เคล็ดมารสยบภพ - ตอนที่ 3 ผู้สืบทอดแห่งจอมมาร
เมื่อเฉินเสวี่ยนึกถึงเรื่องเล่าลือที่เคยได้ยินมาว่าผู้เฒ่าจูสวีเป็นขันทีเฒ่าจิตใจวิปริตที่มีความชอบที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างหนึ่งคือชอบเอาอวัยวะเพศของเด็กที่ถูกตอนเป็นขันทีไปตุ๋นกินเป็นยาบำรุง เขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัวขึ้นมาในทันที
“เจ้าขันทีวิปริต!อย่ามายุ่งกับบุตรชายข้า” เฉินปาทั่งเองก็นึกถึงข่าวลือเรื่องนั้นขึ้นมาได้เช่นกันจึงตะโกนออกมาด้วยความคลุ้มคลั่งอีกครั้ง
“ว่าอย่างไรล่ะท่านประมุขเฉิน ถ้าไม่อยากให้บุตรชายเพียงคนเดียวถูกตอนเป็นขันทีก็มอบชิ้นส่วนของแผนที่ขุมทรัพย์จักรพรรดิมาให้เราเสียโดยดี หาไม่แล้วเราไม่เพียงจะทำลายวรยุทธ์บุตรชายผู้มีพรสวรรค์ของท่าน แต่เรายังจะตอนเขาให้เป็นขันทีแล้วส่งเขาไปทำงานในหอเบญจมาศอีกด้วย ฮะๆ ๆ” ฮ่องเต้ข่มขู่ออกมาอย่างชั่วร้ายอีกครั้ง หอเบญจมาศที่ว่าก็คือหอนายโลมชื่อดังแห่งเมืองหลวงแคว้นเทียนซาน
“ข้าก็บอกแล้วว่าข้าไม่มีแผนที่อะไรที่ท่านว่า ได้โปรด ปล่อยบุตรชายของข้าไปเถิด” เฉินปาทั่งกล่าวขอร้อง น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาเป็นสีโลหิต รู้สึกสิ้นหวังถึงขีดสุด
“ในเมื่อพูดจากันดีๆ ไม่รู้เรื่อง เช่นนั้นก็เบิ่งตาดูชะตากรรมของบุตรชายสุดที่รักของท่านให้ดีๆ ล่ะ ฮะๆ ๆ” ฮ่องเต้กล่าวกลั้วหัวเราะ ส่งสัญญาณมือให้ขันทีเฒ่าลงมือจัดการเด็กหนุ่มได้ตามต้องการ
ผู้เฒ่าจูสวีหัวเราะด้วยความชอบอกชอบใจ จรดปลายนิ้วชี้ลงบนตำแหน่งจุดตันเถียนของเฉินเสวี่ยแล้วปล่อยพลังปราณเข้าไประเบิดจุดตันเถียนภายในร่างของเขาจนระเบิดกระจุย เด็กชายร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด พลังยุทธ์ที่ฝึกปรือมากว่าสิบปีและพลังปราณที่รวบรวมอยู่ในจุดตันเถียนต่างก็ระเหิดหายไปหมดในชั่วพริบตา เส้นลมปราณทั่วทั้งร่างถูกทำลายจนกลายสภาพเป็นคนพิการ เจ็บปวดเจียนตายแต่ก็ยังคงมีสติรับรู้ถึงกรงเล็บแหลมคมของขันทีวิปริตที่กำลังกรีดกระชากพวงอวัยวะเพศของตนออกไปในคราเดียว ร่างของเขากระตุกเฮือก ดวงตาเบิกถลนด้วยความเจ็บปวดสุดขีดเกินกว่าที่เด็กหนุ่มอายุสิบสี่ปีคนหนึ่งจะรับได้ จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับวูบลงในพริบตา ร่างของเขาถูกโยนราวกับเป็นผ้าขี้ริ้วเก่าๆ ลงไปนอนคว่ำในแอ่งน้ำวงกลมตรงกลางห้อง
เฉินเสวี่ยจมดิ่งลงสู่ความมืดมิดที่ไร้ก้นบึ้ง เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปยาวนานเพียงใด เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นเพียงความมืดมิดรอบตัว ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบงันไร้สรรพสำเนียงใดๆ จนเขามึนงงอยู่ครู่ใหญ่จำไม่ได้ว่าตนอยู่ที่ไหน