชี้ไปข้างหน้า พลางบอกทางให้พวกเขา
“ขอบคุณมาก” ต้วนเยี่ยกล่าวขอบคุณ ก่อนหันไปเรียกเฟิ่งจิ่ว “พวกเราไปที่หอสุราไป๋เซียงนั่นก็แล้วกัน!”
“ก็ดีเหมือนกัน” เฟิ่งจิ่วตอบ ก่อนจะเดินไปพร้อมเขา จนกระทั่งเดินเลี้ยวไปทางซ้ายเดินไปอีกระยะหนึ่ง หางตาก็เหลือบเห็นสัญลักษณ์หนึ่งบนโรงน้ำชา เฟิ่งจิ่วอดยิ้มไม่ได้
“เจ้าไปรอข้าที่หอสุราไป๋เซียงก่อน อีกเดี๋ยวข้าตามไป” เฟิ่งจิ่วพยักหน้าให้เขา เป็นเชิงบอกให้เขาล่วงหน้าไปก่อน
ต้วนเยี่ยหันมามองตามสายตาของเธอไปที่โรงน้ำชาแห่งหนึ่ง พอเห็นรอยยิ้มของเธอก็พยักหน้า “ก็ได้ อย่างนั้นข้าจะสั่งอาหารรอเจ้า เจ้าเสร็จธุระแล้วตามมา”
“ได้” เฟิ่งจิ่วยิ้ม ก่อนจะสาวเดินไปที่หอสุราแห่งนั้น
ยามนี้ผู้กุมอำนาจดูแลวังกำเนิดสวรรค์ล้วนผ่านการถูกคัดเลือก สำคัญคือต้องสืบข่าวทุกสารทิศ รวมถึงลอบขยายอำนาจอย่างลับๆ ทว่ามีหลายคนที่เธอไม่เคยเจอ มีเพียงพวกเหลิ่งหวาและเหล่าหัวหน้าองครักษ์เฟิ่งทั้งแปดที่เคยเจอ
มาถึงโรงน้ำชาที่อยู่ตรงข้ามกัน เห็นข้างในเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังดื่มชาพูดคุยกัน ครั้นเข้าไปก็ได้ยินเสียงพูดคุยหัวเราะอย่างครึกครื้น ยังได้ยินเสียงจากชั้นสองรางๆ ด้วย
“เป็นอย่างไร? ข้าบอกแล้วว่าที่นี่ดีใช่ไหมเล่า? พวกเจ้าดู นั่งอยู่ตรงนี้ สามารถมองเห็นแขกในหอสุราไป๋เซียงได้อย่างชัดเจน เจ้าดูๆ ผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างชั้นสองสวยใช่ไหมเล่า? หนึ่งในนั้นเป็นบุตรสาวของเจ้าเมือง นางมักจะไปดื่มชาและกินของว่างที่หอไป๋เซียง”
“คนที่นั่งตรงข้ามนั่นก็งาม สวมชุดกระโปรงสีฟ้าคราม ดวงหน้านั้นมองแล้วละสายตาออกไปไม่ได้จริงๆ”
“ยังมีอีกโต๊ะ พวกเจ้าดู เห็นพวกแขกที่นั่งอยู่โต๊ะนั้นหรือยัง? ดูรูปร่างหน้าตานั่นสิ ไม่ว่าชายหรือหญิงล้วนหล่อเหลางดงาม ดูแวบเดียวก็รู้ไม่ใช่คนธรรมดา”
“แน่อยู่แล้ว คนที่เข้าหอไป๋เซียงได้จะใช่คนธรรมดาหรือ? คนที่ไปกินข้าวนั่งเล่นที่นั่นได้ ล้วนเป็นคนมีตำแหน่งฐานะทั้งนั้น”
เฟิ่งจิ่วสาวเดินเข้าไปข้างในช้าๆ ฟังเสียงพูดคุยจอแจในหอน้ำชา เดินมาที่โต๊ะเก็บเงิน “เถ้าแก่?” สายตาของเธอจับจ้องไปที่ชายวัยกลางคน ก่อนเอ่ยถาม
เถ้าแก่คนนั้นกำลังจัดระเบียบสิ่งของ ครั้นได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้น นิ่งไปเล็กน้อย “ใช่แล้ว ไม่ทราบแม่นางมีเรื่องใดหรือ?”
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า เอ่ยขึ้นว่า “ที่นี่ค่อนข้างเสียงดัง มีที่เงียบๆ หน่อยหรือไม่?” เพราะดวงหน้าอันงดงามของเธอ ชุดสีแดงสะดุดตา ครั้นเข้ามาข้างใน สายตาของพวกคนที่อยู่ชั้นหนึ่งเมื่อมองผ่านมาก็จับจ้องมาที่เธอโดยไม่ได้นัดหมาย
“มี แม่นางเชิญทางนี้” เถ้าแก่ไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร เพียงแต่หากต้องการสถานที่เงียบๆ ก็ยังมีอยู่ ด้วยเหตุนี้ เขาเรียกเสี่ยวเอ้อร์มาแทนที่ ส่วนตนเองก็พาเฟิ่งจิ่วไปข้างหลัง
ที่นั่นคือลานสวนที่อยู่หลังหอ เงียบสงบมาก ไม่มีคนอื่นอีก แน่นอนว่ายกเว้นกลิ่นอายพลังสองสายที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืด
สองคนที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดเมื่อเห็นผู้มา สายตาตวัดมอง ครั้นมองเห็นใบหน้าของผู้หญิงชุดแดงอย่างชัดเจน ก็อดตะลึงไม่ได้ รีบปรากฏกายออกจากที่มืด คารวะด้วยความปลื้มปีติทันที
“ข้าน้อยคารวะนายท่าน!”
………………………………….