เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 521 โชคชะตา
บทที่ 521 โชคชะตา
ซูช่านไม่เชื่อ หล่อนจ้องเขม็งไปที่ดวงตาของอวี๋เซี่ยงคง พยายามสังเกตการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้า แต่แล้วก็ไม่เห็นอะไรเลย
หล่อนยังคงกัดฟันพูดต่อไป “ฉันรู้ว่าคุณชื่ออวี๋เซี่ยงตง เพราะฉะนั้นฉันทักถูกคนแล้ว คุณจำคนที่ชื่อซูเฟิงเป่ยไม่ได้จริง ๆ เหรอคะ?”
ท่าทางของอวี๋เซี่ยงตงยังคงเหมือนเดิม เขาส่ายศีรษะ ทั้งยังไม่แสดงสีหน้าใด ๆ “ไม่รู้จัก”
ซูช่านยังคิดว่าอวี๋เซี่ยงตงอาจจะจำหล่อนไม่ได้เพราะว่าหล่อนโตขึ้นและมีรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไป
ตอนนี้อวี๋เซี่ยงตงยังคงมองดูอย่างเฉยเมยและมีท่าทางไม่แยแส
ความอดทนครั้งสุดท้ายของซูช่านพังทลายลง อวี๋เซี่ยงตงจำหล่อนไม่ได้จริง ๆ!
อวี๋เซี่ยงตงหันไปมองโจวจินหนาน “เข็นฉันไปตรงนั้นที คนขับรถรอฉันอยู่”
ถึงแม้ว่าโจวจินหนานจะอยากรู้เรื่องราวเพิ่มเติม ทว่าเขากลับไม่ได้ถามคำถามอะไรออกไป อีกทั้งยังให้การร่วมมืออย่างดี โดยเข็นรถเข็นให้ออกห่างจากซูช่าน ถึงกระนั้นเขากลับสังเกตเห็นว่าหญิงสาวที่เพิ่งไปทานอาหารเย็นที่บ้านมา มีดวงตาแดงก่ำราวกับกระต่าย
โจวจินหนานเข็นรถเข็นข้ามถนนไปยังรถจี๊ปที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม และพูดถามว่า “ไม่รู้จักจริงเหรอ?”
อวี๋เซี่ยงตงแสยะยิ้ม “รู้สิ”
โจวจินหนานไม่เข้าใจ “แล้วทำไมถึงบอกว่าไม่รู้จัก? ปกติก็ไม่ยักจะมีผู้หญิงมาสนใจอยู่แล้ว”
อวี๋เซี่ยงตงจิ๊ปาก “ฉันขอถามหน่อยโจวจินหนาน นายกลายไปเป็นพ่อสื่อตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงทำตัวเรื่องมากนัก?”
โจวจินหนานถอนหายใจ “ก็แค่หวังว่านายจะมีครอบครัวสักที อย่ามัวแต่มากินข้าวที่บ้านฉันนักเลย”
อวี๋เซี่ยงตงหัวเราะเหอะ ๆ เกียจคร้านเกินกว่าจะคุยกับโจวจินหนาน
โจวจินหนานช่วยพยุงเขาเข้าไปในรถ แต่ก่อนจะปิดประตูลง อวี๋เซี่ยงตงกลับพูดขึ้นว่า “นายดูสภาพฉันตอนนี้สิ ฉันยังเป็นฮีโร่ที่ทำอะไรได้ทุกอย่างอยู่ไหมล่ะ?”
โจวจินหนานเหลือบมองอวี๋เซี่ยงตงที่ทำตัวราวกับคนงี่เง่า ปิดประตูและสั่งให้คนขับรถขับออกไป
เมื่อหันหลังกลับไป เขาเห็นซูช่านยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตูมหาวิทยาลัย ดวงตาแดงก่ำของหล่อนจับจ้องไปที่รถจี๊ป
โจวจินหนานไม่ใช่คนปากมาก และเขาไม่ได้สนใจผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่มีความเกี่ยวข้องกับอวี๋เซี่ยงตง
คนอย่างอวี๋เซี่ยงตงควรจะอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต
เดิมทีเขาอยากจะกลับไปเล่าให้สวี่ชิงฟัง โจวจินหนานคิดว่าสวี่ชิงน่าจะชอบเรื่องซุบซิบทำนองนี้
แต่เมื่อเขากลับไปถึงบ้าน สวี่ชิงได้ผล็อยหลับไปพร้อมกับลูกทั้งสอง เขาจึงออกไปหาเหยียนจี้ชวน และลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท
สวี่ชิงกลับเข้าไปเรียนในเช้าวันจันทร์ และเห็นซูช่านนอนเอ้อระเหยอยู่บนโต๊ะ ดวงตาของเธอแดงก่ำและดูบวมเล็กน้อย
เธอขอเปลี่ยนที่นั่งกับเพื่อนร่วมโต๊ะของซูช่าน และเขยิบเข้าไปนั่งใกล้ ๆ เธอ “เกิดอะไรขึ้น? แค่ข้ามคืนเอง เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ?”
