ในค่ำคืนอันเงียบสงัดท่ามกลางฤดูหนาวของเมืองฟลอริสตี้ แม้ว่าหิมะแรกยังคงไม่ตกลงมาในปีนี้ แต่อากาศก็ยังหนาวจับขั้วหัวใจของชาวเมืองนี้แทบทุกคน ทุกๆบ้านต่างก็ก่อกองไฟในเตาผิงเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตนเอง
แต่ก็ยังมีสถานที่บางแห่งที่แม้ว่าจะหนาวเหน็บ แต่ก็ไม่ได้รับความอบอุ่นจากเปลวไฟในค่ำคืนนี้เลยแม้แต่น้อย นั่นก็คือคุกใต้ดินของที่ว่าการเมืองฟลอริสตี้นั่นเอง ด้วยพื้นหินที่ทั้งเย็น และอับชื้น มีเพียงกองฟางแห้งที่ให้ความอบอุ่นแก่เหล่านักโทษเพียงเท่านั้น
แม้แต่เจ้าหน้าที่ผู้คุมยังต้องขึ้นมาด้านบนเพื่อผิงกองไฟที่อบอุ่นในห้องทำงานแทน ซึ่งนั่นก็ทำให้คุกอันสกปรกนั้นเหลือแต่เพียงนักโทษที่นอนทนทุกข์ทรมานต่อไป ไม่ใช่สิ! ไม่ได้มีเพียงแค่นักโทษที่ถูกคุมขังที่นี่เท่านั้น ยังคงมีอยู่อีกคนหนึ่งที่ยืนพิงกำแพงด้านนอกลูกกรงเหล็กอย่างเงียบเชียบ
ภายใต้ผ้าคลุมยาวที่สี และลวดลายอย่างกับเป็นหนึ่งเดียวกับกำแพงหินสีดำเทานั้น ภายใต้ความมืดมิดของห้องใต้ดินยามรัตติกาล ที่มีเพียงแสงเดือนอ่อนๆส่องเข้ามาผ่านช่องอากาศเล็กๆเข้ามา แม้ว่ามันจะตกกระทบลงบนร่างตรงกำแพงนั้นแล้ว แต่ก็ไม่มีนักโทษคนใดสังเกตเห็นแม้เพียงสักคน
จนในที่สุดร่างบุคคลลึกลับก็ขยับตัว และเพียงครู่เดียวก็ก้าวเดินไปจนถึงหน้าห้องขังห้องหนึ่ง ซึ่งมีชายหนุ่มที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลนอนสลบอยู่บนกองฟางแห้ง สภาพของเขาเหมือนกับถูกทรมานมาอย่างหนักก่อนหน้านี้
“ตื่นได้แล้ว ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้หลับ” คนลึกลับกล่าวขึ้นเสียงเบาพอได้ยินแค่คนตรงหน้า
“เจ้า…เป็นใคร?” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาถามตรงๆ ซึ่งเขาก็คือคนที่แอบเข้าไปในโกดังของบริษัทแม็กซิมัสนั่นเอง แต่น้ำเสียงของเขาที่พูดออกมากลับไม่ได้มีความอ่อนล้าเลยสักนิดเดียว และดูเหมือนว่าเขาจะพอเดาได้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่พวกของที่ว่าการเมือง
“ข้ามาจากซีเคร็ตการ์เด้น เพื่อถามคำถามเจ้า” หญิงสาวภายใต้เสื้อคลุมมีฮู้ดปิดบังศีรษะนี้ก็คือเรญ่า นักฆ่าสาวซึ่งได้รับคำสั่งจากภามเพื่อปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ และด้วยวิธีการพูดของเธอนั้น ก็ไม่ได้อธิบายอะไรแต่เข้าเรื่องตรงประเด็นทันที
“ถามคำถามอะไร? แล้วซีเคร็ตการ์เด้นคือใคร?” ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจกับหญิงลึกลับตรงหน้าไม่น้อย ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังถามคำถามกลับอย่างใจเย็น เพื่อดูท่าทีอีกฝ่าย
“พวกเราคือองค์กรที่ต้องการช่วยผู้บริสุทธิ์จากสงคราม ส่วนที่ข้ามาที่นี่ก็เพื่อต้องการจะรู้ว่าเจ้าเข้าไปในโกดังของแม็กซิมัสทำไม?” เรญ่าตอบคถามอย่างไม่ปิดบัง และถามไปตรงๆ
เมื่อได้ยินคำถามนั้นชายหนุ่มนักโทษก็ถึงกับต้องเงียบไปสักครู่ เพื่อคิดพิจารณาให้ดีถึงสิ่งที่ตนจะตอบ ไม่ว่าอย่างไรคนตรงหน้าก็เป็นคนแปลกหน้าที่ต้องการผลประโยชน์จากตน เพราะฉะนั้นเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ หญิงสาวอาจจะยินยอมที่จะแลกเปลี่ยนด้วยเงื่อนไขบางอย่างก็เป็นไปได้
‘ถ้าผู้หญิงคนนี้สามารถเข้ามาในคุกใต้ดินได้โดยไม่มีใครรู้ แสดงว่านางก็ออกไปได้โดยไม่มีใครรู้เช่นกัน หรือว่านางจะเป็นจอมเวทย์กันนะ? แต่ข้าต้องออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่องค์หญิงจะพาคนกลับมาช่วยข้า ไม่อย่างนั้นพวกเราอาจถูกเปิดเผยตัวตนได้’ ชายหนุ่มพยายามคิดอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ
ซึ่งในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ว่าจะทำอะไรต่อไป
“เจ้าก็สนใจเรื่องของข้า เหมือนกับทหารของฟลอริสตี้งั้นรึ?”
