เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 555 ซูมู่ชิงหายป่วยแล้ว!
ตอนที่ 555 ซูมู่ชิงหายป่วยแล้ว!
ณ เรือนสี่ประสานของซูมู่ชิงในเมืองหลวง
ซูมู่ชิงและฉินหงเหยียนจับมือกัน ช่วยกันรดน้ำต้นไม้ ในบ้าน รอยยิ้มที่เปี่ยมสุขแต่งแต้มบนใบหน้าของหญิงสาวหน้าตาสะสวยสวยสองคน ดูไปแล้วพวกหล่อนน่าจะสนิทสนมกันดี
ในสวนมีกระเป๋าเดินทางสีแดงที่น่าจะเป็นของฉินหงเหยียน
ซูมู่ชิงกล่าวพลางระบายยิ้ม “พี่หงเหยียนคะ วันนี้เย่เฉินก็จะกลับมาแล้วนะคะ ไม่ต้องนอนโรงแรมเลยค่ะ นอนที่บ้านฉันเถอะนะ”
ตั้งแต่ฉินหงเหยียนมาที่เมืองหลวงก็พักที่โรงแรมมาโดยตลอด
ฉินหงเหยียนรู้สึกขัดเขินจึงกล่าว “นี่… ไม่ค่อยดีมั้ง?”
ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะสนิทสนมกับเป็นเหมือนพี่น้องไปกลายๆ แล้ว ในระยะเวลาสองวันนี้พวกหล่อนก็ทำความรู้จักกันแล้วรู้สึกดีกับฝ่ายตรงข้าม
แต่ถ้าจะให้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ฉินหงเหยียนก็ยังจะเกรงใจหญิงสาวอยู่ไม่น้อย
นั่นเพราะฉินหงเหยียนเป็นผู้บริหารหญิงที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอด ถ้าหากว่าที่เป็นบ้านของตระกูลเย่ หล่อนอาจจะยังพอทำใจยอมรับได้
แต่ที่นี่เป็นบ้านของภรรยาอีกคนของสามี หล่อนจึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
ซูมู่ชิงจับมือฉินหงเหยียนแล้วกล่าวด้วยท่าทีจริงใจเปิดเผย “พี่ไม่ต้องกังวลอะไรหรอกค่ะ ที่นี่มีฉันอยู่แค่คนเดียว อีกอย่างคนของน้องชายฉันก็อยู่แถวนี้คอยคุ้มกันพวกเรา ปลอดภัยมากเลยค่ะ”
ฉินหงเหยียนเห็นท่าทีจริงใจของซูมู่ชิงจึงพยักหน้ารับ
แต่ว่าในเวลานี้เอง จางเชี่ยนจือที่ดูร่ำรวยก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู
“แม่คะ แม่มาได้ยังไง?”
ซูมู่ชิงประหลาดไม่น้อย
ฉินหงเหยียนเห็นจางเชี่ยนจือ ก็รู้เลยว่านี่คือแม่ของซูมู่ชิงจึงรีบทักทายอีกฝ่ายอย่างเคารพนบนอบ “คุณน้าจางสวัสดีค่ะ”
ทว่าจางเชี่ยนจือกลับกลอกตาใส่หญิงสาว แล้วมองข้ามการทักทายของหล่อน ไม่แยแสหล่อนด้วยซ้ำไป
จากนั้นจางเชี่ยนจือก็เดินไปหาซูมู่ชิง คว้าแขนลูกสาวแล้วถาม “ผู้หญิงคนนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ซูมู่ชิงจึงอธิบาย “หนูเป็นคนชวนให้พี่หงเหยียนมาอยู่ที่นี่เองค่ะ”
จางเชี่ยนจือแหวใส่ลูกสาวทันที “แกบ้าไปแล้วเหรอ? เป็นผู้หญิงคนอื่นถ้าเจอเมียน้อยนะไม่ไล่ให้ไปพ้นๆ แต่แกกลับชวนให้เมียน้อยสามีแกเนี่ยมาอยู่ด้วยกันที่บ้านเลยเหรอ? สมองของแกมีปัญหาหรือเปล่า? ทำไมฉันถึงได้มีลูกสาวโง่ๆ แบบแกได้เนี่ย?”
ซูมู่ชิงได้ยินคำพูดพวกเนี้ก็รู้สึกไม่ดีแล้วกล่าว “พี่หงเหยียนไม่ใช่เมียน้อยนะคะ หล่อนอยู่กับเย่เฉินก่อนที่หนูจะแต่งงานกับเย่เฉินนะคะ ถ้าหากว่าจะต้องมีคนเป็นชู้ คนนั้นก็คือหนูนะคะ ไม่ใช่พี่หงเหยียน”
จางเชี่ยนจือโกรธจัด จนยกมือฟาดใส่หน้าซูมู่ชิง!
