เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2119 กราบนางเป็นอาจารย์จะเป็นไรไป / ตอนที่ 2120 จักรพรรดิเซียนมีสี่คน
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2119 กราบนางเป็นอาจารย์จะเป็นไรไป / ตอนที่ 2120 จักรพรรดิเซียนมีสี่คน
ตอนที่ 2119 กราบนางเป็นอาจารย์จะเป็นไรไป
ฮูหยินผู้เฒ่าย้อนสู่ห้วงความทรงจำ ค่อยๆ ปิดตาและหลับไปเพราะฤทธิ์จากการฝังเข็ม พอนางตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นเฟิ่งจิ่วเก็บเข็มเงินแล้ว
“เสร็จแล้วหรือ?” นางถาม น้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย
เฟิ่งจิ่วรินน้ำถ้วยหนึ่ง “ดื่มน้ำเถิดเจ้าค่ะ! จะช่วยให้ชุ่มคอขึ้น” เธอบอกพลางยื่นน้ำให้ “ส่วนของวันนี้เสร็จแล้ว พรุ่งนี้กับวันมะรืนอีกสองครั้งก็พอ ข้าจะกลับไปจัดยาให้ท่านกิน ผ่านไปไม่กี่วันอาการป่วยหลายปีของท่านก็จะหายไปเอง”
ได้ยินแล้วฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้า “ขอบใจมาก”
“เป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว” เธอยิ้มตอบ ลุกขึ้นเอ่ยว่า “นอกจากพวกนี้ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้พวกท่านได้บ้าง”
“เจ้าไม่ได้ติดค้างอะไรพวกข้า ที่ทำให้พวกข้าเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว” นางตบไหล่เธอ “นี่ก็ดึกมากแล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนเถิด!”
“เจ้าค่ะ อย่างนั้นข้ากลับก่อน” เฟิ่งจิ่วเอ่ยก่อนจะหันตัวเดินออกไป จากนั้นเงาร่างโฉบไหว ก่อนจะหายลับไปท่ามกลางความมืดอย่างรวดเร็ว
“นายท่าน” หญิงวัยกลางคนที่อยู่ด้านนอกเข้ามา เห็นนายท่านที่นั่งอยู่บนตั่งสีหน้าดีขึ้น จึงถามขึ้น “นายท่าน จะพักผ่อนเลยหรือไม่เจ้าคะ?”
“นอนไม่หลับ เจ้าอยู่กับข้าเถิด!” นางกวักมือเรียก พยักหน้าให้หญิงวัยกลางคนนั่งลงพูดคุยกัน
“เจ้าค่ะ” หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ ค่ำคืนนี้ แสงไฟในเรือนเล็กสว่างอยู่ตลอด กระทั่งฟ้าสาง…
เช้าตรู่ของวันต่อมา จัวจวินเยวี่ยออกจากจวน เขาออกไปสืบหาข่าวสมุนไพรสามชนิดที่เฟิ่งจิ่วพูดถึงในสถานที่อย่างตลาดประมูล และออกไปตามหาในร้านขายยาอายุร้อยปีทั่วเมือง กระทั่งเที่ยงวันจึงค่อยกลับมา
ส่วนเฟิ่งจิ่วนอนถึงกลางวันค่อยตื่น ตอนเธอออกไปนอกห้อง ก็เห็นตาเฒ่ากำลังเดินไปเดินมาด้วยหน้าตากลัดกลุ้ม น้อยครั้งที่จะเห็นตาเฒ่าเป็นอย่างนี้ เธอจึงถาม “เป็นอะไรไป? ท่านทำอะไรของท่านตั้งแต่เช้าตรู่อย่างนี้?”
ตาเฒ่าชำเลืองมองเธอแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “เช้าตรู่อะไรของเจ้า? นี่ก็เที่ยงแล้ว มีแต่เจ้านั่นแหละที่นอนมาจนถึงตอนนี้”
เธอยักคิ้ว มองหน้าเขาที่ทำท่าจะพูดแต่ก็ไม่พูด ยิ้มถามว่า “ท่านมีอะไรจะพูดงั้นหรือ? ทำไมไม่พูดเล่า? ท่าทางอึกอักข้าเห็นแล้วอึดอัดนัก” ขณะเอ่ย เธอเดินมาบิดขี้เกียจกลางลานบ้าน
หายากที่ครั้งนี้ตาเฒ่าไม่ได้เป่าหนวดถลึงตาใส่ แต่กลับเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง ท่าทางลังเลอยู่นาน ก่อนเอ่ยว่า “ข้าเพิ่งได้รับจดหมาย มีเรื่องต้องกลับไปสะสางหน่อย”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วก็ประหลาดใจ “เรื่องแค่นี้เองหรือ? อย่างนั้นท่านก็ไปเสียสิ! มีอะไรให้ลังเลกัน?”
