เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2060 ข้าขอคัดค้าน
ธิดาอู๋ไห่จือตี้อดถอนหายใจออกมาอีกครั้งไม่ได้ “หากเจ้าชอบ เขาเล่า? เหตุใดจึงไม่ประกาศให้ชัดเจนไปเลยล่ะ? หากข้าเป็ นเจ้า ข้า คงท าให้เขานอนหลับแล้วก็…”
เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงยังคงนิ่งเงียบไม่ตอบรับคาใด
ไม่ทราบเลยว่านางสูญเสียความสามารถในการพูดคุยไปแล้ว หรืออย่างไร?
“หรือพวกเราจะกลับกันเลยก็ได้”
ธิดาอู๋ไห่จือตี้เปลี่ยนวิธีพูดคุยใหม่ “ไม่เห็นมีสิ่งใดน่าสนใจเลย สักนิด…พวกเรากลับกันเถอะ ดินแดนปีศาจกาลังฟื้นตัว เราต้องรีบ ด าเนินการตามแผนเดิมของเราต่อไป”
“รอให้จบพิธีก่อน” ในที่สุด เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงก็พูดออกมาแล้ว นางตอบรับด้วยน้าเสียงหนักแน่น
ธิดาอู๋ไห่จือตี้จึงไม่ได้กล่าวคาใดอีก ในฐานะสตรีด้วยกัน นางย่อมเข้าใจความรู ้สึกนี้ดี
เวลาเช่นนี้ไม่ว่านางจะพูดอะไรออกไป มันก็คงไร ้ประโยชน์ แม้ว่า นั่นจะเป็ นคาแนะนาที่มีเหตุผลก็ตาม แต่หากพูดออกไปตอนนี้ เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงก็คงท าหูทวนลม ไม่รับฟังเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น
ในไม่ช ้า พิธีอภิเษกสมรสก็เสร็จสิ้น
ต่อไปนี้ก็จะเป็ นพิธีแต่งตั้งจักรพรรดิองค์ใหม่
“พวกเราไปกันได้หรือยัง?”
ธิดาอู๋ไห่จือตี้กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “พิธีจบแล้วนี่ไง”
เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงพยักหน้า ตอบรับว่า “พวกเราไปกัน เถอะ…เอ๋?”
จังหวะนั้น นางก็ต้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ดูเหมือนจะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญปรากฏตัวขึ้นมาแล้วสิ”
เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงสังเกตเห็นอะไรบางอย่างก็ขมวดคิ้วนิ่ว หน้า ก่อนจะกล่าวต่อไปด้วยน้าเสียงราบเรียบไร ้ความรู ้สึก “พวกเรา อยู่ดูเหตุการณ์กันอีกหน่อยเถอะ น่าจะมีเรื่องราวน่าสนใจเกิดขึ้น แล้ว”
เสียงพูดของนางยังไม่ทันขาดหาย
“ช้าก่อน”
ทันใดนั้น คนผู้หนึ่งก็ส่งเสียงตะโกนขึ้นหน้าวิหารแห่งผู้แปรธาตุ ได้ยินไปถึงหูของทุกผู้คน “ข้าขอคัดค้าน”
เสียงนั้นฟังระคายหู
อาเฉียวผู้เป็ นหลานสาวของปรมาจารย์นักปรุงยาเฉินปี้หยาง ถึงกับสะดุ้งโหยง
เพราะนั่นคือถ้อยคาที่นางอยากจะร ้องตะโกนออกมา
แต่บัดนี้… นางไม่ใช่คนที่ร ้องตะโกนออกไป
สีหน้าของเด็กสาวจึงบอกชัดถึงความประหลาดใจยิ่งนัก