ซูช่านขยี้ตาและลุกขึ้นนั่ง เธอหันไปพูดกับสวี่ชิงราวกับว่าตัดสินใจได้แล้ว “เมื่อวานนี้ อวี๋เซี่ยงตงที่ฉันเจอที่บ้านคุณคือพี่ใหญ่ที่ฉันเล่าให้คุณฟัง ก่อนหน้านี้ฉันเห็นเขาที่ประตูหน่วยงานบริการแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจ”
สวี่ชิงอ้าปากกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะเอามือปิดปากอยู่ครู่หนึ่ง และมองไปที่ซูช่านด้วยสายตาเหลือเชื่อ
ซูช่านถอนหายใจ “คุณไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันใช่ไหมคะ? มันบังเอิญมากเลย ฉันคิดว่ามันบังเอิญเกินไป ตอนที่ฉันกลับมาเข้าเรียนที่ตัวเมืองเอก ฉันยังคิดว่าอยู่เลยว่าจะได้เจอเขาไหม เขาจะแต่งงานมีลูกแล้วหรือยัง? แล้วจะจำได้หรือเปล่าว่าเคยช่วยเหลือฉันในตอนนั้น”
สวี่ชิงลดมือลงและส่ายหัวอย่างแรง “ไม่ๆ เขาไม่มีครอบครัว และยังไม่มีแฟนด้วย”
เธอนึกไม่ถึงว่าอวี๋เซี่ยงตงจะเคยทำความดีเอาไว้ด้วย?
ซูช่านยกยิ้มอย่างสิ้นหวัง “ประเด็นคือไม่ใช่ตอนนี้ และเขาก็จำฉันไม่ได้”
สวี่ชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “คุณถามเขาหรือยัง?”
ซูช่านพยักหน้า “อืม ฉันไปดักรอเขาที่หน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อวานนี้ เขาบอกว่าเขาไม่รู้จักคุณปู่ไม่รู้จักฉัน”
ดวงตาของหล่อนแดงก่ำอีกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องนี้
เขาคือวีรบุรุษฝังอยู่ในใจมานานนับสิบกว่าปี และนึกถึงการกลับมาพบกันนับครั้งไม่ถ้วน
แต่นึกไม่ถึงว่าการเผชิญหน้ากันจะจบลงเช่นนี้
สวี่ชิงรู้สึกงุนงง อวี๋เซี่ยงตงเป็นคนที่มีความจำดีเยี่ยมเทียบเท่ากับพวกโจวจินหนานด้วยซ้ำ จะมีสักกี่คนเชียวที่ชอบหลงลืม?
หรือว่าอวี๋เซี่ยงตงจะสูญเสียความทรงจำด้วย?
แม้แต่ซูช่านยังถามสวี่ชิงด้วยคำถามเดียวกัน “คุณว่าเขาสูญเสียความทรงจำหรือเปล่า?”
สวี่ชิงไม่แน่ใจเพราะว่าเธอไม่เคยได้ยินเรื่องนี้จากอวี๋เซี่ยงตงมาก่อน อีกอย่างเขาชอบทำตัวเอ้อระเหยลอยชาย หากเขาสูญเสียความทรงจำ เขาคงจะใช้เรื่องนี้มาโจมตีโจวจินหนานทุกวันอย่างแน่นอน
เธอรีบพูดปลอบซูช่านทันทีที่เห็นใบหน้าเศร้าหมองของอีกฝ่าย “อย่าเศร้าไปเลย เอาไว้ฉันกลับไปบ้านแล้วจะสอบถามให้ พวกคุณได้เจอกันแล้ว จากนั้นไปเดี๋ยวก็จะได้เจอกันบ่อย ๆ แถมช่วงนี้อวี๋เซี่ยงตงยังมาที่บ้านฉันทุกวัน”
ซูช่านเม้มปาก “ในเมื่อไม่รู้จักกัน ถ้าฉันไปมันคงจะดูไม่ดีเอาน่ะสิ”
ก่อนจะเริ่มสนใจอาการของอวี๋เซี่ยงตงอีกครั้ง และสอบถามโดยละเอียด
สวี่ชิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้อมือกำลังฟื้นตัวอยู่ แต่อาการบาดเจ็บที่ขายังไม่หายดี ถึงตอนนี้ผิวหนังยังไม่ฟื้นฟูขึ้นมาเลย”
คราวนี้แม้แต่เย่หนานเองก็ยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์
จากเท่าที่เย่หนานพูด ทักษะทางการแพทย์ของหล่อนทำให้เขาฟื้นตัวได้เล็กน้อยเท่านั้น ถึงกระนั้นหล่อนก็ไม่ใช่เทพเซียน แค่อวี๋เซี่ยงตงมีสภาพจิตใจดีทั้งที่ร่างกายแตกสลายนั้นก็ดีมากพอแล้ว
ซูช่านเงยหน้าขึ้น พยายามหลบตา และหลับตาลงทั้งที่รู้สึกโศกเศร้า “ถ้าอย่างนั้นเขาคงจะเสียใจมาก เพราะเขาชอบคิดว่าตัวเองเป็นคนเก่ง”
สวี่ชิงยังคงรู้สึกสงสัย “สมัยเด็กพวกคุณรู้จักกันได้ยังไง?”
