ย้อนกลับไปที่ห้องทำงานของฮาคิม
ภามในชุดแบทเทิลสูทสีดำยังคงนั่งไขว่ห้างสบายๆอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเจ้าของร้าน
“การ์ดนี่สามารถใช้เข้าออกฟาร์มของเจ้าได้อย่างนั้นเหรอ? แล้วเอามาให้ข้าทำไม? ข้าไม่คิดจะเข้าไปในป่าลึกเช่นนั้นแน่นอนถ้าไม่มียอดฝีมือไปด้วย และข้าก็ไม่จำเป็นต้องไปที่นั่นในตอนนี้ด้วย” พ่อค้าหนุ่มกล่าวอย่างไม่ใยดีถึงของวิเศษที่ใครๆต่างก็อยากได้ชิ้นนี้
“ฮ่ะๆนี่ถ้าฮาเซลได้ยินเจ้าพูดแบบนี้มันคงอกแตกตายแน่ๆ เอาเถอะการ์ดนี่มีความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่ข้ายังไม่เคยบอกใคร เมื่อเจ้าจ่ายพลังเวทย์เข้าไปในการ์ดนี้แล้วตั้งสมาธิก็จะสามารถโทรจิตหาข้าได้โดยตรง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม” ภามยื่นหน้าเข้าไปกล่าวกับเพื่อนใกล้ๆ พร้อมรอยยิ้มที่บ่งบอกว่า ‘เป็นยังไงเจ๋งใช่ไหมล่ะ!’
“ติดต่อเจ้าได้เพียงผู้เดียวงั้นเหรอ? แล้วจะใช้คุยกับคนที่มีการ์ดคนอื่นได้ด้วยรึเปล่า?” ฮาคิมยังคงขมวดคิ้วสงสัย และไม่ได้ตื่นเต้นกับสรรพคุณที่เพื่อนอธิบาย
“ไม่ได้ ติดต่อคนอื่นไม่ได้ นอกจากข้าเพียงคนเดียว” เกษตรกรหนุ่มกล่าวออกมาด้วยความเซ็งเล็กน้อยที่ดูเหมือนว่าพ่อค้าตรงหน้าจะเจอข้อเสียของมัน
“อืม…งั้นก็ไม่เป็นไร ติดต่อเจ้าคนเดียวก็ได้ ข้าแค่อยากจะคุยกับน้องสาวบ้างก็เท่านั้น” ฮาคิมกล่าวออกมาตามตรง แต่เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับปัญหาตรงนี้
หลังจากเจ้าของร้านไวน์เก็บการ์ดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแล้ว เขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ และต้องการจะบอกกับแขกผู้มาเยือน
“ภามเจ้ามาหามีเรื่องอะไร คงไม่ใช่แค่เอาการ์ดมาให้ข้าหรอกนะ?”
“เอ้อใช่…ข้ากำลังจะไปสอดแนมที่ทำการกลุ่มโอเมก้า ก็เลยมาลองถามข้อมูลจากเจ้าก่อนเผื่อจะได้สืบหาเบาะแสได้ถูก” เกษตรกรหนุ่มได้กล่าวเข้าเรื่องเสียที
“อืม…ถ้าพูดถึงเรื่องนี้…ข้าแนะนำว่าเจ้าควรรีบไปจะดีกว่า ตอนนี้ที่ทำการเจ้าเมืองกำลังมีงานเลี้ยงพิเศษที่เชิญแต่บุคคลสำคัญระดับสูงเท่านั้น และปกติข้าควรจะได้ไปด้วย แต่ครั้งนี้พวกเขากีดกันข้าอย่างชัดเจน แม้แต่คนของข้าที่จะไปช่วยเสิร์ฟไวน์ยังไม่ให้เข้า ข้าว่าเรื่องนี้ต้องไม่ธรรมดา” ฮาคิมอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง
“แล้วบีดีเลียไม่ส่งข่าวมาเหรอ?” ชายชุดดำกล่าวถาม
“ไม่เลย ข้าคิดว่านางคงถูกกักตัว รวมทั้งคนของนางด้วย ไม่แน่ว่าอาจเกิดอะไรขึ้นกับนาง ถ้าเจ้าพอจะช่วยได้ก็ช่วยหน่อยละกัน” พ่อค้าหนุ่มสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นกว่าเดิม
“ได้สิ แล้วในงานนี้ข้าต้องเตรียมตัวอะไรบ้างหรือเปล่า?” ภามพยายามถามข้อมูลจากฮาคิมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อไม่ให้แผนการลอบเร้นครั้งนี้ผิดพลาด
