อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 99 เซไคเซ็นไตจู่โจม 1
หลังไปดูสำนักงานใหญ่แห่งใหม่จนพอใจแล้ว ฉันก็ตัดสินใจไปฝึกการต่อสู้ให้กับฮาคัวต่อทันที
โดยสถานที่ก็คือลานฝึกข้างในนั่นแหละ
ถ้าจะให้บอกถึงความต่างก็คงเป็นเรื่องของความกว้างลานฝึกนี่แหละ เรียกได้ว่าไม่ต้องกังวลเรื่องใส่สุดแรง
แต่จะให้ฮาคัวมาซ้อมสู้จริงเลยตั้งแต่แรกก็คงไม่ใช่เรื่องดีนัก ฉันก็เลยสู้กับอากาเนะให้ฮาคัวดูก่อนเป็นตัวอย่าง
「ยังจำวันนี้ฉันซ้อมให้นายตอนความจำเสื่อมได้อยู่เลย!」
「อ้า ก็ขอบใจละกัน」
สภาพของลานฝึกเปลี่ยนเป็นพื้นที่ภายในเมืองผ่านโอโลแกรม
อากาเนะกับฉันทำการแปลงร่างและสร้างอาวุธขึ้นมาถือในมือ
ร่างที่ฉันเลือกใช้คือเบรกฟอร์มของชิโระ
「ฮึม!」
อากาเนะเองก็สวมสูทสีแดงพร้อมกับถือดาบยาวเท่าส่วนสูงของเธอภายในมือ พุ่งเข้ามาโจมตีฉันทันที
ฉันตอบสนองกลับไปด้วยการใช้ลูปัสแดกเกอร์ป้องกันเอาไว้ ก่อนจะเตะสวนกลับไป แต่เธอก็สามารถหลบได้ด้วยการกระโดดถอย
ก็อยากจะตามไปซ้ำหรอกนะแต่….
「ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก!」
….อากาเนะยิงคลื่นดาบกลับมาใส่ฉันที่กำลังพยายามจะปิดระยะห่าง
ชวนให้นึกถึงเรื่องในอดีตชะมัด
ฉันเคยสู้กับพวกเธอมาตั้งแต่สมัยยังเป็นอัศวินดำ แถมพวกเธอยังแกร่งขึ้นทุกครั้งที่เจอกัน
แม้กระทั่งตอนนี้….
『NEXT!! BREAK RED!! → OK? 』
「งั้นลองนี่หน่อยเป็นไง」
『CHANGE!! BREAK RED!!』
ฉันเลือกร่างสีแดงที่ใช้ดาบในการต่อสู้
ดาบสีแดงฉานปรากฏขึ้นในมือฉันก่อนจะปลดปล่อยเปลวเพลิงพุ่งไปหาเรด
「ร่างแดงสินะ!」
「ตอนที่เสียความทรงจำโดนเล่นไว้ซะเยอะ แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิมหรอก」
เรดผ่าเปลวเพลิงเป็นสองส่วน ก่อนจะเข้ามาหาฉันอย่างดุดัน
ฉันก็สวนกลับไปด้วยการเหวี่ยงดาบเข้าปะทะ
「「———อึก!」」
แม้ว่าจะยังโจมตีกันไม่สำเร็จ แต่ฉันกับอากาเนะก็ไม่คิดจะถอยและสวนดาบกันไปมา
ส่วนคมที่ปะทะกันทำให้เกิดเสียงกึกก้องพร้อมกับเปลวเพลิงที่พวยพุ่ง
การปะทะกันนับสิบครั้งเกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
เมื่อฉันเห็นจังหวะว่าปล่อยให้เป็นแบบนี้คงไม่ได้ไปไหนต่อ ฉันจึงหลบดาบของเรดแล้วเอามือไปสับตัวเข็มขัด 3 ที
『DEADLY!! BREAK RED!!』
ก่อนจะใช้มืออีกข้างจับแขนของเรดเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอหนี จากนั้นจึงกดยืนยันการใช้งานท่าพิเศษที่หัวเข็มขัด
「ลองหลบท่านี้ให้ได้ดูสิ!」
「ชิ!? 」
『BREAK POWER!!』
『BURNING!! SLASH!!』
เปลวไฟปะทุขึ้นมาจากดาบของฉันพลังของมันสามารถกลืนกินพื้นที่ตรงหน้าให้สูญสิ้นได้จนหมด อากาเนะไม่สามารถป้องกันการโจมตีของฉันได้หมดแน่ หรือถ้ากันได้จริงก็ไม่มีทางที่จะยืนอยู่ได้สบายๆ
นอกจากนี้ฉันยังสามารถปลดปล่อยพลังงานของดาบซ้ำได้อีกรอบเพื่อปิดเกมด้วย
「คึก! ยังหรอกน่า!」
「!!」
เธอฟันดาบสวนกลับอย่างรวดเร็วและผ่าท่าพิเศษของฉันได้งั้นเหรอ?!