เพี้ยะ!
จางเชี่ยนจือกล่าวอย่างไม่พอใจ “ทำไมแกถึงได้ไม่เอาไหนแบบนี้นะ! ไอ้คนสารเลวเย่เฉินนั่นมันเอาอะไรให้แกกิน? มันเอายาอะไรป้ายแกเหรอฮะ? คิดไม่ถึงว่าจะกล่อมประสาทแกจนแกคิดว่าภรรยาที่แต่งงานออกหน้าออกตาเป็นชู้ได้เนี่ย? เย่เฉินมันเป็นคนสารเลว น่ารังเกียจมากจริงๆ เลย! ถ้าใช้คำที่ทันสมัยหน่อยก็คือเขาเป็นผู้ชายที่ชอบล้างสมองผู้หญิงคนอื่น!”
หลังจากตบซูมู่ชิงแล้ว จางเชี่ยนจือก็ชี้ฉินหงเหยียนและกระเป๋าเดนิทางของหญิงสาวพลางกล่าว “เธอนังผู้หญิงหน้าด้าน จ้องจะทำลายครอบครัวคนอื่น ถ้าพ่อแม่เธอสั่งสอนเธอได้ดี เธอก็ไม่ควรจะมาโผล่ในบ้านคนอื่นนะ! รีบเก็บกระเป๋าแล้วไสหัวออกจากบ้านเราไปเลย!”
ซูมู่ชิงโดนตบจนน้ำตาไหลพราก ส่วนฉินหงเหยียนที่ชีวิตนี้ไม่เคยก้มหัวให้ใคร ต่อให้เป็นเมืองหลวง หรือตระกูลซูที่มีอำนาจ หล่อนก็ไม่มีทางยอมให้อีกฝ่ายดูถูกแบบนี้
ฉินหงเหยียนลากกระเป๋าเดินทางเตรียมจะออกไป!
แต่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ฉินหงเหยียนก็ชะลอฝีเท้าลง
“เย่เฉิน…”
เพราะหล่อนเห็นเย่เฉินในชุดสบายๆ สีดำปรากฏกายขึ้นที่หน้าประตู!
เย่เฉินที่เดิมกำลังอารมณ์ดีๆ แทบรอเวลาได้ไปเจอภรรยาคนสวยสองคนที่บ้านไม่ไหว แต่ว่าคิดไม่ถึงลยว่าเพิ่งจะถึงบ้าน ก็จะเห็นแม่ยายตบภรรยาตัวเอง หนำซ้ำยังดูถูกภรรยาอีกคนของเขาด้วย!
เย่เฉินโกรธจนเดือดปุดๆ หล่อนจางเชี่ยนจือมีสิทธิ์อะไรทำร้ายผู้หญิงสองคนของเขา!
ก่อนหน้านี้เย่เฉินยังอาจจะหวาดกลัวตระกูลซูอยู่บ้าง นั่นเพราะไม่ว่าอย่างไรตระกูลซูก็มีเงินทองมากมาย อีกทั้งยังมีอิทธิพลมากกว่าตระกูลเย่ที่จีนด้วย
ตระกูลเย่เกรงใจตระกูลซูมากทีเดียว
แต่ว่าวันนี้เย่เฉินได้รู้แล้วว่าตระกูลเย่เป็นหนึ่งในแปดตระกูล เป็นจ้าของโลกใบนี้ เป็นผู้นำในด้านต่างๆ ของโลกใบนี้ เป็นคนเปลี่ยนแปลงโลก!
แค่ตระกูลซูเป็นเหมือนเพียงมดปลวกหากเทียบกับตระกูลเย่!
ดังนั้นเย่เฉินจึงเดินเข้าเรือนสี่ประสาน แล้วไปหยุดตรงหน้าจางเชี่ยนจือ
แล้วกลิ่นน้ำหอมของหญิงวัยกลางคนก็ลอยเข้าจมูกเขาเต็มๆ
ทว่าเย่เฉินไม่มีอารมณ์จะชื่นชมเสน่ห์ของหล่อน เขายกมือขึ้นแล้วตบหน้าจางเชี่ยนจือคืน!
เพี้ยะ!
จางเชี่ยนจือสับสน “แก… แกกล้าตบฉันเหรอ? แกกล้าทำร้ายแม่ยายตัวเองเหรอ?”
