ท่ามกลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เกษตรกรหนุ่มกำลังแปลงขนให้ม้าตัวใหม่ที่เพิ่งจับมาได้เพื่อให้มันรู้สึกคุ้นเคยกับเขา
“ฮัดเช่ย!” ภามจามออกมาเสียงดัง เขาได้แต่คิดว่าเป็นเพราะฝุ่นบนตัวม้าป่านั้นมีมากเกินไปจนฟุ้งเข้าจมูก
“ท่านภามให้ข้าช่วยไหมเจ้าคะ?” เด็กสาวแรกรุ่นผมสั้นแต่ดูยุ่งๆหน่อยเข้ามาอาสาช่วยเหลืองานชายหนุ่ม เมื่อเห็นว่ายังมีม้าอีกหลายตัวที่ภามยังไม่ได้ทำความสะอาด
“ไม่เป็นไรหรอกเมโลเอ้ ไปดูแลสองสาวนั่นเถอะ อ้อ! แล้วเจ้าก็หวีผมด้วยล่ะผมยุ่งหมดแล้ว” เจ้าของฟาร์มปฏิเสธเธอ ด้วยเพราะงานของเขามันไม่ได้หนักหนาอะไร และที่สำคัญตัวเด็กสาวก็บาดเจ็บด้วยแม้ว่าจะเล็กน้อยก็ตาม แต่เขาอยากให้เธอพักผ่อนมากกว่า
“เอ๋! จริงเหรอเจ้าคะ งะ…งั้นข้าขอตัวก่อนเจ้าค่ะ” เด็กสาวที่อยู่ในวัยกำลังห่วงสวยอายหน้าแดง แล้วก็รีบวิ่งไปหาหวีมาสางผมตัวเองที่พันกันยุ่งทันที แล้วก็ไม่ได้สนใจชายหนุ่มอีก
หลังจากดวงไฟสีขาวลูกใหญ่ระเบิดออกต่อหน้าหญิงสาวทั้งสามคนกลางทุ่งหญ้ากว้าง อิทธิฤทธิ์ของดวงแสงนั้นทำให้พวกเธอ และสิ่งมีชีวิตโดยรอบทั้งหมดหลับใหล การต่อสู้ของสองเพื่อนสนิทวานีล และมีอาจึงจบลงไปแบบนั้น
เจ้ามังกรน้อยแพนดั้นเหาะลงมาจากฟากฟ้าแล้วใช้พลังจิตโอบอุ้มสามสาวให้ลอยไปนอนดีๆที่ใต้ต้นไม้ พร้อมกับรักษาบาดแผลให้กับพวกเธอด้วยเวทมนตร์อย่างอ่อนโยน ซึ่งตั้งแต่ดวงไฟสีขาวแล้วเป็นมังกรตัวเขียวสร้างขึ้นเพื่อยุติเรื่องราวทั้งหมดนั่นเอง
เมื่อตอนที่ภาม กับแพนดั้นตามรอยกองทัพออร์คไป พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่มาจากทิศเหนือใกล้เคียงกับทิศของทุ่งหญ้ากว้าง ชายหนุ่มจึงให้มังกรน้อยกลับไปปกป้องสามสาวเผื่อจะเกิดเหตุร้ายขึ้น แต่ตัวเขาที่ใกล้ถึงถ้ำที่พวกออร์คเข้าไปแล้วจึงเลือกที่จะตามต่อไปแทน
แต่เมื่ออดีตทหารกำลังแอบดูหมู่บ้านออร์คที่อยู่อีกด้านหนึ่งของถ้ำอยู่นั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังที่มหาศาลกว่าครั้งแรกเป็นอย่างมาก ซึ่งชายหนุ่มก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นพลังของมังกรมายาเพราะเคยชินกับการฝึกฝนร่วมกันมานาน แต่พวกออร์คทั้งหมดที่นั่นก็รับรู้พลังอันรุนแรงนี้ด้วยเช่นกัน
พวกมันต่างตกใจกลัววิ่งกันวุ่นวายไปหมดทั้งหมู่บ้าน ภามที่คิดว่ากลับมาดูเหตุการณ์ที่ทุ่งหญ้าจะดีกว่า เพราะถึงกับทำให้แพนดั้นปลดปล่อยพลังมหาศาลออกมาคงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน แต่เมื่อเขาบินกลับมาถึงด้วยความเร็วสูงก็เห็นผู้หญิงทั้งสามคนนอนหลับเรียงกันที่ใต้ต้นไม้แล้ว
แต่ไม่เพียงสามสาวที่หลับอยู่ยังมีม้าป่าทั้งฝูงนอนหลับอยู่กลางทุ่งหญ้าอีกด้วย นั่นจึงเป็นโอกาสอันดีที่จะจับม้าป่าตามเป้าหมาย ภามจึงให้แพนดั้นจับพวกมันทั้งหมดมามัดไว้กับต้นไม้ ส่วนเขาก็เข้าไปดูอาการของหญิงสาวทั้งสามคน จากนั้นก็ให้มังกรน้อยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ตนฟัง
ภามรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเมื่อรู้เรื่องราวจากมังกรน้อย เพราะถ้าเป็นเขากลับมาเองคงใช้วิธีการที่อ่อนโยนกว่านี้ผู้ช่วยทั้งสามของเขาคงจะไม่บาดเจ็บ แต่จะโทษแพนดั้นก็ไม่ได้เพราะนั่นเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการขัดขวางพลังโจมตีมหาศาลของวานีลที่กำลังจะถึงตัวน้องสาวของเธออยู่แล้วนั่นเอง
และเมื่อตอนที่ชายหนุ่มจะถามต่อถึงสาเหตุของเรื่องทั้งหมดกับเจ้ามังกรขนปุย เมโลเอ้ก็ตื่นขึ้นมาเสียก่อนภามจึงสนใจแต่อาการของเด็กสาว และให้เธอไปดูแลหญิงสาวที่สลบอยู่ทั้งสองคนแทน ส่วนตัวเขาก็ไปจัดการเรื่องม้าต่อซึ่งที่จริงเพราะเขาทำตัวไม่ถูก และรู้สึกผิดอยู่ในใจ ที่พวกเธอบาดเจ็บเพราะมากับเขานั่นเอง
ภามยังคงแปรงขนม้าต่อไปแก้เก้อ แล้วแพนดั้นก็เข้ามาคุยกับชายหนุ่มผ่านโทรจิต
‘ท่านภาม พวกม้าเชื่องกับท่านดีหรือไม่ขอรับ?’ มังกรน้อยทำหน้าตาน่ารักพร้อมกับถามออกมา
‘ก็ได้พลังของเจ้าช่วยสื่อสารกับพวกมัน ทุกอย่างก็เลยง่ายไปหมดน่ะสิ เฮ้อ! นี่ไม่รู้ว่าข้าวางแผนการจับม้ามาให้ยุ่งยากทำไม แค่เจ้าตัวเดียวก็จัดการได้แล้ว’ ชายหนุ่มกล่าวตัดพ้อกับตัวเอง
‘เอ๋! นี่เป็นครั้งแรกเลยนะขอรับที่เห็นท่านภามเหนื่อยใจเช่นนี้ ปกติก็เห็นท่านชอบใช้แต่วิธีการของคนธรรมดา ท่านไม่เคยใช้เวทมนตร์เพื่อทำงานเลยนี่ขอรับ?’ แพนดั้นถึงกับแปลกใจกับกำกล่าวของเจ้าของฟาร์ม
‘ข้ามาที่นี่ก็เพื่อใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายสงบสุข แต่มันก็เป็นโลกที่มีพลังเวทมนตร์ และมอนสเตอร์ การจะหลีกเลี่ยงเหมือนกับว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีตัวตนอยู่ก็คงเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างแม้แต่ฟาร์มที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เกิดจากเวทมนตร์เช่นกัน ถ้าไม่มีเวทมนตร์ข้าก็คงไม่ต่างจากชาวบ้านทั่วไป’ ชายหนุ่มตอบกลับมาเหมือนกับว่าได้ตัดสินใจอะไรบางอย่าง
‘ถ้าอย่างนั้นท่านภามจะทำอย่างไรต่อไปหรือขอรับ?’ เจ้ามังกรน้อยที่ดูเหมือนจะรู้ใจชายหนุ่มไปเสียทุกเรื่องกล่าวถามไปตามตรง
‘ในเมื่อตัวเองมีพลังเวทย์มากมายขนาดนี้ ข้าก็คงต้องใช้มันให้เต็มที่ในเรื่องที่เหมาะสมแล้วล่ะนะ ยิ่งเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ข้า และเจ้ายังไม่อาจปกป้องพวกนางได้ แม้ว่าจะเป็นการทะเลาะกันเองก็ตาม แต่ก็หมายความว่าพลังที่มีนั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยถ้าเราไม่ใช้มัน’ แม้ว่าจะคิดได้ว่าควรใช้เวทมนตร์อย่างไร แต่ภามยังคงโทษตัวเองในเรื่องไม่ยอมศึกษาเวทมนตร์อยู่ดี
