เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 512 บังคับไห่หนิงซวงลงนาม ในสัญญาที่ไม่เท่าเทียม
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 512 บังคับไห่หนิงซวงลงนาม ในสัญญาที่ไม่เท่าเทียม
บทที่ 512 บังคับไห่หนิงซวงลงนาม ในสัญญาที่ไม่เท่าเทียม
“เจียงหว่านรู้ได้ยังไงว่าเธอจะฆ่าเฉินผิง? ยัยนั่นเหมือนแค่ขุดหลุมรอให้เธอกระโดดลงไปชัด ๆ!”
ไห่หนิงซวงกัดฟันพูด “แสดงว่าพวกมันตั้งใจใช้ศพเฉินผิงศพนี้ทดสอบฉัน ถ้าฉันเปิดกล่องเมื่อไหร พวกมันก็จะรู้”
ถานหย่งตอบ “มันไม่ใช่แค่เพื่อจัดการกับเธอเท่านั้นหรอกนะ!”
“ตอนนี้เฉียวเหลียนเฉิงได้รับการปล่อยตัวแล้ว และเจียงเฉิงเข้าไปแทนเขา”
“เพราะงั้นการวางแผนของเธอมันเสียเวลา เธอควรไตร่ตรองให้ดีกว่านี้”
ไห่หนิงซวงกัดฟันและมองเขาอย่างเย็นชา “สิ่งที่คุณพูดมันเป็นความจริงแค่ไหน?”
ถานหย่งกางมือ “ครึ่งต่อครึ่ง อีกครึ่งหนึ่ง ฉันเดาเอง!”
“ถ้าเธอไม่เชื่อก็เปิดกล่องสิ!”
ได้ยินขนาดนี้แล้ว ไห่หนิงซวงจะกล้าได้ยังไง?
การคาดเดาของถานหย่งทำให้เธอกลัว
แต่การคาดเดานี้จะเป็นจริงแค่ไหนล่ะ?
ถ้าสิ่งที่ถานหย่งพูดเป็นเรื่องจริง การเปิดกล่องจะเท่ากับว่าหล่อนติดกับดัก
แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าถานหย่งหักหลังเธอ?!
เมื่อไห่หนิงซวงตกอยู่ในความสับสน
ถานหย่งก็บรรลุเป้าหมายแล้ว และตอนนี้รถก็ได้มาจอดหน้าโรงพยาบาลในเมือง
เขาส่ายเอกสารในมือ แล้วส่งสัญญาณให้ไห่หนิงซวงลงจากรถ
ไห่หนิงซวงกัดฟันแน่น “ร่างของเฉินผิงอยู่ที่ไหน?”
ถานหย่งยิ้มชั่วร้าย “มันถูกทำลายไปแล้ว!”
ไห่หนิงซวงไม่เชื่อ “ศพถูกทำลายงั้นเหรอ หมายความว่ายังไง?”
ถานหย่งกล่าวต่อ “คนของฉันใช้รถบรรทุกเหยียบเจ้าพวกนั้นไปแล้ว ดีที่ไม่ตายกันหมด เพราะศพนั้นขวางเอาไว้”
“อีกอย่างศพนั่นก็เน่า เละไปแล้ว!”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการเรื่องต่อจากนี้เอง!”
ไห่หนิงซวงผลักเปิดประตู แล้วลงจากรถ
ณ ทางเข้าแผนกห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลในเมือง
หลี่โม่ เพื่อนของเซี่ยวหลินยืนอยู่ที่ประตูและรออย่างเงียบเชียบ
สีหน้าและท่าทีของเขาสงบมาก
หลังจากรออีกเกือบครึ่งชั่วโมง ไห่หนิงซวงก็เดินเข้ามา
“คุณคือหมอหลี่โม่ใช่ไหม?”