พลังบ้าบออะไรเนี้ย?!
อากาเนะผ่าท่าพิเศษของฉันเป็นเส้นตรงจนสามารถหยัดการโจมตีนี้ได้
「มีช่องว่าง!」
เสียงของเธอตะโกนดังลั่น ก่อนฉันจะเห็นรอยแตกบนดาบ
…..ก็รู้แหละว่าน่าจะตึงมือ
แต่ฝีมือการใช้ดาบของยัยนี่ดีกว่าฉันจริงๆ ด้วย
「อย่าคิดว่าจะมีแค่ดาบล่ะ!」
「หา? 」
อากาเนะวางมือไว้ตรงที่อุปกรณ์แปลงร่างก่อนจะเห็นว่ามีอะไรบางอย่างปรากฏตรงซอกนิ้วของเธอ
จากนั้นเธอก็สะบัดมืออย่างรวดเร็ว ก่อนที่บางอย่างจะตรงเข้ามาหาฉัน
「ชูริเคน?! หล่อนเป็นนินจาเหรอฟะ?!」
มันคือชูริเคนสีแดงเพลิง
ฉันรีบกระโดดหลบให้พ้นวิถีการโจมตี จากนั้นฉันก็มองไปยังชูริเคนที่พลาดเป้าซึ่งปักอยู่ตรงพื้น พอคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วมันก็เกิดการระเบิดขึ้นทันที
ชูริเคนระเบิด! นี่มันของบ้าบออะไรกันเห้ย!!
「งั้นก็มาลุยกันต่อเลย!」
「ทำไมถึงได้ขว้างเก่งขนาดนี้กันฟะ! ทั้งที่เธอใช้ปืนได้ห่วยสุดๆ!!」
「มันก็เหมือนคว้างดาบนั่นแหละ!」
ตรรกะอะไรของหล่อนฟะ?! แล้วมันมีคนปกติที่ไหนคว้างดาบใส่ชาวบ้านเขาบ้าง!
อากาเนะปักดาบยาวของตัวเองไว้กับพื้น ก่อนจะหยิบชูริเคนขึ้นมาเต็มสองมือแล้วปาใส่ฉันแบบจัดเต็ม
「บัดซบ! พ่อจะยิงทิ้งให้หมดเลย!!」
『CHANGE!! BREAK BLUE!!』
ฉันเปลี่ยนร่างเป็นสีน้ำเงินก่อนจะหยิบปืนขึ้นมา
ความแม่นยำและความว่องไวของร่างนี้ไว้ใจได้แน่นอน ฉันทำการยิงชูริเคนที่พุ่งเข้ามาจนหมด
「ใช้ร่างสีแดงสู้สิ!」
「อย่าพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้สิเห้ย!」
จากนั้นอากาเนะก็เปลี่ยนชูริเคนในมือเป็นหอกแทน
ในขณะที่กำลังยิงต้านการโจมตีจากหอก ฉันก็ทำการใช้มีดปาสวนกลับไปด้วย แต่ก็ถือบล็อกเอาไว้ด้วยอาวุธที่รูปทรงคล้ายกับคุไน
「หา」
ฉันเดาะลิ้นก่อนจะยิงกระสุนพลังงานย้ำกลับไปอีกที
อากาเนะที่เห็นแบบนั้นก็ทำการปาคุไนใส่เพื่อลดแรงปะทะก่อนจะใช้หอกฟาดกระสุนนั้นทิ้งไปแล้วถอยออกมาจังหวะหนึ่งเพื่อทำการดึงดาบที่ปักพื้นเอาไว้ก่อนหน้าขึ้นมา
「ว่าแล้วเชียว พออยู่กับนายฉันเลยสามารถใช้พลังได้เต็มที่」
「เธอใช้อาวุธกี่อันฟะเนี่ย……」
「ไม่อยากจะได้ยินคำนี้จากนายหรอกนะ」
ว่าแต่นี่เราอยู่ในยุคไหนกันฟะ มีทั้งดาบ หอก ชูริเคน คุไน
แถมยังใช้คุไนในการลดแรงปะทะของกระสุนพลังงานอีก เข้าใจคิดวุ้ย
