เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2019 แตกหัก
ตอนที่ 2,019 แตกหัก
เมื่อเงาร่างที่งดงามนั้นปรากฏกายขึ้น ปราณปีศาจก็หนาแน่นมากขึ้น มวลอากาศปั่นป่วน ทุกคนรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังปราณปีศาจในอากาศมีความทรงพลังมากกว่าเดิม
โจวเทียนอวิ๋นไม่ได้โจมตีต่อไป
ในดวงตาของเขาปรากฏวงแหวนทองคำเป็นประกายระยิบระยับ
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ใด แต่ขอแค่เดินออกมาจากประตูเชื่อมแดนปีศาจบานนี้ ก็คงเป็นผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งไม่ใช่น้อย
โจวเทียนอวิ๋นอยากจะเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของฝ่ายตรงข้าม
แต่อีกฝ่ายมีปราณสีม่วงปกคลุมทั่วร่าง ทำให้ไม่สามารถมองทะลุเข้าไปได้
ให้ตายเถอะ
โจวเทียนอวิ๋นประหลาดใจและสีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นทันที
“นายหญิงขอรับ”
เมื่อเห็นเงาร่างที่งดงาม อวี้เหวินซิวเซียนผู้ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งก็อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น
แต่นายหญิงพาแม่ลูกคู่นั้นไปที่แดนปีศาจด้วยนี่นา แล้วทำไมแม่ลูกคู่นั้นถึงไม่ได้กลับมา?
นายหญิงกลับมาเพียงลำพัง
ในทันใดนั้น หัวใจของอวี้เหวินซิวเซียนก็เริ่มรู้สึกร้อนรน
เขาร้อนรนเพราะโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างความแตกแยกระหว่างนายหญิงกับหลินเป่ยเฉินกำลังจะหลุดมือไป
“นายหญิงไม่ต้องลงมือเองหรอกขอรับ เดี๋ยวข้าน้อยจะจัดการผู้บุกรุกเหล่านี้เอง”
อวี้เหวินซิวเซียนดูดกลืนปราณปีศาจเข้าไป แล้วร่างกายของเขาก็ขยายใหญ่ อวี้เหวินซิวเซียนยกเท้าขึ้นเหยียบลงไปที่เรือเหาะของผู้บุกรุก
ในเมื่อไม่สามารถจัดการโจวเทียนอวิ๋นได้ ก็ฆ่าพวกนี้ก่อนแล้วกัน
ตราบใดที่สามารถสังหารขุมกำลังเหล่านี้ได้ ช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งของหลินเป่ยเฉินกับนายหญิงก็จะเพิ่มมากขึ้น
โจวเทียนอวิ๋นกระแทกหมัดออกไปข้างหน้า แล้วลำแสงสีทองคำก็พุ่งตรงไปยังปีศาจหนุ่มร่างยักษ์ทันที
“ฮ่า ๆๆ…”
อวี้เหวินซิวเซียนระเบิดเสียงหัวเราะกึกก้องในอากาศ
ตู้ม!
แล้วคลื่นพลังปราณปีศาจหนาแน่นก็ดูดซับลำแสงทองคำเหล่านั้นจนหมดสิ้น
ในเวลาเดียวกันนี้ ตัวคนพุ่งมาเป็นลำแสงสีทอง
โจวเทียนอวิ๋นตั้งใจจะนำตนเองกลับไปที่เรือเหาะอีกครั้ง
แต่ลำแสงสีม่วงก็พุ่งเข้ามาขัดขวาง และเจ้าของร่างงดงามนั้นก็ไม่ยอมให้เขากลับไปที่เรือเหาะง่าย ๆ
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
การต่อสู้บังเกิดขึ้น