ก่อนจะจดจำได้ทีละนิดว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับตนและคนในครอบครัวขึ้นบ้าง เส้นลมปราณที่ถูกฉีกทำลายทั่วทั้งร่างยังคงส่งผลให้เขาเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัส แต่มันก็ยังไม่เจ็บปวดเท่ารอยแผลที่อยู่ลึกภายในใจ นึกถึงบิดามารดาที่มักจะพร่ำสอนให้เขาเป็นคนดี และขยันฝึกยุทธ์เพื่อเอาไว้ช่วยเหลือผู้อื่น นึกถึงน้องสาวตัวน้อยที่ทั้งร่าเริงทั้งไร้เดียงสา ทุกๆ คนที่เขารักกลับต้องมาถูกพวกคนชั่วทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม เขาไม่เข้าใจสักนิดว่าพวกตนจะเป็นคนดีไปเพื่ออะไร ตอนนี้เขาตระหนักได้แล้วว่าต่อให้เป็นคนดีสักแค่ไหน หากไร้ซึ่งกำลังจะปกป้องตัวเอง วันหนึ่งก็ต้องถูกพวกคนชั่วข่มเหงรังแกอยู่ดี เช่นนั้น ใยตนมิสู้เป็นคนชั่วไปเสียเลยเล่า ตนจะได้เป็นฝ่ายรังแกผู้อื่นได้บ้าง เฉินเสวี่ยส่งเสียงคำรามด้วยความคับแค้นล้ำลึก เขาสาบานเลยว่าต่อให้ต้องขายวิญญาณให้กับปีศาจ เขาก็จะกลับไปแก้แค้นทุกคนที่มันร่วมกันทำร้ายครอบครัวของเขาให้สาสมกับความชั่วที่พวกมันกระทำลงไป
เด็กชายกรีดร้องคำรามโหยหวนออกมาอย่างคลุ้มคลั่ง น้ำตาผสมเลือดสีแดงสดไหลรินจากหางตาเป็นทาง จิตใจที่เคยใสสะอาดดีงามได้ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำมืดลงเพราะความอาฆาตแค้น ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นดวงแสงสีฟ้านวลใสกระจ่างดวงหนึ่งลอยช้าๆ มาหยุดอยู่เบื้องหน้าตน
“อา…ในที่สุดผู้สืบทอดของจอมมารเช่นข้าก็ปรากฏตัวออกมาเสียที ข้ารอเจ้ามานานมากจนเกือบจะรอไม่ไหวเสียแล้ว โชคดีที่เจ้ายังมาได้ทันก่อนที่จิตสุดท้ายของข้าจะดับสูญไป” เสียงแหบพร่าเย็นยะเยียบจนน่าขนลุกเสียงหนึ่งดังออกมาจากดวงแสงสีฟ้านั้น
“…..” เฉินเสวี่ยได้ยินเสียงนั้นก็พลันค่อยๆ ได้สติ เขาเบิกตาจ้องมองดวงแสงสีฟ้านั้นด้วยความงุนงง
“เด็กน้อย เจ้ายินดีเป็นผู้สืบทอดของจอมมารเช่นข้าหรือไม่” เสียงนั้นเอ่ยถามเฉินเสวี่ย
สมองที่ยังคงมึนงงเพราะความเจ็บปวดของเฉินเสวี่ยต้องใช้เวลาครู่ใหญ่ในการทำความเข้าใจกับเสียงที่ถามออกมานั้น หรือว่า… ดวงแสงสีฟ้านี้คือดวงจิตสุดท้ายของเทพยุทธ์มารจันทราวารีเจ้าของสุสานแห่งนี้?! เด็กชายเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึงและเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
“ขอเพียงให้ข้าสามารถกลับไปแก้แค้นพวกชั่วช้าที่ทำลายครอบครัวของข้าได้ ข้ายินดีทำทุกอย่าง” เด็กชายตอบออกไปด้วยดวงตาวาวโรจน์
“ฮะๆ ๆ ๆ ดีมาก หลังจากเจ้าได้สืบทอดเคล็ดวิชาจันทราวารีของข้าจอมมารผู้นี้แล้ว เจ้าย่อมจะมีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ เรื่องการแก้แค้นเหล่านั้นย่อมจะกลายเป็นเรื่องง่ายดายราวพลิกฝ่ามือเท่านั้น เอาล่ะ จงอ้าปากขึ้นและกลืนกินหยดเลือดจากหัวใจของข้าจอมมารผู้นี้ลงไปซะ แล้วต่อจากนี้ไปเจ้าก็จะกลายเป็นจอมมารจันทราวารีรุ่นที่สิบห้า”
