เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2027 นายท่านปรากฏตัว
ตอนที่ 2,027 นายท่านปรากฏตัว
ประเสริฐ
นับเป็นภาพที่สวยงามยิ่ง
สายลับรหัส 91 ชินเซียนเฉิงบันทึกภาพทั้งหมดด้วยความรวดเร็ว
เขาแทบไม่ต้องไปตัดต่ออะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว
บุรุษหนุ่มผมขาวสร้างสรรค์ทุกอย่างออกมาจนสมบูรณ์แบบ
ไม่ต้องพูดคำใด มีเพียงเสียงเพลงและการวางมาดสง่าผ่าเผยเท่านั้นก็พอแล้ว…
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้จบลง ความโด่งดังของอวี้เหวินซิวเซียนก็จะเพิ่มมากขึ้น
ชินเซียนเฉิงนึกอยากจะกราบไหว้บุรุษผมขาวเป็นอาจารย์แล้ว
บนแท่นลอยฟ้าสำหรับแขกระดับสูง รอยยิ้มบนใบหน้าขององค์ชายหลงหายวับไปทันที
สีหน้าเบื่อหน่ายของอสูรผลาญดาราต่วนซิงก็เลือนหายไปเช่นกัน บัดนี้ ใบหน้าของมันมีเพียงความประหลาดใจเท่านั้น
ปฏิกิริยาตอบรับของทั้งสองคนไม่ต่างไปจากผู้รับชมคนอื่น ๆ
อวี้เหวินซิวเซียนมีโอกาสชนะเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น
แต่เขาก็สามารถทำได้สำเร็จ
เกิดอะไรขึ้นในอาณาเขตปริศนานั้น?
ส่วนพรรคพวกขององค์ชายหลิงหวงฉีเมื่อเห็นผลการแข่งขันออกมาเป็นเช่นนี้ แม้ทุกคนจะยังตกตะลึง แต่พวกเขาก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
ชนะแล้ว
ชนะแล้วจริง ๆ ด้วย!
หลินเป่ยเฉินสามารถเอาชนะราชันปริศนาไร้นามได้เช่นนี้ก็หมายความว่าเขาสามารถเอาชนะต่วนซิงได้เช่นกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ โอกาสที่หลินเป่ยเฉินจะกลายเป็นผู้ชนะการประลองก็มีมากขึ้น
บางที… หลินเป่ยเฉินอาจชนะการประลองจริง ๆ ก็เป็นได้
ทันใดนั้น องค์ชายหลิงหวงฉีต้องยกมือขึ้นทาบอกอีกรอบ เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ชั่วคราว ก่อนการประลองจะเริ่มขึ้น เขาได้เก็บของขวัญที่ผู้คนนำมามอบให้แก่หลินเป่ยเฉินเข้าสู่คลังเก็บสมบัติของตนเองทั้งหมด และเพราะเขาไม่คิดว่าหลินเป่ยเฉินจะสามารถเอาชนะราชันปริศนาไร้นามได้ องค์ชายหลิงหวงฉีจึงนำของขวัญทั้งหมดนั้นมาแทงพนันเพื่อเดิมพันว่าราชันปริศนาไร้นามจะเป็นฝ่ายชนะ
โชคดีที่หลินเป่ยเฉินยังไม่รับทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้
ต้องเก็บไว้เป็นความลับตลอดกาล
“องค์ชายมัวทำอะไรอยู่ขอรับ ไม่ดีใจหรืออย่างไร พี่ใหญ่ของข้าอุตส่าห์ชนะเชียวนะ”
เซียวปิงที่ยืนอยู่ข้างกายองค์ชายหลิงหวงฉีตบไหล่เขาหนัก ๆ “พี่ใหญ่ของข้าชนะแล้ว พี่ใหญ่ของข้าชนะแล้วขอรับ”
“จี๊ด”
อากวงกับหวังเฟิงหลิวกระโดดแปะมือกันก่อนกระโดดโลดเต้นฉลองชัยชนะอย่างบ้าคลั่ง
มีความสุข
โชคดีที่พวกเขาแทงพนันว่านายท่านจะเป็นฝ่ายชนะ
ดังนั้นเซียวปิง อากวงและหวังเฟิงหลิวจึงได้รับเงินก้อนโต
รอบหอคอยนักรบเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องให้กำลังใจอวี้เหวินซิวเซียน
หลินเป่ยเฉินมีความโด่งดังเพิ่มขึ้นทวีคูณ ผู้คนจำนวนมากตื่นเต้นที่จะได้เห็นเขาได้รับชัยชนะ มีความสุขยิ่งกว่าตนเองได้ไปประลองเองเสียอีก
หลังจากนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้จัดการประลองได้รับทราบจากปากคำของหลินเป่ยเฉินว่าราชันปริศนาไร้นามตายแล้ว เขาก็ถูกประกาศให้เข้าสู่รอบต่อไปอย่างไม่มีปัญหา
การประลองจบสิ้นลง
ความโด่งดังของหลินเป่ยเฉินเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
“คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าราชันปริศนาไร้นามที่มักจะฆ่าคู่ต่อสู้อย่างลึกลับ ตัวเขาเองก็ต้องตายอย่างเป็นปริศนาเช่นกัน”
“นั่นสิ ไม่รู้เลยนะว่าตอนตายเขาจะรู้สึกอย่างไรบ้าง”
“เกิดอะไรขึ้นในอาณาเขตเงาทมิฬนั้นกันแน่”
“หรือว่าบุรุษผมขาวจะโกงการประลอง?”
“หากเขาสามารถโกงการประลองบนหอคอยนักรบได้สำเร็จ และยังโกงการประลองจนสามารถสังหารจอมเทพอนันต์ได้เช่นนี้ งั้นก็มอบตำแหน่งผู้ชนะให้กับเขาไปเลยเถอะ”
“มีเหตุผล มีเหตุผล ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ชนะก็คือผู้ชนะ ผู้พ่ายแพ้ก็คือผู้พ่ายแพ้ และบัดนี้ ราชันปริศนาไร้นามก็ตายแล้ว”
เสียงพูดคุยดังขึ้นรอบทิศทาง
ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ชนะก็จะได้รับคำชมเชยอยู่ดี
การประลองคู่อื่น ๆ หลังจากนี้มีสถิติผู้ชมการถ่ายทอดสดลดลงอย่างเห็นได้ชัด
แม้แต่ต่วนซิงก็ยังมีผู้รับชมน้อยลงถึงครึ่งหนึ่ง
ทุกคนสามารถมั่นใจได้อย่างหนึ่งว่า…
บุรุษผมขาวอวี้เหวินซิวเซียนตั้งใจที่จะชนะการประลองครั้งนี้จริง ๆ
กลุ่มผู้คนแทบทุกชนชั้นต่างก็ดีใจที่เห็นเช่นนี้
เพราะองค์หญิงไข่มุกขาวของพวกเขาคือยอดสาวงามในหมู่มวลเทพธิดา ซ้ำยังเป็นผู้สืบสายเลือดบรรพบุรุษผู้แปรธาตุ และบุรุษผมขาวอวี้เหวินซิวเซียนนอกจากมีหน้าตาหล่อเหลาแล้ว ยังมีฝีมือการต่อสู้ร้ายกาจและมีพลังแข็งแกร่งอีกด้วย เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้ว ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ไม่ต่างจากไม้ประดับ ยังจะมีคู่ใดเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยกมากไปกว่าองค์หญิงไข่มุกขาวกับอวี้เหวินซิวเซียนผู้นี้อีกหรือ?
ผู้คนจำนวนมากพากันขบคิดด้วยความตื่นเต้น
…
“ทีนี้ท่านก็ได้เห็นความร้ายกาจของเจ้าผมขาวนั่นแล้วนะขอรับ”
องค์ชายหลงที่ยืนอยู่ในวิหารใหญ่กล่าวว่า “ราชันปริศนาไร้นามมีขั้นพลังไม่ต่ำต้อย แต่กระดูกชิ้นเดียวก็ยังไม่มีเหลือ เกิดอะไรขึ้นในอาณาเขตเงาทมิฬบ้าง มีผู้ใดสามารถรับรู้ได้? … ไม่ทราบว่าท่านยังมั่นใจว่าจะชนะอยู่อีกหรือไม่?”