คลื่นพลังสีทองและคลื่นพลังสีม่วงปรากฏขึ้นในอากาศ โจวเทียนอวิ๋นกับเจ้าของเรือนร่างงามต่อสู้กันหลายสิบกระบวนท่าในเวลาพริบตาเดียว การเคลื่อนไหวของพวกเขารวดเร็วจนกลายเป็นภาพพร่าเลือน ไม่ว่าร่างของพวกเขาเคลื่อนผ่านไปยังบริเวณใด ก็จะได้ยินเสียงกระดูกแตกหักดังขึ้นตลอดเวลา
โจวเทียนอวิ๋นยิ่งต่อสู้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งประหลาดใจมากเท่านั้น
เพราะอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินความคาดหมายของเขา
สามารถสกัดเขาได้อย่างไม่มีปัญหา
และที่แปลกประหลาดมากที่สุดก็คือ โจวเทียนอวิ๋นกลับรู้สึกคุ้นเคยกับคนผู้นี้อย่างประหลาด
เหมือนอีกฝ่ายจะรู้จักกระบวนท่าของเขาเป็นอย่างดี
ในเวลาเดียวกันนี้ เขาก็ได้ยินเสียงฮันปู้ฟู่ตะโกนออกมาว่า “ท่านแม่ทัพโจว ท่านไม่ต้องห่วงพวกเรา รีบจัดการปีศาจตนนั้นเถอะ… ข้ารับมือได้”
หลังจากนั้น ฮันปู้ฟู่ก็ขยายร่างของตนเองเป็นยักษ์ใหญ่เพื่อเผชิญหน้ากับอวี้เหวินซิวเซียน และอาศัยวิชาควบคุมกาลเวลาทำให้เรือเหาะยังคงทรงตัวอยู่ได้
โจวเทียนอวิ๋นรีบตั้งสติอีกครั้ง
เขาระเบิดลำแสงสีทองซึ่งไม่ต่างจากแสงอาทิตย์เจิดจ้าออกมาจากร่างกาย
เมื่อแสงสีทองแผ่ขยายไปถึงบริเวณใด คลื่นพลังสีม่วงในบริเวณนั้นก็จะระเหยไปทันที
“ปีศาจร้าย บอกข้ามาว่าเจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”
โจวเทียนอวิ๋นขยายร่างจนใหญ่โต ผิวหนังกลายเป็นสีทอง พลังปราณแผ่หนาแน่น กำปั้นถูกชกออกไปข้างหน้าพร้อมด้วยคลื่นพลังสีทองคำสดใสที่ไม่ต่างจากแสงตะวันร้อนผ่าวซัดใส่ปีศาจผู้มีเรือนร่างงดงามนั้น
“ฮ่า ๆๆ …เสี่ยวโจว เจ้าคิดว่าข้าเป็นผู้ใดล่ะ?”
ปีศาจสาวหัวเราะในลำคอพลางหมุนมือเป็นวงกลม แล้วคลื่นวังน้ำวนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า คลื่นพลังทำลายล้างจากโจวเทียนอวิ๋นถูกดูดหายเข้าไปภายในน้ำวนนั้นหมดสิ้น
“ว่าไงนะ?”
โจวเทียนอวิ๋นพลันมีสีหน้าตกตะลึงสุดขีด
“เป็นท่าน ท่านยังไม่ตาย… ท่าน…”
ดูเหมือนเขาจะรู้ความลับบางประการ ดวงตาสีทองเป็นประกายสะท้อนใจวูบหนึ่ง
“เจ้าลืมไปแล้วหรือ?”
ปีศาจสาวยังคงหัวเราะในลำคอและกล่าวต่อไป “ในอดีต เจ้าเคยติดตามข้าและเรียกข้าว่าพี่สาวด้วยซ้ำ แต่บัดนี้เจ้ากลับเรียกข้าว่าปีศาจร้ายเสียแล้ว”
โจวเทียนอวิ๋นมีสีหน้าสับสนขึ้นในทันที “หากไม่ใช่เพราะท่าน พวกเราก็คง…”
“หุบปาก”
ปีศาจสาวตวาดน้ำเสียงดุดัน “เป็นนายท่านทรยศต่อข้าก่อน”
โจวเทียนอวิ๋นนิ่งเงียบ
ทันใดนั้น เขาก็กล่าวอีกครั้งว่า “ในเมื่อท่านยังไม่ตาย ท่านฟื้นคืนชีพแล้ว ก็จงหยุดสร้างปัญหาเถอะ หากนายท่านรู้เรื่องนี้เข้า ท่านต้องเดือดร้อนแน่ ๆ …ส่วนเหตุการณ์ในวันนี้ ข้าจะทำไม่รู้ไม่เห็นและปล่อยท่านไปก็แล้วกัน”
“ปล่อยข้าไปอย่างนั้นหรือ?”
