เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 621 นางคือเจ้านายของเจ้า
- Home
- เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย
- บทที่ 621 นางคือเจ้านายของเจ้า
บทที่ 621 นางคือเจ้านายของเจ้า
…………….
เจียงจือหวยรู้สึกว่าหากเขาออกแรงเพียงเล็กน้อย ก็สามารถหักกระดูกของเจ้าก้อนแป้งได้แล้ว
ทว่าเสี่ยวเกอเอ๋อร์เกิดความสนใจผมสีขาวของเขาเป็นอย่างมาก จึงยื่นมือกลมป้อมออกไปเพื่อดึงผมของเขา
เจียงจือหวยจ้องหน้านาง
“ข้าขอสั่งให้เจ้าหยุดซะ”
เสี่ยวเกอเอ๋อร์ ไม่ฟัง ๆ
เมื่อเห็นเจ้าเด็กน้อยมีใบหน้าบูดบึ้ง เขาก็ต้องเป็นฝ่ายยอมศิโรราบ
คำสั่งของเจียงจือหวยไม่เกิดผล ดังนั้นจึงปล่อยให้นางจับเอาไว้
“ว้าว!” ผมยาวสีขาวของเขาถูกนางรวบไว้ในอ้อมแขน พลางกรีดร้องเสียงดังด้วยความตื่นเต้น และยังปรบมืออย่างชอบใจ
เจียงจือหวยขมวดคิ้ว ก่อนจะดีดนิ้ว
องครักษ์เงาหลายคนก็ปรากฏตัวขึ้นทันที
“ไป เตรียมของกินมา เอาที่สามารถทำให้เด็กคนนี้กินแล้วโตขึ้นได้เลยยิ่งดี”
องครักษ์เงาหลายคนมองหน้ากัน
เอ่อ…
เกรงว่ากินอะไรก็ไม่สามารถทำให้โตขึ้นทันหูทันตาได้กระมังขอรับ
ทุกคนต่างมองดูว่าที่ประมุขน้อยจนเป็นตาเดียว
ช่างเถอะ ไปเอานมแพะมาให้ก็คงได้แล้วกระมัง!
ทว่าเสี่ยวเกอเอ๋อร์กินจากที่บ้านมาอิ่มแล้วก่อนออกมา พุงน้อย ๆ กลมแน่นอย่างมาก
พอเล่นผมเบื่อแล้วก็เริ่มเล่นคิ้ว พอเล่นคิ้วเบื่อแล้วก็ไปจับใบหูของเขาต่อ
เมื่อเล่นจนเหนื่อยแล้ว ก็ผล็อยหลับไปบนหน้าอกของเจียงจือหวย
แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของสำนักหลัวซาขึ้นมา เจ้าเด็กคนนี้ดูไม่ค่อยจะฉลาดเท่าใดนัก
อีกทั้งยังไม่กลัวคนแปลกหน้าด้วย
ไม่ว่าใครก็สามารถอุ้มไปได้ทั้งนั้น ไม่ปลอดภัย ไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง
เจียงจือหวยคิดถึงตรงนี้ ก็วางแผนที่จะนำเคล็ดวิชาอมตะภายในสำนักออกมา เหมาะที่จะฝึกฝนตั้งแต่อายุยังน้อย อย่างน้อยก็เพื่อให้เจ้าก้อนแป้งสามารถปกป้องตัวเองได้ในภายภาคหน้า
ขณะที่เขากำลังจะหิ้วเจ้าก้อนแป้งขึ้นมา ก็ได้กลิ่นที่ยากจะอธิบายได้กลิ่นหนึ่ง
เจียงจือหวยไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะได้กลิ่นกลิ่นนี้!?
ความสง่างามและบริสุทธิ์ผุดผ่องของเขาหายไปในพริบตา!
เป็นผู้ใดกัน!
ผู้ใดที่ลอบกัดข้า!
ความรู้สึกเหนอะหนะทำให้เสี่ยวเกอเอ๋อร์ไม่สบายตัว นางบิดตัวไปมา จากนั้นก็เบะปากร้องไห้ “ถ่ายเหม็น ๆ!”
ถ่ายเหม็น ๆ หมายความว่าอย่างไร!?
ในที่สุดองครักษ์เงาก็ทนมองต่อไปไม่ไหว จึงชะโงกหน้าออกมา “เด็กจะอึจะฉี่แล้วขอรับ ท่านต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมให้นางขอรับ”
เจียงจือหวยเข้าใจได้ทันที!