「มาต่อกันเลยไหม」
「……ก็เอาสิ」
「จากสีหน้าแล้วสนุกไม่น้อยเลยสิ」
ว่ากันตามตรงฉันก็คิดงั้นแหละ แต่ไม่อยากจะพูดออกมาหรอกนะเออ
อากาเนะที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาแล้วพุ่งเข้ามาโจมตีด้วยดาบต่อ
ฉันจึงตอบโต้ด้วยการกดตัวเข็มขัดแล้วพุ่งไปข้างหน้า
『CHANGE!! BREAK YELLOW!!』
「ย้าก!」
「โอ้ว!」
ดาบสีแดงและขวานสายฟ้าปะทะกัน
การปะทะกันของพวกเราสองคนสร้างแสงจ้าส่องไปทั่วลานฝึก
***
「เป็นไงบ้างฮาคัว」
「พอจะเอาไปอ้างอิงได้ใช่ไหมล่ะ? 」
「อย่าพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้สิยะ!!? 」
หลังจบการฝึกซ้อมฉันก็เดินเข้ามาหาฮาคัวที่เฝ้ามองอยู่ข้างสนาม
ตอนนี้เธอแปลงร่างเป็นอัศวินขาวไปแล้ว…ไม่สิตอนนี้ต้องเรียกว่าจัสติสไวท์สินะ สูทที่เธอใส่อยู่ตอนนี้ก็คล้ายกับทางพวกอากาเนะมากกว่า
「นั่นสินะ ฉันคงใส่เต็มเกินไปหน่อย」
「แค่คิดว่าต้องโดนแบบนั้นบ้างก็ขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย……」
ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะเอาจริงเอาจังกับเรดหรอก
แต่จะว่ายังไงดีล่ะ อารมณ์มันพาไปอ่ะ
「ถึงจะไม่สามารถสู้แบบคัตซึนได้เลย แต่อย่างน้อยก็พอจะจับทางพลังของตัวเองได้บ้างแล้ว」
「งั้นเหรอ? 」
「อื้อ จากสเปกของสูทตัวนี้ดูเหมือนว่ามันจะสูงกว่าของพวกอากาเนะเสียอีก แต่มันก็แค่สเปกแหละนะ หากพูดถึงประสบการณ์กับความสามารถของผู้ใช้คงเทียบพวกเธอไม่ไหวหรอก」
เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาโดยชิโระหรือเปล่านะเลยมีสเปกที่สูง
「นอกจากนี้หากพิจารณาถึงความสามารถในการวิเคราะห์ศัตรูและลักษณะของซิกม่าเซเบอร์แล้ว ฉันว่าชิโระคงอยากจะให้ฉันสนับสนุนคัตซึนมากกว่า」
『โฮก!』
「……ดูเหมือนจะเป็นงั้นจริงแฮะ」
ชิโระส่งเสียงออกมาเหมือยอมรับ
「ฉันคงไม่สามารถเป็นกำลังรบให้กับนายในการต่อสู้พวกเซ็นไตอวกาศได้ แต่อย่างน้อยฉันก็จะพยายามเท่าที่ไหวละกัน」
「ไม่ต้องไปคิดมากหรอกน่า ฉันไม่อยากให้เธอฝืนทำอะไรเสี่ยงๆ ด้วย」
「ตอนนี้ก็พยายามจำคู่มือการใช้งานยานขับขี่อยู่น่ะ」
「หา เธอพยายามจำของที่หนาขนาดนั้นจริงดิ!? 」
อากาเนะแปลกใจกับคำพูดของฮาคัว
เพราะฉันยังไม่เคยเห็นคู่มือการใช้งานอะไรนั่นเลย แต่มันหนาเบอร์นั้นเลยเหรอ?