ระหว่างที่พิธีอภิเษกสมรสดาเนินไปนั้น อาเฉียวอยากจะตะโกน ออกมาว่า ‘ข้าขอคัดค้าน’
แต่นางก็ถูกเสี่ยวติงผู้เป็ นน้องชายเอามือปิดปากไว้เสียก่อน
และเมื่อนางได้เห็นสายตาที่หลินเป่ยเฉินกับหลิงเฉินจ้องมองกัน อาเฉียวก็ยอมล้มเลิกความตั้งใจของตนเอง
ดังนั้นเด็กสาวจึงตกใจเป็ นอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคาว่า ‘ข้าขอ คัดค้าน’ เพราะนึกว่าตนเองเผลอตะโกนออกไปโดยไม่รู ้ตัว
จนกระทั่งสายตาของทุกคนมองผ่านนางไป อาเฉียวจึงได้รู ้ว่าผู้ที่ ร ้องตะโกนออกมานั้นเป็ นคนอื่น
นางมองตามสายตาของทุกคนไป
องค์ชายหลิงปี๋ลุกขึ้นยืนท่ามกลางการจ้องมองของสายตานับไม่ ถ้วนและร ้องตะโกนออกมาอีกครั้ง…
“ข้าขอคัดค้าน”
องค์ชายหลิงปี๋ถือเป็ นหนึ่งในองค์ชายอาวุโสของอาณาจักรเกิง จิน เขายังคงกล่าวต่อไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและจริงจัง “ข้าต่างหาก เป็ นผู้มีสิทธิ์ได้ขึ้นครองบัลลังก ์โดยชอบธรรม ข้าอนุญาตให้พวกเจ้า มาแย่งชิงบัลลังก์ไปตามใจชอบได้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ในฐานะพระราช โอรสขององค์จักรพรรดิหลิงจิว ข้าขอคัดค้านการขึ้นครองบัลลังก ์ ของพวกเจ้าทั้งสองคน”
เสียงพูดขององค์ชายหลิงปี๋ดังกังวานไปรอบบริเวณด้วยวิชาเวท มนตร ์
บัดนี้ผู้คนจึงได้ยินประโยคนั้นไปทั้งเมืองแล้ว
เสียงโห่ร ้องแสดงความยินดีค่อย ๆ หยุดชะงัก
และบนหน้าจอถ่ายทอดสดหลายหมื่นหน้าจอในขณะนี้ พวกมัน ต่างก็กาลังแสดงภาพขององค์ชายหลิงปี๋ที่เต็มไปด้วยสง่าราศี ไม่ต่าง จากยอดวีรบุรุษผู้กล้าหาญที่มาทวงคืนความเป็ นธรรมให้แก่ตนเอง
หลิงเฉินผู้ยืนอยู่หน้าราชบัลลังก ์ทองค าเหลียวมองกลับไปด้วย สายตาเย็นชา ใบหน้าของนางไม่ปรากฏความเปลี่ยนแปลงแม้แต่นิด เดียว
หลินเป่ ยเฉินหัวใจกระตุกวูบ หันกลับมามองหน้าขององค์ชาย หลิงปี๋และถามว่า “ท่านเป็ นผู้ใด?”
เขารู ้อยู่ในใจแล้วว่านี่ต้องเป็ นแผนการของเผ่ามนุษย์ทะเลทราย แน่นอน
สรุปว่าพวกมนุษย์ทะเลทรายจะเริ่มเปิดฉากโจมตีเขาด้วยการใส่ ร ้ายป้ ายสีอย่างนั้นหรือ?
องค์ชายหลิงปี๋ จ้องมองหลินเป่ ยเฉิน ก่อนหัวเราะด้วยความ เหยียดหยามและรังเกียจเดียดฉันท์”เจ้าไม่มีค่ามากพอที่จะมาพูดคุย กับข้า เจ้ามีดีเพียงหน้าตาหล่อเหลาก็คิดจะครอบครองวิหารแห่งผู้ แปรธาตุเชียวหรือ? ช่างไม่เจียมตัวเลยจริง ๆ…”
“สามหาว!”
องค์ชายหลิงหวงฉีพลันลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเดือดดาล “องค์ชาย หลิงปี๋ ทราบหรือไม่ว่าท่านกาลังพูดอะไรออกมา?”
