งานเลี้ยงอย่างไม่เป็นทางการของเจ้าเมืองฮาเวสตี้เมื่อดูเผินๆแล้วอาจจะไม่มีอะไร แต่เมื่อแขกเข้ามาอยู่ในห้องจัดเลี้ยงมากขึ้นๆ เหล่าผู้มีอำนาจต่างก็กวาดสายตามองกันไปทั่วงาน ทุกคนต่างก็เป็นบุคคลสำคัญระดับสูงของทุกๆเมืองในแคว้นตะวันออกทั้งนั้น
โดยปกติแล้วการรวมตัวของชนชั้นสูงในงานเลี้ยงนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ครั้งนี้เรียกว่าไม่มีใครที่มากจากตระกูลที่ฐานะต่ำกว่าชั้นเอิร์ลเลย แม้แต่พ่อค้ายังเป็นเศรษฐีระดับสูงสุดของแต่ละเมืองทั้งสิ้น มันทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในใจว่านี่จะต้องเป็นงานเลี้ยงที่มีความพิเศษอย่างยิ่ง
ซึ่งแม้แต่คนสำคัญในงานอย่างบุตรีแห่งเจ้าเมืองฮาเวสตี้ ก็ยังไม่รู้ถึงจุดประสงค์ในครั้งนี้ที่บิดาเป็นผู้จัดขึ้นมา เธอรู้เพียงแต่ว่าบุคคลสำคัญเหล่านี้ไม่ใช่คนที่ใครๆจะล่วงเกินได้ ถึงพวกเขาจะยอมพึ่งพาต่อดยุคเรโคลเต้ แต่ดยุคเองก็ต้องพึ่งพาพวกเขาเช่นกัน
“พี่เดอริก ท่านว่ามันแปลกหรือไม่ที่แขกในวันนี้เป็นระดับคนสำคัญของเมืองทั้งนั้นเลย?” บีดีเลียกระซิบถามลูกพี่ลูกน้องของเธอ
“นั่นสิ ขนาดท่านหญิงอิลม่ายังมาที่นี่ด้วย ข้าว่าท่านลุงต้องมีเรื่องสำคัญแน่ๆ ข้าสงสัยเขาจะหาว่าที่สามีให้เจ้าได้แล้ว และจะประกาศเปิดตัวให้เจ้าได้ประหลาดใจแน่ๆ” ท่านชายแห่งตระกูลเฟลมเมียแซวญาติผู้น้อง
“ท่าน!…ปากไม่เป็นมงคลเลยนะ ข้าคงต้องไปหาน้ำด่างมาล้างปากท่านเสียแล้ว” หญิงสาวผมดำเถียงกลับอย่างไม่เกรงใจ
“เดี๋ยวๆๆ ช้าก่อนน้องข้า เรากำลังอยู่ในงานเลี้ยงนะ เจ้าคงไม่อยากขายหน้าตรงนี้ใช่ไหม อิอิ” เดอริกทำหน้าทะเล้นพร้อมกล่าวเตือนหญิงสาวเล็กน้อย
“หึ! ถ้าเช่นนั้นท่านควรจะเก็บปากไว้กินข้าวดีกว่า หรือไม่ก็กลับไปจู๋จี๋กับเจ้าแก่ฮาเซลซะ ข้าขอตัวก่อน” บีดีเลียที่ไม่สบอารมณ์กับคำพูดล้อเล่นของพี่ชายเธอ จึงเลือกที่จะเดินหนีไปก่อนจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ส่วนเดอริกที่โดนญาติผู้น้องทิ้งไปแล้ว ชายหนุ่มจึงได้แต่หันไปคว้าแก้วไวน์ขาวที่บริกรเดินเข้ามาเสิร์ฟพอดีเพื่อดื่มย้อมใจสักเล็กน้อย
“อื้ม…สดชื่นจริงๆ ซีเครตบล็อง ตระกูลวีตาเร่ใช้วิธีใดถึงสร้างสรรค์สิ่งนี้ออกมาได้นะ?” ชายหนุ่มดื่มเข้าไปค่อนข้างมาก แต่โชคดีที่เขาค่อนข้างคอแข็งมากพอ ต่างกับชนชั้นสูงหลายคนที่เริ่มเดินเซ และหัวเราะเสียงดังจนเสียมาดผู้ดีไปซะแล้ว
แต่เพียงชั่วครู่ความฟินในจินตนาการแห่งการดื่มด่ำไวน์ของชายหนุ่ม ก็ถูกขัดจังหวะจากชายร่างสูงที่เดินมาชนเข้าที่ด้านหลัง
“อ้ะ…ขอโทษๆ ข้าเดินไม่ระวังเอง” ชายวัยกลางคนหนวดสีเทาเครารุงรังสวมชุดประหลาดที่ดูซอมซ่อกล่าวขออภัยต่อชายหนุ่ม