「ถึงเห็นแบบนี้ฉันก็มั่นใจในมันสมองตัวเองนะ」
「ถ้าเธอเป็นพี่น้องกับอัลฟ่านี่นะ พอมาคิดดูแล้วยัยนั่นก็ฉลาดเหมือนกัน」
หากอัลฟ่าทำได้ ฮาคัวก็น่าจะไม่ต่างกันหรอก
ตอนยัยนั่นเกิดมาได้ไม่นานก็ถึงกับเรียนรู้สามัญสำนักและวิชาการอย่างพวกการแพทย์ได้เลยนี่นะ
「จากนี้ฉันจะเป็นคนควบคุมยานบินเอง ให้คิดซะว่าตัวเองอยู่กับกัปตันมากฝีมือได้เลย!」
「คงไปรอดสินะ……」
หากเรมะอนุญาตก็ไม่น่าจะเป็นไรมั้ง….
คือก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมแต่ฉันแอบรู้สึกกังวลจริงๆ อาจจะเป็นเพราะฉันได้เห็นสภาพการใช้ชีวิตกับเธอในฐานะน้องชายตอนนั้นละมั้ง
「ว่าแต่ฮาคัวจังบอกว่าจะขับยานสินะ แล้วเป็นยานอันไหนล่ะ หรือจะเป็นฮอที่ใช้ส่งพวกเรา? 」
「ไม่ใช่หรอกไวท์ 5 ที่คัตซึนใช้ต่างหาก ตอนนี้ประธานอัพเกรดให้มันบินได้แล้วน่ะ」
พวกเขาดัดแปลงยานนั่นไปขนาดไหนเนี่ย
เมื่อก่อนหากจะบินได้มันจำเป็นต้องประกอบร่างเข้ากับแบล็ค 4 เสียก่อน แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว
「ดูเหมือนยานของพวกอากาเนะเองก็ได้รับการอัพเกรดน่ะ ไม่ไปลองดูหน่อยเหรอ? 」
「นั่นสินะ คงต้องไปตรวจสอบก่อนใช้งานจริงสักหน่อย ไปบอกประธานก่อนละกัน ว่าแต่นายล่ะคัตสึมิคุง จะทำอะไรต่อ? 」
「หือ? ก็แน่อยู่แล้วไหม ต้องไปลองของใหม่สิ」
「ทำหน้าสนุกใหญ่เชียว……」
ไปดูยานที่รวมร่างกันเป็นหุ่นได้
ลูกผู้ชายแบบฉันมีเหรอจะไม่สนใจ
จากนั้นพวกเราก็เดินไปหาคิราระกับอาโออิที่รออยู่ห้องควบคุมข้างบน——
『คำเตือนมีผู้บุกรุก! คำเตือนมีผู้บุกรุก! คำเตือนมีผู้บุกรุก! คำเตือนมีผู้บุกรุก! 』
「「「!」」」
เสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นเหนือหัวของพวกเราพร้อมกับแสงสีแดงส่องวาบไปมา
นี่คงจะเป็นสิ่งที่เรมะเคยบอก
ก็แปลว่าพวกลำดับแห่งดวงดารามาบุกแล้วนั่นเอง
***
หลังสัญญาณเตือนดัง เรมะก็สั่งให้พวกเรามุ่งตรงไปยังโรงเก็บยานทันที
ยานทั้งหมดของพวกฉันและอากาเนะถูกเก็บเอาไว้ที่นี่ แถมเหมือนมันจะต่างจากเมื่อก่อนนิดหน่อยจริงด้วย
「ประธานสั่งให้มานี่เลย แต่ไม่ยักกะเห็นหัวตานั่น ไปมุดหัวอยู่ไหนกันนะ? 」
「อยู่ภายในยานหรือเปล่า? 」
คิราระกับอาโออิพูดขึ้น
「ยานสีขาวนั่น……」
ไวท์ 5 ที่ฮาคัวพูดก่อนหน้านี้สินะ
จากรูปลักษณ์ภายนอกที่คล้ายกับรถยนต์ได้กลายเป็นเหมือนยานบินรบมากขึ้น
ในขณะที่ฉันคิดว่ามันเจ๋งสุดๆ เรมะก็เดินออกมาจากด้านหลังของไวท์ 5
「พวกเธอ! ฉันไม่มีเวลาอธิบายแล้ว รีบขึ้นมาซะ!!」
พวกฉันตามเสียงของเขาแล้วขึ้นไปที่ไวท์ 5
ภายในค่อนข้างกว้างกว่าที่คิด คล้ายกับยานที่ฉันเห็นในหนังสายลับวันก่อนเลย
「ทุกคนนั่งเก้าอี้แล้วรัดเข็มขัดให้แน่นล่ะ ชิราคาวะคุงได้อ่านคู่มือที่ให้หมดแล้วสินะ? 」
「อ่ะ อื้อ ก็ใช่หรอก…แต่ว่า จะให้ฉันขับเลยเหรอ? 」
「ฉันกับทาเรียก็จะช่วยเธอเอง เพราะเธอได้ฝึกข้างในซิมมูเยอะแล้วคงไม่มีปัญหากับการควบคุม『WHITE “V” ไค』มันก็ไม่ต่างอะไรกับควบคุมมือเท้าหรอก」
เอาจริงสินะที่ให้ฮาคัวเป็นนักบินหลักแล้วเรมะเป็นผู้ช่วย….