“ข้าก็กลัวว่าหากข้าไปแล้วเจ้าจะแอบหนีไปไม่ใช่หรือไง? ใครจะรู้ว่าหากไปที่หอยาสวรรค์แล้วจะหาเจ้าเจอหรือไม่” เขาอดพึมพำไม่ได้ จ้องเธอเหมือนไม่ไว้ใจ
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วรู้สึกราวหัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก “นั่นเป็นกิจการของข้า ท่านไม่เคยได้ยินสำนวนที่ว่าพระหนีไม่พ้นวัดหรือ? มีอะไรให้ห่วงกัน? หาข้าไม่เจอก็ไปที่หอยาสวรรค์ในเมืองร้อยนที อีกอย่าง ข้าก็ไม่มีอะไรให้ต้องหลบหน้าท่าน ไม่ใช่หรือ?”
“อย่างนี้ก็หมายความว่าเจ้าจะไม่เล่นลูกไม้หายตัวไป ใช่หรือไม่?” ตาเฒ่าได้ยินก็ตาเป็นประกาย “อย่างนั้นรอข้าเสร็จธุระแล้วจะไปหาเจ้าที่หอยาสวรรค์ เจ้าหาเวลาสอนวิชามวยไทเก๊กให้ข้า?”
เอ่ยจบ เขาก็มองเธอด้วยสีหน้าแปลกๆ ถามว่า “เจ้าไม่ยอมสอนข้ามาตลอด หรือเพราะข้าไม่เรียกเจ้าว่าอาจารย์งั้นรึ? ถ้าอย่างไร ข้ากราบเจ้าเป็นอาจารย์ตอนนี้เลยก็ยังได้” เพื่อจะได้เรียนวิชามวยไทเก๊ก แค่กราบนางเป็นอาจารย์จะเป็นไรไป?
………………………………….
ตอนที่ 2120 จักรพรรดิเซียนมีสี่คน
ได้ยินแล้วนัยน์ตาของเธอไหวระริก จ้องมองฮุ่นหยวนจื่ออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหยักยกมุมปากเผยรอยยิ้มแปลกๆ “ฐานะของท่านในสำนักดาราจักรไม่ธรรมดาจริงหรือ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว!” เขายืดอก เชิดคาง ลูบหนวดที่เหมือนเคราแพะ หน้าตาย่ามอกย่ามใจ “ไม่เพียงแต่ในสำนักดาราจักร แม้แต่ในอีกสี่สำนักเซียนก็ยังรู้จักข้าด้วย”
“วรยุทธ์ของท่านตอนนี้อยู่ที่ระดับใด? อาวุโสเซียนขั้นสูงสุด?” เธอถาม
แม้เฟิ่งจิ่วไม่ได้พูดอะไร แต่ตาเฒ่าได้ยินอย่างนั้นกลับถลึงตาใส่เธอ “นี่เจ้ากำลังดูแคลนข้าว่าระดับวรยุทธ์ต่ำงั้นหรือ? จะบอกเจ้าให้ ระดับอาวุโสเซียนขั้นสูงสุดอย่างข้าไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ มีหลายคนที่เข้าสู่ระดับอาวุโสเซียนแล้วก็ต้องล้มเหลวระหว่างถูกสายฟ้าฟาด รุ่นราวคราวเดียวกับข้า ก็มีแค่ไม่กี่คนที่มาถึงระดับพวกข้าได้ แน่นอน พวกผู้ฝึกวิชามารเหล่านั้นย่อมไม่นับ”
“อย่างนั้นท่านก็น่าจะหยุดอยู่ที่ระดับอาวุโสเซียนนานแล้วกระมัง? ทะลวงขั้นไม่ได้แล้ว?” เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยีจ้องเขา รอยยิ้มนั้นแฝงความหมาย
