เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1056 ถูกปล่อยตัว
บทที่ 1056 ถูกปล่อยตัว
………………….
บทที่ 1056 ถูกปล่อยตัว
หลังจากนั้นไม่นาน มีคนมาแจ้งว่าซูอันได้รับการปล่อยตัว เขาออกจากคุกหลวงที่มืดมนและเย็นยะเยือก ยากที่จะปรับตัวกับแสงที่สาดส่อง เขาถอนหายใจ ในโลกก่อนหน้าข้าเป็นพลเมืองดี แต่มาถึงโลกนี้ข้าถูกจับขังมากี่ครั้งแล้ว?
“พี่ซู!” เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนมาถึงพร้อมกับทหารคนอื่น ๆ ด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า “เรามาที่นี่เพื่อต้อนรับท่านกลับมาเมื่อเราได้ยินข่าวการปล่อยตัวของท่าน!”
ซูอันรู้สึกอบอุ่น “วันนี้พวกเจ้าไม่มีงานเหรอ?” เขาถาม
“องค์หญิงรัชทายาทประทานวันหยุดแก่พวกเราหนึ่งวัน!” เจียวซือกุนตอบ
ซูอันตกตะลึง เขาตระหนักว่าการส่งทหารราชองครักษ์เหล่านี้มาต้อนรับเขาน่าจะเป็นความคิดขององค์หญิงรัชทายาท หลังจากประสบกับเหตุร้ายทั้งหมด นางไม่สามารถมาด้วยตัวเองได้ นางจึงส่งคนอื่นมาแทน ผู้หญิงคนนั้นยังคงมีมโนธรรมอยู่บ้าง ข้าไม่ได้ช่วยนางโดยเปล่าประโยชน์…
เผี่ยวตวนเตียวขยับตัวและขยิบตาให้เขา “พี่ซู เราไปหอคณิกาหลวงกันดีหรือไม่? ท่ารควรระบายความผิดหวังทั้งหมดกับสาว ๆ ที่งดงามเหล่านั้น”
ซูอันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
พวกเขามุ่งหน้าไปยังทางเข้าวัง ซูอันถือโอกาสถามเบา ๆ ว่า “ผู้เบิกเท็จได้ไปเยี่ยมวังตะวันออกหรือเปล่า?”
เผี่ยวตวนเตียวส่ายหัว “ไม่”
ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก พูดตามตรง เขาเป็นห่วงองค์หญิงรัชทายาทมากที่สุด เนื่องจากผู้เบิกเท็จไม่ได้สอบสวนนาง ด้วยความเฉลียวฉลาดของปี่หลิงหลง โอกาสนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับนางที่จะจัดการกับปัญหาที่เหลือ
“ตอนนี้องค์หญิงรัชทายาทเป็นอย่างไรบ้าง?” ซูอันถาม
เผี่ยวตวนเตียวหัวเราะ “เพราะข้ารู้จักท่านดี ข้าเลยไม่คิดอะไรแปลก ๆ แต่ไอ้พวกคนอื่นบางคนมันอาจมีความคิดที่ต่างไป”
เจียวซือกุนโต้กลับ “เจ้าไม่รู้เรื่องอะไรก็อย่าพูด! พี่ซูแค่ถามขึ้นเพราะความจงรักภักดี จิตใจของเจ้านั่นแหละที่สกปรก ข้าต่างหากที่ไม่เคยคิดเรื่องแปลก ๆ อะไรเลย!”
เผี่ยวตวนเตียวเคยชินกับการทะเลาะวิวาทกับเจียวซือกุนแล้วและไม่รู้สึกอยากแสดงความคิดเห็น เขากล่าวต่อว่า “ไม่ต้องกังวล องค์หญิงรัชทายาทยังคงอยู่ภายในวังตลอดเวลา ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาใด ๆ แต่ข้าก็บอกได้ว่าอารมณ์ของพระนางไม่ค่อยดีนัก”
ซูอันคิดในใจว่าคงจะแปลกกว่าที่องค์หญิงรัชทายาทจะอารมณ์ดีหลังจากเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
ทั้งหมดออกจากประตูวังอย่างมีความสุข พวกเขาเริ่มคุยกันว่าจะตามเกี้ยวผู้หญิงแบบไหนเมื่อไปถึงหอคณิกาหลวง
ชิวฮัวเล่ยและอวิ้นเจียนเยว่จากไปแล้ว ดังนั้นซูอันจึงไม่มีอารมณ์ที่จะไปหอคณิกาหลวงอีกไม่ว่าคณิกาเหล่านั้นจะน่าทึ่งเพียงใด พวกนางก็ยังด้อยกว่าสาว ๆ ที่อยู่เคียงข้างเขามาก แต่สุดท้ายเขาก็ยังปฏิเสธความกระตือรือร้นของคนเหล่านี้ไม่ได้จริง ๆ
ทันใดนั้น ทหารคนหนึ่งพูดว่า “ว้าว ที่นั่นมีสาวงามสุดยอดไปเลย!”