เนื่องจากตอนนั้นอายุยังน้อย ซูช่านจึงรู้เรื่องราวของครอบครัวอวี๋เซี่ยงตงเล็กน้อยเท่านั้น “พ่อแม่ของอวี๋เซี่ยงตงหย่ากัน พ่อไปแต่งงานกับภรรยาใหม่ ส่วนแม่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง คุณปู่ฉันคอยจ่ายยาให้ แต่สุดท้ายหล่อนกลับฆ่าตัวตาย”
“เพราะอะไร ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
สวี่ชิงครุ่นคิด “แล้วคุณรู้จักอวี๋จิ้งไหม?”
ซูช่านพยักหน้า “รู้ เป็นลูกสาวที่แม่เลี้ยงอวี๋เซี่ยงตงพามาด้วย”
ทุกครั้งที่อวี๋เซี่ยงตงอยู่ที่นั่น อีกฝ่ายจะปฏิบัติต่อหล่อนดีมาก แต่หากอวี๋เซี่ยงตงไม่อยู่ที่นั่นด้วย อวี๋จิ้งจะกระชากผมของหล่อนและเรียกหล่อนว่านังมะกันต่างด้าว
เห็นได้ชัดว่าาหล่อนไม่ได้เป็นแบบนั้น
หลังจากกลับมาที่ปักกิ่ง ซูช่านตระหนักได้ว่าอวี๋จิ้งคงจะอิจฉาที่อวี๋เซี่ยงตงปฏิบัติต่อหล่อนดีกว่า
สวี่ชิงถอนหายใจ โชคชะตาช่างเป็นใจจริง ๆ!
“เอาแบบนี้ไหม ทำไมไม่ลองหยั่งเชิงดูก่อนล่ะ?”
ซูช่านส่ายหัว “ไม่จำเป็นหรอก ฉันคงคิดไปเองมากกว่า”
ถึงแม้หล่อนจะดูเหมือนสาวน้อยน่ารักแสนสวย แต่อันที่จริงหล่อนฉลาดมาก และก็พอจะสามารถคาดเดาเหตุผลที่อวี๋เซี่ยงตงทำทีเป็นไม่รู้จักหล่อนได้
ในเมื่ออวี๋เซี่ยงตงไม่อยากให้หล่อนเห็นด้านที่น่าอับอายของเขา หล่อนจึงทำเป็นไม่รู้จักเขา
สวี่ชิงคิดแบบนั้นเช่นกัน ถึงกระนั้นเธอเป็นเพียงคนที่ยืนมองดูอยู่ ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไร
“วันที่สิบเอ็ดนี้ ฉันได้ยินมาว่าเป็นวันหยุด คุณจะทำอะไรหรือเปล่า? ทำไมไม่มาบ้านฉัน…”
ซูช่านส่ายหน้าอีกครั้ง “ไม่ล่ะค่ะ ฉันหาโรงพยาบาลได้แล้ว”
ตอนนี้ยังไม่นับว่าเป็นการฝึกงานหรืออาสาสมัคร เพียงแค่อาจารย์แนะนำให้นักศึกษาผู้ที่มีคะแนนดีเยี่ยมหรือผู้คนที่ขยันขันแข็งออกไปสังเกตการณ์และเรียนรู้งานฟรีที่โรงพยาบาล
ทว่าสวี่ชิงกลับคาดไม่ถึงว่าโรงพยาบาลที่ซูช่านไปจะเป็นโรงพยาบาลที่อวี๋เซี่ยงตงพักฟื้นอยู่
ซูช่านเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน และในวันแรกที่ต้องไปรายงานกับอาจารย์ หล่อนก็บังเอิญเจออวี๋เซี่ยงตงแอบดื่มเหล้าอยู่ในสวนหย่อม…
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จะเป็นคู่บุพเพหรือคู่กรรมกันนะ มาเจอกันโดยบังเอิญถึงสองครั้งแล้ว
ไหหม่า(海馬)