หยดน้ำใสแจ๋วสีฟ้าอ่อนขนาดประมาณหัวแม่มือถูกกลั่นออกมาจากดวงแสงเบื้องหน้าของเฉินเสวี่ยแล้วค่อยๆ ลอยเข้าไปในปากที่อ้ารอรับของเขา มันมีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นดอกท้อชวนมึนเมาและมีรสหวานอ่อนๆ อีกทั้งยังแฝงพลังปราณที่เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งพันปีอยู่ภายใน แต่เฉินเสวี่ยก็กลืนมันลงไปโดยไร้ซึ่งความลังเล ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ เขาจะไม่มีวันเสียใจ ขอเพียงให้ตนได้มีชีวิตอยู่เพื่อการแก้แค้นเท่านั้น
เมื่อหยดเลือดหอมหวานและเย็นเยียบไหลลงไปสู่กระเพาะของเฉินเสวี่ย ความเย็นสบายขุมหนึ่งก็ค่อยๆ แผ่กระจายไปตามเส้นลมปราณและไปกระจุกรวมตัวกันที่จุดตันเถียนที่ถูกทำลายของเขา ราวกับว่ามันกำลังชำระล้างร่างกายที่บาดเจ็บภายในให้ค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นทีละนิดๆ ความเจ็บปวดทั่วร่างค่อยๆ บรรเทาลง ความเบาสบายค่อยๆ เข้ามาแทนที่จนเฉินเสวี่ยผล็อยหลับไปอีกครา
เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เฉินเสวี่ยก็รู้สึกได้ถึงความเบาสบายของร่างกายตน จนชักจะไม่แน่ใจเสียแล้วว่าเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านมาเป็นเรื่องจริงหรือความฝันกันแน่ เขากะพริบตาปริบๆ ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วก้มลงมองร่างกายของตนเอง แม้ว่าทุกสิ่งรอบตัวยังคงอยู่ในความมืดมิดเช่นเดิมแต่เขากลับพบว่าบัดนี้ดวงตาของตนสามารถมองเห็นได้ในที่มืด แม้ว่ามันจะไม่ชัดเจนเท่ากับตอนที่มีแสงสว่างปกติแต่ก็สามารถแยกแยะสิ่งของรอบตัวได้โดยง่าย แวบแรกที่ก้มลงเห็นสภาพที่เป้ากางเกงด้านหน้าของตนที่ฉีกขาดและรอยเลือดที่ยังคงนองชุ่มส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งอยู่ตรงหว่างขาของตนจึงค่อยแน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในความทรงจำเป็นเรื่องจริงทั้งหมด เขานั่งแช่อยู่กลางแอ่งน้ำวงกลมตรงกลางห้อง เลือดที่ไหลออกมาจึงย้อมจนน้ำในแอ่งแห่งนี้กลายเป็นสีแดงจนดูน่าสยดสยอง นี่หาใช่เป็นเพียงฝันร้ายตื่นหนึ่งไม่ สายตาของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาอำมหิตขึ้นมาโดยพลัน เขากวาดสายตาเยือกเย็นไร้อารมณ์มองดูร่างกายตนเองอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วก็พบว่าไม่มีร่องรอยของบาดแผลใดๆ และแม้แต่อวัยวะเพศที่ถูกควักออกไปบัดนี้ก็ได้งอกออกมาใหม่แถมยังมีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิมถึงสองเท่า