อสูรผลาญดาราต่วนซิงกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนบัลลังก์ขนาดใหญ่ด้วยความเกียจคร้านและตอบว่า “ดูเหมือนเจ้าจะสนใจเรื่องแพ้เรื่องชนะมากกว่าข้าเสียอีกนะ”
องค์ชายหลงนิ่งเงียบ ก่อนจะกล่าวว่า “ในฐานะผู้ดูแลแผนการครั้งนี้ ข้าจำเป็นต้องถามท่าน โปรดอย่าลืมว่าหากท่านพ่ายแพ้ให้แก่หลินเป่ยเฉิน ข้อตกลงก่อนหน้านี้ของเราก็จะถือเป็นอันโมฆะ”
หลังจากการประลองวันนี้จบลง องค์ชายหลงก็ได้ข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับบุรุษหนุ่มผมขาว และพวกเขาก็ได้รับทราบแล้วว่าตัวตนที่แท้จริงของอวี้เหวินซิวเซียนก็คือหลินเป่ยเฉิน
ต่วนซิงยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบต่อไป “มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เซ้าซี้จังเลยแฮะ น่าเบื่อชะมัด… ไม่เห็นสนุกสักนิด”
องค์ชายหลงพูดว่า “ข้าจะมอบอาวุธเล่นแร่แปรธาตุระดับจอมเทพอนันต์ให้กับท่านสามชิ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการคว้าชัยชนะ ท่านจะประมาทอาณาเขตเงาทมิฬของหลินเป่ยเฉินไม่ได้เด็ดขาด จากข้อมูลที่เราได้รับทราบมาจนถึงวันนี้ ยังไม่เคยมีคู่ต่อสู้คนใดของเขารอดกลับออกมาได้สำเร็จ ท่านจะประมาทไม่ได้ขอรับ”
“หืม?”
อสูรผลาญดาราต่วนซิงมีดวงตาเป็นประกายลุกวาวขึ้นมาทันที “เจ้าจะมอบอาวุธเล่นแร่แปรธาตุระดับจอมเทพอนันต์ให้ข้าจริง ๆ หรือ?”
“ให้ยืมชั่วคราวขอรับ”
องค์ชายหลงปรับความเข้าใจให้ถูกต้อง
อสูรผลาญดาราต่วนซิงหรี่ตาลงและระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
ไม่ว่าจะให้เลยหรือให้ยืม แต่เมื่อมาอยู่ในมือมันแล้ว ไม่ว่าเป็นสิ่งใดก็จะกลายเป็นของ ๆ มันทั้งสิ้น
อย่าหวังเลยว่าจะได้กลับคืนไป
ในบรรดายี่สิบสี่สายเลือดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ สายเลือดที่ต่วนซิงให้ความสนใจมากที่สุดก็คือสายเลือดผู้แปรธาตุ
นักแปรธาตุมีอายุขัยสั้นกว่าผู้ใช้สายเลือดอื่น ๆ ร่างกายก็บอบบาง แต่กลับสามารถประดิษฐ์อาวุธที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นมาได้ราวกับปาฏิหาริย์
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน
องค์ชายหลงหมุนตัวเดินกลับออกไป
ต่วนซิงยังคงนั่งอยู่บนบัลลังก์ดังเดิม
“หลินเป่ยเฉินเอ๋ยหลินเป่ยเฉิน… เฮ้อ เจ้ามีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว ดังนั้นเจ้าจึงตกเป็นเป้าของพวกเผ่ามนุษย์ทะเลทราย หากข้าจับตัวเจ้ามาดูดพลังเสียเอง ข้าก็คงจะกลายเป็นสุดยอดอสูรที่ไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรด้วยได้อีกแล้วสินะ…”
ดวงตาของต่วนซิงพลันเป็นประกายแวววาวด้วยความหิวกระหาย
แต่ทันใดนั้น กลิ่นที่แปลกประหลาดก็แผ่กระจายไปทั่ววิหาร
สีหน้าของอสูรผลาญดาราต่วนซิงแปรเปลี่ยนไปทันที ความเบื่อหน่ายบนใบหน้าของมันหายไป ความวิตกกังวลปรากฏขึ้นมาแทน มันรีบลุกขึ้นและคุกเข่าข้างเดียวแสดงความเคารพ ก่อนจะโขกศีรษะกระแทกพื้นหินพร้อมกับกล่าวว่า “ผู้น้อยขอคารวะนายท่าน”