“ระวังนะ ใครก็ตามที่สามารถรอใกล้ประตูวังได้ ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน”
“ข้าสงสัยว่านั่นคือภรรยาของใคร จิ๊ คนนั้นโชคดีจริง ๆ”
…
เมื่อได้ยินความคิดเห็นของพวกทหาร ซูอันจึงหันไปมองด้วยความอยากรู้ จากนั้นเขาก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
“อาซู!” ร่างในชุดสีฟ้าที่เยือกเย็นพุ่งเข้ามาในอ้อมกอดของซูอันภายใต้การจ้องมองอย่างตกใจของทหารทุกคน
เหล่าทหารกลืนน้ำลาย ปรากฏว่าสามีที่น่าอิจฉาคนนั้นอยู่กับพวกเขาตลอดมา!
“ชูเหยียน เจ้ามาที่นี่ทำไม?” ซูอันถามด้วยความประหลาดใจระคนไปด้วยความสุข
ใบหน้าของฉู่ชูเหยียนแดงเล็กน้อย นางรู้สึกตื่นเต้นมากจนสูญเสียความยับยั้งชั่งใจ ตอนนี้เมื่อสังเกตเห็นว่ามีตาหลายคู่ที่จ้องมองมา นางก้าวถอยหลังออกจากอ้อมกอดของเขาอย่างรวดเร็ว “ข้าได้รับข่าวว่าผู้เบิกเท็จจะสอบปากคำเจ้าเป็นการส่วนตัว ดังนั้นข้าจึงรอผลที่ประตู จากนั้นเจ้าก็ถูกปล่อยตัวในที่สุด! เอ๊ะ? พวกเขาเป็นใคร?”
ซูอันตอบว่า “พวกเขาเป็นเหล่าสหายของข้าจากวังตะวันออก ทุกคน นี่คือภรรยาของข้า”
ใบหน้าของฉู่ชูเหยียนแดงก่ำทันทีเมื่อได้ยินคำว่า ‘ภรรยา’ การแต่งงานของนางกับซูอันได้ถูกตระกูลฉู่ยกเลิกไปแล้ว แต่ตอนนี้ซูอันยังคงเรียกนางว่าภรรยา ใบหน้าที่เย็นชาเป็นนิจจึงเผยรอยยิ้มสว่างไสว “ยินดีที่ได้พบ ข้าขอถามหน่อยได้ไหมว่าพวกท่านจะไปไหนกัน?”
รอยยิ้มที่งดงามราวกับฤดูใบไม้ผลิแรกเริ่มทำให้ทุกคนรู้สึกหวานจนใจละลาย พวกเขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่สวยขนาดนี้มาก่อน
แม้ว่าองค์หญิงรัชทายาทจะงดงาม แต่นางก็เข้มงวดและสูงส่งเกินเอื้อมอยู่เสมอ นางสนมคนอื่น ๆ ก็มีสถานะสูงเช่นกัน ไม่มีใครยิ้มให้กับพวกเขาอย่างอบอุ่นเหมือนฉู่ชูเหยียนในตอนนี้
เมื่อเผี่ยวตวนเตียวและคนอื่นได้สติ พวกเขาพูดว่า “ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบฮูหยิน พวกเรา… แค่พาพี่ซูออกมาส่ง…” พวกเขาจะพูดได้อย่างไรว่ากำลังจะพาซูอันไปที่หอคณิกา?
ฉู่ชูเหยียนยิ้ม “ข้าทำให้ทุกคนลำบากใจแล้ว ข้าเตรียมสุราไว้แล้ว ทำไมพวกท่านไม่มาร่วมกับเราล่ะ?”
“ไม่จำเป็น เรายังมีภารกิจที่ต้องดูแล” เผี่ยวตวนเตียวและคนอื่น ๆ กล่าวอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะไปเป็นก้างขวางคอของสามีภรรยาได้อย่างไร? เป็นการดีที่สุดถ้าจะไม่รบกวนทั้งคู่ นอกจากนี้ ได้โอกาสหยุดทั้งที ดังนั้นพวกเขาจึงควรใช้เวลาในหอคณิกาหลวงอย่างเต็มที่
ทันใดนั้น ฉู่โหยวเจาวิ่งเข้ามาเช่นกัน นางเรียกพร้อมกับยิ้มหวาน “พี่เขย!”
มู่หรงชิงเหอที่มาด้วยกันทักทาย “พี่… สวัสดีท่านซู” นางเกือบจะโพล่งคำว่า ‘พี่เขย’ ออกมา ใบหน้าของนางแดงก่ำจากความอับอาย
ทหารทุกคนตกตะลึง
พี่ซู! ทำไมน้องภรรยาของท่านสวยกว่าผู้หญิงแบบนี้!
อีกอย่าง ตรงนั้นดูเหมือนจะเป็นคุณหนูจากตระกูลมู่หรงใช่ไหม? ดูท่าทางเอียงอายนั่นสิ นางชอบพี่ซูเหมือนกันใช่ไหม? แต่นางมาจากตระกูลมู่หรง! ต่อไปจะกลายเป็นพระสนมไม่ใช่เหรอ?
พี่ซูของเรา ท่านเป็นแบบอย่างให้พวกเราทุกคนมุ่งมั่นทำตาม
ทันใดนั้น รถม้าคันหนึ่งค่อย ๆ เคลื่อนมาจอดใกล้ ๆ เรียวขาที่สมบูรณ์แบบคู่หนึ่งปรากฏขึ้น ลมหายใจของเผี่ยวตวนเตียวและคนอื่น ๆ ยิ่งถี่กระชั้น
………………….