ตาเฒ่าเห็นเฟิ่งจิ่วดูแคลนเขา จึงแค่นเสียงขึ้นจมูก “เจ้าคิดว่าทะลวงขั้นจากอาวุโสเซียนไประดับจักรพรรดิเซียนเป็นเรื่องง่ายหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ ผู้ฝึกตนที่อยู่ในระดับจักรพรรดิเซียนมีไม่กี่คนในแผ่นดินใหญ่แถบเหนือแม่น้ำนี้”
“อ้อ? น้อยมาก? ก็หมายความว่ายังมี”
เธอพยักหน้า หน้าตาครุ่นคิด เหนือปราชญ์เซียนคืออาวุโสเซียน เหนืออาวุโสเซียนคือจักรพรรดิเซียน ตอนนี้พลังของเธออยู่ในระดับปราชญ์เซียนขั้นสูงสุด อาวุโสเซียนคนเดียวที่เธอรู้จักก็มีเพียงตาเฒ่า ส่วนจักรพรรดิเซียนกลับยังไม่เคยพบ และไม่รู้ว่าใครมีพลังระดับนี้บ้าง
“แน่นอนว่ามี จะไม่มีได้อย่างไร? นอกมหาสมุทรนั่นไม่นับ แต่บนแผ่นดินใหญ่นี้ จากที่ข้ารู้ว่าก็มีจักรพรรดิเซียนอยู่สี่คน สี่คนนั้นก็คือ…
เขากำลังจะบอก แต่เห็นท่าทางเธอเหมือนกำลังรอฟัง จึงหัวเราะคิกคักขึ้นมา “ไม่บอกเจ้าหรอก”
รออย่านานก็ยังไม่ได้คำตอบ สุดท้ายยังเห็นเขาหัวเราะชอบใจ เฟิ่งจิ่วอดมุมปากกระตุกไม่ได้ “ท่านไม่บอก หากข้าอยากสืบยังกลัวสืบไม่ได้อีกหรือ?” ขณะเอ่ย เธอมองเขา “ท่านมีธุระต้องไปทำไม่ใช่หรือ? ยังไม่ไปอีก?”
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! ครั้งหน้าหากข้าเจอเจ้าอีก ข้าค่อยบอกเจ้า ข้าไปก่อนล่ะ ประเดี๋ยวฝากเจ้าบอกเจ้าท่อนไม้จวินเยวี่ยหน่อยก็แล้วกัน เมื่อถึงเวลาข้าค่อยไปหาเจ้าที่หอยาสวรรค์ ไม่มาที่นี่แล้ว” เขารู้ว่ากว่าเขาจะจัดการธุระเสร็จ เธอคงไม่อยู่ที่นี่แล้ว
“อืม ไว้เจอกัน” เธอพยักหน้าตอบ
เห็นอย่างนั้น ตาเฒ่าจึงค่อยจากไปอย่างวางใจ ดูท่าทางเฟิ่งจิ่วคงไม่คิดจะหนีเขา รอสะสางอะไรเสร็จแล้วค่อยไปดูว่าหอยาสวรรค์ของแม่หนูนี่เป็นอย่างไนกันแน่
หลังจากตาเฒ่าไป เฟิ่งจิ่วเดินออกมาข้างนอก เจอสาวรับใช้คนหนึ่งที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก จึงสั่งให้นางยกอาหารมาให้ กินอาหารง่ายๆ เสร็จ ก็เตรียมจะไปที่เรือนของจัวจวินหยาง แต่กลับเห็นจัวจวินเยวี่ยเข้ามาก่อน
“เขาเล่า?” จัวจวินเยวี่ยเข้ามาในลานบ้าน แต่กลับไม่เห็นเงาร่างของตาเฒ่า อดประหลาดใจไม่ได้
“ตาเฒ่ามีธุระจึงไปก่อนแล้ว เขาฝากข้ามาบอกเจ้า” เฟิ่งจิ่วเอ่ย พลางเดินไปข้างนอก “ไปเถอะ! ไปหาน้องชายของเจ้า”
ได้ยินว่าตาเฒ่าไปแล้ว จัวจวินเยวี่ยไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงเดินออกไปข้างนอกกับเฟิ่งจิ่ว เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “วันนี้ข้าออกไปตามหายาสามชนิดนั้น วิ่งไปทั่วเมืองแล้วก็ยังไร้ข่าวคราวของสมุนไพรสามชนิดนั้น”
………………………………….