“เอิ่ม…หามิได้ขอรับท่านมหาจอมเวทย์ เป็นข้าน้อยที่ยืนเกะกะเอง” เดอริกรีบตอบกลับอย่างอ่อนน้อมทันทีที่พบว่าคนผู้นั้นเป็นใคร
“แหมๆ คนหนุ่มนี่ดีจังนะดื่มไปตั้งเยอะก็ยังไม่เมา ข้าล่ะอยากดื่มให้เยอะกว่านี้แต่ก็คงต้องหยุดแล้ว ไม่อย่างนั้นเลขาขี้บ่นของข้าต้องเทศน์จนหูชาแน่ๆ ฮ่าๆๆ” มหาจอมเวทย์นาธานกล่าวกับชายหนุ่มด้วยความเป็นกันเอง
“แหะๆ ท่านก็ยังคงดูหนุ่มแน่นอยู่นะขอรับ อีกอย่างถึงแม้อายุของท่านจะมากขึ้นแต่ทั้งพลัง และความสามารถของท่านมหาจอมเวทย์ก็มากขึ้นเช่นกัน ข้าเชื่อว่าในจักรวรรดิกาลอเรียแห่งนี้คงจะไม่มีผู้ใดแข็งแกร่งกว่าท่านแน่นอนขอรับ” ด้วยสถานะอันสูงส่งของคนตรงหน้า บุตรชายดยุคอย่างเดอริกก็ยังต้องเกรงใจจนบางทีก็เหมือนการประจบประแจง
“แหมๆๆ คนหน้าตาดี มีความสามารถ มีฐานะสูงส่งแถมยังปากหวานอย่างนี้ทำไมเจ้าไม่ไปเกี้ยวพาราสีสาวงามในงานเลี้ยงนี่สักหน่อยล่ะ มาคอยประจบเอาใจชายแก่อย่างข้าทำไมกัน” ครูใหญ่แห่งโรงเรียนจอมเวทย์แซวชายหนุ่มกลับตรงๆ อย่างไม่เกรงใจ
“เอ่อ…” ท่านชายเดอริกถึงกลับปากอ้าตาค้าง แม้สิ่งที่มหาจอมเวทย์กล่าวมาจะเหมือนตั้งใจด่าเขา แต่ด้วยน้ำเสียง และสีหน้านั้นเหมือนพูดเล่นกับเด็กเสียมากกว่า เขาจึงทำตัวไม่ถูกแล้วในตอนนี้
“วะ ฮ่าๆๆ ถึงกับอึ้งไปเลยรึ ข้าชอบการแสดงออกของเจ้าจริงๆ เจ้าคงจะชอบดื่มไวน์มากสินะ มาๆ เราไปดื่มกันต่อที่โต๊ะของข้าดีกว่า” ไม่ต้องรอการตอบรับใดๆ ชายผู้ห่มหนังเสือก็ลากตัวบุตรชายแห่งดยุคเฟลมเมียไปต่อหน้าผู้คนมากมาย
เหล่าชนชั้นสูงทุกคนต่างก็รู้จักผู้ยิ่งใหญ่อย่างมหาจอมเวทย์ และพวกเขาก็รู้ว่าชายผู้นั้นมีนิสัยแปลกประหลาดเกินกว่าจะคาดเดาคนนี้ไม่ชอบสนทนากับชนชั้นสูง แต่ตอนนี้กลับพาตัวว่าที่ผู้นำตระกูลเฟลมเมียไปคุยด้วยตัวเอง นั่นถือว่าเป็นที่ประหลาด และน่าอิจฉาในเวลาเดียวกัน
ในเวลานี้เมื่อบีดีเลีย เรโคลเต้มาถึง เธอจึงจำเป็นต้องวุ่นวายอยู่กับการต้อนรับแขกเหรื่อในฐานะเจ้าภาพ แม้ว่าในใจของเธอจะไม่ชอบการตีหน้ายิ้มแย้มต้อนรับแขก แต่อย่างน้อยในงานนี้ก็ยังมีคนที่เธอพอจะรู้จักในวัยเดียวกันอยู่บ้างจึงถือว่าทำให้หายเบื่อได้มากขึ้น
เพียงแต่ว่าหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ก็ยังคงตระหนักอยู่ตลอดเวลา ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่เข้าหาเธอด้วยใจจริง แต่พวกเขาก็ไม่เคยทำให้เธอต้องลำบากใจด้วยผลประโยชน์จึงยังทำใจพอจะคบหาได้บ้าง
