ภามทำการติดต่อกับผู้ดูแลโกดังของทางการที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าเป็นอย่างแรกเมื่อมาถึง ซึ่งเป็นชายชราท่าทางใจดีคนหนึ่ง เขาพาแขกผู้มาเยือนทั้งสองเดินชมทั่วทั้งอาคารด้วยความเป็นกันเอง รวมทั้งแนะนำจุดสำคัญต่างๆภายในพื้นที่แห่งนี้อีกด้วย
ถ้าหากมองจากภายนอกถนนจะเห็นว่าโกดังใหญ่แห่งนี้มีรั้วปูนสูงประมาณสองเมตรล้อมรอบอย่างมิชิด มองเข้ามาภายในจะเห็นโกดังใหญ่หนึ่งหลังกับบ้านไม้สองชั้นอีกหนึ่งหลัง แต่เมื่อเข้ามาภายในจะเห็นได้ว่ามีพื้นที่ว่างค่อนข้างมาก และมีอาคารพาณิชย์สามชั้นสามคูหาอยู่ติดกับถนนอีกเส้น
ซึ่งนั่นเท่ากับว่าโกดังที่มีพื้นที่กว้างขวางแห่งนี้มีด้านที่ติดถนนทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เรียกว่าเป็นที่ดินที่สวยมากทีเดียว เมื่อเทียบกับราคาค่าเช่า นั่นจึงทำให้ความรู้สึกไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นในจิตใจของภาม และเรญ่า เพราะทุกอย่างมันพอดีเกินไปจนเหลือเชื่อ
อย่างไรก็ตามเจ้าของบริษัทอย่างภามนั้นไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เขายังอยากจะเห็นโกดังอีกสองแห่งที่เจ้าหน้าที่หนุ่มแนะนำมาก่อนจะตัดสินใจ แต่โดยส่วนตัวนั้นเหมือนว่าเขาจะชอบโกดังแห่งนี้เป็นอย่างมาก เพราะตลอดทางที่เดินชมสถานที่เขาก็ถามไถ่เกี่ยวกับที่นี่จากผู้ดูแลอย่างละเอียด
“ท่านภามชอบที่นี่หรือเจ้าคะ?” เรญ่าที่สังเกตเห็นท่าทางของเจ้านายดูร่าเริงกว่าปกติ จึงอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะหญิงสาวเคยสัมผัสได้ถึงด้านมืดของเขามาก่อน และไม่คิดว่าคนอย่างนี้จะมีอารมณ์ร่าเริงที่แสดงออกผ่านสีหน้าได้อย่างที่เขากำลังเป็นอยู่
“ใช่แล้ว ข้าชอบที่นี่ เพราะองค์ประกอบต่างๆทั้งที่ตั้งเหมาะสม สภาพอาคารทั้งสะอาด และได้รับการดูแลเป็นอย่างดี รวมทั้งค่าเช่าถูกมาก แต่สิ่งที่มันดีเกินไปมันก็น่าสงสัยล่ะนะ ถ้ามันดีจริงทำไมไม่มีใครมาใช้งานที่นี่เลย ทั้งที่ควรจะแย่งกันเสียมากกว่า” ชายหนุ่มกล่าวตอบตามตรง และยังพูดต่อหน้าผู้ดูแลอีกด้วย ซึ่งมันก็ทำให้ชายชราถึงกับชะงักไปเล็กน้อย แต่เขาก็เพียงเดินตามเงียบๆไม่ได้พูดตอบโต้อะไร
เรญ่าที่รู้งานอยู่แล้ว เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของผู้ดูแลก็เข้าใจได้ทันทีว่าที่แห่งนี้ต้องมีพิรุธบางอย่าง แต่หญิงสาวก็ยังไม่พูดออกไป เพียงต้องเปลี่ยนประเด็นไปเท่านั้น
“ถ้าอย่างไรเพื่อความสบายใจ และความคุ้มค่าในการลงทุน ข้าว่าพวกเราไปดูโกดังอีกสองแห่งก่อนแล้วค่อยตัดสินใจดีกว่าเจ้าค่ะ”
“อืม…ก็ดีเหมือนกัน ถ้างั้นเรารีบไปเลยดีกว่า วันนี้ข้าอยากดูให้ครบจะได้ไม่ต้องเสียเวลา ว่าแต่ท่านลุงแถวนี้มีรถม้าบริการหรือไม่ คิดว่าถ้าไปอีกสองที่ที่ไกลกันคงใช้เวลาพอสมควร ถ้าต้องเดินไปคงต้องทั้งเหนื่อยทั้งนานมากแน่ๆ” ตอบรับคำเรญ่าเสร็จภามก็หันมากล่าวต่อกับชายชรา