“พวกนั้นไม่ได้สนใจจริงๆหรอก ก็แค่ทำตามคำสั่งของโอเมก้าเท่านั้น” เรญ่าตอบกลับไปตามตรง เพื่อดูปฏิกิริยาของนักโทษชาย
“โอเมก้า! พวกมันรู้ถึงการมีอยู่ของสิ่งนั้นเหรอ?” คราวนี้น้ำเสียง และท่าทางของชายหนุ่มดูตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าเขารู้จักอำนาจของกลุ่มโอเมก้าเป็นอย่างดี
“สิ่งนั้น สิ่งไหนกันล่ะ? ในโกดังนั่นไม่เห็นมีอะไรพิเศษเลยสักนิด” หญิงสาวชุดดำถามกลับไปสั้นๆ แต่มันเป็นคำถามที่เจาะจงไปที่สิ่งของต้นเหตุ ซึ่งคำตอบของชายหนุ่มจะสามารถบอกได้ว่า จุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไรกันแน่
“พวกเจ้าไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่? ถึงเจ้าจะบอกว่ามาจากซีเคร็ตการ์เด้นอะไรนั่น แต่ข้าคิดว่าเจ้าคือคนของแม็กซิมัสมากกว่า ดูจากความสามารถของเจ้ากับคนอื่นๆที่รู้ตัวผู้บุกรุกได้เร็ว และจับพวกข้าได้โดยไม่ทันตั้งตัว มันเหนือกว่านักฆ่าของโอเมก้าหลายขั้น แถมยังมาถามเรื่องที่มาของข้าอีก” ชายหนุ่มวิเคราะห์ออกมาได้อย่างชาญฉลาด อย่างหนึ่งก็มาจากจุดประสงค์ที่ชัดเจนของเรญ่านั่นเอง
คำพูดนี้ของนักโทษหนุ่มทำให้หญิงสาวชะงักไปเล็กน้อย แต่โชคดีที่เธออยู่ภายใต้ผ้าคลุม ฝ่ายตรงข้ามจึงไม่อาจสังเกตสีหน้าหรือท่าทางที่เปลี่ยนไปนี้ได้
‘เขาคิดออกได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ? คนคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เราจะต้องระวังคำพูดให้มากกว่านี้แล้ว’ เรญ่าตั้งสติอีกครั้งเพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามจับพิรุธได้ และเธอต้องเป็นฝ่ายที่เหนือกว่าในการเจรจาครั้งนี้ให้ได้
เรญ่าเรียบเรียงคำพูดในใจอีกครั้ง ก่อนจะตอบกลับไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“หึ! ไม่ว่าข้าจะเป็นใครมันก็ไม่สำคัญหรอก แต่ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเจ้าแน่นอน สิ่งที่ข้าต้องการคือคำตอบที่แท้จริงจากปากเจ้าเท่านั้น เจ้าเข้าไปที่โกดังของแม็กซิมัสทำไมรึ?”