องค์ชายหลิงปี๋หัวเราะในลาคอ แล้วตอบว่า “เจ้ายังได้ยินไม่ชัด อีกหรือ? งั้นข้าก็จะกล่าวย้าอีกครั้ง…”
เขาชี้มือไปที่หลิงเฉินพร ้อมกับกล่าวว่า “เด็กผู้นี้ไม่มีคุณสมบัติที่ จะได้ขึ้นครองบัลลังก ์ ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการสืบทอดตาแหน่ง บรรพบุรุษแห่งผู้แปรธาตุ นางเป็ นเพียงสายเลือดโสโครกจากดินแดน นอกอาณาจักร ซ้ายังไม่มีใครรู ้ที่มาที่ไปของนางแน่ชัด แล้วนางมี คุณสมบัติอันใดถึงได้มาเสนอหน้าอยู่ที่นี่?”
เสียงผู้คนพูดคุยกันดังอื้ออึงขึ้นรอบบริเวณทันที
เรื่องราวตัวตนที่แท้จริงของหลิงเฉินนั้น ผู้คนในราชสานักพอจะ ล่วงรู ้ตื้นลึกหนาบางอยู่บ้าง และประชาชนคนธรรมดาก็พอจะ รับทราบข้อมูลอยู่บ้างเช่นกัน
แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนรู ้เหมือนกันก็คือหลิงเฉินไม่ได้เติบโตใน อาณาจักรเกิงจิน
ก่อนหน้านี้ ตอนที่องค์จักรพรรดิหลิงจิวแต่งตั้งนางขึ้นเป็ นองค์ หญิงไข่มุกขาว ก็เคยก่อให้เกิดความไม่พอใจขึ้นมามากมายจาก ผู้คนในราชส านัก
แต่หลังจากที่หลิงเฉินมาคานับวิหารแห่งผู้แปรธาตุครั้งแรก ความไม่พอใจเหล่านั้นก็สลายไป เพราะว่าวิหารศักดิ์สิทธิ์ เกิดปฏิกิริยาตอบรับกับนางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ใดมาก่อน
และวันนี้ในพิธีมงคลเช่นนี้ องค์ชายหลิงปี๋ยังต้องการนาเรื่องนี้ ขึ้นมาเป็ นประเด็นอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?
องค์ชายหลิงปี๋มีความอาวุโสมากกว่าหลิงเฉินและยังเป็ นบุตรใน สายเลือดขององค์จักรพรรดิหลิงจิวอีกด้วย
การลุกขึ้นมาคัดค้านของเขาในครั้งนี้จึงอยู่เหนือการคาดเดา ของผู้คน
ใบหน้าขององค์ชายหลิงหวงฉีบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น
ในการประชุมราชสานักก่อนหน้านี้ ไม่มีผู้ใดคัดค้านการขึ้น ครองบัลลังก ์ของหลินเป่ ยเฉินกับหลิงเฉิน แม้แต่องค์ชายหลิงปี๋ก็ยัง แสดงความซื่อสัตย์ภักดีอย่างชัดเจน แต่ในพิธีการแต่งตั้งจักรพรรดิ องค์ใหม่ องค์ชายหลิงปี๋กลับหักหลังพวกเขาต่อหน้าสาธารณชน?
ต้องถูกน าตัวไปลงโทษ
“ท่านดื่มมากเกินไปแล้ว”
องค์ชายหลิงหวงฉีโบกมือไล่ “ท่านกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
แล้วกลุ่มองครักษ์ก็ปรากฏกายขึ้น
“ยังมีผู้ใดบังอาจกล้าแตะต้องตัวข้า?”
องค์ชายหลิงปี๋ระเบิดเสียงคารามก่อนจะปลดปล่อยพลังปราณ ออกมาจากร่างกาย “ที่หลิงเฉินได้ครอบครองบัลลังก ์ก็เป็ นเพราะว่า นางคือผู้สังหารองค์จักรพรรดิหลิงจิว…ต่อให้วันนี้ข้าต้องตาย ข้าก็ จะต้องเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของนางมารร ้ายผู้นี้ให้ได้”
นี่คือคาพูดที่ไม่ต่างจากฟ้ าผ่าเปรี้ยง
ผู้คนรู ้สึกหูอื้ออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
องค์หญิงไข่มุกขาวเป็ นผู้สังหารองค์จักรพรรดิหลิงจิว!
นี่คือคาพูดที่ไม่ต่างจากทิ้งระเบิดลงสู่หัวใจของผู้รับฟังทุกคน