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ประเทศจีน จางเชี่ยนจือเคยตบเย่เฉินก็หลายครั้ง แต่เย่เฉินก็ไม่กล้าเอาคืนสักครั้ง
แต่มาตอนนี้จางเชี่ยนจือไม่ได้ตบเย่เฉิน และไม่ใช่ฉินหงเหยียน แต่เป็นลูกสาวของหล่อนเอง
คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะตบหน้าตนเองโดยไม่คิดอะไรแม้แต่น้อยด้วยซ้ำ?
หลังจากกลับมาจากอังกฤษ เขาก็ใจกล้าขึ้นขนาดนี้แล้วงั้นเหรอ?
ตอนนี้เย่เฉินที่รู้ความลับตระกูลเย่แล้ว ไม่เห็นใครในสายตานอกเสียจากคนทั้งแปดตระกูล!
จะตบใครต้องคิดก่อนด้วยหรือไง?
เย่เฉินไม่เรียกหล่อนว่าคุณแม่ยายอีกต่อไป แล้วเรียกชื่ออีกฝ่ายตรงๆ “จางเชี่ยนจือผมต้องตบคุณอยู่แล้วสิ ก็คุณตบภรรยาผม!”
จางเชี่ยนจือโกรธจัด “แกยังมีหน้าจะออกหน้าแทนมู่ชิงอีกเหรอ? แกรักมู่ชิงจริงๆ เหรอ? แต่งงานไม่ถึงหนึ่งปีแกก็มีเมียคนที่สองแล้วเนี่ย! มีใครทำอย่างแกมั่งไหม? แกจะให้ตระกูลซูเอาหน้าไปไว้ที่ไหน! ในเมื่อแกมาก็ดี วันนี้แกต้องมีคำตอบให้ตระกูลซูเรา!”
ก็จริงด้วยหน้าตาของตระกูลซู ถ้าหากว่าตระกูลอื่นในเมืองหลวงล่วงรู้เข้าว่าคุณหนูจากตระกูลซูเพิ่งจะแต่งงาน แต่สามีก็มีคนอื่น ตระกูลซูคงขายหน้าแย่
นี่เป็นการดูถูกกันชัดๆ
เย่เฉินกล่าว “ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับพวกคนตระกูลซู ผมสนใจแค่ซูมู่ชิงคนเดียว! เรื่องนี้มู่ชิงอนุญาตแล้วด้วย ขอแค่หล่อนอนุญาต คนอื่นๆ ในตระกูลซูจะเห็นด้วยไหมผมไม่สนใจ!”
จางเชี่ยนจือหัวเสียอย่างมาก “ก็ดีนี่ เย่เฉิน ฉันว่าแกคงจัดการลูกสาวฉันเสียอยู่หมัดเลยใช่ไหมล่ะ! แกคิดว่าชีวิตนี้ของหล่อนจะรักแกได้แค่คนเดียว นอนกับแกได้แค่คนเดียว แกก๋เลยรังแกหล่อน ปีนี้แต่งกับฉินหงเหยียน ปีหน้าแกจะแต่งคนเข้าบ้านอีกใช่ไหม? ฉันขอบอกแกไว้เลยนะ ลูกสาวของตระกูลเรามีคนอื่นได้ ไม่ใช่ต้องเป็นแกเสียเมื่อไร!”
จางเชี่ยนจือหันมองซูมู่ชิงพลางกล่าว “ลูกรัก อย่างไรเสียแกก็รักษาโรคจนหายแล้วนี่ หย่ากับเย่เฉินไปเลย! ปล่อยให้เขาอยู่กับฉินหงเหยียนไป! เราจะไปหาคนที่ดีกว่าเย่เฉินร้อยเท่า พันเท่าเลย!”
“หายแล้ว? แปลว่าอะไรเหรอ?”
เย่เฉินชะงักไป
จางเชี่ยนจือหัวเราะร่วน “ว่าไงล่ะ? กลัวล่ะสิ? พอรู้ว่าลูกฉันหายแล้ว ชอบผู้ชายคนอื่นได้แล้ว เลยเริ่มกังวลใจแล้วใช่ไหม? หึ ฉันจะบอกแกเอาไว้นะ ก่อนจะกลับอังกฤษ น่ะ ตระกูลของพวกแกเรียกหมอผู้หญิงชื่อเฮเลนอะไรมา แล้วรักษามู่ชิงจนหายแล้ว! ตอนนี้หล่อนเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งแล้ว ไม่มีทางหลงรักและชอบนายเหมือนคนเสียสติเหมือนเมื่อก่อนหรอก พูดกันแบบตรงๆ ก็คือมู่ชิงในตอนนี้สามารถชอบผู้ชายคนอื่นได้ทุกเมื่อเลย แล้วอาจจะรักผู้ชายคนอื่นได้ตลอดเวลา!”