“เฮ้อ! เจ้านี่นะอยากได้คำตอบจากข้า แต่มาถามเฉยๆโดยไม่มีของตอบแทนเลยอย่างนั้นรึ? นี่ข้ากำลังโดนขังคุกอยู่นะ สถานการณ์ตอนนี้ลำบากกว่าเจ้ามากนัก คำตอบนี้สำคัญมากจึงต้องมีราคาที่คุ้มค่ามากด้วยเช่นกัน” ชายหนุ่มก็แสดงความต้องการที่จะแลกเปลี่ยนออกมา
“อ้อ…แล้วเจ้าต้องการสิ่งใดล่ะ?” เรญ่ายิ้มออกมาในใจทันที เพราะนี่คือสิ่งที่เธอรอคอย เมื่อฝ่ายตรงข้ามต้องการแลกเปลี่ยน คำตอบที่เธอต้องการก็ย่อมจะได้มาแน่นอน
“เจ้าต้องช่วยข้าหนีออกจากเมืองฟลอริสตี้ เดี๋ยวนี้!” คำตอบของชายหนุ่มสั้นๆ ชัดเจนได้ใจความ
“ไม่!” เรญ่าตอบกลับไปเพียงคำเดียวอย่างหนักแน่น
สถานการณ์ผ่อนคลายเมื่อครู่ที่คนทั้งสองเหมือนว่าจะสามารถทำข้อตกลงกันได้ แต่จู่ๆก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ในใจของพวกเขาตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ แม้จะไม่ถึงกับโกรธแต่ก็หงุดหงิดไม่น้อย เพราะสถานที่ในคุกของเจ้าเมืองเช่นนี้ ไม่มีใครรู้ว่าผู้คุมจะเข้ามาอีกทีเมื่อไร
แต่ก็ด้วยความเป็นมืออาชีพของทั้งคู่จึงได้แต่เงียบ และไม่แสดงอาการใดๆออกมา บรรยากาศภายในคุกใต้ดินกลับไปเงียบสงัด ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในที่แห่งนี้เลยสักคน แม้แต่เสียงลมหายใจของเรญ่า และนักโทษชายก็ไม่ก่อเกิดเสียงสักนิด เป็นความสามารถควบคุมอารมณ์ที่เหนือชั้นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามคนทั้งสองต่างก็มีเป้าหมายของตัวเอง ยังไงก็ต้องมีคนเริ่มเจรจาออกมาก่อน แต่จะพูดอย่างไรอีกฝ่ายถึงจะยอมรับเงื่อนไขของตน เรียกได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้คือสงครามประสาทของยอดฝีมือระดับมืออาชีพเลยทีเดียว
“ทำไมถึงพาข้าออกไปไม่ได้? คงไม่ใช่ว่าเจ้าไม่มีความสามารถหรอกนะ” ชายหนุ่มกล่าวถามเชิงท้าทายต่อหญิงสาว
“ความสามารถของข้าย่อมทำได้ แต่ข้ายังพาเจ้าออกไปตอนนี้ไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้นบริษัทแม็กซิมัสจะตกเป็นเป้าหมายของโอเมก้าทันที” เรญ่าตอบไปตามตรง เพราะเรื่องนี้ภามได้เน้นย้ำกับเธอไว้แล้วก่อนที่จะส่งมาทำภารกิจ หากอีกฝ่ายรู้ที่มาของเธอก็ให้ใช้ข้ออ้างนี้บอกออกไป
“อ้าว! แล้วจะให้ข้าทำอย่างไรล่ะ ข้าไม่ได้ต้องการอย่างอื่นนอกจากออกไปจากที่นี่ ถ้าเจ้าช่วยข้าไม่ได้เจ้าก็กลับไปเถอะปล่อยข้าถูกทรมานอยู่นี่แหละ” นักโทษหนุ่มคิดว่าตัวเองได้เปรียบจึงกล่าวไปแบบนั้น
“ข้ามีสิ่งนี้ มันเป็นยาที่ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกาย และลดความเจ็บปวด รวมทั้งยังเพิ่มพลังกายอีกด้วย หลังจากดื่มเข้าไปก็จะออกฤทธิ์ไป 3 วัน เจ้าจะสามารถทนรับการทรมานได้โดยไม่ร้องสักแอะแน่นอน แต่ระหว่างนั้นก็ช่วยทำตัวเป็นคนถูกซ้อมที่ดีแกล้งเจ็บตัวไว้ด้วยล่ะ อีก 3 วันข้าจะมาใหม่” เรญ่ารีบเสนอยาประหลาดให้กับชายหนุ่มทันทีโดยไม่ให้เขาปฏิเสธ จากนั้นก็โยนขวดแก้วเล็กๆให้กับชายคนนั้น จากนั้นหญิงสาวก็เลือนลางหายตัวไปกับความมืดอย่างเงียบเชียบดุจดั่งภูตพราย
MANGA DISCUSSION