เขาเริ่มรู้สึกรังเกียจทายาทผู้นี้แล้ว
ประมุขคนต่อไปของสำนักหลัวซาต้องคอยให้คนเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เขาจะมองหน้าคนอื่นได้อย่างไรกัน
ทว่าตอนนั้นเองก็มีเด็กหนุ่มชุดดำคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าประตู ในมือถือดาบโค้งที่ได้รับมาจากเจียงจือหวย รวมถึงมีผมสีเงินเช่นเดียวกับเขา แต่เห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มคนนั้นมีรูปลักษณ์ที่ต่างออกไป เพราะดวงตาของเขาเป็นสีม่วง ผิวของเขาขาวมาก และดูเหมือนอายุยังน้อย ทว่ากลับมีเสน่ห์ล่อลวงใจคนอย่างเหลือร้าย
เจียงจือหวยกระแอมเล็กน้อย “ฮั่วจิ่วเซียว”
เด็กหนุ่มได้ยินดังนั้น ก็มองไปทางเจียงจือหวยเล็กน้อย จากนั้นก็มองเจ้าก้อนแป้งที่เจียงจือหวยหิ้วเอาไว้
เจียงจือหวยไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบโยนเจ้าก้อนแป้งให้เขาทันที “ต่อไปนางก็คือนายของเจ้า เป็นนายของสำนักหลัวซา พ่อเจ้าส่งเจ้ามาเรียนรู้วิชา บทเรียนแรกที่ข้าจะสอนเจ้าก็คือการเลี้ยงนาง”
เด็กหนุ่มกับเผยอวิ่นเกอมองหน้ากัน
อาจเป็นเพราะเมื่อครู่ได้หมุนตัวกลางอากาศ เสี่ยวเกอเอ๋อร์จึงชอบมาก แม้ใบหน้าของนางจะยังเลอะคราบน้ำตาอยู่ แต่กลับชูมือเล็ก ๆ ขึ้นมาตบเปาะแปะ
เด็กหนุ่มมองดูนางด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง จากนั้นก็มีเสียงน้ำไหลพร้อมกับเสื้อผ้าที่ค่อย ๆ เปียกชื้น และมีน้ำหยดลงมาที่พื้น
เสี่ยวเกอเอ๋อร์สูดน้ำมูกอย่างแรง สีหน้าเย็นชาของเด็กหนุ่มก็พลันเปลี่ยนไป
และ…เจียงจือหวยก็ได้หายตัวไปแล้ว
…
ทางด้านนี้ อาชิงล้วงกู่ค้นหาออกมา ต้องปีนข้ามกำแพงบ้านตั้งหลายหลัง เกือบทำให้นกกระจอกที่กำลังฟักไข่ตกใจจนจะจิกเขาอยู่แล้ว กว่าจะตามหาเจียงจือหวยเจอ
เหล่าองครักษ์เงาต่างก็รู้ว่าเขาเป็นใคร ดังนั้นจึงไม่มีใครเข้ามาขวาง
เพราะหากเขายังไม่มาอีกละก็ เกรงว่าฮั่วจิ่วเซียวคงจะถือดาบไล่ฟันคนแล้ว
ทว่าเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้โหยหวนของน้องสาว ก็ทำให้เขาจินตนาการถึงการลงโทษที่น่ากลัวที่สุดขึ้นมาได้!
มีคนทำเรื่องโหดร้ายเช่นนี้กับเจ้าก้อนแป้งผู้น่ารักได้อย่างไรกัน! คนผู้นั้นต้องควักดวงตาที่ล้ำค่าของน้องสาวเขาออกมาอย่างแน่นอน จากนั้นก็คงตัดแขนขาของนางแล้วเอาไปเป็นขอทานที่ถนน!
น่าโมโหยิ่งนัก!
อาชิงถีบประตูห้องที่มีเสียงของน้องสาวเขาดังออกมา แล้วโยนงูหนึ่งงูสองออกไป
“โจรสุนัข! ปล่อยน้องสาวข้าเดี๋ยวนี้!”
ทว่าฮั่วจิ่วเซียวไม่ได้หันกลับไปมองแต่อย่างใด เพียงโยนดาบโค้งออกไปส่ง ๆ งูทั้งสองตัวต่างก็พุ่งตัวหลบ ก่อนจะร่วงลงบนพื้นและจ้องมองฮั่วจิ่วเซียวอย่างหวาดระแวง
อาชิงหรี่ตาลง “เป็นวรยุทธ์ด้วยอย่างนั้นหรือ!?”
“เจ้าเด็กผมขาว วางน้องสาวข้าลง ได้ยินหรือไม่!?”