หลี่โม่พยักหน้า
ไห่หนิงซวงจึงมอบกล่องเก็บตัวอย่างให้เขา
หลี่โม่รับมาเปิดต่อหน้าหล่อน ซึ่งข้างในมีตัวอย่างเลือด 2 หลอด
จากนั้นหลี่โม่ก็จากไปโดยไม่พูดอะไร
ส่วนไห่หนิงซวง เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังกลับออกมา
เซี่ยวหลินกล่าวไว้ว่าการตรวจสอบต้องใช้เวลานาน อาจจะใช้เวลาถึงสามวันจึงจะได้ผลลัพธ์
หลังจากที่ไห่หนิงซวงจากไปแล้ว หลี่โม่ก็กลับมาที่สำนักงานและกดโทรออก
ในอีกด้านหนึ่ง มู่เหย่และคนอื่น ๆ ยังคงรออยู่ที่สถานที่จัดงาน
สิ่งที่พวกเขากำลังรอคือสายของหลี่โม่
เมื่อรับสายแล้ว มู่เหย่ก็รีบถาม [ยังไง?]
หลี่โม่ตอบอย่างใจเย็น “ทุกอย่างเป็นปกติ กล่องยังไม่ได้ถูกเปิด เครื่องหมายอยู่ครบ!”
มู่เหย่คิ้วขมวด รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป
นายท่านเฉินที่อยู่ด้านข้างก็รู้สึกสับสนเมื่อได้ยินสิ่งนี้
เขาทั้งดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน
“ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะรู้ผล” มู่เหย่ถามอีกครั้ง
หลี่โม่ตอบกลับ [สี่ชั่วโมง]
เซี่ยวหลินกล่าวว่า “เราจะรอ”
หลังจากวางสายไป มู่เหย่ก็หันมองนายท่านเฉิน
“มีบางอย่างผิดปกติ ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แต่เธอก็ไม่เปิดกล่อง”
“เป็นไปได้ไหมว่ามีคนไปเตือนเธอ”
นายท่านเฉินส่ายหัว แล้วถามขึ้น “แล้วพวกนั้นล่ะ?”
มู่เหย่ส่ายหัว “ไม่เป็นไรมากครับ แค่บาดเจ็บเล็กน้อย แต่พวกเขาต้องซ่อนตัวก่อนเพื่อสร้างความสับสนให้พวกนั้น”
นายท่านเฉินขมวดคิ้วและเงียบไป
ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติกับไห่หนิงซวงจริง ๆ ทำไมหล่อนถึงต้องรีบเผาร่างของเฉินผิง?
แล้วถ้ามีปัญหา ทำไมไห่หนิงซวงถึงไม่เปิดกล่อง ในเมื่อหล่อนมีโอกาสที่ดีเช่นนี้
เมื่อไห่หนิงซวงกลับมา ขี้เถ้าของเฉินผิงก็ถูกนำออกมาจากเตาเผาแล้ว
ไห่หนิงซวงตอนนี้กลับมาสงบเสงี่ยมอีกครั้ง และหล่อนก็มองไปรอบ ๆ โดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ
และชั่วขณะหนึ่ง หล่อนมองดูนายท่านเฉินและมู่เหย่ด้วยแววตาเย้ยหยัน
พอเวลาหนึ่งทุ่ม หลี่โม่ก็โทรมาอีกครั้ง
[ผลการตรวจเลือดมีส่วนผสมของยา XX และ XXX สาเหตุของการตายคือหัวใจวายกะทันหันเพราะยาสองตัวนี้!]
หลังจากเซี่ยวหลินฟังจบ เขาก็มองไปที่นายท่านเฉินอีกครั้ง “ปกติเขาป่วยเป็นโรคหัวใจกับซึมเศร้าหรือเปล่า?”
นายท่านเฉินส่ายหัว “ไม่ ไม่เคย!”
เซี่ยวหลินดูเคร่งขรึม “งั้นก็สรุปได้เลยว่าเฉินผิงถูกฆาตกรรม!”
“แจ้งตำรวจและยื่นฟ้องได้เลย!”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ทุกคนก็ตกอยู่ในความโกลาหล!
ใบหน้าของไห่หนิงซวงก็ซีดเซียวลงทันที!
“เดี๋ยวก่อน!” ไห่หนิงซวงอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา
ทุกคนหันขวับ จ้องมองหล่อน
จากนั้นนายท่านเฉินก็ถามหล่อนอย่างไม่พอใจ
“ไห่หนิงซวง เธอไม่ได้ยินที่หมอนิติเวชพูดเมื่อกี้เหรอ เฉินผิงถูกฆาตกรรม!”