‘แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการใช้พลัง หรือความรู้ด้านเวทมนตร์ของท่านภามเลยนะขอรับ มันเกิดจากที่ท่านวานีลควบคุมพลังตอนตัวเองโกรธไม่ได้ต่างหาก ส่วนท่านมีอาก็ยั่วยุให้คู่ต่อสู้คลั่งเพื่อได้เปรียบในการต่อสู้ ยิ่งท่านเมโลเอ้ที่ไม่เก่งเรื่องการต่อสู้ก็ประมาท และไม่อาจตั้งสติในยามคับขันได้อีกด้วย’ มังกรมายาแม้จะดูภายนอกขี้เล่นไร้เดียงสา แต่สติปัญญาระดับสูงก็กล่าวถ้อยคำให้ชายหนุ่มได้คิดอีกครั้ง
ภามที่ได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วทันที เขาไม่แน่ใจว่าเจ้ามังกรน้อยต้องการสื่ออะไรกันแน่ จึงหยุดแปรงขนม้าแล้วหันไปจ้องตากลมโตของแพนดั้นที่ลอยตัวอยู่ตรงหน้าเขา แล้วจึงกล่าวถ้อยคำออกมา
“เจ้าจะบอกว่าพวกนางต่อสู้กันเองแล้วข้าที่พาพวกนางมาไม่ต้องรับผิดชอบงั้นรึ? ข้าเป็นเจ้าของฟาร์ม คนภายใต้การดูแลของข้าตัวข้าก็ต้องรับผิดชอบสิ ถ้าข้าอยู่ที่นี่คงจะขัดขวางพวกนางได้ก่อนจะเกิดเรื่องด้วยซ้ำไป” ภามพูดออกมาตามตรงจากความรู้สึกผิดของเขา
“กี้! กีกิ้ กีกี้” ‘เอ๋! อย่าเข้าใจผิดนะขอรับ การรับผิดชอบในฐานะเจ้าของฟาร์มที่พาพวกนางมาที่นี่นั้นถูกต้องแล้ว แต่ข้าต้องการจะบอกว่าท่านอย่าได้โทษมุมมองในการใช้พลังของตัวท่านเองเลย เพราะมันไม่เกี่ยวกัน สิ่งที่ท่านภามต้องคิดไต่ตรองให้มากกว่านี้ก็คือสาเหตุที่พวกนางผิดใจกัน ซึ่งท่านก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว’ มังกรน้อยอธิบายเน้นย้ำให้ชายหนุ่มได้คิดต่อ
“…เจ้าจะบอกว่าสาเหตุเป็นเพราะข้า?” เพียงได้รู้สิ่งที่มังกรน้อยกล่าวย้ำขึ้นมาภามก็รู้ตัวทันที
“กี้” แพนดั้นตอบรับด้วยเสียงน่ารักสั้นๆเท่านั้น เพราะเป้าหมายของมันสัมฤทธิ์ผลแล้วเมื่อเห็นเมโลเอ้ลุกขึ้นยืน
เด็กสาวผมสั้นได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูดกับมังกรน้อยจึงเดินเข้ามาหาเขา และจ้องไปยังดวงตาของเจ้านายแม้ว่าจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร แต่เพื่อคลายสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจเธอจำเป็นต้องพูดออกไป
“ท่านภามเจ้าคะเรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว…ข้าจึงอยากจะถามท่านตามตรง…ท่านมีใจให้กับใครกันแน่ ระหว่างพี่วานีล กับพี่มีอา?” เมโลเอ้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย แต่ดวงตาก็ยังแสดงออกได้ถึงความต้องการคำตอบนี้
“เฮ้อ…เจ้าอย่าถามอย่างนี้สิ เมโลเอ้” ชายหนุ่มได้แต่เอามือกุมหน้าผาก แล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนที่ตัวเองไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไรดีเพื่อไม่ให้ทำร้ายจิตใจผู้ฟัง แต่…
“ท่านภาม ท่านที่มาจากดินแดนอื่นคงจะไม่เข้าใจชาวฟาร์เมีย คนที่นี่จะมีสามี หรือภรรยาเพียงคนเดียวเท่านั้น ท่านไม่อาจแต่งงานกับทั้งสองคนพร้อมกันได้ พวกนางถึงต้องลำบากใจจนทะเลาะกันถึงเพียงนั้น” เมโลเอ้ที่รักหญิงสาวทั้งสองคนมาก ไม่อาจให้ชายหนุ่มมาทำร้ายจิตใจของพวกเธอได้
“….” เมื่อได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มถึงกับไปต่อไม่ถูกกับจินตนาการไปไกลของเด็กสาว
MANGA DISCUSSION