“อะ…เอ่อ ที่จัตุรัสใกล้ๆนี้มีพวกรถม้าให้เช่าอยู่ พวกท่านก็ไปขึ้นรถที่นั่นเถอะ แต่ก่อนไปข้าก็อยากจะย้ำอีกสักนิดว่าโกดังแห่งนี้เรียกว่าอยู่ในทำเลดีที่สุดที่ยังว่างอยู่ของเมืองฟลอริสตี้แล้วล่ะนะ โกดังด้านใต้ และด้านตะวันออกถึงแม้จะใหญ่พอๆกัน แต่พื้นที่ใช้สอยด้านนอกนั้นแทบไม่มีเลย ยังไงก็ลองเก็บไปคิดดูนะท่าน” แม้ว่าจะชะงักไปกับการตัดบทสนทนาของภาม แต่ชายชราก็ตั้งสติได้ และกลับมาขายของอีกรอบได้อย่างรวดเร็ว
หลังออกมาจากโกดังแล้ว ชายหญิงทั้งสองก็เดินไปที่จัตุรัสตามคำแนะนำของผู้ดูแล แต่พวกเขาก็ไม่ได้รีบตรงไปขึ้นรถม้า กลับกันภามพาเรญ่ามาเดินเที่ยวซื้อของกิน ของใช้ในตลาดอย่างกับว่ามาเที่ยวอย่างไรอย่างนั้น
“เรญ่าดูสิ ที่นี่มีร้านเนื้อย่างด้วย แปลกมากที่ร้านเนื้อย่างในเมืองฮาเวสตี้ปิดตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ถ้าเปิดขายในช่วงหนาวๆแบบนี้นะรับรองขายดีแน่นอน พวกเนื้อก็ไม่ได้หายากอะไรขนาดนั้น ทำไมพวกเขาไม่ขายกันนะ แปลกจริงๆ” ชายหนุ่มจากต่างเมืองตื่นเต้นกับร้านอาหารที่เปิดขายมากมายที่นี่ แม้ว่าผู้คนจะไม่ได้แออัดเบียดเสียด แต่ก็ครึกครื้นกว่าเมืองฮาเวสตี้ที่เป็นเมืองหลวงของแคว้นตะวันออกหลายเท่า
“ก็เรื่องเดิมๆนั่นล่ะเจ้าค่ะ ค่าเช่าที่สูงกว่าเมืองอื่น รวมทั้งพวกทหารหรือขุนนางชั้นผู้น้อย แม้กระทั่งเศรษฐียังมากินฟรีไม่จ่ายเงิน แต่ละคนต่างโอ้อวดอำนาจของตัวเองเพื่อเอาเปรียบชาวบ้านที่อ่อนแอ ซึ่งพวกเขาไม่มีใครรู้เลยว่าการทำแบบนี้มันส่งผลทางอ้อมเป็นลูกโซ่ไปถึงการเพาะปลูกของชาวบ้านด้วย” ขณะที่พูดออกมา เรญ่าถึงกับแสดงอารมณ์โกรธเคืองออกมาทางน้ำเสียง และใบหน้าอย่างชัดเจน
“อืม…ถ้าอย่างนั้นแผนการของพวกเราก็คงจะพลาดไม่ได้ พวกที่ใช้อำนาจในทางมิชอบไม่เพียงมีแค่คนใหญ่คนโตเท่านั้นสินะ พวกคนรับใช้ที่ระดับรองลงมาก็ทำตัวไม่ต่างกัน ว่าแต่ถ้ามันเป็นแบบนี้แล้วการค้าของโอเมก้าจะมีความหมายอะไรล่ะ ถ้าชาวบ้านไม่มีกำลังที่ใช้จ่ายแล้วจะหาเงินมาจากไหนกัน” ภามที่แม้จะกำลังพูดเรื่องจริงจังอยู่แต่เขาก็สามารถกินเนื้อย่างเสียบไม้ไปด้วยได้
“สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ในเมืองฮาเวสตี้ก็คือทำลายความน่าเชื่อถือของเจ้าเมืองลง และทำให้เกิดปัญหามากมายตามมาจนเจ้าเมืองไม่สามารถรับมือได้ทัน ระหว่างนั้นโอเมก้าก็จะเข้าไปแทรกแซงธุรกิจในกลุ่มต่างๆ โดยใช้ทุกวิถีทางให้ได้มาจนสุดท้ายแล้วพวกเขาจะทำตัวเป็นวีรบุรุษเข้ามาแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายเหล่านั้นเอง” เรญ่ากล่าวจบก็หยุดเดิน
หญิงสาวหันหน้ามาจ้องมองเจ้านายของเธอ ในใจก็ยังรู้สึกสับสนอยู่บ้างเธอไม่เข้าใจเลยว่าจู่ๆทำไมตัวเองที่อยู่กับฮาเซลมาตั้งแต่เด็ก แต่กลับเปลี่ยนข้างมาเข้าร่วมกับศัตรูของโอเมก้าอย่างภามได้ง่ายดายเพียงนี้ จะเป็นเพราะว่าเธอพ่ายแพ้เขา หรือที่จริงเธอก็รังเกียจการเป็นนักฆ่าของกลุ่มโอเมก้า