「ว่าแต่นายก็จะไปด้วยเหรอ?!」
「อ้า! ไม่มีเวลาเหลืออีกแล้ว ฉันจะไม่ยอมเฝ้ามองเฉยๆ อีก ดังนั้น ตั้งแต่วันนี้เรมะ คาเนะซากิผู้นี้ก็จะออกไปลุยด้วย!!」
「เอาจริงดิ!? 」
เขาจัดการสูทตัวเองเสร็จแล้วเหรอ?
ไม่สิ ไม่ใช่เวลาจะมาตั้งคำถามอะไรให้ยืดยาว
ตอนนี้ต้องรีบมุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุก่อน
「ฮาคัวฝากด้วยล่ะ」
「……เข้าใจแล้ว!」
หลังพูดเสร็จ ฮาคัวก็ทำการแปลงร่าง
『Σ CHANGE』
『CHANGE → UP RIGING!! SYSTEM OF Σ……!!』
「โย้ช จะพาทุกคนไปส่งถึงที่เลย!」
ร่างของเธอถูกสวมทับด้วยสูทสีขาว ก่อนจะไปนั่งจุดควบคุมยาน
「ว่าแต่จำเป็นต้องแปลงร่างเหรอฮาคัวจัง…..」
「สูทจะช่วยทำให้ร่างของผู้ใช้พัฒนาประสาทสัทผัสมากขึ้นน่ะ นอกจากนี้ก็ใช้รับแรงGด้วย เอาเป็นว่าไม่มีเวลาอธิบายแล้ว รีบไปกันเลยดีกว่า」
ยานเริ่มเร่งเครื่อง ก่อนที่ประตูโรงเก็บยานจะเปิดกว้าง
「ไปกันเลย!!」
「โอ้ว!! 『WHITE “V” 』! ออกตัวได้!!」
หลังสิ้นเสียงของเรมะ ฮาคัวก็โยนคันบังคับในมือไปข้างหน้า จากนั้นไวท์ 5 ก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของมันบ้าสุดๆ แต่ฉันกลับสัมผัสไม่ได้ถึงแรงดันที่เปลี่ยนแปลงภายในเลย
「จากนี้ WHITE ‘V’ จะเป็นยานหลักในการเข้าต่อสู้กับพวกเอเลี่ยน มันคือยานสุดอเนกประสงค์ของฉันเรมะผู้นี้สร้างมันขึ้นมาให้ใช้ได้ทุกสถานการณ์ ก่อนจะส่งการโจมตีแห่งความยุติธรรมไปยัดใส่พวกเอเลี่ยนที่แสนน่ารำคาญ หรือก็คือยมทูตสีขาวแห่งความยุติธรรมนี่เอง!!」
「……โห้ย โกลดี้ นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? 」
「ถึงจะเห็นแบบนี้ แต่ฝีมือก็ฝากฝังได้แหละ……」
ฉันบอกกับคอสโม่ด้วยเสียงอันแผ่วเบา
「ทาเรีย ของฝากการสนับสนุนชิราคาวะคุงด้วยล่ะ」
『รับทราบแล้วค่ะ ท่านฮาคัวเหมือนท่านจะกังวลสินะคะ ไม่ทราบว่าท่านชอบเพลงแนวไหนคะ? 』
「นั่นน่ะเหรอการสนับสนุนของเธอ!? 」
『ล้อเล่นค่ะ』
「มันใช่เวลามาล้อเล่นไหม!? 」
เหมือนฮาคัวจะไม่มีปัญหาอะไร
ทิวทัศน์ที่เห็นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากภายนอก แต่ภายในไม่มีปัญหาใดๆ
「โย้ช…อีกไม่นานจะถึงที่หมายแล้ว ฉันจะอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับพวกมันที่มาคราวนี้แล้วกัน!!」
『!』
เอเลี่ยนที่มาคราวนี้จะเป็นตัวแบบไหนกันนะ?