เด็กชายระบายลมหายใจที่เผลอสะกดกลั้นเอาไว้ออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนหน้าเขาแค่คิดว่าขอเพียงให้ได้มีชีวิตรอดเพื่อกลับไปแก้แค้นก็พอเพียงแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งจะรู้ว่าที่แท้แล้วการได้มีชีวิตรอดพร้อมกับมีร่างกายสมบูรณ์ครบสามสิบสองมันช่างดีกว่าเป็นไหนๆ หากมิใช่เห็นว่าอวัยวะเพศของตนมีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิมมาก เขาคงจะคิดว่ามันไม่เคยถูกคนควักออกไปเป็นแน่เพราะความรู้สึกตรงบริเวณนั้นยังคงเป็นปกติราวกับมันเป็นอวัยวะที่มีติดตัวเขามาแต่กำเนิดหาใช่สิ่งที่งอกออกมาใหม่เช่นนี้ ไม่ไกลจากตัวเขานัก มีศพของบิดามารดาและน้องสาวของเขาที่นอนตายอย่างอนาถอยู่ที่มุมห้อง เฉินเสวี่ยถลันเข้าไปกอดร่างของพวกเขาและกรีดร้องจนตัวโยน ยังคงไม่อยากเชื่อว่าทุกคนในครอบครัวของตนล้วนตายตกไปทั้งอย่างนี้
หลังจากจมอยู่ในความเศร้าและความแค้นกว่าครึ่งค่อนวัน ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ ได้สติคืนมาอีกครั้ง เขาลากร่างของคนในครอบครัวไปไว้รวมกันแล้วก็ทรุดตัวนั่งลงเพื่อสำรวจร่างกายตนเองอีกครั้ง เริ่มจากหลับตาตั้งสมาธิส่งจิตเข้าไปสำรวจที่จุดตันเถียนและเส้นลมปราณในร่างตน พบว่าพวกมันถูกซ่อมแซมจนหายดีแล้วและถึงกับมีขนาดที่ถ่างกว้างกว่าเดิมถึงสิบเท่า แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าภายในไม่มีกระแสพลังปรานไหลเวียนอยู่เลยแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว ความรู้สึกที่ต้องกลับมาเริ่มต้นฝึกยุทธ์ใหม่ตั้งแต่ต้นจากขั้นรวบรวมลมปราณนี่มันช่างน่าขมขื่นยิ่งนัก เขาส่ายหน้าสลัดความหดหู่ในใจออกไป ปลอบตนเองว่าต่อให้แก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ในเมื่อตอนนี้ตนไม่ใช่คนพิการอีกต่อไปแล้ว ขอเพียงขยันฝึกยุทธ์ให้มากกว่าคนอื่นสักหน่อย สักวันหนึ่งตนก็จะมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะไปแก้แค้นให้ทุกคนในครอบครัวได้เอง
หลังจากส่งจิตเข้าไปสำรวจทั่วร่างตน เฉินเสวี่ยพบว่าภายในหัวตนเองปรากฏเคล็ดวิชาและรายละเอียดของเคล็ดวิชาบันทึกเอาไว้
‘เคล็ดจันทราวารี เป็นทักษะยุทธ์ธาตุน้ำ ระดับจักรวาลขั้นต้น
ผู้ที่จะฝึกได้จะต้องมีกายามารหรือเรียกอีกอย่างว่ามีเป็นผู้ที่มีพลังปราณธาตุน้ำที่บริสุทธิ์เท่านั้น และก่อนจะรับถ่ายทอดเคล็ดวิชานี้ จำต้องถูกทำลายจุดตันเถียนและเส้นลมปราณทั่วทั้งร่างก่อนจึงจะรับสืบทอดเคล็ดวิชานี้ได้
เคล็ดวิชาจันทราวารี หาใช่เคล็ดวิชาสำหรับเพิ่มพลังฝีมือในต่อสู้ดังเช่นทักษะยุทธ์ทั่วไป แต่เป็นเคล็ดที่ช่วยให้ผู้ฝึกยุทธ์มีร่างกายที่ฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว และช่วยในการดูดซับพลังปราณธาตุน้ำเข้าสู่ร่างกายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และแม้ว่าจะไม่ได้ช่วยเพิ่มพลังฝีมือในการต่อสู้ แต่เคล็ดวิชานี้กลับสามารถใช้ออกเพื่อควบคุมร่างกายหรือจิตวิญญาณของผู้อื่นได้ จึงได้ถูกจัดให้เป็นทักษะยุทธ์ระดับจักรวาลขั้นต้น