ปีศาจสาวยิ้มอย่างเย็นชาอีกครั้ง “เจ้ารู้หรือไม่ว่ากว่าข้าจะกลับขึ้นมาจากหุบเหวนรกได้ ข้าต้องผ่านความทุกข์ทรมานมากมายเพียงใด และในเมื่อข้าได้กลับมาแล้ว ข้าจะไม่แก้แค้นได้อย่างไร? เสี่ยวโจว เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าในอดีตเจ้าเคยทำอะไรเอาไว้บ้าง?”
โจวเทียนอวิ๋นนิ่งเงียบไป
หลังจากนั้นอีกอึดใจใหญ่ เขาจึงได้กล่าวช้า ๆ ว่า “ข้าเพียงทำตามคำสั่งของนายท่าน ข้าจำเป็นต้องต่อสู้… ท่านกลับไปเถอะ บัดนี้ เผ่าพันธุ์มนุษย์มีทั้งความยิ่งใหญ่และความแข็งแกร่ง ท่านจะนำเผ่าพันธุ์ปีศาจกลับมาเสี่ยงอีกเพื่ออะไร? หากข้าเป็นท่าน ข้าจะไม่มีวันประกาศสงครามอีกเด็ดขาด”
“หากเป็นเช่นนี้… เสี่ยวโจว อย่าหาว่าพี่สาวใจร้ายต่อเจ้าก็แล้วกัน”
ปีศาจสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชามากขึ้น และด้านหลังของนางก็มีระยางที่มีลักษณะคล้ายกับหนวดหมึกงอกยาวออกมานับไม่ถ้วน เพียงแต่ว่าปุ่มดูดของหนวดหมึกเหล่านั้นถูกแทนที่ด้วยใบมีดแหลมคม บัดนี้ หนวดหมึกแผ่กระจายเต็มแผ่นฟ้าและกำลังพุ่งเข้ามาหาโจวเทียนอวิ๋น
สีหน้าของโจวเทียนอวิ๋นเคร่งเครียด เขาไม่กล้าประมาทอีกต่อไป
เมื่อโจวเทียนอวิ๋นรู้ตัวตนที่แท้จริงของฝ่ายตรงข้าม เขาก็ต้องรีบตั้งสมาธิมากกว่าเดิมหลายเท่า
เพราะหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขาผู้นี้ ในอดีตนางเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งแห่งเส้นทางดาราจักร แม้แต่องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็ยัง…
วูบ! วูบ! วูบ!
รัศมีแสงสีทองถูกระเบิดออกมาจากร่างกายของโจวเทียนอวิ๋นอย่างต่อเนื่อง เมื่อลำแสงของเขาอาบไล้ไปบนหนวดหมึกเหล่านั้น พวกมันก็ถูกเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านจนส่งหมอกควันสีม่วงลอยโขมง แต่เพียงพริบตาเดียว หนวดหมึกมรณะเหล่านั้นก็งอกคืนมาใหม่ พวกมันสามารถพุ่งผ่านลำแสงสีทองและเข้ามาประชิดตัวโจวเทียนอวิ๋นได้สำเร็จ
ใบมีดแหลมคมบนหนวดหมึกทิ่มแทงเข้าสู่ร่างกายของโจวเทียนอวิ๋น
โจวเทียนอวิ๋นร้องคำรามพร้อมกับระเบิดพลังปราณออกมา
แต่ในพริบตานั้น ร่างของเขาก็ถูกม้วนกลืนหายเข้าไปภายใต้ฝูงหนวดหมึก
ฮันปู้ฟู่เห็นดังนั้นก็ต้องตกตะลึงยิ่งนัก
แย่แล้วสิ!
เกิดปัญหาใหญ่แล้ว!!
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ยินว่าทั้งสองคนนั้นพูดคุยอะไรกัน แต่บัดนี้ โจวเทียนอวิ๋นได้ระเบิดพลังที่อยู่ในขอบเขตจอมเทพอนันต์ออกมา ทว่าเขาก็ยังตกเป็นรองปีศาจสาวผู้นั้นอยู่ดี… นับว่านางมีความแข็งแกร่งที่น่าหวาดกลัวเกินไป
เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้เหวินซิวเซียนต้องยิ้มออกมาด้วยความลิงโลดใจ
ในที่สุด นายหญิงก็ตัดสินใจแตกหักกับพวกของหลินเป่ยเฉินแล้วใช่หรือไม่?