ฮั่วจิ่วเซียวหรี่ตาลง “เจ้าเป็นพี่ชายนางหรือ?”
“หากไม่ใช่ข้าแล้วจะเป็นใครกัน!”
ฮั่วจิ่วเซียวไม่พูดพร่ำทำเพลง เก็บดาบโค้งในมือลงทันที ก่อนยัดคนใส่อ้อมแขนของอาชิง “ขอลา”
เจ้านายที่อึได้ ตอนนี้เขายังไม่ต้องการ รอนางไม่อึแล้วค่อย…
ทว่าฮั่วจิ่วเซียวยังเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าว ก็ถูกเจ้าก้อนแป้งคว้าผมเอาไว้เสียก่อน
เผยอวิ่นเกอชะโงกหน้าออกมา “เกอ ๆ ๆ!”
อาชิงอุ้มน้องสาวเอาไว้แล้วยังต้องระวังเจ้าเด็กผมขาวนั่นด้วย สุดท้ายจึงตัดสินใจวางเด็กน้อยลงบนเตียงชั่วคราวด้วยความเอือมระอา “เจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้นะ ไปหาผ้าอ้อมมาให้ข้าที ที่นี่เป็นที่ผีสางอะไรกัน ข้าขอเตือนว่าให้เจ้าพูดความจริงมาซะ หากไม่พูดละก็ แม้แต่ไก่หรือสุนัขที่อยู่ที่นี่ข้าก็จะไม่ละเว้น!”
ฮั่วจิ่วเซียวก็ไม่คิดจะปิดบัง จึงเอ่ยตอบเสียงเย็นชาว่า “สำนักหลัวซา”
มือของอาชิงชะงักไปทันที “ตาเฒ่าเจียงนั่นประสาทหรืออย่างไร อยากเห็นหน้าเด็กเหตุใดต้องขโมยมาเช่นนี้ด้วย ส่วนเจ้าก็รีบไปหาผ้าอ้อมมาให้ข้าได้แล้ว”
ทว่าฮั่วจิ่วเซียวกลับยืนนิ่งไม่ยอมขยับ “ผ้าอ้อม…หน้าตาเป็นเช่นไร?”
อาชิงถอดกางเกงในของเสี่ยวเกอเอ๋อร์ จากนั้นก็ดึงผ้าผืนหนึ่งออกมา ฮั่วจิ่วเซียวถึงกับถอยหลังกรูด
“หน้าตาเป็นเช่นนี้ ไม่เห็นหรือว่าเด็กอึจนเลอะไปหมดแล้ว เลี้ยงไม่เป็นแล้วจะขโมยมาทำไมกัน!?” อาชิงยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห
ฮั่วจิ่วเซียวจึงไปค้นดูในห้องเก็บของ ก่อนจะเอาผ้าบรรณาการที่คนอื่นส่งมาให้ออกมาหนึ่งพับ แล้วกลับไปที่ห้องนั้นอย่างรวดเร็ว
อาชิงก็กำลังกล่อมน้องสาวอยู่ เห็นเขาเอาผ้าพับหนึ่งกลับมาด้วย ก็ดึงไปดึงมาและม้วนไปม้วนมา พอทำเป็นผ้าอ้อมได้ชั่วคราว
“เอาละ ไว้พบกันใหม่ เตือนตาเฒ่าเจียงด้วยว่าห้ามแอบพาน้องสาวข้ามาอีก!”
อาชิงเอ่ยจบก็เตะปลายเท้าลงกับพื้นเพื่อกระโดดออกไป ขณะที่เจ้าก้อนแป้งก็ยื่นมือเล็ก ๆ ออกไปโบกไปมาให้ฮั่วจิ่วเซียว
ส่วนฮั่วจิ่วเซียวที่ยังคงยืนอยู่ในลานบ้าน เห็นเขากระโดดขึ้นไปบนชายคาจากนั้นก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว
เจ้านาย…เจ้านายของเขาหรือ…
…
ตอนกลางคืน อาชิงที่ยุ่งมาทั้งวันก็หลับสนิทอยู่บนเตียง เผยยวนจึงได้วางลูกสาวตัวน้อยที่อาบน้ำจนหอมฟุ้งลงบนเปล คิดจะเข้าไปกอดภรรยาบ้าง ก็สังเกตเห็นว่ามือเล็ก ๆ ที่กลมป้อมของลูกสาวเดี๋ยวกำเดี๋ยวแบ ปากก็พึมพำออกมาว่า “เกอ ๆ น้อย~ เกอ ๆ น้อย~”
เผยยวน เมานมหรือ?
.
.
.
…………….