เคล็ดวิชาจันทราวารีแบ่งย่อยตามระดับความง่ายไปหายากได้ 5 เคล็ดคือ
จันทราพิสุทธิ์ เมื่อใช้ออก จะสามารถดูดซับกระแสปราณธาตุน้ำในธรรมชาติเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็วไร้ขีดจำกัด แต่ทุกครั้งหลังจากใช้เคล็ดนี้ จะต้องทำการถ่ายกากพลังปราณส่วนเกินเข้าสู่ร่างของผู้อื่น มิเช่นนั้นตนเองจะต้องตายเพราะพลังปราณในร่างระเบิด ข้อควรระวัง ร่างกายของผู้ที่จะมารับการถ่ายกากพลังปราณส่วนเกินนี้ควรจะมีความแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป หาไม่แล้วหลังจากได้รับถ่ายกากพลังปราณเหล่านี้เข้าไปในร่าง เส้นลมปราณทั่วร่างอาจระเบิดจนทำให้พิการหรือเสียชีวิตในทันที
วารีผสานหยินหยาง เป็นเคล็ดสำหรับดูดพลังปราณจากร่างของผู้อื่นมาเสริมพลังปราณในร่างตนเอง ข้อจำกัดคือ สามารถใช้เคล็ดนี้ได้ในยามผสานหยินหยางเท่านั้น และจะดูดได้เฉพาะพลังปราณธาตุน้ำเพียงธาตุเดียวไม่สามารถดูดกลืนพลังปราณธาตุอื่นได้ เมื่อใช้เคล็ดนี้ออกไปแล้ว พลังปราณที่ได้รับมาจะบริสุทธิ์และหนาแน่นยิ่งกว่าพลังปราณจากธรรมชาติหลายเท่า ส่วนผู้ที่ถูกดูดซับพลังปราณไปจะสูญสิ้นพลังปราณธาตุน้ำในร่างไปจนหมดและไม่มีวันเรียกกลับคืนมาได้อีกเลยตลอดชีวิต
ตราผนึกจันทราวารี เมื่อใช้เคล็ดนี้จะสามารถผนึกร่างมนุษย์หรือสัตว์ให้แข็งค้างได้เป็นเวลา 1-30 นาที โดยจะผนึกได้นานเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับความห่างชั้นของพลังฝีมือของผู้ใช้เคล็ดวิชากับผู้ที่ถูกผนึก
รอยโลหิตวารีสะกดวิญญาณ ใช้สำหรับฝังรอยโลหิตวารีลงบนวิญญาณของผู้อื่น เพื่อให้กลายมาเป็นทาสรับใช้ของตน โดยจะต้องใช้โลหิตวารี 1 หยดต่อการฝังรอยโลหิตวารีให้กับมนุษย์ 1 คน และโลหิตวารี 2 หยดต่อสัตว์อสูร 1 ตัว ผู้ที่ถูกฝังรอยโลหิตวารีจะกลายมาเป็นทาสรับใช้ที่ซื่อสัตย์และไม่มีวันทรยศต่อเจ้าของหยดโลหิตวารีตลอดชีวิต ส่วนการสร้างหยดโลหิตวารีนั้นจะเริ่มกลั่นจากโลหิตที่หัวใจของผู้ถือครองเคล็ดวิชาจันทราวารีได้ก็ต่อเมื่อผู้ฝึกเคล็ดวิชาจันทราวารีบรรลุถึงเขตขั้นนักยุทธ์ 8 ดาวขึ้นไป
มายาจันทราวารี เป็นเคล็ดในการสร้างภาพมายาให้ผู้อื่นเห็น โดยภาพมายาเหล่านี้จะสมจริงและคงเวลาไว้ได้ยาวนานเพียงใด ขึ้นอยู่กับเขตขั้นของผู้ใช้เคล็ดวิชานี้
ประโยชน์แฝงของเคล็ดวิชา
มีความสามารถในการมองเห็นในที่มืด ยิ่งฝึกได้ถึงระดับสูงจะยิ่งมองเห็นในที่มืดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
หากร่างกายได้ดูดซับพลังปราณในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวันแล้วละก็ แม้จะไม่ดื่มน้ำหรือกินอาหารใดๆ ก็จะยังคงรู้สึกอิ่มและมีชีวิตตามปกติได้