ซึ่งสิ่งที่อดีตทหารพอจะได้ข้อมูลมาก็คือการมาถึงอย่างไม่เป็นทางการของเดอริก เฟลมเมียผู้เป็นญาติทางฝ่ายมารดาของบีดีเลียเท่านั้นที่พอจะไว้ใจได้ และมหาจอมเวทย์นาธาน เกลเลียนก็ถูกเชิญมาในงานนี้ด้วย ส่วนคนอื่นๆส่วนใหญ่ก็เป็นพ่อค้า และขุนนางที่อยู่ฝ่ายผู้ช่วยฯเวเบอร์ และกลุ่มโอเมก้าเท่านั้น
แม้ว่าเมื่อภามมาถึงภายในงานเลี้ยงแล้วจะได้พบกับคนสำคัญที่มาเซอร์ไพรส์อย่างเดเมียน และอิลม่าด้วยก็ตาม
ปัจจุบันภายในงานชายล่องหนค่อยๆคืบคลานหลบผ่านฝูงชนเข้าไปใกล้กับโต๊ะประธานมากขึ้นเรื่อยๆ เหตุที่ภามต้องทำสิ่งอันยุ่งยากเหล่านี้ก็เพราะเขาต้องการหลบการสัมผัสพลังของยอดฝีมือระดับสูงหลายคนที่รวมตัวกันอยู่รอบจุดนั้น
และในที่สุดเมื่อชายหนุ่มหยุดอยู่ด้านหลังของบุตรีเจ้าเมืองผู้เศร้าหมองไม่พูดไม่จา แต่จู่ๆความรู้สึกบางอย่างก็เกิดขึ้นในจิตใจ ภามเกิดความลังเลในชั่วขณะนั้นพอดี ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถอยออกมายืนตรงที่ว่างใกล้ๆ เพื่อพิจารณาแผนการอีกครั้ง
ย้อนกลับไปตอนที่พบกับครูใหญ่ที่สวนด้านหลังอาคารที่ทำการเจ้าเมือง
ชายหนวดเครารุงรังผู้ห่มคลุมด้วยหนังพยัคฆ์ ตั้งท่าเตรียมพร้อมต่อสู้ทันทีเมื่อบุคคลลึกลับภายใต้หน้ากากราชสีห์ทมิฬปรากฏตรงหน้าโดยไม่อาจสัมผัสได้ด้วยพลังใดๆ อย่างกับว่าร่างสีดำตรงหน้าไม่มีตัวตน ทั้งที่มันเพิ่งกล่าวด้วยเสียงแห้งออกมาเมื่อครู่
“ข้าจะถามอีกครั้ง เจ้าเป็นใคร และต้องการอะไร?” ครูใหญ่กล่าวเสียงเครียด
“ข้าแค่มาสอดแนมงานเลี้ยงครั้งนี้ และบังเอิญมีคนบอกว่าท่านก็อยู่ที่นี่ด้วย เลยแวะมาหาก่อนก็เท่านั้น” เสียงแหบแห้งกล่าวออกมาตามตรง
“นะ…นี่เจ้าบอกออกมาอย่างนี้เลยเหรอ? ไม่กลัวว่าจะถูกขัดขวางหรือไง?” นาธานกล่าวถามออกมาอย่างไม่เข้าใจในความคิดของผู้ที่มีจุดประสงค์ลอบเร้นซึ่งยืนอยู่ตรงหน้า
ภามไม่ได้อยากล้อเล่นกับครูใหญ่ให้เสียเวลาอีกต่อไป เขาจึงกดปุ่มที่เล็กๆที่เหนือดวงตาราชสีห์สีแดงด้านขวา หมวกเหล็กที่ครอบทั้งศีรษะก็เปิดเฉพาะส่วนหน้ากากขึ้นไปด้านบน (เหมือนไอรอนแมน) ปรากฏใบหน้าของเกษตรกรหนุ่มผู้มีพลังเวทย์มหาศาลนั่นเอง
“จะ…เจ้า!” ครูใหญ่ตะลึงกับสิ่งที่เห็น นิ้วที่ชี้ไปยังภามถึงกับสั่นไหว
“เฮ้อ! นี่ครูใหญ่จะแปลกใจทำไมล่ะเนี่ย ที่จริงท่านน่าจะเดาได้นะว่าเป็นข้า” ภามเท้าเอวพร้อมกล่าวถามอย่างไม่เข้าใจ
“อะแฮ่ม…คือข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะมาอยู่แถวนี้ก็แค่นั้นแหละ แล้วเจ้ามาสอดแนมเรื่องอะไรงั้นรึ เผื่อข้าผู้นี้จะช่วยแนะนำเจ้าได้” ครูใหญ่กระแอมแล้วก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“ก็ได้ยินว่างานเลี้ยงนี้เป็นงานเลี้ยงพิเศษที่ไม่บอกหัวข้องาน แถมเชิญมาเฉพาะคนสำคัญ และคนสนิทเท่านั้น ข้าก็คิดว่าคงเป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆที่ไม่สามารถบอกคนจำนวนมากได้ ซึ่งข้าขอบอกตามตรงว่ากลุ่มโอเมก้า รวมถึงผู้ช่วยฯเวเบอร์นั้นแสดงตัวเป็นศัตรูกับข้า จึงกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น” ภามอธิบายสิ่งที่เขาพอจะรู้มาบ้างจากฮาคิม