“และสำหรับเจียงเฉิง เขาเพิ่งเจอกันครั้งแรก ฉะนั้นตัดไปได้เลย เพราะงั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการตามหาคนที่วางยาเฉินผิง!”
“ฉันอยากจะถามเหตุผลจริง ๆ ว่าทำไมคนร้ายถึงใช้วิธีที่น่ารังเกียจแบบนี้มาทำร้ายเขา”
นายท่านเฉินจะไม่เสียใจได้ยังไง ในเมื่อตัวเองเพิ่งสูญเสียลูกชายสุดที่รักทั้งที่อายุยังน้อบแบบนี้ไป
ไห่หนิงซวงได้ยินอย่างนั้นก็ลังเล ยังอยากจะพูดบางอย่าง แต่ก็ไม่กล้าที่จะโต้แย้งอะไรอีก
หล่อนรู้ว่าศพนั้นเป็นของปลอม แต่นายท่านเฉินไม่รู้
และก่อนการชันสูตรพลิกศพ นายท่านเฉินได้ตรวจสอบศพต่อหน้าทุกคน
แต่หล่อนไม่เข้าใจว่าทำไมตัวอย่างเลือดถึงยังตรวจสารตกค้างของยาทั้งสองชนิดนี้พบอีก หากศพนั้นเป็นของปลอม
นี่เป็นถานหย่งที่หลอกลวงหล่อน หรือนายท่านเฉินที่ร่วมมือกับแพทย์นิติเวชเพื่อหลอกลวงหล่อนกันแน่?
ตอนนี้หล่อนสับสนไปหมด นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เมื่อเห็นว่าไห่หนิงซวงไม่พูด นายท่านเฉินก็มองหล่อนอย่างมีนัย และบอกให้มู่เหย่โทรแจ้งตำรวจ
หลังจากนี้ต้องรอการสืบสวนของตำรวจเท่านั้นแล้ว
ด้านเซี่ยวหลิน เขาเป็นแพทย์นิติเวชที่มืออาชีพ เมื่อเขายืนยันผลการตรวจของหลี่โม่ที่ออกโดยโรงพยาบาลในเมือง ดังนั้นจึงสามารถใช้เป็นหลักฐานได้
จากนี้ไป การสืบสวนของตำรวจต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งหรือสองวัน ดังนั้นทุกคนจึงกลับไปที่เหยียนจิงก่อน
เมื่อไห่หนิงซวงออกจากห้องจัดงาน หล่อนก็ดูงุนงงเล็กน้อย
แต่หล่อนไม่ได้สังเกตเลยว่ามู่เหย่ได้หายตัวไป
เพราะในขณะนี้ หล่อนมีความคิดเดียวเท่านั้น คือต้องตามหาถานหย่งและถามเขาให้ได้!
ด้านมู่เหย่ เขาหยิบกล่องตัวอย่างออกมา แล้วขับรถไปโรงพยาบาล
เมื่อเปิดประตูวอร์ด เขาก็เห็นคนเจ็บนอนเรียนอยู่สามคน
ซึ่งก็คือเจียงหว่าน เฉียวเหลียนเฉิง และเหอซานไห่
อุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อคืนนี้เป็นเรื่องจริง แต่เมื่อรถบรรทุกพุ่งเข้ามา รถจี๊ปก็พุ่งออกมา และหยุดอยู่ตรงหน้ารถของเจียงหว่านพอดี
รถที่ถูกชนคือรถจี๊ปที่พุ่งออกไป แต่รถของเจียงหว่านพลิกคว่ำจากการหักหลบ เป็นผลให้ทั้งสามคนได้รับบาดเจ็บในระดับต่าง ๆ กัน
ทว่าไม่ร้ายแรงถึงชีวิต แต่ก็ต้องนอนบนเตียงโรงพยาบาลไปสองสามวัน
ซึ่งรถจิ๊ปที่พุ่งออกไปในตอนนั้นคือมู่เหย่ ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
โชคดีที่มู่เหย่ตอบสนองได้ทันเวลา เขารีบเปิดประตูแล้วกระโดดออก ก่อนที่รถบรรทุกจะพุ่งชน
ดังนั้นเขาจึงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อเห็นมู่เหย่เข้ามา เจียงหว่านก็รีบลุกขึ้นและถามว่า
“ราบรื่นดีหรือเปล่า?”