“หืม? เป็นอะไรไป มีอะไรเหรอ?” เกษตรกรหนุ่มรู้สึกเหมือนกับว่าที่หญิงสาวจ้องมองตนนั้นเพราะตัวเองพูดอะไรผิดไป
“ท่านสามารถทำมันได้จริงๆใช่ไหมเจ้าคะ?” สายตาที่จริงจังของเรญ่าจ้องมองเข้าไปในดวงตาทั้งสองของชายหนุ่ม
“ถ้าหมายถึงแผนการทั้งหมดตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงจบสงครามล่ะก็ ข้าจะทำมันให้สำเร็จ และการจะไปให้ถึงจุดนั้นกลุ่มโอเมก้าจะต้องถูกทำลายไม่ให้เหลือซาก ข้ายังยืนยันคำเดิม” ภามกลับมาเคร่งขรึมเช่นเดิม แล้วตอบกลับอย่างหนักแน่น ดุจดั่งมันคือคำสัญญา
เรญ่าที่ได้ยินคำพูด และได้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มที่จริงจังในตอนนี้ ก็เพิ่มความเชื่อมั่นในจิตใจของเธอได้อย่างมากมายจริงๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอถึงกับยิ้มออกมาอย่างอิ่มอกอิ่มใจ แม้ว่าจะต้องแตกหักกับผู้มีพระคุณของตัวเอง แต่เมื่อต้องร่วมต่อสู้กับคนชั่วร่วมไปกับภามเธอก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
“เจ้าค่ะ ข้าเชื่อท่าน ท่านภาม” หลังจากกล่าวออกมาหญิงสาวก็รู้สึกโล่งอก เหมือนปัญหาอันหนักอึ้งในชีวิตของเธอได้หายไปในพริบตา
“อะ…อืม ข้าจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน” แต่สำหรับชายหนุ่มเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของหญิงสาวแล้วก็ไม่อาจห้ามความเขินอายของตัวเองได้ จึงต้องรีบหลบหน้าไปอีกทางหนึ่งพร้อมกับนำเนื้อย่างขึ้นมากัดไปอีกคำ
หลังจากการเดินสำรวจตลาดพร้อมกับรับประทานอาหารกลางวันจนเรียบร้อยแล้ว ภามกับเรญ่าก็เช่าเหมารถม้าโดยสารคันหนึ่งพร้อมคนขับให้ไปส่งที่โกดังทางใต้ ด้วยเงินเพียงหนึ่งเหรียญทองก็ทำให้สารถีหนุ่มบริการลูกค้าทั้งสองเป็นอย่างดี รวมทั้งให้ความร่วมมือตอบคำถามมากมายเท่าที่เขาพอจะรู้
ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการคุยกับคนขับรถม้านั้น ก็ทำให้ภามได้เข้าใจภาพรวมของเมืองฟลอริสตี้มากขึ้น หรือแม้แต่รายละเอียดปลีกย่อยบางอย่างที่พวกเขามองข้ามไปก็ได้รู้จากสารถีหนุ่มช่างพูดคนนี้นี่เอง จนกระทั่งเมื่อรถม้ามาหยุดอยู่ที่โกดังให้เช่าของทางการเมืองฟลอริสตี้
โกดังหลังใหญ่สภาพทรุดโทรม ไม่มีรั้วกั้น ทั้งสามด้านติดกับโกดังอื่นที่สภาพทรุดโทรมไม่ต่างกัน แม้ว่าจะมีพ่อค้าเจ้าอื่นมาเช่าอยู่ก่อนแล้วแต่เหมือนกับที่นี่เป็นเพียงที่เก็บสินค้าเท่านั้น จึงไม่มีการดูแลรักษาตัวอาคารที่ดีนัก
ถ้าภามต้องทำธุรกิจขนส่งของเขาที่นี่ คงจะถือว่าเป็นการเริ่มธุรกิจที่มีภาพลักษณ์ไม่ดีมากๆเลยทีเดียว และในที่สุดพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูด้านในก็ขึ้นรถม้าออกเดินทางต่อทันที
MANGA DISCUSSION