“อ๋อ…ที่แท้เรื่องก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ยังไงเรื่องนี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าอยู่บ้างเล็กน้อยถึงจะไม่อยากยุ่งเกี่ยวก็เถอะ ส่วนจุดประสงค์ในการจัดงานเลี้ยงครั้งนี้ก็คือเพื่อประกาศการหมั้นหมายระหว่างท่านหญิงบีดีเลีย และท่านชายเดเมียน กลาเซีย โดยที่ตอนนี้ฝ่ายหญิงยังคงไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด” ครูใหญ่เล่าในสิ่งที่รู้ให้กับภามได้ฟัง
“ว่าไงนะ! แล้วนางไม่ระแคะระคายสิ่งใดเลยรึ? เรื่องสำคัญเช่นนี้ทำไมสายสืบของฮาคิมก็ยังไม่รู้” ภามรู้สึกประหลาดใจกับเรื่องนี้อย่างมาก
“คนที่รู้เรื่องนี้มีน้อยยิ่งกว่าน้อย ทีแรกก่อนที่ข้าจะมาที่งานนี้ข้าก็ยังไม่รู้หรอก แต่ใช้วิชาหูทิพย์แอบฟังเรื่องที่คนพวกนั้นคุยกัน ก็เลยรู้เข้าโดยบังเอิญแค่นั้นแหละ” ครูใหญ่พูดเหมือนกับว่าไม่ใช่เรี่องใหญ่โตอะไร
ภามที่รู้เรื่องนี้ก็เป็นกังวลอย่างมาก เพราะจากข้อมูลที่ฮาคิมให้มา ถ้าสองตระกูลใหญ่นี้เชื่อมสัมพันธ์กันได้ อิทธิพลของกลุ่มโอเมก้าก็จะขยายเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถมีกำลังพอจะไปกดดันตระกูลใหญ่อื่นๆได้อีกด้วย
“เดี๋ยวก่อน! ข้าได้ยินว่าตระกูลเกลเลียนของท่านก็เป็นตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงด้วยใช่หรือไม่?”
“ใช่แล้ว ทำไมรึ?” ครูใหญ่เริ่มสงสัย
“ก็ถ้าสองตระกูลนี้เกี่ยวดองกัน อำนาจที่มีก็สามารถกดดันตระกูลเกลเลียนเพื่อให้ยอมจำนนต่อพวกเขาได้ ข้าพอรู้นะว่าตระกูลของท่านไม่ค่อยถูกกับตระกูลใหญ่สักเท่าไร” ภามชี้แจงให้ครูใหญ่เห็นถึงปัญหาในภายภาคหน้า
“บัดซบ! นี่มันเชิญหลานสาวข้ามางานก็เพื่อให้นางรับรู้เรื่องนี้สินะ ไม่ได้การแล้ว เราจะต้องทำลายแผนการของพวกมัน” ฤาษีผมเทาเผยแววตาเป็นประกายเย็นเยียบ ซึ่งบรรยากาศนี้ทำให้อดีตทหารถึงกับขนหัวลุก
“แล้วเราควรจะใช้วิธีไหนดีล่ะ?” ภามยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร
“เจ้าก็แค่ชิงตัวคู่หมั้นสาวออกมาก็แค่นั้น งานถนัดของเจ้าไม่ใช่เหรอ” ครูใหญ่ยิ้มอย่างมีเลศนัย
กลับมาในปัจจุบัน ภามยังคงนึกถึงแผนการอันเย็นเยียบที่ครูใหญ่บอกไว้ แต่เขาต้องทำมันเพียงลำพัง โดยครูใหญ่จะต้องออกไปจากงานเลี้ยงก่อน แม้ว่าจะน่าสงสัย แต่ถ้าเขายังอยู่แล้วไม่อาจจับโจรร้ายได้ทั้งที่เป็นมหาจอมเวทย์ มันจะดูน่าสงสัยมากกว่า
‘เอาก็เอาวะ มาถึงขั้นนี้แล้ว’ ชายหนุ่มกล่าวให้กำลังใจตัวเอง
MANGA DISCUSSION