「ฉันได้รับสัญญาณการปรากฏตัวของยานอวกาศ 5 ลำจากนอกโลก ซึ่งน่าจะเป็นของพวกเซไคเซ็นไต」
「ไอ้พวกระยำอมตะนั่นเหรอ มาไม่หยุดเลยสินะ….」
「หลังโดนระเบิดยานไปลำหนึ่งยังบ่พอใจสินะ」
「หมดมุกถึงขนาดเอาของเก่ากลับมาใช้ซ้ำ」
「คราวนี้คงต้องระเบิดทุกลำไม่ให้เหลือ」
「ฉันว่าพวกนายน่ากลัวกว่าพวกนั้นอีกนะ」
แม้จะพูดแบบนั้นแต่ฉันก็ไม่คิดหรอกว่าพวกมันจะโง่
ดังนั้นมันต้องมีแผนอะไรสักอย่างแน่
「คงจะเป็นเรื่องง่ายหายมีแค่พวกมันมากัน แต่คราวนี้เหมือนพวกมันจะปล่อยบางอย่างลงมาจากยานด้วย」
「บางอย่าง? 」
「เดี๋ยวจะเอาให้ดู」
จากนั้นภาพที่ฉายขึ้นมาก็คือวิวของเมือง
สิ่งที่ฉันเห็นคือวัตถุสีดำบางอย่างหล่นลงมาชนกับพวกอาคาร….อะไรล่ะนั่น?
「ไอ้นี่มันอะไรกัน? ทำไมมันถึงไปติดอยู่ทั่วเมืองล่ะ….」
「ตอนแรกก็สงสัย แต่พอลองสแกนภายในดูมันก็….」
ภาพในจอเปลี่ยนเป็นขาวดำก่อนจะแสดงภาพภายในวัตถุสีดำนั้นใหม่
มันเป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งกำลังนอนขดตัวอยู่ภายในเหมือนเด็กทารก ไอ้เจ้านี่มันเอเลี่ยนที่บุกมาไม่กี่สัปดาห์ก่อนนี่หว่า
「อย่าบอกนะว่าไอ้ก้อนสีดำๆ ที่หล่นมาในเมืองทั้งหมดนี่คือพวกเอเลี่ยน?!」
「คงจะอย่างที่นายบอก ฉันเดาว่าอีกไม่นานพวกมันต้องเคลื่อนไหวแน่….ที่มันยังไม่ทำอะไรคงเป็นเพราะรอพวกเราโผล่มาอยู่」
「……ไอ้พวกโรคจิตเอ้ย」
ฉันไม่รู้ว่าควรจะดีใจดีไหม แต่ถ้าไม่รีบไปพวกมันอาจจะทำอะไรแปลกๆ อีกก็ได้
「ถึงจะทำการอพยพประชาชนไปบ้างแล้ว แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในเมืองก็คงมีอยู่ดี ดังนั้นต้องรีบกำจัดพวกมันให้ได้เร็วที่สุด」
『———มาสเตอร์ อีก 30 วินาที พวกเราจะเข้าถึงจุดปะทะกับเซไคเซ็นไตแล้วค่ะ』
「เข้าใจแล้ว นี่เป็นคำแนะนำจากฉัน รีบจัดการพวกเซไคเซ็นไตให้ได้เร็วที่สุด ก่อนที่พวกมันจะส่งสัตว์ประหลาดพวกนั้นลวงมาเพิ่มอีก———ฝากด้วยล่ะ!!」
「「「ฮ่ะ!」」」
「เอ้าทุกคน เตรียมเข้าต่อสู้!!」
หลังตอบกลับเรมะพวกฉันก็ปลดเข็มขัดออกแล้วแตะไปยังโปรโตเชนเจอร์ X เพื่อทำการแปลงร่าง
เซไคเซ็นไตเป็นศัตรูที่ควรระวังเอาไว้แต่ก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น
ทว่ายัยสีชมพูที่ชื่อฮิลด้านั้นคิดจะเคลื่อนไหวยังไงนั่นแหละคือจุดที่ฉันรู้สึกขนลุก
–จบ—
เปิดเล่มมาก็สู้เลย
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code