วันนี้บีดีเลียต้องเดินต้อนรับแขกไปทั่วงานเพียงลำพัง ต่างจากทุกครั้งซึ่งก็เป็นที่น่าประหลาดใจสำหรับแขกอยู่ไม่น้อย บุตรีแห่งเจ้าเมืองไม่มีแม้แต่เพื่อนหรือคนรับใช้คอยเดินตามช่วยเหลือเธอเลยแม้แต่คนเดียว การกระทำของเธอในวันนี้ไม่ต่างจากหัวหน้าแม่บ้านแห่งคฤหาสน์หรูเลยแม้แต่น้อย
แล้วสาเหตุของโชคชะตาที่น่าเห็นใจนี้ก็คือ…. ยังไม่ทันที่ทุกคนจะวิเคราะห์ในตัวหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ได้สำเร็จ พนักงานต้อนรับที่หน้าประตูก็ประกาศชื่อแขกสำคัญออกมาเสียงดัง
“ท่านชายเดเมียน กลาเซีย มาถึงแล้ว!” เพียงชื่อนี้ดังขึ้นมา ทุกคนในห้องจัดเลี้ยงถึงกับสะท้านขึ้นทันที แทบจะพร้อมกันที่พวกเขาหันหน้าไปที่หน้าประตูทางเข้า และทุกสายตาจับจ้องไปที่แขกผู้มาเยือนคนใหม่
ชายหนุ่มผู้งดงาม ใช่แล้ว งดงาม ใบหน้าเย็นชาดุจภูเขาน้ำแข็งหมื่นปี ผิวขาวเนียน ดวงตาสีแดงคมกล้าแต่ถูกปกคลุมด้วยขนตางอนยาว จมูกโด่ง หน้าเรียว และผมตรงยาวสีขาวล้วนบริสุทธิ์ดั่งหิมะแห่งดินแดนเหมันต์ ชุดสีดำขอบทอง อันเป็นเครื่องแบบทหารประจำตระกูล ทำให้เขาดูสง่างามดุจเทพเจ้า
เหล่าผู้มีอำนาจต่างก็รู้สึกต่ำต้อยเมื่อพบกับคนตรงหน้า พวกเขารีบเคลื่อนตัวเข้าหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็วดุจฝูงมดได้กลิ่นน้ำตาล ทุกคนต่างทักทายบุรุษเย็นชาด้วยความอ่อนน้อมยำเกรง และรอยยิ้มสดใสยินดี แต่แฝงไปด้วยความเสแสร้งไม่ใช่เพราะแผนการร้าย และเพราะด้วยความเกรงกลัว
“ยินดีต้อนรับท่านชายกลาเซียมสู่เมืองฮาเวสตี้ขอรับ”
“ข้าไม่ทราบมาก่อนเลยว่าท่านชายจะมา ไม่เช่นนั้นข้าคงจะได้เตรียมของขวัญไว้”
“ข้าขอเชิญท่านชายไปเป็นเกียรติรับประทานอาหารที่คฤหาสน์ของข้าสักมื้อได้หรือไม่”
“ท่านชายเดเมียนนี่ลูกสาวข้าเองเจ้าค่ะ ทักทายท่านชายสิลูก”
การกระทำของผู้คนที่คอยประจบเอาใจนี้ ไม่ได้อยู่ในความสนใจของท่านชายผู้เย็นชาเลยสักนิด แต่ด้วยเขาถือกำเนิดขึ้นในตระกูลขุนนางที่ยิ่งใหญ่ ย่อมรู้มารยาทการเข้าสังคม เขาเพียงเดินช้าๆ และพยักหน้ารับคำไปทีละคนทีละคนอย่างเฉยชา พร้อมกับมีองครักษ์ที่คอยกันไม่ให้ฝูงชนเข้าถึงตัวได้
ท่านชายแห่งตระกูลกลาเซียเดินผ่านฝูงชนไปเรื่อยๆ และดูเหมือนเขาจะพบกับเจ้าภาพของงานที่ถูกบดบังไปจนมิดในที่สุด
“ท่านหญิงบีดีเลีย ข้าเดเมียนในนามแห่งตระกูลกลาเซียต้องขอขอบคุณที่เชิญข้ามายังงานเลี้ยงที่แสนอบอุ่นในวันนี้” กล่าวจบชายหนุ่มก็ก้มศีรษะให้หญิงสาวพร้อมกับยกมือขวาขึ้นทาบที่อกของตน น้ำเสียงที่อ่อนโยนที่ขัดกับภาพลักษณ์เย็นชาของเขาสะกดผู้ที่ได้สดับฟังโดยรอบให้แทบจะเข้าสู่ภวังค์
“อ่า…ยินดีต้อนรับท่านชายเจ้าค่ะ” หญิงสาวถึงกับตกตะลึงไปชั่วครู่ที่ได้พบชายหนุ่มที่โด่งดังไปทั่วทั้งจักรวรรดิ
MANGA DISCUSSION