ร่างกายเปลี่ยนเป็นกึ่งอมตะ คือถึงแม้ว่าร่างกายจะยังคงเปราะบางและบาดเจ็บได้เช่นเดียวกับมนุษย์ธรรมดาที่ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ แต่จะสามารถซ่อมแซมอาการบาดเจ็บได้ด้วยตนเองอย่างรวดเร็ว อวัยวะทุกส่วน—ยกเว้นศีรษะและหัวใจ–สามารถงอกออกมาใหม่ได้สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าของเดิม และหากฝึกได้ถึงขั้นปรมาจารย์ยุทธ์ขึ้นไป จะสามารถชะลอวัยและทำให้มีอายุขัยยืนยาวขึ้นตามลำดับดังนี้
ปรมาจารย์ยุทธ์ อายุขัยเฉลี่ย150-200 ปี
ราชันยุทธ์ อายุขัยเฉลี่ย 300-500 ปี
จักรพรรดิยุทธ์ อายุขัยเฉลี่ย 700-1000 ปี
เทพยุทธ์ อายุขัยเฉลี่ย 5000 ปี
แต่ถ้าถูกตัดศีรษะหรือหัวใจถูกทำลายก็จะตายได้เช่นเดียวกับคนปกติ
ผลกระทบข้างเคียงของเคล็ดวิชา
ช่วงแรกเริ่มของการฝึก ในเขตขั้นรวบรวมปราณ ร่างกายของผู้ฝึกเคล็ดวิชานี้จะเปลี่ยนแปลงเพศไปตามพลังของดวงจันทร์บนท้องฟ้า คือเมื่อดวงจันทร์มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ครึ่งเสี้ยวขึ้นไป ผู้ฝึกจะกลายร่างเป็นเพศชาย และเมื่อดวงจันทร์มีขนาดเล็กกว่าครึ่งเสี้ยวลงมาจะกลายร่างเป็นเพศหญิง เมื่ออยู่ในเพศชายจะสามารถดูดซับปราณจากธรรมชาติโดยใช้เคล็ดจันทราพิสุทธิ์ได้เพียงอย่างเดียว ส่วนเมื่ออยู่ในเพศหญิงจะสามารถดูดพลังปราณจากผู้อื่นตามเคล็ดวารีผสานหยินหยางได้เพียงอย่างเดียว
เมื่อผู้ฝึกสามารถยกระดับพลังยุทธ์ของตนให้สูงขึ้น จะสามารถกำหนดเพศของตนเองให้เป็นไปตามที่ใจต้องการได้นานขึ้นไปตามลำดับ
และเมื่อมีพลังยุทธ์สูงขึ้นไปถึงระดับราชันยุทธ์ ช่วงเวลาที่ไม่สามารถควบคุมการเปลี่ยนเพศของตนเองได้จะเหลือเพียงเฉพาะในคืนจันทร์เพ็ญและคือจันทร์ดับเท่านั้น
ต่อเมื่อบรรลุถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์ขึ้นไป จึงจะสามารถกำหนดเพศของตนเองได้ตามแต่ใจปรารถนาโดยไม่ขึ้นกับพลังของดวงจันทร์อีกต่อไป
เมื่อเฉินเสวี่ยรับทราบข้อมูลของเคล็ดวิชาจันทราวารีมาจนถึงตรงนี้ เขาก็ถึงกับขมวดคิ้ว แสดงว่านับจากนี้ไปจนกว่าตนจะบรรลุถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์ จะต้องทนอยู่ในสภาพกึ่งชายกึ่งหญิงไปตลอดสินะ ช่วงหลายพันปีมานี้ในโลกยังไม่เคยมีใครบรรลุได้ถึงระดับจักรพรรดิยุทธ์เลยสักคน คำว่าจักรพรรดิยุทธ์ที่ว่าจึงแทบจะกลายเป็นนิทานปรัมปราไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่มั่นใจเลยสักนิดว่าตนเองจะบรรลุได้ถึงขั้นนั้นหรือเปล่า หากต้องตกอยู่ในสภาพกึ่งหญิงกึ่งชายเช่นนี้ไปตลอดชีวิตก็ช่างเป็นเรื่องที่ชวนกระอักกระอ่วนใจจริงๆ
แต่…เครียดไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ไม่นานเขาก็ทำใจได้ คิดในใจว่าขอเพียงตนสามารถพัฒนาฝีมือให้สูงขึ้นเพื่อกลับไปแก้แค้นได้ เท่านั้นก็พอแล้ว ต่อให้ร่างกายนี้จะเปลี่ยนสภาพเป็นหญิง เป็นขันที เป็นสัตว์ หรือกระทั่งเป็นมารปีศาจเขาก็หาได้สนใจไม่!